บทที่165รังแก
“หนูเข้าใจแล้วค่ะพี่หย่าจูน ขอบคุณที่เตือนนะคะ เดี๋ยวหนูจะบอกคุณอาให้ค่ะ!”
“ดีมาก เธอนี่ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ!
ทันทีที่วางสาย มู่เทียนซิงก็กัดไปที่ไหล่ของหลิงเล่อย่างแรง!
ไอ้ชั่ว!
มารังแกเธอแบบนี้ได้นะ!
อ้าาาาาาา!
สาวน้อยโกรธจัด มู่เทียนซิงยกขาขึ้นเตรียมที่จะโจมตีไปยังจุดยุทธศาสตร์ของเขา!
เธอจะเอาเขาให้ตาย! กล้าทำอย่างนี้กับเธอได้ยังไง!
แต่แล้ว สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆ ขาทั้งสองข้างของหลิงเล่ก็งอขึ้น เขาพลิกตัวตะแคงไปข้างๆ โดยสัญชาตญาณ แล้วป้องกันการโจมตีของเธอเอาไว้ได้!
“เด็กดี หนูจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ เราสองคนยังต้องใช้ชีวิตร่วมกันอีกทั้งชีวิตเลยนะ!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร เพื่อให้เธอยอมล้มเลิกความตั้งใจจากสิ่งเลวร้ายที่ตั้งใจจะทำซะ
เธอไม่เคยร้องไห้ได้เสียใจขนาดนี้มาก่อน “คนชั่ว! แงแง~คนชั่ว! หนูเกลียดคุณเกลียดคุณเกลียดคุณเกลียดคุณ~! หลิงเล่หนูเกลียดคุณ!”
“เด็กดี ไม่ร้องนะ!”
เขาจูบลงบนหยดน้ำตาของเธออย่างไม่หยุดหย่อน แล้วใช้น้ำเสียงที่แสนอ่อนโยนมาปลอบโยนมู่เทียนซิง!
มู่เทียนซิงรู้สึกว่าโลกทั้งใบของเธอได้พังทลายลงไปแล้ว!
หรือมันจะเป็นเหมือนกับเมิ่งเสี่ยวหวี ที่ทุ่มเทดูแลมาตั้งหลายปี สุดท้ายเพิ่งมารู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองไม่ได้รู้จักเมิ่งเสี่ยวหวีเลยสักนิด!
ในขณะที่เธอกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ แต่แท้ที่จริงแล้วมันกลับไม่เคยมีความหมายเลย
เหมือนกับการที่เธอคิดว่าตัวเองหลงรักคุณอาอย่างสุดหัวใจ แต่แท้ที่จริงแล้วมันกลับไม่เคยมีความหมายเลย!
“แงงง~แงงง~คนชั่ว! ไอ้คนชั่ว!”
มู่เทียนซิงที่ขัดขืนอย่างสุดแรงพร้อมกับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
แต่เสียดายที่เธอแรงน้อยเกินไป จึงไม่อาจดิ้นรนให้หลุดพ้นไปได้
ที่เธอไม่อาจดิ้นให้หลุดได้ เพราะมือทั้งสองข้างของเขากำลังกอดเธอไว้แน่นๆ
“เด็กดี~ที่รัก?”
เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วง
แต่เธอกลับฟุบลงไปอย่างสงบด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง น้ำตาไหลรินไปตามโหนกแก้ม เธอหยุดร้องไห้แล้ว หยุดโวยวาย หยุดทุบตี หยุดก่นด่า
เขานึกว่า เธอคงทำใจยอมจำนนแล้ว หมดทางเลือกแล้ว ยอมรับเขาแล้ว
ในใจก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เขาจึงกอดเธอแน่นขึ้น “เด็กดี เธออยากได้งานแต่แบบไหน? เราไม่ต้องจัดงานหมั้นแล้ว งานหมั้นในเดือนหน้าฉันจะเปลี่ยนมันเป็นงานแต่งเลยดีไหม?”
มู่เทียนซิงนิ่งเงียบ
เขาจูบปากเธอเป็นพักๆ แล้วยิ้มออกมา “ฉันจะทำให้ทุกคนที่เคยหัวเราะเยาะฉัน หันมาอิจฉาเธอให้ได้ เด็กดี ฉันสาบานเลยนะ”
ภายในห้องเงียบจนน่าใจหาย แต่เขาก็ยังไม่หยุดจูบปากของเด็กสาว
“แงแง~ไอ้คนชั่ว!”
มู่เทียนซิงแค่กำลังรู้สึกว่าเสียงของเธอนั้นแหบซ่าน น้ำตาแห้งเหือด หัวใจแหลกสลาย
ความรักของเธอได้พังทลายไปแล้ว!
หลิงเล่ยังคงกอดเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“เด็กดี ฉันรู้สึกว่าโลกของฉันตอนนี้มันสมบูรณ์แล้ว จริงๆ นะ!”
“เด็กดี ขอบคุณนะ!”
“เด็กดี เธอรู้บ้างไหม ว่าตัวเธอเองน่ารักแค่ไหน?”
“เด็กดี ฉันรักเธอ!”
