ตอนที่ 148 ต้องทักทายโลลิก่อน

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

148 ต้องทักทายก่อน

 

“――แล้วแล้ว? เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นล่ะ?”

 

อืม

 

“ก็ไม่เชิงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรอก เป็นเหตุผลที่ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่นี่ได้”

 

“น่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

ชาโร่ที่โน้มตัวเข้ามาหาเพื่อคุยด้วย ก็ถอยห่างออกไปเหมือนคลื่น

 

โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับฉันคิดว่าน่าเบื่อแหละ

ส่วนที่สนุกสำหรับฉันคือ การได้เห็นความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเมจิกวิชั่น ดังนั้นฉันจึงเพลิดเพลินไปกับสิ่งนั้น ฉันอยากจะผ่อนคลายและสงบสติอารมณ์ในตอนที่ไม่ได้ถ่ายทำ ฉันไม่อยากพูดในเรื่องที่ฉันไม่รู้สึกตลกหรือฉลาด

 

――ที่นี่คือร้านกาแฟในเมืองหลวง เป็นร้านอาหารที่ค่อนข้างมีสไตล์ และมีราคาแพง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีห้องส่วนตัว เหมาะสำหรับขุนนาง หรือคนดังที่อยากจะมาใช้บริการแบบไม่เปิดเผยตัวตน

 

ฉันคิดว่าฉันก็พอมีชื่อเสียงเหมือนกัน แต่นักแสดงทั้งสามจากคณะละครไอซ์โรสนั้นดึงดูดสายตาได้มากกว่า

 

พี่น้องโร้ดฮาร์ท จูเลียน・ลูซิด้า ฝาแฝดแสนสวยที่มีฉายา「เจ้าชายน้ำแข็งทั้งสอง」ที่มาพร้อมกับชาโร・ไวท์ นางเอกที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

ทั้งสามคนมีแฟนคลับที่กระตือรือร้นมากมาย ดังนั้นหากพวกเขาอยู่ในที่สาณารณะก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายได้

 

ดังนั้นจึงต้องเป็นห้องส่วนตัว ชาก็ดีจริง ๆ

 

“แต่ ดูเหมือนจะมีเรื่องมากกว่านั้นสินะ”

 

จูเลียนเฉียบคมเช่นเคย

 

“ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันหรอกนะคะ วันนี้พวกเราแค่คุยกันสั้น ๆ เท่านั้นเอง ……แต่ไม่เป็นไรเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้หรอกเหรอคะ?”

 

“ไม่หรอก? แค่อยากคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเท่าไหร่แค่นั้นเอง”

 

โห๊ว ……อ้า งั้นเหรอ

 

“พวกประธานรู้สึกอยากพักนาน ๆ สินะคะ”

 

“พูดแล้วก็แบบนั้นล่ะ พวกเรามีซ้อมสำหรับละครเรื่องต่อไปในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นตอนนี้เลยเป็นเวลาเดียวที่จะผ่อนคลายได้ล่ะนะ”

 

เข้าใจเลย

เพราะในระหว่างช่วงซ้อม ฉันไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย แม้แต่ในช่วงพัก เมื่อฉันคลานขึ้นเตียงและพยายามที่จะนอน ฉันก็นึกถึงละคร และบทของตัวเองขึ้นมาเสมอ

 

ฉันได้ยินมาสักพักแล้วว่า ตั้งแต่กลังจากที่ได้ร่วมแสดงกับพวกเขาใน『หญิงสาวในห้วงรัก』ก็มีคำขอให้แสดงละครเรื่องอื่น ๆ ถูกส่งเข้ามาบ้างเป็นครั้งคราว

แต่ยังไงก็ตาม เบนเดริโอ้บอกว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาที่จะยอมรับข้อเสนอเหล่านี้ เนื่องจากเวลาที่ผูกมัดนานเกิน เมื่อรวมเวลาที่ต้องใช้ในการซ้อมและการแสดงจริง ดูเหมือนจะมีการตัดสินใจแล้วว่าควรถ่ายทำหลาย ๆ งานที่แตกต่างกันแทน

 

