ตอนที่ 186 คนที่จะแพ้ ไม่ใช่ผม!

ด้วยข้อมูลหลักฐานที่แน่น และแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ หลี่เฉวียนยู่จึงมั่นใจว่า ตนเองไม่มีทางแพ้ให้กับหลินหนานในเรื่องนี้อย่างแน่นอน และเขาจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น!

“ผมไม่ปฏิเสธว่ายามหัศจรรย์อะไรนี่ให้ผลอย่างที่ทุกคนรู้สึก แต่การที่คุณบอกว่า นี่เป็นยาวิเศษ และน้ํานี่ก็เป็นน้ําศักดิ์สิทธิ์ เรื่องนี้ผมไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน!” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ําเสียงนิ่งเรียบ

แม้ว่าหลินหนานจะไม่ได้ดื่มน้ําที่เรียกกันว่าน้ําศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยตนเอง แต่เขาก็ผ่านประสบการณ์ที่เหลือเชื่อมามากมาย พบเห็นเรื่องลี้ลับมาก็ไม่น้อย

“ห์! ความจริงก็เห็นๆอยู่ แกไม่เชื่อก็เรื่องของแก แต่คนอื่นๆที่อยู่ในห้องนี้ต่างก็เชื่อกันหมด! ถ้าแกไม่เชื่อ ก็เชิญออกไปจากห้องได้เลย อย่ามาอยู่ก่อกวนจนทําให้ตัวเองดูโง่ไปกว่านี้เลย..” ถึงจินซ่งร้องตะโกนออกมาด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน

“นั่นน่ะสิ! แกอย่าคิดว่าแค่คุณชายหลี่ให้หน้าแกขึ้นไปยืนบนเวที ก็จะทําตัวใหญ่โตได้ แกบอกไม่เชื่อว่านี่จะเป็นน้ําศักดิ์สิทธิ์ แล้วตัวแกเคยเห็นน้ําศักดิ์สิทธิ์มาก่อนงั้นเหรอ?” หวังชางหยางเองก็ไม่รอช้ารีบพูดเสริมขึ้นมาทันที

“คุณสุภาพบุรุษ ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดจะดีกว่า ผมและทีมงานใช้เวลาคิดค้น และพัฒนายามหัศจรรย์นี้มานานนับสิบปี ในเมื่อนํามาผสมกับน้ํา จะเรียกว่าน้ําวิเศษ หรือน้ําศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่น่าผิดอะไร เพราะหากไม่มีตัวยาที่ทางเราคิดค้นขึ้นมา น้ําก็คงเป็นเพียงแค่น้ําธรรมดาๆเท่านั้น”

ศาสตราจารย์เรย์มอนด์หันไปอธิบายให้หลินหนานฟัง ก่อนจะถามต่อด้วยน้ําเสียงเย็นชา “ผมได้ยินจากคุณชายหลี่มาว่า คุณเป็นปรมาจารย์ในด้านศิลปะการต่อสู้ แต่สําหรับผม ผมกล้าพูดได้ว่าตัวผมเองเป็นปรมาจารย์ในด้านการแพทย์ และผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทําได้ คุณไม่สามารถทําได้!”

“โอ้โห! ถึงกับกล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์ด้านการแพทย์เชียวเหรอ? อย่าหาว่าผมดูถูกเลยนะ วันนี้ผมจะทําให้คุณได้เห็นว่า คําเรียก ปรมาจารย์” ใช่ว่าทุกคนจะคู่ควร!” หลินหนานประกาศกร้าวท่ามกลางสายตาของทุกคนในห้อง

และประโยคที่ว่า “ปรมาจารย์ห้ามลบหลู่” นั้น ก็ไม่ใช่คําพูดลอยๆ ที่คนพูดกันต่อๆมาเท่านั้นเอง!

