บทที่ 130 ผู้สมรู้ร่วมคิด

เหล่าเจิ้งยืนอยู่ต่อหน้าศพของหัวหน้าโจรภูเขา เขาเพ่งพินิจใบหน้าของศพแล้วพบว่ามันตรงกับประกาศจับที่ทางการต้องการตัว แสดงว่าคนพวกนี้คือโจรภูเขาจริง!

“หนึ่ง สอง……สิบห้า สิบหก! โจรภูเขาสิบหกคน!” เหล่าเจิ้งแทบกระโดดด้วยความตื่นเต้น

โจรภูเขาเป็นปัญหาที่แก้ยากที่สุดของทางการมานานแล้ว เจ้าหน้าที่เมืองเหอตงไม่เคยปราบปราบโจรภูเขาได้เลย คราวนี้มีโจรภูเขาถึงสิบหกคนถูกจับในคราวเดียว! ยิ่งกว่านั้นรางวัลนำจับของโจรภูเขาสูงมาก โจรภูเขาสิบหกคนนี้สามารถทำให้เขาเลื่อนตำแหน่งได้!

ดังนั้นการที่เสี่ยวถังเรียกเขามาที่หมู่บ้านลี่เจียเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการขอความช่วยเหลือ หากเป็นการสร้างคุณงามความดีให้เขาอย่างมหาศาลก็ว่าได้ !

“เสี่ยวถัง ข้าต้องขอบคุณเจ้า! คราวนี้พี่เจิ้งของเจ้าจะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างแน่นอน!” เหล่าเจิ้งกล่าวอย่างมีความสุข แม้ว่าใคร ๆ จะเรียกเขาว่าเหล่าเจิ้ง แต่เขาไม่ได้อายุมากนัก แค่ราวยี่สิบห้าปีเท่านั้น ถ้าเทียบตามอายุแล้ว เขาสมควรเป็นพี่ชายของถังหลี่ได้

“พี่เจิ้ง อย่าลืมข้าเล่า” ถังหลี่พูดทีเล่นทีจริง

“แน่นอนพี่ชายจะไม่ลืมเจ้าเลย …สาวน้อย!” เหล่าเจิ้งรู้สึกขบขันนาง

“แต่จำนวนคนตั้งสิบหกคน ข้าไม่สามารถพาเขากลับที่ว่าการคนเดียวได้ ข้าจะกลับไปเรียกคนมาช่วย ”

เหล่าเจิ้งรีบวิ่งออกไปพร้อมกับตะโกนบอก ถังหลี่หยุดเขาไว้ไม่ทัน

“ข้าแค่จะถามว่าท่านกินข้าวมาหรือยัง?” ถังหลี่มองตามหลังเขา นางอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

“ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะกินหรอก แต่มื้อเย็นเขาน่าจะมากินกับพวกเรา” เว่ยฉิงพูดขึ้นมา

ชายหนุ่มพูดถูก เหล่าเจิ้งกลับมาอีกทีในตอนกลางคืน พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกหกคน เมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องโจรภูเขา เจ้าหน้าที่ต่างดีใจมากเพราะกลัวว่าพวกมันจะหนีไปได้ พวกเขาจึงพากันเร่งรีบมาทันที แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้รับประโยชน์จากการจับโจรภูเขาพวกนี้ หากแต่เมื่อปราบโจรภูเขาลงได้งานของพวกเขาก็เบาขึ้น

พวกเขาจึงเดินทางมาอย่างมีความสุข เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาในห้องเห็นสภาพโจรภูเขาแต่ละคนแล้วย่อมมีความสุขมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เขากำลังเดินออกมาเจ้าหน้าที่สองสามคนจึงได้พบกับถังหลี่และเว่ยฉิง

“พี่เจิ้ง พวกท่านกินข้าวมากันหรือยัง?” ถังหลี่ถาม

เหล่าเจิ้งลูบท้องที่ว่างเปล่าของตัวเอง เขาเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกินแค่มื้อเช้ามาเท่านั้น และยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตลอดทั้งวัน ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นแม้ว่าพวกเขาจะกินข้าวครบมื้อ หากตอนนี้ท้องเริ่มส่งเสียงประท้วงกันขึ้นมาทุกคน

“ข้าจะให้ชาวบ้านเตรียมจานชามให้ ไปกินข้าวกันเถิด” ถังหลี่เห็นดังนั้นก็รู้ทันที

เว่ยฉิงเดินตามถังหลี่ไม่ห่าง ไม่ยอมให้นางหยิบจับอะไร ปล่อยให้คนอื่นทำงานไปแทนภรรยาของตน

