บทที่ 210 ปะทะงูหลามพิษ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 210 ปะทะงูหลามพิษ

บทที่ 210 ปะทะงูหลามพิษ

ฉู่เหินรู้ว่านี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เขาจึงใช้พลังดวงดาวเสริมกำลังให้กับแขนและนิ้ว เส้นเอ็นแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่าพร้อมหลอมรวมด้วยพลังกิเลน

ฉู่เหินต้องอดทนกว่า 15 นาทีก่อนที่ลมหายใจมังกรจะหายไปแล้วเขาถึงคลายการป้องกันลง โชคดีที่พลังของลมหายใจมังกรยังไม่บริสุทธิ์พอไม่อย่างนั้นเขาคงจะลำบากมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ลมหายใจมังกรทำให้เส้นเอ็นของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นสิ่งที่เขาพอใจอย่างมาก พลังของเขาเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าโดนเฉพาะที่แขนซ้ายของเขา

ตอนนี้เขามั่นใจมากว่าจะสามารถใช้วิชากิเลนได้อย่างเต็มที่ เขาต้องระวังให้ดีเวลาใช้วิชานี้แม้ว่าเขาจะฝึกฝนจนชำนาญแล้วแต่ถ้าใช้มั่วๆ เขาก็อาจตายซะเองได้ยิ่งไปกว่านั้นวิชานี้ถ้าใช้ดีๆสามารถฆ่าขั้นเต๋าได้ง่ายๆ เลยด้วยซ้ำ

ลมหายใจมังกรยังไม่อาจฆ่าเขาได้แถมยังทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นด้วย นี่คงเป็นความรู้สึกของการก้าวข้ามความเป็นความตายละมั้ง

ดวงตาของงูพิษเบิกกว้าง บ่งบอกว่ามันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น มันไม่คิดว่าพลังอันมหาศาลของมันจะถูกหยุดเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ไม้ตายของมันก็ตาม แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต้านทานมันได้

“เจ้ามนุษย์เอ๋ย จะเป็นการดีกว่าถ้าเจ้าไม่เข้ามารบกวนข้าในตอนนี้ ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไรข้าก็จะให้ จากนั้นเจ้าก็ไปซะ” งูหลามยักษ์เอ่ยต่อรองออกมา ทำให้เขาประหลาดใจมากว่างูตัวนี้ดูมีหลักการแบบแปลกๆ

ถ้าเกิดว่ามันสามารถทำสำเร็จ มันจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานและถ้าฉู่เหินสามารถผูกมิตรกับมันก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม มันอาจเป็นตัวการที่สร้างเขตแดนนี้ขึ้นมามันทำให้ชีวิตดับสูญไปกว่าร้อยชีวิตแล้ว

เมื่อเผชิญหน้ากับทางเลือก ฉู่เหินจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ “ท่านไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีทางที่จะเข้าใจมนุษย์หรอก สำหรับท่านที่ฆ่าไปกว่าร้อยชีวิตแบบนี้น่ะ ถ้าฉันฉู่เหินคบค้าสมาคมด้วยฟ้าดินจะลงโทษเอาน่ะสิ!”

“ธรรมชาติของมนุษย์นั้นเห็นแก่ตัว นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะปฏิเสธได้ ข้าได้รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว มนุษย์นั้นสู้เพื่อตัวเองแก่งแย่งชิงดีกัน ฆ่าไปก็ไม่ผิดอะไร!!” หลังจากที่มันได้ยิน มันก็มีท่าทีที่เหยียดหยามในทันที

“นั่นก็ใช่ มนุษย์น่ะทั้งหยิ่งยโสและเห็นแก่ตัว แต่การกระทำของท่านมันถือว่าล้ำเส้น ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่พวกเขาทำ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรที่ต้องตาย เรื่องแบบนั้นฉันฉู่เหินคนนี้รับไม่ได้!!”

“ข้าไม่ใช่ผู้มาโปรด ถ้าเจ้าไม่คิดจะทำอะไรก็ถอยไปดีกว่า ถ้าเกิดว่ายอมถอยไปดีๆ คราวหน้าข้าอาจจะเป็นพวกเดียวกับเจ้าก็ได้”

“ถ้าท่านยังไม่เลิก ฉันจะจัดการท่านเอง” คำพูดของฉู่เหินทำให้งูพิษโกรธขึ้นมาในทันที ถ้าฉู่เหินเผลอ งูยักษ์นั้นคงจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ในพริบตา

คิดว่าจะขัดขวางมันได้เหรอ? มันใช้เวลาเตรียมการกว่าร้อยปี ปณิธานนี้จะพ่ายแพ้ให้กับคำพูดไม่กี่คำไอ้เด็กนี่งั้นเหรอ?