เขาถามฉันว่าฉันอยากจะทำไหม แต่ฉันก็ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะมีส่วนร่วมในงานละครอย่างแข็งขันนัก ฉันจึงทิ้งหน้าที่จัดสรรงานไว้ให้เขา

 

“ถึงฉันจะไม่ใช่ชาโร แต่ก็อยากรู้เรื่องต่อจากนั้นเหมือนกันน๊า”

 

ลูซิด้า น้องสาวฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนจูเลียนพูดขึ้นมา

 

“ฟังจากเรื่องที่เนียเล่าแล้ว เด็กใหม่ทั้งสามคนดูเหมือนจะมีนิสัยแรงไม่น้อยเลยสินะ? ถ้ามีแค่คนเดียวก็คงโดนมองว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญไปแล้ว แต่ว่าถ้าทั้งสามคนมีส่วนเกี่ยวข้องกันก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วจริงไหม ฉันรู้สึกติดใจเกี่ยวกับความตั้งใจในการรับพวกเขาเข้ามา”

 

ม๊า แน่นอนว่าฉันก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกัน

ฉันเองก็คิดว่า「เหล่าเด็กใหม่มีความเฉพาะตัวมากเกินไป」 บางทีการที่พวกเขามีความเฉพาะตัวที่แข็งแกร่งจะทำให้การทำงานยากลำบาก

 

ทว่า ใช่――ผู้จัดการซึ่งเป็นนักเรียนมัธยมต้นมีแผนการและความตั้งใจที่สดใหม่

 

 

 

“――ฉันเร็วกว่าเนียจัง! มาถ่ายทำกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ!”

 

เธอตะโกนด้วยรอยยิ้มอันสดใส ส่วนฉันก็นิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก

 

กะทันหันเกินไป ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะมาถ่ายทำด้วยซ้ำ นอกจากนี้ก่อนอื่นเลย ฉันอดคิดไม่ได้ว่า「เธอเป็นใคร」เรื่องราวเร็วเกินไป

ในขณะเดียวกัน ความจริงที่ว่าพวกเขากำลังคิดที่จะใช้ผู้หญิงคนนี้ในเมจิกวิชั่น ก็ทำให้ฉันรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสถานีกึ่งออกอากาศของสถาบัน

 

ไม่เป็นไหรเหรอ? อยู่เบื้องหลังใช่ไหม? ……ไม่ใช่ใช่ไหมนะ ถ้าเธอเป็นคนประเภทที่อย่างไม่ลังเล ฉันเดาว่าเธอคงอยากจะปรากฏตัวในรายการส่วนตัว

 

“เป็นอะไรไปเหรอเนียจัง!? ไม่สบายงั้นเหรอ!”

 

ฉันสบายดี

แค่กำลังประเมิน

 

“ใจเย็น ๆ หน่อยสิ คิคิเนียซัง เนียซังใกล้หมดความอดทนแล้วไม่ใช่หรือไง”

 

ใช่ ถูกต้องเลย

 

โจเซคอตต์ สาวผมบลอนด์ผู้มุ่งมั่นหันไปมองคิคิเนียที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางค่อนข้างหงุดหงิด

 

“เอ๊ะ? ทำไมต้องอดทนด้วยล่ะ?”

 

ใบหน้าประหลาดใจของคิคิเนียดูน่าหงุดหงิด น่ารำคาญ

 

“ก็เพราะเธอจู่  ๆ ก็เข้าไปชวนแบบนั้นไง ก่อนที่จะพูดอะไรแบบนั้น อย่างน้อยก็ทักทายกันก่อนเซ้”

 

ชาร์ลซึ่งดูมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ก็ดูเหมือนจะหงุดหงิดพอ ๆ กันกับฉัน เขาพูดพร้อมกับเดาะลิ้น เขาพูดแทนฉันแล้ว แม้ว่าจะดูท่าทางเหมือนเป็นคนไม่ดี หรืออันธพาลที่มีพฤติกรรมแย่ ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่มีสามัญสำนึกมากจนน่าประหลาดใจ

 

“งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว คำทักทายสินะ!――คิคิเนีย・อาม่อน อายุสิบสองปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งในปีนี้! ยินดีที่ได้รู้จัก!”

