ตอนที่ 164 ลุ่มหลง
ฉู่เกินฮูหยินดีใจจนเนื้อเต้น นี่แหละสวรรค์! เนื่องจากไม่มีผู้ใดสน ใจ นางจึงค่อย ๆ เอื้อมมือไปยังกองข้าวของที่ถูกคลุมไว้
หลังจากเปิดผ้าลินินที่คลุมออก ของสะดุดตาคือตะกร้าใส่เกลือ และหมูกองใหญ่ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว
ฉู่เกินฮูหยินผิดหวังเล็กน้อย แค่สองสิ่งนี้นางยังไม่อาจรู้วิธีการ ทําเนื้อตากแห้งได้
เมื่อเกวียนวัวเข้ามาในหมู่บ้าน ฉู่เกินฮูหยินก็รีบกระโดดลงจากเกวียนวัว
นางกล่าวคําขอบคุณด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินกลับไป ดูเหมือนว่านางจะต้องหาวิธีอื่น
ลุงเฉินมองดูนางแล้วส่ายหัวและถอนหายใจออกมา น่าเสียดายที่ในหมู่บ้านมีความไม่ลงรอยกันเช่นนี้
ด้วยความที่เป็นผู้อ่อนอาวุธโสกว่า เต่ออันจึงไม่สามารถตําหนินางได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล่าวอะไรออกมา แต่ในแววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เมื่อไปส่งของที่โรงงานเต่ออันคิดว่าควรบอกกล่าวแม่นางหยุน คนเช่นนี้ต้องระวังให้มาก!
กว่าเต่ออันจะมาถึงลานบ้านของหยุนเคอก็เป็นเวลาเย็นย่ําแล้ว หยุนเคอกําลังนั่งดูเฉินเฉินเขียนอักษรอยู่ตรงลานบ้าน ส่วนหยุนเถียนเถียนก็ยังอยู่ในครัว เขาได้กลิ่นอาหารลอยฟังออกมา
“พี่ใหญ่หยุน แม่นางหยุนอยู่ที่นี่หรือไม่?”
แม้เขาจะรู้คําตอบในสิ่งที่ตนเองถาม แต่เต่ออันก็ยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อยืนต่อหน้าหยุนเคอ จึงใช้ประโยคนี้ในการชวนคุย
เมื่อมีชายหนุ่มมาถามหาหยุนเถียนเถียน หยุนเคอจึงอดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจ
กล่าวตามตรง เต๋ออันนับว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมากในหมู่บ้านนี้ แม้จะไม่ดีเท่าเขาเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เขาถูกหนวดเครารกรุงรังปิดบังไว้ แน่นอนว่าคนตรงหน้าเหมาะสมกับความงามของหญิงสาวมากก
หยุนเคอรู้สึกหดหูใจ ส่งผลให้บรรยากาศแห่งความกดดันครอบคลุมไปทั้งลานบ้าน ส่วนเต่ออันนั้นรู้สึกกลัดกลุ่มเป็นอย่างมาก เขาอยากจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่เมื่อนึกถึงธุระสําคัญเขาจึงทําได้เพียงรั้งตัวเองไว้ให้ยืนอยู่ที่นั่น
“นางกําลังทําอาหารอยู่ข้างใน เจ้ามีอะไรให้นางช่วยหรือ?”
สุดท้ายหยุนเคอก็พูดขึ้นมาในตอนที่เต่ออันเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว
เตืออันไหนเลยจะกล้าขอพบหยุนเถียนเถียน ในใจของเขาคิดว่าทั้งสองคนนี้คู่ควรที่จะแต่งงานกันตั้งแต่แรก
ดังนั้นเขาจึงไม่รอให้หยุนเถียนเถียนออกมาแต่รีบบอกไปตามตรง “พี่ใหญ่หยุน ท่านช่วยบอกแม่นางหยุนให้ระวังมากขึ้นด้วยเถิด วันนี้ฉู่เกินฮูหยินมาที่บ้านข้าและมักจะไถ่ถามถึงวิธีทําเนื้อตากแห้ง ข้าเกรงว่านางจะมีแผนการอะไรอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยุนเคอไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ตรงกันข้ามกับเฉินเฉินที่เงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างโกรธเคือง “หญิงผู้นี้ต้องการทําอะไร? ทุกวันนี้ข้าจําได้ว่านางเอาแต่สร้างปัญหาให้ครอบครัวของเรา พี่สาวข้าไปทําสิ่งใดให้นางโกรธแค้นหรือ?”
หยุนเคอยื่นมือไปแตะศีรษะเล็ก ๆ ของเขา “เด็กน้อยเจ้ากังวลอะไร? ต่อให้มีอะไรไม่ดีจริงๆ ข้ากับพี่สาวเจ้าจะจัดการไม่ได้หรือ? รีบเขียนซะ ถ้าเขียนไม่ดีเจ้าต้องเขียนใหม่!”