ท่ามกลางสายตาของผู้คนในห้อง การที่หลี่เฉวียนยู่ก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีนั้น ก็เพื่อใช้สถานะทางสังคมของตนเอง เป็นเครื่องยืนยันความน่าเชื่อถือของยาที่ศาสตราจารย์เรย์มอนด์คิดค้นขึ้นมา

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หลินหนานยังคงไม่หลงกลเช่นเคย อีกทั้งยังพูดจายะโสโอหัง และกลําดูถูกศาสตราจา รย์เรย์มอนด์อีกด้วย

“พ่อหนุ่ม.. ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอกล้าดียังไง ถึงได้พูดจาแบนนั้นออกมาได้ แต่ถ้าเธอไม่สามารถทําอย่างที่พูดได้แล้วล่ะก็ ฉันสาบานว่าจะจับเธอโยนออกไปนอกโรงแรมแน่ๆ!”

ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ตอบหลินหนานกลับด้วยน้ําเสียงเย็นชา บ่งบอกว่าเขาเริ่มที่จะมีโมโหมากแล้ว

หลินหนานยิ้มให้อย่างไม่นึกเกรงกลัว และย้อนถามกลับไปว่า “นี่คุณข่มขู่ผมงั้นเหรอ?”

“ข่มขู่งั้นเหรอ?! โปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์เป็นถึงอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มีลูกศิษย์ลูกหาตั้งมากมาย มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องไปข่มขู่คนกระจอกๆอย่างแกด้วย?” ถึงจินซ่งตอบกลับหลินหนานด้วยน้ําเสียงเหยียดหยัน

หลินหนานเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไปทันที “ตําแหน่งกับความสามารถไม่จําเป็นต้องน้ําสมเนื้อกันเสมอไป บางคนมีแต่ตําแหน่งนําหน้า แต่ทําอะไรไม่เป็นก็มี ฉันไม่รู้หรอกนะว่าศาสตราจารย์เรย์มอนด์จะมีความสามารถสมกับตําแหน่งนําหน้าหรือเปล่า? แต่ที่แน่ๆ น้ําวิเศษอะไรนี่เป็นเรื่องที่โอ้อวดเกินจริงทั้งนั้น!”

“อย่าดีแต่พูดดีกว่า! ถ้าวันนี้แกไม่สามารถทําได้อย่างที่ปากพูด คนอย่างแกก็เป็นได้เพียงแค่ไอ้คนโกหก พูดจาตลบตะแลงคนหนึ่งเท่านั้นล่ะ ฉันว่านายกลับไปเห่าหอนที่บ้านจะดีกว่า!” หวังชางหยางทั้งท้าทายและดูถูกหลินหนาน

หลินปรายตามมองหวังชางหยาง พร้อมกับพูดขึ้นยิ้มๆ “ฉันกําลังคุยกับโปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์อยู่ ใครใช้ให้นายพูดแทรกขึ้นมาแบบนี้ ไม่มีใครอบรมเรื่องมารยาทให้บ้างหรือยังไง?”

“นี่แก.. ไอ้…”

“เอาล่ะๆ หยุดพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว! พวกเรากําลังรอดูการแสดงความสามารถของคุณชายหลินอยู่..”

ระหว่างที่หวังชางหยางกําลังนึกหาคําด่าหลินหนานอยู่นั้น หลี่เฉวียนยู่ก็ได้พูดขัดขึ้นมาแทน

“คุณชายหลีพูดถูก! ฉันจะรอดูแกขายหน้า ดีกว่ามาเสียเวลาเถียงเรื่องไร้สาระกับคนอย่างแก!”

หวังชางหยางยิ้มกว้าง พร้อมกับจ้องมองหลินหนานด้วยแววตาเย้ยหยัน เขาไม่มีทางเชื่อว่า คนอย่างหลินหนานจะมีความสามารถ ทําน้ําวิเศษอย่างที่ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ทําได้

แต่ก็ไม่ใช่หวังชางหยางคนเดียวที่เชื่อแบบนั้น ภายในห้องนี้ มีเพียงแค่สองสามคนเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะมองหลินหนานในแง่ดี และเชื่อคําพูดของเขา นอกเหนือจากนั้น ล้วนคิดไม่ต่างจากหวังชางหยางทั้งสิ้น

“ถ้าพ่อหนุ่มนั่นสามารถทําน้ําวิเศษ ที่มีสรรพคุณเหมือนกับน้ําศักดิ์สิทธิ์ของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ได้ ผมคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่..”