ในโรงงานถุงหอม มีผู้หญิงสองสามคนร่วมกันทำอาหารเจ็ดถึงแปดจานอย่างรวดเร็วก่อนจะเรียกพวกเจ้าหน้าที่ให้มากินอาหารร่วมกัน

พวกเขากินและดื่มกันอย่างสรวลเสเฮฮา

“เหล่าเจิ้ง เจ้ามาพบเรื่องดี ๆ เช่นนี้ได้อย่างไรนะ นี่เจ้าต้องได้รับความดีความชอบมากมายแน่!”

“น้องสาวข้าบอกมา! สาวงามที่อยู่ตรงนั้นไง… นางชื่อถังหลี่ พวกเจ้าจำเอาไว้ เผื่อได้ช่วยเหลือนางในวันหน้า”

“เหล่าเจิ้ง! ผลงานครั้งนี้ของเจ้าช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ หากคราวนี้ได้เลื่อนตำแหน่งแล้วอย่าลืมพวกเข้าเล่า?”

“พวกเราเป็นพี่น้องกันข้าไม่ลืมพวกเจ้าหรอก”

เมื่อฟ้าเริ่มมืดแล้วย่อมไม่ปลอดภัยที่จะคุมตัวพวกโจรกลับเหอตง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจนอนค้างที่นี่ สถานที่คุมขังโจรภูเขาคือบ้านหลังเก่าของเว่ยฉิง ในนั้นมีห้องนอนอยู่สองสามห้อง หลังจากทำความสะอาดและขนผ้าห่มมาเพิ่มแล้ว พวกเจ้าหน้าที่ก็พากันนอนหลับไป

ถังหลี่และเว่ยฉิงนอนค้างที่โรงงานถุงหอมพร้อมกับลูก ๆ อีกสองคน เดิมทีในห้องนี้มีเตียงหลังเดียวเท่านั้น ซึ่งพอจะให้ถังหลี่นอนกับลูกสองคนได้ แต่เมื่อมีเว่ยฉิงเพิ่มขึ้นมาอีกคน พวกเขาจึงตัดสินใจยกเตียงเล็กเข้ามาในห้องอีกหนึ่งหลัง ไว้ให้เอ้อร์เป่าและซานเป่านอน

เวลาผ่านไปจนดึกเมื่อเทียนดับลงเด็กทั้งสองนอนหลับพร้อมกับกรนเบา ๆ เว่ยฉิงนอนลืมตาเขาตบไปที่ก้นของถังหลี่เบา ๆ

“ฮูหยิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำอะไรผิด” เสียงของชายหนุ่มต่ำมาก เขาจงใจลดเสียงลงทำให้เสียงทุ้มพร่าฟังแล้วน่าหลงใหลมาก

ถังหลี่ที่นอนซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของสามี เงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง

“ต่อไปเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องเสี่ยงเช่นนี้อีก หากยังดื้อดึงข้าจะลงโทษเจ้า” เว่ยฉิงพูดขึ้นมาในความมืด

เขาตกใจมากเมื่อรู้ข่าวจากจูเฉิง ใจเขาเต้นระรัวเมื่อเห็นว่าคมดาบจากโจรภูเขากำลังจะฟาดฟันลงมาใส่ถังหลี่ ในยามนั้นเว่ยฉิงแทบจะลืมหายใจ ยามหลับตาลงภาพเหตุการณ์นั้นก็หลอกหลอนเขา ทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้งราวกับมีอะไรมาทับเอาไว้

หากเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของเขาจริง ๆ เว่ยฉิงคงจะฉีกโจรพวกนั้นเป็นชิ้น ๆ…และจบชีวิตตนเองลงเพื่อไปเดินเคียงข้างนางในปรโลก

นี่เป็นครั้งแรกที่เว่ยฉิงรู้ว่าถังหลี่มีน้ำหนักในหัวใจของตนเองเพียงใด ชีวิตของนางสำคัญกว่าชีวิตของเขาเองเสียอีก

เว่ยฉิงกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งขึ้น

ถังหลี่รับรู้ถึงความหวาดกลัวของสามี นางไม่รู้ว่าควรจะปลอบโยนเขาอย่างไรดี นางจึงเงยหน้าขึ้นจูบเขาเบา ๆ ตรงบริเวณคางที่มีไรหนวดของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับกำลังปลอบประโลมอีกฝ่าย