หยุนเคอพยักหน้าอย่างสงบภายใต้สายตาประหลาด ใจของเต่ออัน “พวกข้ารู้แล้ว อย่าได้กังวลไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สูตรทําเนื้อตากแห้งนี้ได้”
เต่ออันรู้สึกว่าภาระหน้าที่ของเขาลุล่วงแล้ว หากสูตรนี้รั่วไหลออกไปถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับเขา ดังนั้นจึงรีบหันหลังกลับไปด้วยความกลัวที่มีต่อหยุนเคอ
เขาจากไปแล้วแต่หยุนเคอกําลังจมอยู่ในห้วงความคิด
เขากําลังคิดว่าหยุนเถียนเถียนมีความสําคัญเพียงใดในหัวใจ ก่อนหน้านี้หัวใจของเขานั้นว่างเปล่า แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่สบายใจ
กลัวว่าวันหนึ่งหยุนเถียนเถียนจะพบคนที่นางรักและทิ้งเขาไป ความรู้สึกที่เคยได้รับและกําลังจะสูญเสียทําให้เขาอึดอัดใจมาก
เขาหัวเราะเยาะตัวเอง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกมีความสุขกับภาพ ความฝันอันสวยงามเช่นนี้?
นางได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ข้างนอกแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครจึงเดินออก มาดู
เนื่องจากไม่สามารถละทิ้งของในมือได้ จึงต้องรอให้อาหารสุก พร้อมทานก่อนถึงค่อยเช็ดมือแล้วเดินออกมา
“หยุนเคอ มีใครมาที่นี่หรือ?”
หยุนเคอตื่นขึ้นจากภวังค์ เขามองดูเด็กสาวที่ยืนนิ่งด้วยความตื่น
ตระหนก!
“เอ่อ… ลูกชายคนโตของหัวหน้าหมู่บ้านเพิ่งมาที่นี่ เขาบอกว่าอะไรนะ… ฉู่เกินฮูหยินกําลังวางแผนบางอย่างกับสูตรเนื้อตากแห้งของเจ้า”
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ คิดว่าบทเรียนเรื่อง คืนนั้นจะทําให้พวกเขาได้อยู่อย่างสบายใจสักพัก ใครจะไปรู้ว่าวันนี้จะมีคนคิดแผนชั่วขึ้นมาอีก
ดูเหมือนจะต้องหาวิธีเอาชนะเพื่อยับยั้งนางให้ได้
ถึงแม้นางจะเข้ามาในโรงงาน แต่เครื่องปรุงรสที่สําคัญที่สุด เพียงอย่างเดียวก็อยู่ในมือหยุนเถียนเถียน ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาเครื่องปรุงรสออกจากพื้นที่พิเศษไปได้!
เมื่อคิดเช่นนี้หยุนเถียนเถียนก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
“เอาเถอะ ตอนนี้รีบเขียนให้เสร็จจะได้รีบไปกินข้าวกัน แม้ว่าเจ้าอยากตั้งใจเรียนแต่ก็ไม่ต้องรีบร้อน”
เฉินเฉินวางปากกาอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะพูดกับเถียนเถียนด้วยรอยยิ้ม “พี่สาว ข้าจะไปล้างมือก่อน”
หยุนเถียนเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเด็กน้อย ในที่สุดเด็กคนนี้ก็ก้าวออกจากเงาดําของเหตุการณ์ก่อนหน้าได้อย่างรวดเร็ว
หยุนเคอมองตามหลังของหยุนเถียนเถียนที่เดินเข้าไปในห้อง และถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่านางจะโดดเดี่ยวแต่หญิงสาวก็เข้มแข็งมาก
เมื่อทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หยุนเคอเอาแต่คิดถึงรอยยิ้มของหยุนเถียนเถียน เขานอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอย่างไม่รู้จะทําอย่างไร
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ก่อนที่เขาจะผล็อยหลับไปในที่สุด!
แม้จะหลับไปแล้วหญิงสาวก็ยังไม่ยอมอยู่อย่างสงบ นางยังตามเข้ามาถึงในความฝันของเขา
ในวันนั้นที่หยุนเถียนเถียนอาบน้ํา หยุนเคอเพียงเหลือบมองแค่แวบเดียว แต่เขากลับเห็นมันอย่างชัดเจนในภาพความฝัน ผิวขาวเนียนราวหิมะกําลังละลายอยู่ในมือ ฉับพลันหยุนเถียนเถียนก็มานอนกะพริบตาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อหยุนเคอตื่นจากความฝันก็สัมผัสได้ถึงความชื้นที่กางเกง เขาลุกขึ้นนั่งด้วยความหงุดหงิดและตบหน้าตัวเองอย่างรุนแรง!
เด็กสาวอายุเพียงเท่าไหร่เอง? แต่เขามีความคิดราวกับสัตว์ร้าย!
ในตอนนั้นหยุนเถียนเถียนก็ตะโกนเรียกมาจากข้างนอก “หยุนเคอ กินข้าวกัน!”
แค่ประโยคสั้นๆ หยุนเคอถึงกับสะดุ้งตกใจแทบตกจากเตียง!
ดูเหมือนว่าท่านหมอจะพูดถูก เขาอาการหนักแล้วแต่แค่ไม่รู้ตัว
เขายิ้มเยาะและเก็บเสื้อผ้า ก่อนจะเดินออกประตูห้องไป