ตอนที่ 117 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 29

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

“พอแล้ว ทุกคนเงียบก่อน องค์หญิงสามกำลังหลับอยู่” เบนเน็ตพูดเตือนพวกเขาทันทีที่ได้ยินเสียงของพวกเขาต่อล้อต่อเถียงกัน

ในที่สุดทั้งสามคนก็หยุดเถียงกัน ก่อนจะพากันจ้องมองกันและกัน โดยตัดสินใจว่าจะรอจนกลับ พวกเขาจะได้กลับไปดวลกันที่สถาบัน

แม้จะดูเหมือนว่าสวี่หลิงอวิ๋นกำลังหลับใหล แต่ความจริงแล้ว เธอกำลังฝึกฝนพลังจิตของตนเอง

ไม่นานมานี้พลังจิตของเธอแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก และตอนนี้พลังจิตของเธอก็ได้พุ่งออกไปจากชั้นใต้ดินเพื่อ ‘สอดส่อง’ เอเลี่ยนต๋าหลู่!

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูต๋าหลู่ทั้งหลาย ถึงพวกมันจะดูงุ่มง่าม แต่กลับดูคล่องตัวยิ่งนัก

เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันกินอาหาร พวกมันจะยืดตัวนุ่ม ๆ ของพวกมันออกมาจากกระดอง ฟันของพวกมันแข็งแกร่งมากราวกับทำมาจากเหล็ก ซึ่งสามารถแทะต้นไม้ใหญ่ได้โดยตรง!

“ใช้ฟันพวกนี้เป็นอาวุธได้ไหมนะ?” สวี่หลิงอวิ๋นใช้พลังจิตของเธอสัมผัสกับต๋าหลู่ และนั่นทำให้ต๋าหลู่ถึงกับสะดุ้ง!

มันปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกไปเพื่อพยายามเชื่อมต่อกับสวี่หลิงอวิ๋น!

“ว้าว! เยี่ยมไปเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นใช้พลังจิตของเธอเชื่อมต่อกับมัน การเชื่อมต่อครั้งนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก!

เธอสามารถควบคุมต๋าหลู่ตัวนี้ได้! ฮ่า ๆๆๆ! สุดยอดไปเลย! ไป ลองหันไปทางนั้นหน่อย!

ไม่เลว! ถึงแม้ว่าการแบกกระดองไว้บนหลังจะหนักไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ยังประคองได้อยู่!

การเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับชนิดของเมือกที่ผลิตออกมาจากร่างกายของต๋าหลู่ ซึ่งมันช่วยผลักดันให้เธอก้าวต่อไปได้ เมื่อทำความคุ้นเคยแล้ว การเคลื่อนไหวก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

สวี่หลิงอวิ๋นดีใจมากที่ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเอเลี่ยนต๋าหลู่ เธอเดินเตร็ดเตร่ไปบนพื้นท่ามกลางฝูงเอเลี่ยนต๋าหลู่ ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ถึงบางอย่างที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาด้านหน้า

เธอเงยหน้าขึ้น บัดซบ! มันคือเครื่องจักรกลขนาดมหึมา!

สารเลว!

เครื่องจักรกลกำลังมุ่งหน้าโจมตีมาทางเธอ! เมื่อเธอเห็นว่าดาบเลเซอร์ของเครื่องจักรกลกำลังพุ่งหน้าเข้ามาหา สวี่หลิงอวิ๋นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังก็แบกกระดองยักษ์ กระโดดขึ้นไปบนบ่าของเครื่องจักรกลลำนั้นทันที!

เธอควบแน่นพลังดวงดาวและแปรสภาพพลังเปลี่ยนเป็นตัวอักษรเรืองแสงสองสามคำภายในระยะขอบเขตที่เครื่องจักรกลลำนี้สามารถเห็นได้ โดยตัวอักษรเหล่านั้นคือ ‘ทำอะไรคะ?!’

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ชาวเน็ตทั้งหลายตกตะลึง! นี่คือต๋าหลู่! แต่กลับสามารถใช้พลังดวงดาวเขียนตัวอักษรได้! น่าเหลือเชื่อมาก! เอเลี่ยนธรรมดาพวกนี้สามารถวิวัฒนาการสติปัญญาได้เหรอ?

เครื่องจักรกลลำนั้นหยุดนิ่ง และหลังจากนั้นไม่นานเครื่องจักรกลก็พูดออกมาว่า “องค์หญิงสามเหรอครับ?”