“ประธานเฉิน.. อย่าไปเชื่อคําพูดของคนแบบนั้นดีกว่าครับ! ผมว่าเขาก็แค่โม้ไปอย่างนั้นเอง ไม่มีทางทําได้หรอก!”

หลี่เฉวียนยพูดขึ้นอย่างดูถูก และอีกหลายๆคนที่ได้ดื่มน้ําศักดิ์สิทธิ์ และสัมผัสผลลัพธ์อันอัศจรรย์ด้วยตัวเองเมื่อครู่ ต่างก็พากันต่อว่าและดูถูกดูแคลนหลินหนานเช่นกัน

ความจริงแล้ว เฉินจิ้งซานก็เพียงแค่พูดออกไป เพื่อให้ตนเองมีหนทางได้กระโดดออก หากหลินหนานสามารถทําได้จริงๆ

“ประธานเฉิน.. คุณเองก็เคยเห็นความสามารถของหลินหนานมาแล้วไม่ใช่เหรอ? อีกอย่าง คนอย่างหลินหนาน หากไม่มั่นใจ ก็คงจะไม่พูดออกมา! ผมคิดว่าศาสตราจารย์ชาวต่างชาตินั่นกําลังจะโชคร้ายแล้วล่ะ..”

ท่ามกลางกลุ่มคนในบริเวณนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงผู้เฒ่าคู่เท่านั้น ที่ยังคงมองหลินหนานไม่ต่างจากเทพเจ้า!

และนับตั้งแต่ที่ได้พบเห็นทักษะทางการแพทย์ที่ล้ําเลิศของหลินหนาน เขาก็ไม่เคยคิดระแวงสงสัยในตัวชายหนุ่มผู้นี้อีกเลย และในสายตาของผู้เฒ่าคู่นั้น หากเป็นเรื่องของทักษะทางด้านการแพทย์ เขาก็ยังไม่เคยพบเห็นใครที่เก่งไปกว่าหลินหนานเลย

ต่อให้เป็นศาสตราจารย์เรย์มอนด์ผู้นี้ก็ตาม แม้ว่าหลี่เฉวียนยู่จะยืนยันในความสามารถทางการแพทย์ของเขาด้วยตัวเอง แต่ในความเห็นของผู้เฒ่าคู่ หลินหนานก็ยังคงเหนือกว่ามากนัก!

“นี่ถ้าหลินหนานสามารถทําได้อย่างที่พูดจริงๆ ก็แสดงว่าสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริงสินะ! แต่ก็ยังน่าเหลือเชื่ออยู่ดี ชายหนุ่มอายุเพียงแค่นี้ จะเก่งทั้งด้านกําลังภายใน ทั้งด้านการแพทย์ จนเข้าขั้นระดับปรมา จารย์ทั้งสองอย่างพร้อมกันเชียวเหรอ?”

หลิวหยิงหยิงที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ได้แต่เฝ้าครุ่นคิด และพูดกับตนเองตามลําพัง เธอกัดฟันแน่น และมือทั้ง สองข้างก็บีบกระโปรงที่สวมใส่จนยับยู่ยี่ พร้อมกับจ้องมองหลินหนานที่อยู่บนเวที ด้วยสีหน้าแววตาที่มีทั้งกังวล และคาดหวังปนเปกัน..

และเวลานี้ หลิวหยิงหยิงก็แทบลืมไปว่า ตนเองไม่สามารถรักษาท่าที่ที่สงบนิ่ง เหมือนอย่างที่เคยเป็นในอดีตไว้ได้อีก..

“ดูจากสายตาของทุกคนแล้ว คงไม่มีใครเชื่อสินะว่าผมจะทําได้?” หลินหนานกวาดตามองไปทั่วทั้งห้อง พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ดูไม่เดือดร้อนอะไรนัก

“ก็แน่อยู่แล้วพ่อหนุ่ม! เธอจะทําได้ยังไงกัน เว้นแต่ว่าเธอจะเป็นเซียนแปลงร่างมา! ฮ่าๆๆ”

“จะให้พวกเราเชื่อได้ยังไงกันเล่า? อย่าว่าแต่ดื่มน้ําศักดิ์สิทธิ์นั่นเลย แม้แต่มือยังไม่สัมผัสแก้วน้ํา แล้วเธอจะสามารถทําน้ําศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง? มันเป็นไปไม่ได้”

“หลินหนาน.. ถ้าเธอสามารถทําได้จริงๆ ฉันจะยอมนับถือเธอเป็นอาจารย์!”

