บทที่ 127 ชนะในทุก ๆ ด้าน(ต้น)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 127 ชนะในทุก ๆ ด้าน(ต้น)

เดิมทีเสวี่ยเอ๋อร์นั้นไม่ใช่นักดื่ม แต่ความสุขที่ล้นเหลือจากการรู้ว่า ซูอัน กำลังจะสูญสิ้น ทุกอย่างทำให้นางยอมรับสุราจาก เหมยเชาฟง มาโดยไม่รู้ตัว “ข้าต้องขอบคุณจริง ๆ ในความร่วมมือของเจ้า เมื่อข้ากลับไปหานายน้อย ข้าจะชมเชยเจ้าให้นายน้อยฟังอย่างแน่นอน”

เหมยเชาฟง หัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่าฮ่าฮ่า แม่นางเฉียว นับจากนี้พวกเราคงได้เป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นกันมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน!”

เมื่อมองดูทั้งคู่ชนแก้วฉลองกันต่อหน้า สมาชิกสำนักก็เข้าใจว่าคำพูดของเขาถูกเข้าใจผิด ด้วยอาการที่แทบจะน้ำตาไหล เขาชี้แจงอย่างประหม่า “ทะ..ท่านเจ้าสำนัก มันไม่ใช่ ซูอัน ที่สูญเสีย 7,500,000 ตำลึงเงิน แต่มันเป็นพวกเราที่เป็นหนี้เขา 7,500,000 ตำลึงเงิน!”

เหมยเชาฟง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเฉลิมฉลองชัยชนะ เมื่อได้ยินประโยคนี้ รอยยิ้มของเขาหยุดชะงักลงทันทีพร้อมกับร่างกายที่สั่นเป็นเจ้าเข้าจนทำให้จอกสุราในมือหล่นลงบนพื้นจนแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ในเวลาเดียวกัน เสวี่ยเอ๋อร์ ก็ตะลึงงันจนสมองของนางว่างเปล่าเช่นกัน แม้จะจินตนาการจนถึงที่สุดแล้ว นางก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งต่าง ๆ มันลงเอยเป็นแบบนี้ได้ยังไง

“ไหนเจ้าพูดอีกครั้งสิ!” สีหน้าของ เหมยเชาฟง พลันเปลี่ยนเป็นน่ากลัว ด้วยระดับการ บ่มเพาะที่สูงลิ่วของเขา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าเขาจะหูแว่วได้ยินสิ่งต่าง ๆ ไม่ชัดเจน เขาไม่เคยขอให้ผู้ใต้บังคับบัญชารายงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งถึงสองครั้งมาก่อน แต่สิ่งที่เขาได้ยินเมื่อครู่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปจนเขาต้องฟังมันซ้ำอีกรอบ!

“ซูอัน ได้ชนะท่านดอกบ๊วยเจ็ดและได้รับเงินรางวัล 7,500,000 ตำลึงเงินจากบ่อนของเรา ตอนนี้ท่านดอกบ๊วยเจ็ดหมดสติไปแล้ว และพี่น้องในบ่อนก็วุ่นวายไปหมด ท่านเจ้าสำนัก โปรดรีบไปที่บ่อนเพื่อควบคุมสถานการณ์ที!” สมาชิกสำนัก เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

เหมยเชาฟง พบว่าตัวเองมึนงงจนไม่รู้จะทำอะไรต่อ

7,500,000 ตำลึงเงิน? ข้าจะหาเงินมากขนาดนั้นมาจ่ายได้ยังไง?

ไม่ต้องพูดถึงสำนักดอกบ๊วย แม้แต่รายได้จากภาษีที่ราชสำนักได้จากเมืองจันทร์กระจ่างและเมืองข้างเคียงทั้งปีก็ยังเทียบเคียงกับจำนวนเงินขนาดนี้ไม่ได้!

จบแล้ว! กิจการของข้าทั้งหมดมันจบแล้ว!

เหมยเชาฟงพบว่าขาของเขาสั่นมากเสียจนแม้แต่การลุกขึ้นยืนให้มั่นคงก็ยังเป็นเรื่องยาก เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยอาการที่แทบจะหน้ามืด

ในทางกลับกัน เสวี่ยเอ๋อร์ยังคงสงบอยู่บ้าง นางถามสมาชิกสำนักด้วยสีหน้ากังวลว่า “เกิดอะไรขึ้น? ซูอัน ชนะเงินพวกเจ้ามากขนาดนี้ได้อย่างไร?”

สมาชิกสำนักประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีหญิงสาวทรงเสน่ห์อยู่ในห้องของเจ้าสำนัก แม้ว่าใบหน้าของนางจะถูกปิดบังด้วยผ้าคลุม แต่รูปร่างและดวงตาที่งดงามของนางก็มาก เกินพอที่จะบ่งบอกถึงความงามของนาง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับเขาที่จะชื่นชมรูปลักษณ์ของคนอื่น

“ตอนแรก ซูอัน วางเงินของเขาทั้งหมดเอาไว้ที่ 17 แต้ม ซึ่งมีอัตราการจ่าย 1:50 ทำให้เขาได้รับเงิน 50,000 ตำลึง หลังจากนั้น เขาเดิมพันเงินทั้งหมดของเขาใน ‘ตอง’ 1 และด้วยอัตราการจ่าย 1:150 มันจึงทำให้เขาชนะรางวัล 7,500,000 ตำลึงเงินทันที”

เหมยเชาฟง หายจากอาการมึนงงในที่สุด ราวกับว่าเป็นสิงโตที่ดุร้าย เขากระโจนออกจากเก้าอี้ พุ่งไปข้างหน้า และคว้าคอเสื้อของสมาชิกสำนัก “ไอ้ขยะนั่นมันโชคดีแบบนี้ได้ยังไง? ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นแบบนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้… เขาโกงหรือเปล่า?”

