ตอนที่ 29 รีบหนี! 1

“ผนึกโลหิตทมิฬ!” หัตถ์โลหิตคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากมือที่จับปลายดาบ จากนั้นพลังปราณสีทมิฬซึมเข้าสู่เลือดที่ไหลออกมากลายเป็นเลือดทมิฬ มันไหลเข้าสู่ดาบอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา มันไหลผ่านดาบเข้าสู่ร่างของสตรีชุดขาว

ทันใดนั้นขาขวาของหัตถ์โลหิตกระทืบลงที่พื้น เขาใช้แรงส่งพุ่งทะยานไปด้านหน้า ดาบหลุดออกจากร่างกายพร้อมเลือดทมิฬที่ไหลรินออกมา

เมื่อนางเห็นเลือดทมิฬไหลเข้าสู่ร่างกาย ทั้งยังดาบที่กลายเป็นสีทมิฬ ใบหน้าสตรีชุดขาวดูซีดเย็นต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ในที่สุดนางก็เผยท่าทีจริงจังออกมาพร้อมเงยหน้ามองหัตถ์โลหิต จากนั้นนางกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ “เจ้ากล้าดีอย่างไรใช้วิชาต้องห้ามศักดิ์สิทธิ์ ไม่หวาดเกรงพลังที่บ่มเพาะร่วงหล่นจนไม่อาจบรรลุได้อีกครั้งงั้นหรือ?”

คำกล่าวของสตรีชุดขาวดูจะแทงใจหัตถ์โลหิตอยู่บ้าง ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยท่าทางชั่วร้าย เขากล่าวอย่างคลุ้มคลั่งออกมา “ขั้นพลังลดลงงั้นหรือ? มันก็ยังดีกว่าสิ้นลมตรงนี้! เทพธิดาซู เจ้ากำลังรู้สึกราวกับพลังปราณล้ำลึกในร่างกายกำลังไหลออกสินะ? ฮ่าฮ่า! อีกไม่นานจากนี้ เจ้าจะกลายเป็นเพียงคนพิการไร้พลังปราณใดอีก เมื่อถึงยามนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้หนำใจ! อั่ก…” ขณะที่เขาเริ่มตื่นเต้นมากขึ้น มันทำให้เลือดทมิฬกระฉูดออกมาจากรูบนหน้าอก

หยางเย่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินหัตถ์โลหิตกล่าว จากนั้นเขานึกในใจ ‘จบเห่แล้ว! หัตถ์โลหิตกำลังจะชนะ!’

ด้วยความเหี้ยมโหดของหัตถ์โลหิต หยางเย่คงถูกสังหารอีกแน่นอน ทั้งยังไร้ประโยชน์ใดในยามนี้ แม้หัตถ์โลหิตดูบาดเจ็บหนัก แต่มันก็ไม่ใช่คนที่หยางเย่จะต่อกรได้!

หยางเย่สูดหายใจลึกพร้อมมองไปยังสตรีชุดขาว เวลานี้เขาหวังเพียงแค่นางจะมีแผนสำรองเตรียมไว้

คิ้วที่งดงามชนกันแน่นเมื่อสังเกตเห็นพลังปราณในร่างกำลังไหลออกอย่างรวดเร็ว เมื่อนางมองไปยังหัตถ์โลหิตที่ยืนอยู่ ท่าทางอันแน่วแน่ปรากฏขึ้นบนหน้า ดาบในมือหายไปด้วยการพลิกฝ่ามือ ไม่นานนางแบมือขวาออก จากนั้นพับนิ้วก้อยและนิ้วนางลงก่อนที่นิ้วโป้งจะกดทับนิ้วทั้งสอง ส่วนนิ้วชี้และนิ้วกลางติดกันเป็นรูปดาบ

นางหันดาบชี้ไปยังหัตถ์โลหิต ปราณดาบระเบิดออกมาจากปลายนิ้ว

“เจ้ากำลังรนหาที่ตายหากยังทำเช่นนี้!” นางใช้พลังปราณล้ำลึกบังคับทิศทาง เปลือกตาหัตถ์โลหิตกระตุกทันทีที่เห็น เขาหลบไปด้านข้างพร้อมคำรามออกมาอย่างรุนแรงด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว เวลานี้เขาใช้พลังไปหมดสิ้น หากปะทะเข้ากับปราณดาบนี้ คงเลี่ยงความตายไม่พ้นอีกต่อไป

