บทที่ 211 เสี่ยวเฉียงผีอมตะ
บทที่ 211 เสี่ยวเฉียงผีอมตะ
ต้นไม้ใกล้เคียงหลายต้นได้รับแรงปะทะจนพวกมันกลายเป็นเศษผง แรงปะทะของพวกมันถึงกับทำให้เนินเขาลูกหนึ่งถูกทำลายเลยทีเดียว
แรงระเบิดนั้นดังกึกก้องควันลอยขึ้นไม่ขาดสาย แรงระเบิดทำให้ฉู่เหินกระเด็นไปทางด้านหลังกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่จนกระอักเลือดออกมา ไม่หยุด
แม้ฉู่เหินจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิดครั้งนี้ แต่เขาเชื่อว่างูยักษ์นั่นน่าจะกลายเป็นซากไปแล้วโดนขนาดนี้ถ้าไม่เป็นไรเลยเขาก็ไม่รู้จะฆ่ามันยังไงแล้ว เขารีบโคจรพลังดวงดาวเพื่อใช้รักษาอาการบาดเจ็บทันที จากนั้นเขาก็จ้องมองไปทางศูนย์กลางของแรงระเบิด
ฝุ่นควันค่อยๆจางหายไป ร่างยักษ์ใหญ่นั้นยังคงอยู่ที่เดิม เมื่อมองดูดีๆอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายน้อยมากจนน่าตกใจ มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“คิดไม่ถึงว่ามันจะหนังเหนี่ยวขนาดนี้” เขาใช้มือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก
“ต่อให้ครั้งนี้แกไม่ตายฉันก็จะโจมตีแกอีก 10 ครั้ง ถ้ายังไม่ตายอีกฉันก็จะโจมตีแกอีก 100 ครั้ง วันนี้ไม่ฉันฉู่เหินก็ต้องเป็นแกที่ตาย!!”
เมื่อได้ยินคำของฉู่เหินแม้ร่างของงูยักษ์จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน มันก็อดตัวสั่นไม่ได้เมื่อพบกับเจ้ามนุษย์ที่บ้าคลั่งคนนี้มันก็อดไม่ได้จนรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาจริงๆ
ฉู่เหินกำลังคิดหาวิธีกำจัดมัน แม้ปกติเขาจะมีอุบายมากมายแต่เขาต้องเลือกดีๆในการจะกำจัดเจ้างูยักษ์นี้ ถ้าเขาใช้ค่ายกลน่าจะกำจัดมันได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่ามันจะยุ่งยากไปหน่อย สุดท้ายก็เหลืออยู่แค่สองแผนการ ซึ่งฉู่เหินตัดสินใจเลือกมา 1 แผนที่คิดว่าดีที่สุด
เขาหรี่ตาลงแล้วสะบัดมือเรียกพัดออกมา พลังของพัดสมบัตินี้ไม่เคยทำให้ฉู่เหินผิดหวังเลย แต่ว่ามันเปลืองพลังดวงดาวมากไปหน่อย เขาเลยจะใช้มันก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลี่ยงแล้วเท่านั้น
ถ้าเกิดว่าไม่มีของชิ้นนี้การเผชิญหน้ากับงูยักษ์ที่แข็งแกร่งตัวนี้คงจะยากเกินคาดเดา ภายในร่างกายของเขารวบรวมพลังดวงดาวอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้ตัวพัดส่องแสงสีเงินเพิ่มประกายมากขึ้นๆ เมื่อมันดูดพลังดวงดาวเข้าไป
ในพริบตานั้นแสงของมันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วสายฟ้าก็ฟาดลงมา
ร่างของงูยักษ์นั้นสั่นเทา เพราะว่าตอนนี้มันรู้สึกได้ถึงแรงคุกคาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าครั้งนี้ถ้าปะทะกันตรงๆ มันต้องบาดเจ็บอย่างแน่นอน
อีกทั้งงูเหลือมยักษ์ก็รู้ว่าพลังดวงดาวในร่างกายของฉู่เหินถูกส่งต่อไปยังพัดมากมายขนาดไหน ดวงตาของงูยักษ์จับจ้องพร้อมทั้งใช้ความคิดไปด้วย ขณะที่พัดสมบัตินั้นรวบรวมพลังที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ หางของงูยักษ์ก็เริ่มขยับ
พลังจากพัดของฉู่เหินนั้นพุ่งเข้าใส่งูยักษ์ เสียงระเบิดดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องในค่ำคืนที่เงียบเชียบนี้ เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ายังคงดังไม่หยุด
หางของงูยักษ์เหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ หางของมันนั้นยังคงหมุนอยู่ในอากาศในขณะที่สายฟ้ายังคงฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงดังลั่นพร้อมควันสีขาวที่ลอยขึ้นมาตามเสียงแล้วท้องฟ้านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานในชั่วพริบตา
สายฟ้านับพันฟาดลงมาส่งเสียงดังไปทั่วทั้งภูเขา น้ำจากสระน้ำพุ่งขึ้นมาเพราะแรงระเบิดกลายเป็นเสาน้ำขนาดใหญ่ ต้นไม้บริเวณใกล้เคียงนั้นโดนหินถล่มจากแรงระเบิดโค่นต้นไม้เสียราบคาบ โดยต้นเหตุทั้งหมดนั้นเกิดจากแรงระเบิดของสายฟ้าทั้งสิ้น!