ชาวเน็ตถึงกับช็อก!

‘ต๋าหลู่ตัวนี้เกี่ยวอะไรกับองค์หญิงสาม? ทำไมถึงเรียกมันว่าองค์หญิงสามล่ะ?’

‘พลเอกโอคาซีจำผิดคนหรือเปล่า?’

‘บัดซบ! หรือว่าองค์หญิงสามไปทำอะไรชั่วช้ามา ก็เลยถูกพระเจ้าสาปให้กลายเป็นต๋าหลู่?!’

‘ไสหัวไป! คอมเมนต์บนเป็นบ้าอะไร!’

“ใช่แล้ว ฉันเองค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นควบคุมพลังดวงดาวให้เขียนข้อความดังต่อไปนี้ “ฉันควบคุมพลังจิตให้เชื่อมต่อกับต๋าหลู่ได้สำเร็จ ฉันตั้งใจจะเจาะเข้าไปภายในของศัตรู พวกคุณห้ามมาสร้างปัญหากับฉัน!”

เดี๋ยวนะ…เป็นท่านจริง ๆ เหรอ?

พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าพลเอกโอคาซีจำท่านได้อย่างไร?!

สวี่หลิงอวิ๋นยังคงเกาะไหล่ของเครื่องจักรกลไว้แน่น “ฉันจะลงไปข้างล่าง”

โอคาซีมองดูองค์หญิงสามที่ซ้อนทับอยู่กับเอเลี่ยน ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อให้สวี่หลิงอวิ๋นก้าวลงไปอย่างง่ายดาย

“ตอนนี้ตำแหน่งชั้นใต้ดินอยู่ใต้ล่างเท้าของท่าน เดินต่อไปอีกนิด ถ้าได้กลิ่นดินประสิวเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าท่านถึงแล้วค่ะ”

สวี่หลิงอวิ๋นควบคุมต๋าหลู่ให้กระโดดลงไป

ชาวเน็ตทั้งหลายรู้สึกมึนงง องค์หญิงสาม ฝ่าบาท ท่านไม่มองดูบ้างเหรอว่ามีต๋าหลู่ตัวไหนอีกที่สามารถกระโดดได้เหมือนท่าน?

ตราบเท่าที่ท่านมีความสุขเท่านั้นพอ!

โอคาซีรู้สึกเป็นกังวล ทว่าเขากลับไม่สามารถไล่ตามเธอไปได้ เพราะเขากำลังนำกองทัพเครื่องจักรกลไปตามหาทางเข้าชั้นใต้ดิน

รุยเป็นคนแรกที่สังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ บางอย่างกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ทางเข้าชั้นใต้ดิน! เป็นไปได้ไหมว่าเอเลี่ยนพวกนั้นจะหาทางเข้าของพวกเขาเจอ?

เขารีบปลุกเหล่านักเรียนทั้งหลายที่กำลังพักผ่อนอยู่ จากนั้นจึงไปปลุกองค์หญิงสามอีกครั้ง ทว่าองค์หญิงสามไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมา และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกกังวล

สถานการณ์กำลังตกอยู่ในขั้นวิกฤต เขาจึงทำได้เพียงไหว้วานให้เบนเน็ตดูแลองค์หญิงสามแทน ก่อนที่เขาจะตามฉินหยวนและลุคไปเฝ้าระวังที่ทางเข้าอย่างใกล้ชิด หากเอเลี่ยนบุกเข้ามาได้ พวกเขาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต!

เมื่อลำแสงเล็ดลอดเข้ามาจากด้านบน รุยจึงริเริ่มแปรสภาพพลังเป็นมีด รวมถึงคนอื่นก็ทำเช่นเดียวกัน แต่มีดนั้นกลับถูกเกราะพลังงานป้องกันเอาไว้เสียก่อน

ใบหน้ารูปงามของโอคาซีปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา!

“ท่านพลเอกโอคาซี?!” รุยรู้สึกตื่นเต้นมากจนทำอะไรไม่ถูก เขาก้าวมาข้างหน้าและไม่รู้ว่าตนเองควรจะวางตัวอย่างไรดี

“ผมเอง” พลเอกโอคาซีพยักหน้า “ผมเอาแร่พลังงานมาด้วย รับแร่พลังงานพวกนี้ไปติดตั้งบนเครื่องจักรกลของพวกคุณซะ”

“ส่วนเครื่องรับสัญญาณ ตอนนี้พวกเรายกเลิกมาตรการการปิดกั้นแล้ว พวกคุณจะได้รับสัญญาณกันอีกครั้ง”

แร่พลังงานเป็นวัตถุที่สำคัญเป็นอย่างมาก ตราบใดที่มีแร่พวกนี้ ความมั่นใจของพวกเขาก็จะเต็มเปี่ยมมากขึ้น

“องค์หญิงสามล่ะ?”