สตรีชุดขาวไม่สนคำกล่าวใดจากหัตถ์โลหิต ปลายเท้านางแตะอย่างเบาบนพื้นก่อนจะทะยานขึ้นไป จากนั้นนางพุ่งเข้าโจมตีหัตถ์โลหิตที่ยืนอยู่กลางอากาศ

นางสะบัดดาบอย่างรวดเร็วจากนิ้วในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ ทุกครั้งที่สะบัดมันทำให้เกิดปราณดาบพุ่งออกมา ปราณดาบจำนวนมากพุ่งออกมาอย่างไม่สิ้นสุด มันปกคลุมทั่วท้องฟ้าราวกับห่าฝนพุ่งไปยังหัตถ์โลหิต

ขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ใจหยางเย่สั่นไหวขึ้นลง ‘วิชา… วิชาดาบนี้ช่างล้ำลึกยิ่งนัก! มันร้ายกาจยิ่งกว่าวิชาดาบแยกลมปราณเสียอีก! สถานะต้องไม่ได้ต่ำต้อยอย่างแน่นอน นางสมควรเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสแล้ว’

เปลือกตาหัตถ์โลหิตกระตุกเมื่อเห็นปราณดาบกำลังจู่โจมเข้ามา เขากังวลใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่าทางจริงจัง แขนขวายื่นออกมาโดยไม่สนเลือดที่ไหลออกจากอกอีกต่อไป จากนั้นประกายสีเลือดก่อขึ้นเป็นเกราะทมิฬอีกครั้ง ด้วยการที่พลังปราณล้ำลึกไหลออกมาเป็นเกราะป้องกัน เลือดที่ไหลจึงไม่อาจหยุดไว้ได้อีก

ถึงแม้เลือดที่หน้าอกยังไหลไม่หยุด หัตถ์โลหิตก็ยังปล่อยพลังปราณล้ำลึกเข้าสู่เกราะทมิฬอย่างต่อเนื่อง เขาทราบแล้วว่านี่เป็นนการโจมตีสุดท้ายของนาง และชัยชนะจะเป็นของเขาหากป้องกันการโจมตีนี้ได้ ในทางตรงกันข้าม หากป้องกันไม่ได้ผลลัพธ์มันชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องตาย ดังนั้นเขาจำเป็นต้องต้านให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร!

ปั้ง!

ปราณดาบจำนวนมากปะทะเข้ากับเกราะพลังปราณ เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วป่า สตรีชุดขาวเคลื่อนลงพื้นพร้อมมองไปยังปราณดาบที่ปะทะกับเกราะพลังอย่างต่อเนื่อง หากหัตถ์โลหิตสามารถต้านทานไหว ชัดเจนว่าผลลัพธ์ใดจะเกิดขึ้นกับสตรีชุดขาวที่สูญสิ้นพลังปราณทั้งหมดแล้ว!

“ฮ่าฮ่า!!!” ไม่นานจากนั้น เกราะพลังปราณหายไปหมดสิ้น เสียงหัวเราะคำรามดังลั่นจากด้านหลัง หลังจากเกราะทมิฬหายไป ร่างหัตถ์โลหิตที่ยืนขาวซีดปรากฏออกมา ตอนนี้ถึงใบหน้าเขาจะขาวซีด แต่ก็ยังปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายจากการรอดชีวิตมาได้

สตรีชุดขาวสูดหายใจลึก ท่าทางขมขื่นแสดงออกมาเมื่อเห็นหัตถ์โลหิตยังมีชีวิตอยู่ จากนั้นนางปิดตาลงอย่างช้า ๆ พร้อมพลิกฝ่ามือขวาทำให้ดาบปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะสูญเสียพลังปราณล้ำลึกหมดสิ้น ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะนอนรอความตาย

“ผิดหวังสินะ? เทพธิดาซู ข้าเพียงสังหารศิษย์นอกสำนักไม่กี่คน? แต่เจ้ากลับไล่ตามข้ามาสามวันสามคืน! ยามนี้คิดว่าข้าควรทำอย่างไร? ไม่เพียงแค่จะทำให้เจ้าอับอาย ข้ายังจะแขวนศพเจ้าตรงประตูเมืองจักรพรรดิอีกด้วย ชื่อเสียงของสำนักดาบราชันต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดินแน่นอน! อั่ก…” หัตถ์โลหิตจับดาบในมือพร้อมเดินเข้าไปใกล้สตรีชุดขาว