หลังจากโจมตีครั้งใหญ่สิ้นสุดร่างกายของฉู่เหินก็อ่อนล้าจนแทบล้มลง
กระนั้นเขาก็ยังคงโคจรพลังดวงดาว โดยเร่งพลังดวงดาวที่อยู่ในกระแสลมปราณเพื่อให้จุดตันเถียนฟื้นฟูพลังได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งบัดนี้ยังเป็นตอนกลางคืน ดังนั้นดวงจันทร์ที่ลอยเด่นเหนือหัวเขาก็ยิ่งช่วยให้เขาโคจรพลังได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
แต่ว่าการที่จะฟื้นพลังจนพร้อมสู้อีกครั้งนั้นไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆเลย ฉู่เหินกัดฟันทนแล้วมองไปทางด้านหน้า แต่ผลข้างเคียงของสายฟ้าเมื่อกี้ทำให้ร่างกายของฉู่เหินทื่อลงอย่างมากจนแทบจะยืนไม่ไหว
หลังจากที่โดนสายฟ้าฟาดใส่ ฉู่เหินเตรียมตัวที่จะหนีเพราะถ้าเขาฝืนไปมากกว่านี้คงได้ตายแน่ๆ
หลังจากที่กระอักเลือดออกมา เขาก็พูดเบาๆ “นี่เป็นการโจมตีที่แรงที่สุดแล้วนะ ยังไงก็ต้องได้ผล?” ไม่มีใครตอบคำถามของฉู่เหิน เขารู้ดีว่ามันเป็นการโจมตีของพัดสมบัติ ภายใต้การโจมตีนี้ไม่มีสิ่งไหนจะต้านทานได้หรอก
เสียงดังกึกก้องกินเวลากว่า 10 นาทีถึงจะสงบลง ละอองเลือดในอากาศหายไป ร่างของงูยักษ์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หางของงูขาดสะบั้น เลือดไหลทะลักออกมาอย่างหนักแต่ยังห่างไกลจากคำว่าหมดสภาพ
“อา เจ้าเริ่มทำให้ข้าหงุดหงิดขึ้นมาแล้วนะ ถ้าข้าเปลี่ยนร่างเสร็จสมบูรณ์ เจ้าคงจะเป็นมื้ออาหารแห่งการเฉลิมฉลองที่ไม่เลวเลย!!!”
ถึงจะได้ยินอย่างชัดเจนแต่ว่าฉู่เหินก็ทำอะไรไม่ได้เขาจึงได้แต่บ่นอย่างเงียบๆ “ไม่อยากเชื่อเลยว่าแกมีรสนิยมการกินอะไรแบบนั้น”
อันที่จริงถ้างูยักษ์ลงมาสู้อย่างเต็มที่ด้วยตัวเองฉู่เหินต้องตายอย่างแน่นอนแต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเกิดว่ามันยกเลิกพิธีกลายร่างกลางคันมันจะเป็นอะไรที่น่าสมเพชมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ฉู่เหินคงจะตายไปแล้ว ฉู่เหินที่นอนอยู่นั้นได้แต่ถอนหายใจ
“แกนี้มันนี่เหนือชั้นจริงๆ ถ้าวันนี้พวกเราไม่ได้ประมือกัน ฉันคงไม่ได้เรียนรู้อะไรแบบนี้” ฉู่เหินนั้นยังคงพูดอยู่กับตัวเอง แต่ยังแสดงถึงความเข้มแข็ง
งูยักษ์มองฉู่เหินที่ยังคงดื้อด้าน งูยักษ์เลยพูดเสียดแทงต่อ “ดื้อด้านเหลือเกินนะไม่มีทางที่แกจะชนะได้หรอก จงดีใจซะเถอะที่ตอนนี้แกยังไม่ตาย!”
ฉู่เหินยืนนิ่งแล้วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขาสะบัดพัดในมือ ทำให้งูยักษ์ตัวสั่นกลัวอีกครั้ง น่าเสียดายที่ฉู่เหินรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถใช้ท่านี้ได้อีกรอบแล้ว แต่เขาทำแบบนี้เพื่อขู่อีกฝ่ายเท่านั้น
“อย่าพยายามเลยไอ้หนู เปล่าประโยชน์น่า โอกาสสุดท้ายแล้วนะที่ข้าให้เจ้ายอมรามือ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ!!” งูยักษ์เห็นอย่างนั้นก็กลั้วหัวเราะให้กับการกระทำของฉู่เหินที่ได้แต่แกล้งทำเป็นขู่มัน