 

ฮ้า อย่างงั้นเหรอ แม่นี้อ่อนแอจังน๊า

 

“――โจเซคอตต์・คอยส์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

 

ต่อมา โจเซคอตต์ สามผมบลอนด์ผู้มีความตั้งใจอันแรงกล้า หลังจากที่คิคิเนียเป็นคนเริ่ม กระแสก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนกลับเป็นการทักทาย

 

” ――และชาร์ล・โกล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง ขอบอกเอาไว้เลยว่า สำหรับตอนนี้ข้าทำงานเป็นเบื้องหลังน่ะ”

 

เบื้องหลัง? งั้นเหรอ ไม่ใช่คนที่จะออกหน้าสินะ

ที่บอกว่า「สำหรับตอนนี้」ก็ฟังดูน่าสนใจ แต่บางทีสิ่งต่าง ๆ อาจจะเปลี่ยนไปในสักวันหนึ่ง

 

“เราไม่ได้คาดคิดเลยนะคะว่าโจเซคอตต์ซังจะมาอยู่ที่นี่ด้วย”

 

ระหว่างที่ฉันกำลังอดทนต่อคิคิเนีย แต่ในทางกลับกัน ฮิลเดโทร่าซึ่งเฝ้ามองทั้งสามด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก ก็พูดกับสาวผมบลอดน์ ผู้มีความตั้งใจอันแรงกล้า ดูเหมือนบางทีพวกเธออาจจะรู้จักกันมาก่อน

 

“หากเจ้าหญิงแท้จริงยังสามารถเข้าร่วมได้ ก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติหากดิฉันจะเข้าร่วมจริงไหมเพคะ?”

 

“ก็จริงนะคะ แต่เราก็ยังคิดว่าน่าประหลาดใจอยู่ดี”

 

“……ฮิลเดโทร่าซามะรู้อยู๋แล้วไม่ใช่หรือเพคะ? เรื่องสถานการณ์ของตระกูลหม่อมฉัน”

 

โจเซคอตต์ถอนหายใจเล็กน้อย

 

“ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องปิดบังไว้ ดังนั้นดิฉันจะบอกให้ทุกคนทราบไว้

 

ตระกูลคอยส์ของดิฉันซึ่งเป็นขุนนางระดับขั้นที่หกจวนจะล่มสลาย รุ่นปู่ของดิฉันล้มเหลวในธุรกิจ และสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล

 

สำหรับในตอนนี้ ที่ยังคงดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความเมตตาของสหายของท่านพ่อ ญาติ และราชวงศ์ แต่หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่กี่ปีก็……คงไม่พ้นสภาพการณ์นั้น”

 

……รู้สึกน่าเห็นใจอย่างสุดซึ้งเลยล่ะ ตระกูลลิสตันเองก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นกัน อาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกันนิดหน่อย

 

“ตั้งแต่ตอนที่ดิฉันยังเป็นเด็กก็เกิดความคิดแล้วจะต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดิฉันจึงตัดสินใจกระโดดเข้าสู่โลกแห่งเมจิกวิชั่น โดยเฉพาะ ――”

 

สายตาของโจเซคอตต์จับจ้องไปที่ใบหน้าของเรเลียเรด

 

“พวกเราซื้อลิขสิทธิ์ และเข้าสู่อุตสาหกรรมเมจิกวิชั่น และโดยส่วนตัวแล้วดิฉันมีความสนใจอย่างมากต่อดินแดนซิลเวอร์ หลังจากที่สามารถให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่ที่เรียกว่าการแสดงนิทานภาพเล่าเรื่องขึ้นมาได้ภายในไม่กี่ปี ซึ่งดูเหมือนจะสามารถทำกำไรได้ในไม่ช้า แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมลิขสิทธิจำนวนมหาศาลที่ตระกูลของดิฉันไม่สามารถจ่ายได้ก็ตาม”

 

รู้สึกเห็นใจอย่างลึกซึ้ง เหมือนมีจุดยืนหลายส่วนที่ทับซ้อนกัน โดยส่วนตัวแล้วฉันต้องการสนับสนุนเธอ

 

” ――ตอนแรกผมคิดว่าจะเอาไว้คุยทีหลัง แต่ไหน ๆ แล้วก็ขอพูดเลยดีกว่า”

 

และ เมื่อมาถึงจุดนี้ ผู้จัดการก็พูดขึ้น

 

“เราเลือกทั้งสามคนนี้มา ก็เพราะพวกเขามีบางอย่างที่ฮิลเด้ซามะกับคนอื่น ๆ ไม่มี”

 

โห๊ว ส่วนไหนล่ะที่ไม่มี?