เขาค่อยๆ บอกความรู้สึกในใจออกมาทีละคำ
ในที่สุด เขาก็นึกถึงสิ่งที่หนีหย่าจูนโทรมาบอกได้สักที เขาจึงหอมแก้มเธอทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ที่รัก ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวค่อยมาอุ้มเธอไปอาบด้วยกัน ฉันรู้ว่ามีเรื่องอีกมากมายที่ต้องอธิบายให้เธอเข้าใจ รอให้แม่กลับออกไปก่อนนะ แล้วฉันจะอธิบายทุกอย่างให้เธอได้ฟังอย่างละเอียดเลย”
เขาจูบลงบนหน้าฝากของเธออีกหนึ่งครั้ง
แล้วรออยู่อย่างเงียบๆ รอคอยการตอบสนองของเธอ
แต่เธอกลับไม่พูดไม่จาและไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เขาคิด ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขารู้ว่าเธอยังโกรธเขาอยู่ แต่เขาไม่กลัว
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อให้ตอนนี้เธอยังรู้สึกโกรธเขาอยู่ ต่อให้เขาต้องคุกเข่าขอโทษเธอก็ตาม แต่มันก็คุ้มค่าแล้ว
หลังจากนั้น เสียงน้ำที่กระทบพื้นก็ได้ดังขึ้นจากห้องน้ำ ห้องที่มืดมิดในห้องทำให้จิตใจของเธอรู้สึกหวาดกลัวเหมือนกำลังอยู่ในนรก!
มู่เทียนซิงตัวสั่นเทา เธอค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เธอแค่ขยับขาเบาๆ มันก็ทำให้เธอเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงใจ!
“ซี๊ด~!”
ความเกลียดชังก่อเกิดขึ้นเต็มอก!
เธอกัดฟันปีนลงจากเตียง คลำหาสวิตช์ไฟที่อยู่บนหัวเตียง เปิดไฟ จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว
เธอวิ่งออกมาจากห้องทำงานของหลิงเล่ เธอเคยมาที่นี่แล้ว จึงรู้ดีว่าพอกดปุ่มเขียวตรงนั้นแล้วประตูก็จะเปิดออก!
ในขณะที่ที่อดทนอยู่กับความเจ็บปวดบนร่างกาย เธอได้วิ่งไปทั้งน้ำตา!
เธอคิดว่าตัวเองได้เจอกับรักแท้แล้ว เธอคิดว่าตัวเองได้เป็นดั่งเทพผู้ช่วยของคุณอาแล้ว เธอสามารถช่วยให้ชีวิตที่มืดมนของเขากลับมาสว่างได้อีกครั้ง แล้วสุดท้ายล่ะ?
มู่เทียนซิงวิ่งร้องไห้มาจนถึงหน้าประตูของวิลล่า!
ริมฝีปากที่บวมแดงกับดวงตาที่แดงก่ำ
ความเจ็บปวดที่เกินจะทนไหว!
เธอกัดฟันปีนขึ้นชั้นสองไป รื้อกระเป๋าใบนั้นที่เธอเอามาด้วยตอนแรก แล้วเอากระเป๋าตังโน๊ตบุ๊ค หนังสือเรียนใส่ไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็วิ่งไปอุ้มเจินเจินที่กำลังนอนอยู่ในรังแมว
“เจินเจิน ที่นี่มีแต่คนเลวทั้งนั้น! จิตใจต่ำช้า! แกไปกับฉันนะ! ฉันปล่อยให้แกไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้!”
เสียงของมู่เทียนซิงนั้นแหบไปแล้วจริงๆ
เสียงที่พูดออกมา แม้แต่เจินเจินยังรู้สึกประหลาดใจเลย
เธอต้องรีบวิ่งลงจากชั้นบน แต่ตอนนี้หลิงเล่ได้รู้ว่าเธอหายไปแล้ว และเขาก็ได้โทรมาแล้ว จั๋วหรันกับภรรยาของเขาก็ได้มารอเธออยู่ที่ชั้นล่างแล้วเหมือนกัน!
“คุณหนูมู่ คุณจะไปจากที่นี่ไม่ได้นะครับ ซือซ่าวใกล้จะมาถึงแล้ว ซือซ่าวบอกว่า รอเขามาถึงที่นี่ก่อน แล้วคุณอยากจะระบายอารมณ์ยังไงก็ได้!”
“คุณหนูมู่คะ อย่าร้องเลยนะคะ เดี๋ยวฉันไปอยู่ในห้องเป็นเพื่อนนะคะ คุณจะไปจากที่นี่ไม่ได้นะคะ คุณจำเป็นต้องทายานะคะ”
“หุบปาก หลีกไป! หลีกไปให้หมด!”
มู่เทียนซิงไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เธอวิ่งตรงไปยังประตูอย่างสุดแรงเกิด จั๋วหรันกางแขนมาขวางไว้ เธออ้าปากแล้วกัดไปในทันที จั๋วหรันจำใจต้องหลบไป แต่จะลงไม้ลงมือกับเธอก็ไม่ได้ จึงต้องให้ฉวีซือเหวินวิ่งไปอุ้มเธอเอาไว้!