“ข้าชื่นชมในความกล้าหาญของเจ้า แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะขัดขวางข้าได้หรอกนะ ถ้าข้าทำสำเร็จข้าจะกลายเป็นมังกร เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องเสียใจที่คิดขัดขวางข้า” งูยักษ์ดูไม่อยากที่จะสู้กับเด็กหนุ่มแต่ไม่ใช่เพราะว่ามันกลัว แต่เพราะมันว่าไม่มีเวลาไปสนใจต่างหาก ตอนนี้มันต้องการสมาธิ

“ดูท่าว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องนะ งั้นก็คงต้องแลกหมัดเพื่อสั่งสอนกันหน่อยแล้วล่ะ” สิ้นเสียงฉู่เหิน เขาก็ประสานมือเข้าด้วยกันเพื่อใช้ดัชนีกิเลน โจมตีใส่หางของงูยักษ์อย่างรวดเร็ว จนเกิดการระเบิดควันกระจายไปทั่ว ต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าควันจะจางลง

หลังจากการโจมตีต่อเนื่อง 10 ครั้งฉู่เหินก็หน้าซีด พลังงานที่ใช้ไปอย่างมหาศาลนั้นถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็วด้วยพลังที่อัดแน่นอยู่ภายในเส้นเอ็น เขาสามารถสู้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังที่เหลืออยู่

ฝุ่นควันโขมงราวกับว่ามีไฟไหม้ การโจมตีนั้นเข้าเป้าอย่างจัง ทำให้ฉู่เหินมีกำลังใจยิ่งขึ้น

ไม่กี่อึดใจควันนั้นก็จางลง ร่างของงูยักษ์ปรากฏในสายตาและตอนนี้นั้นมันก็ดูโกรธอย่างมาก มันไม่คาดคิดว่ามนุษย์ตัวจ้อยจะกล้าโจมตีใส่มัน ถึงมันจะไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่มันรู้สึกว่านี้คือการหยามหน้าอย่างแรง

ฉู่เหินรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เขาก็ยังคงโพล่งออกไปว่า “เหอะ ทองแท้ไม่แพ้ไฟหรอกเฟ้ย” เขาไม่คาดฝันเลยว่าจะใช้ดัชนีกิเลนโจมตีไปถึง 10 ครั้งอีกฝ่ายกลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย

“โง่เขลายิ่งนัก ช่างไม่รู้จักประมาณตน การโจมตีพรรค์นั้นไม่สามารถทำอะไรข้าได้หรอก แต่ก็น่าสนใจดีนี่กับความคิดที่จะกำจัดข้าน่ะ” เสียงหยิ่งผยองของงูยักษ์นั้นทำให้ฉู่เหินกลั้วหัวเราะ

“ไม่ลองไม่รู้น่ะนะ คุณปู่” หลังจากได้ยินคำเยาะเย้ยจากงูยักษ์ ฉู่เหินก็แทบเลือดขึ้นหน้า ทั้งๆ ที่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยให้เขาโจมตีเต็มที่แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย มันทำให้เขานั้นอับอายมาก

ในเมื่อดัชนีกิเลนไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ เขาก็ต้องหันไปใช้หมัดกิเลนแทน ตอนนี้แขนซ้ายและขวาของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากมันอาจได้ผล

ฉู่เหินทะยานขึ้นไปในอากาศกว่า 5 เมตร พุ่งเข้าไปหางูยักษ์อย่างรวดเร็ว พร้อมระเบิดพลังออกมาแล้วกิเลนสองตัวก็ปรากฏขึ้น แล้วพวกมันก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว คลื่นพลังน่ากลัวจนแม้แต่งูยักษ์ก็ยังหวั่นเกรง

งูยักษ์ไม่สามารถขยับตัวได้จึงได้แต่มอง แม้ว่ามันประหลาดใจแต่มันไม่ได้ระวังตัวมากเป็นพิเศษ เพราะว่าคิดว่ามันน่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น

หมัดกิเลนที่รวมตัวกันนั้นปะทะเข้ากับร่างของงูยักษ์ในทันที เสียงดังจนสั่นสะเทือนฟ้าดินพื้นดินแตกกระจาย แม่น้ำกระจายจนเกิดเป็นเสาน้ำต้นใหญ่