 

“โจเซคอตต์มีความรู้อย่างมากเกี่ยวกับละคร และคณะละครในประเทศนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะชอบอะไรแบบนั้นน่ะ เธอยังรู้วิธีตัดเย็บเครื่องแต่งกาย และก็สนใจเรื่องการแต่งหน้าด้วย”

 

เข้าใจล่ะ เธออยากเป็นนักแสดงสินะ ……ใช่ ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น พวกเราไม่มีแม้แต่น้อยนิด

 

“ส่วนคิคิเนีย ก็อย่างที่เธอพูดด้วยตัวเองไปก่อนหน้านี้ว่าเธอเร็วมาก ถึงจริง ๆ แล้วน่าจะหมายถึงว่าเธอมีความสามารถด้านกีฬาดีที่สุดในชั้นปีของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงคิดจะทำอะไรบางอย่างเพื่อใช้ศักยภาพร่างกายของเธอได้อย่างเต็มที่

 

โฮร่า เห็นกันใช่ไหมครับว่าไม่มีรายการแบบนั้นมากนั้นในเมจิกวิชั่นในปัจจุบัน

แน่นอนว่า ผมก็อยากถ่ายทำการประชันกับเนียจังด้วย”

 

อ้า เหรอ

 

ถ้าฉันได้ฟังคำอธิบายนั้นก่อน ฉันคิดว่าคงจะสามารถตอบสนองต่อคิคิเนียได้ดีกว่านี้ แต่……ความสามารถด้านกีฬาที่ดีงั้นเหรอ หวังว่าศิลปะการต่อสู้ก็ด้วยน่ะ

 

“ส่วนชาร์ล จากนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญ จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจะทำงานเบื้องหลังไปก่อน”

 

“พูดยังไงดี เพราะว่าข้ามีงานประจำอยู่ เลยไม่สะดวกให้เห็นหน้ามากเกินไป”

 

เห้ ทำงานอยู่สินะ เขาอาจจะดูเหมือนมีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นคนมีประสบการณ์ครบครันอย่างไม่คาดคิด

 

“สถานการณ์ของชาร์ลซังคือ?

 

” ――『วิงค์โรด』”

 

หืม? อะไนนั่น?

 

“อ้า เขตนั้นสินะคะ”

 

“กะแล้วว่าฮิลเด้ซามะต้องรู้”

 

“ค่ะ เราไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่อย่างน้อยก็เคยได้ยินชื่อค่ะ”

 

ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญสำหรับฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่สนใจ

 

――ความจริงแล้วไม่ดีเลย

 

 

 

คิคิเนีย・อาม่อน

โจเซคอตต์・คอยส์

ชาร์ล・โกล

 

ด้วยทั้งสามคนที่เพิ่มเข้ามา สถานีกึ่งออกอากาศของสถาบันก็ได้ค้นหาภาพสะท้อนในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

ในเรื่องเหล่านั้นมีหลายอย่างที่ไร้สาระ และไม่สามารถออกอากาศได้ เนื่องจากจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ศาสนา อุดมคติทางสังคม และผู้ให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของชนชั้นปกครอง แต่พวกเขาก็เดินผ่านเส้นทางแห่งการลองผิดลองถูกที่บางครั้งก็สับสนเกินกว่าที่คาดไว้ บางครั้งก็หลงทาง บางครั้งก็รีบเร่ง บางครั้งก็ล้ม บางครั้งก็เหมือนเตะนิ้วเท้าเล็ก ๆ เข้าใส่มุม และเมื่อเส้นทางที่ผสมไปด้วยก้อนกรวดก็จะมีอัญมณีที่เปล่งประกายเจิดจ้ารออยู่อย่างแน่นอน

 

และ

 

――การเผชิญหน้าครั้งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อฉันในภายหลัง