ภายในห้องสัมมนาเวลานี้ มีแต่เสียงหัวเราะเย้ยหยัน และคําพูดดูถูกดูแคลนหลินหนานให้ได้ยินไม่หยุด แต่ ถึงอย่างนั้น หลินหนานก็ยังคงมีท่าที่สงบนิ่งเช่นเคย

“พ่อหนุ่ม.. ถ้าเธอจะยอมโขกศรีษะขอโทษฉันตอนนี้ และยอมรับว่าตนเองทําผิดพลาดไป ฉันก็จะยอมยกโทษให้ แต่ถ้าไม่ยอม แล้วเธอทําไม่ได้อย่างที่พูด.. ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายใจดําล่ะ!”

หลังจากที่เสียงเยาะเย้ยถากถางหลินหนานสงบลง เสียงเย็นชาของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ก็ดังแทรกขึ้นมา และใครที่ได้ยินก็ถึงกับต้องขนหัวลุก ดวงตาดุดันแหลมคมราวกับเหยี่ยวนั้น จ้องมองหลินหนานอย่างเอาเรื่อง

แผนการทั้งหมดนั้น เขาและหลี่เฉวียนยู่ได้เตรียมการมาอย่างดี และเขาจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น แผนการทําเงินในประเทศนี้ของเขา คงต้องถูกทําลายยับเยินลงไปด้วยเช่นกัน!

และเขาในฐานะที่เป็นหมากสําคัญของการเดิมเกมในประเทศนี้ ก็ต้องล้มไปด้วยเช่นกัน!

เรื่องนี้ผู้บริหารระดับสูงสุดกําลังจับตามอง และจุดจบของหมากที่ทํางานผิดพลาด ก็มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น!

คือ.. ถูกทําลายทิ้ง!

และนี่คือสิ่งที่เรย์มอนด์ที่จะเห็น และไม่ต้องการให้เกิดขึ้น!

“แล้วถ้าผมทําได้ล่ะ! คุณก็ควรจะต้องคุกเข่า และโขกศรีษะขอโทษผมด้วยสิ?”

ภายใต้สายตาดุดันและแหลมคมของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ หลินหนานตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ราวกับไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่น้อย

ทันทีที่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ถึงกับตกตะลึงไปเล็กน้อย แต่แล้วก็กลับหัวเราะเสียงดัง และตอบกลับไปว่า

“ถ้าเธอทําได้จริงๆ อย่าว่าแต่คุกเข่าโขกศรีษะขอโทษเลย เธอต้องการให้ฉันทําอะไร ฉันก็ยินดีที่จะทํา!”

“ได้! ถ้าอย่างนั้นผมจะขอให้คุณตบหน้าตัวเองสักร้อยครั้ง!”

หลังจากพูดจบ หลินหนานก็ได้แต่ยืนกอดอก จ้องมองศาสตราจารย์เรย์มอนด์ด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ในความรู้สึกของเขา คงไม่มีอะไรน่าอับอายมากไปกว่า การตบหน้าตัวเองท่ามกลางสาธารณชนแล้วล่ะ!

ศาสตราจารย์เรย์มอนด์พยักหน้า “ตกลง ฉันรับคําท้าของเธอ! แต่ถ้าเธอทําไม่ได้ นอกจากจะต้องคุกเข่าโขกศรีษะขอโทษฉันแล้ว เธอก็ต้องตบหน้าตัวเองต่อหน้าทุกคนในห้องด้วยเหมือนกัน!”

“ด้วยความยินดี! แต่ว่า.. คนที่แพ้ต้องไม่ใช่ผมแน่ๆ!”

หลินหนานตอบกลับด้วยน้ําเสียงมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยิ้มให้ศาสตราจารย์เลย์มอนด์ ก่อนจะก้าวเดินไปที่หน้าเวที