ในไม่ช้าเว่ยฉิงพลิกกลับมาเป็นฝ่ายรุกไล่นางแทน ในความมืดมิดนั้นลมหายใจของหนุ่มสาวผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว ความวิตกกังวลในใจค่อย ๆ จางหายไป ทั้งคู่กอดก่ายกันแน่นราวกับฝาแฝดก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข

เช้าวันรุ่งขึ้นเหล่าเจิ้งกำลังออกเดินทาง

ตอนนี้เจ้าเมืองกำลังรอพวกเขาอยู่ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเร่งมือ ทันใดนั้นตู้เสี่ยวเหอและหลี่เที่ยมู่ก็ถูกชาวบ้านพาตัวมาที่ด้านหน้าของเจ้าหน้าที่

“พี่เจิ้ง สองคนนี้เป็นชาวหมู่บ้านลี่เจีย พวกเขาสมคบคิดกับพวกโจร ชักนำโจรมาที่หมู่บ้าน ทางการจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร?” ถังหลี่เอ่ยถาม

ทั้งสองคนถูกมัดและทิ้งไว้ที่เพิงไม้มาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนแล้ว คนทั้งคู่คิดว่าตัวเองกำลังจะถูกปล่อยตัว แต่กลายเป็นว่ากลับโดนจับมาให้เจ้าหน้าที่ ตู้เสี่ยวเหอเห็นเจ้าหน้าที่จึงรักตัวกลัวตายขึ้นมา นางโกรธมากจนพ่นคำสบประมาทใส่ถังหลี่ทันที

“นังโสเภณี! ต่อให้ข้านอนกับพ่อเจ้าหรือฆ่ามารดาเจ้า! เจ้าก็ไม่อาจทำร้ายข้าเช่นนี้ได้!”

ถังหลี่ไม่พูดอะไร แต่หลี่โหยวไฉ่ทนไม่ไหวพุ่งเข้าไปตบนางทันที

“ทำร้ายหรือ! เจ้าสมคบคิดกับพวกโจรแท้ ๆ ยังจะมาพล่ามอะไรอยู่ได้! ถ้าทำได้ข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ!” หลี่โหยวไฉ่ตะโกน

“นี่เป็นเรื่องภายในหมู่บ้านเรา! เหตุใดทางการต้องเข้ามายุ่ง! อีกอย่างพวกเจ้าก็ไม่ได้ตายซักหน่อย จะมามากความอะไร!” ตู้เสี่ยวเหอคำราม

“นังสารเลว! เจ้าอยากให้ชาวบ้านตายหมดใช่หรือไม่!” หลี่โหยวไฉ่โกรธมาก เขาตบนางไปอีกสองสามครั้ง

หากไม่ใช่เพราะเว่ยฉิงอยู่ในเมือง เขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ชาวบ้านทั้งหมดจะเป็นอย่างไร! ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนบาดเจ็บ ต้องทนความเจ็บปวดอย่างน่าเวทนา! ทั้งหมดเป็นเพราะนังอสรพิษผู้นี้! สุดท้ายแล้วแทนที่นางจะกลับใจ แต่กลับสาปแช่งและโกรธแค้นพวกเขาแทน!

“พี่หลี่ อย่าเปลืองแรงเลย” ถังหลี่พูดก่อนจะมองไปที่ตู้เสี่ยวเหอ “เจ้าไม่รู้หรือว่าการสมรู้ร่วมคิดกับโจรภูเขาเป็นการกบฏตามกฎหมายของแผ่นดินต้าโจว”

กฎหมายของต้าโจวนั้นเป็นเหมือนกับประกาศิตจากสวรรค์ ผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาอย่างตู้เสี่ยวเหอได้ยินย่อมหวาดกลัว เพราะนางรู้ดีว่าหากฝ่าฝืนล่ะก็นางจะต้องโดนจับและติดคุก!

“อะไรนะ…กฎหมายต้าโจวอะไร?” ตู้เสี่ยวเหอรู้สึกตกใจขึ้นมา

“ตามกฎหมายของต้าโจว ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับพวกโจร จะต้องถูกประหารชีวิต!” เหล่าเจิ้งกล่าว

เมื่อตู้เสี่ยวเหอได้ยินดังนั้น นางตกใจจนแทบสิ้นสติ

ตัดหัว? ประหารหรือ? นี่ยิ่งกว่าติดคุกเสียอีก!

————————-