“องค์หญิงสามไม่ตื่นขึ้นมาเลยครับ ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับฝ่าบาทหรือเปล่า” รุยรู้สึกวิตกกังวลอีกครั้งทันทีที่เขาได้ยินเกี่ยวกับองค์หญิงสาม “ท่านพลเอก ท่านมีห้องพยาบาลไหมครับ?”

โอคาซีส่ายหัว…

รุยรู้สึกเศร้าโศก เพราะคิดว่าท่านพลเอกตอบว่าไม่มี

ชาวเน็ตทั้งหลายถึงกับถอนหายใจ องค์หญิงสาม ท่านกำลังมีช่วงเวลาที่ดี และไม่ได้สนใจเลยว่าท่านทำให้ผู้ติดตามรู้สึกเป็นกังวลมากแค่ไหน!

“องค์หญิงสามไม่เป็นอะไร เธอแค่ถอดพลังจิตออกไปสำรวจเอเลี่ยนที่อยู่รอบ ๆ เท่านั้น”

พลเอกโอคาซีพูดเยอะกว่าทุกครั้ง เขารู้สึกละอายที่ต้องพูดว่าองค์หญิงสามมีความสุขมากจนลืมร่างตัวเองไปแล้ว!

คนทั้งหลายรู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยินว่าองค์หญิงสามปลอดภัย

“ท่านพลเอก! ได้โปรดพาพวกเราไปต่อสู้กับเอเลี่ยนด้วยเถอะครับ!” รุยเสนอตัวและตบหน้าอกตนเอง “ผมเกือบจะเลื่อนขั้นถึง 7 ดาวแล้ว กำลังการต่อสู้ของผมค่อนข้างดี”

โอคาซีพยักหน้า สายตาทอดยาวมองดูความคาดหวังจากทุกคน

“ลุยกันเลยทุกคน!”

ทุกคนยืดอกตั้งตรง! จ้องมองเขาด้วยสายตาเร่าร้อน!

“รับแร่พลังงานไป แล้วออกไปต่อสู้”

พลเอกโอคาซีไม่ชอบพูดอะไรที่ลากยาว โดยปกติแล้ว เขาจะสั่งการเพียงสั้น ๆ เพื่อทำให้เหล่านักรบมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งกำลังเตรียมพร้อม ยกเว้นเบนเน็ตที่ตัดสินใจเลือกที่จะอยู่ดูแลร่างขององค์หญิงสาม แต่พลเอกโอคาซีกลับมาอุ้มองค์หญิงสามเข้าไปในเครื่องจักรกลของเขา จึงทำให้เบนเน็ตต้องกลับเข้าไปในเครื่องจักรกลของตนเองและมุ่งหน้าออกไปต่อสู้

พื้นดินทั้งหลายถูกเหล่าเอเลี่ยนทำลายจนสิ้นซาก หากพวกเขาไม่เคยเห็นภาพลักษณ์ของดาวเคราะห์ฮอร์นบี้มาก่อน พวกเขาก็คงไม่เชื่อว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะเป็นดาวเคราะห์ฮอร์นบี้!

น่าสะพรึงกลัวมาก!

สัตว์ป่าทั้งหลายร้องคร่ำครวญขณะถูกเหล่าเอเลี่ยนกลืนกิน แม้แต่ปลาที่แหวกว่ายในน้ำก็ยังไม่รอดน้ำมือของพวกมัน!

สวี่หลิงอวิ๋นแบกกระดองยักษ์นี้ลงไปในน้ำ และนี่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าต๋าหลู่คือหอยทากในชาติที่แล้วของเธอ!

ไม่เกรงกลัวน้ำเลยสักนิด แถมยังว่ายน้ำได้อีกต่างหาก ต๋าหลู่ตัวอื่นรีบแหวกว่ายไปทันทีที่พวกมันเห็นฝูงปลา ในขณะที่เธอกำลังสำรวจพืชใต้น้ำ

“ทำไมพืชใต้น้ำถึงมีรสเผ็ดนักล่ะ? เยี่ยมเลย! นี่คือพริกใต้น้ำใช่ไหม?! ต้องเอามันขึ้นไปบนบกให้ได้!”