“ไม่แน่นอนท่านเจ้าสำนักเขาไม่ได้โกง!” สมาชิกสำนักพบว่าร่างกายของเขาชาไปทั้งตัวด้วยความกลัว เขากลัวว่าเจ้าสำนักจะหักคอเขาเพราะความเดือดดาล “ข้ามั่นใจว่าไม่มีใครสามารถโกงเราได้ใน บ่อนโกยเงิน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่น้องของเราทุกคนตกใจกับเรื่องนี้!”

ตอนนั้นเองที่เสวี่ยเอ๋อร์พูดขึ้น “เป็นไปได้ไหมที่คุณหนูฉู่จะเห็นก่อนว่าผลลัพธ์ลูกเต๋ามันคืออะไรและแอบกระซิบคำตอบให้ซูอัน?”

เหมยเชาฟงส่ายหัวอย่างแน่วแน่ “เป็นไปไม่ได้ โถลูกเต๋าของเรามีอักขระป้องกันที่ถูกสลักเอาไว้โดยปรมาจารย์อักขระ มันไม่มีทางที่ผู้บ่มเพาะคนไหนจะสามารถมองทะลุได้แน่นอนต่อให้เป็นระดับปรมาจารย์ก็ไม่สามารถอ่านผลการเขย่าลูกเต๋าได้ นับประสาอะไรกับผู้บ่มเพาะระดับ 5! ไม่เช่นนั้นบ่อนในโลกนี้คงล้มละลายไปนานแล้ว!”

เสวี่ยเอ๋อร์ถอนหายใจยาวและพูดว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะคาดเดาที่นี่ เราควรรีบไปที่เกิดเหตุและดูด้วยตาตัวเองจะดีกว่า”

“ท่านพูดถูก…” เหมยเชาฟงยังคงตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อสักครู่นี้ แต่คำพูดของเสวี่ยเอ๋อร์ทำให้เขาสงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อย “ถ่ายทอดคำสั่งของข้า พี่น้องของเราทุกคนตามข้าไปที่ บ่อนโกยเงิน เดี๋ยวนี้!”

ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้ว

จ่ายเงิน? นั่นเป็นเงินจำนวนที่ข้าไม่สามารถหาได้ตลอดชีวิตไม่ว่าข้าจะทำยังไงก็ตาม!

เหมยเชาฟง ได้ตัดสินใจที่จะล้มเลิกหนี้นี้ต่อให้เขาจะต้องเป็นศัตรูกับตระกูลฉู่ตลอดไป ก็ตาม!

สาขาใหญ่ของสำนักดอกบ๊วยอยู่ไม่ไกลจากบ่อนมากนักและเมื่อบวกกับความกังวลที่ อัดแน่นอยู่ในอก เหมยเชาฟง จึงใช้เวลาไม่นานในการไปถึงบ่อน

ฝูงชนจำนวนมากได้รวมตัวกันอยู่ข้างนอกแล้ว เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนสามารถทำเงินได้ 7,500,000 ตำลึงเงิน ผู้สัญจรไปมาก็อยากรู้อยากเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มรวมตัวกันรอบ ๆ บริเวณเพื่อดูความโกลาหล

เหมยเชาฟงต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการผ่านฝูงชนเข้าไปในบ่อนของเขาเอง ซึ่งเมื่อเขาเข้าไปด้านใน เขาก็เห็นว่าเหตุการณ์มันวุ่นวายจนเรียกได้ว่าหายนะ นักพนันทั้งหลายต่างร้องระงมแทบจะพร้อมๆกันว่า “จ่ายเลย จ่ายเลย จ่ายเลย~”

โฮ่ คนพวกนี้ช่างตะโกนได้เข้าจังหวะกันดีจริง ๆ อย่างกับโดนฝึกมา!

ซูอัน กำลังนั่งเอนตัวด้วยสีหน้าสุขสบายบนเก้าอี้ที่มีคนย้ายมาที่นี่เพื่อเขา และขาของเขา ก็พาดอยู่บนโต๊ะพนันอย่างจองหอง ฝูงชนรอบข้างต่างช่วยกันส่งชาให้เขา และบางคนกำลังนวดหลังและขาของเขา ที่เกินจริงไปกว่านั้นก็คือมีสาวใช้คอยเด็ดองุ่นออกมาทีละเม็ดส่งเข้าปากเขาอย่างบรรจง

เหมยเชาฟงถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เขาสามารถบอกได้ว่าคนรับใช้และสาวใช้ที่รับใช้ ซูอัน นั้นเป็นคนของเขาเองที่ถูกจ้างมาให้รับใช้แขกพิเศษสำหรับส่วนตัวสุดหรูในบ่อน แต่แล้วทำไมตอนนี้ไอ้คนของพวกนี้กลับมาปรนนิบัติให้ศัตรูของเขาซะงั้น?

นี่พวกเจ้ากำลังพยายามที่จะก่อการกบฏข้าที่นี่งั้นเหรอ? อย่างน้อยพวกเจ้าก็ควรวางยาพิษในองุ่นนั่นมันถึงจะถูกต้องจริงไหม!

ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +400!