บทที่ 213 ตราหยกประหลาด
บทที่ 213 ตราหยกประหลาด
งูยักษ์ทรมานเป็นอย่างมาก หลังจากฉู่เหินมองดูอย่างโง่งม ในใจก็กู่ร้องออกมาว่าท่าไม่ดีแล้ว ก่อนจะวิ่งจากไปโดยไม่คิดจะพูดอะไรสักคำ
ในขณะที่หนีไปนั้นเขาก็ไม่ลืมที่จะแบกกระดองเต่าขึ้นหลังไปด้วย พอห่างออกไปราวๆ 10 เมตรเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องมาจากทางด้านหลังของเขา แน่นอนฉู่เหินไม่คิดจะอยู่ดูผลลัพธ์แน่นอน เพราะหากเขาช้ากว่านี้คงหนีไม่ทันเป็นแน่แท้
ขณะที่ความคิดของเขากำลังประมวลผลอย่างหนักอยู่นั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งราวกับลมกรรโชกอย่างแรง เขาถูกสายลมพัดลอยขึ้นไปกลางอากาศ เขารู้สึกว่าทั่วร่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะหมดสติไป
ผ่านไปนานแค่ไหนฉู่เหินไม่อาจรับรู้ได้เลย แรงระเบิดนอกจากจะทำให้พื้นที่โดนรอบหายไปกว่าร้อยเมตรแล้ว ภายในสระน้ำยังเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกลงไปกว่าร้อยเมตรด้วย ร่องรอยของงูยักษ์คงจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในค่ายกลของมันเอง แต่ร่างของมันแพร่กระจายพลังวิญญาณออกไปรอบด้าน
พลังวิญญาณที่ล่องลอยออกจากร่างของงูยักษ์แผดเผาร่างของมัน เนื่องจากพวกมันอยู่ภายในร่างของงูยักษ์มานานหลายนับร้อยปี ตอนที่พวกมันออกมา พวกมันจึงต้องเอาคืนบ้างเป็นธรรมดา
เสียงระเบิดทำให้พื้นที่ข้างเคียงเกิดความโกลาหล เมื่อมองจากดาวเทียมลงมาผลลัพธ์คือ หลุมขนาดใหญ่ ผู้คนที่เห็นหลุมนี้เงียบงัน แรงระเบิดแบบไหนกันนะที่จะมีพลังทำลายมากขนาดนี้? เพราะว่านักธรณีศาสตร์จำได้ว่าภูเขาลูกนี้มีความสูงกว่า 100 เมตร ตอนนี้เตี้ยลงไปถนัดตา
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ 100 เมตรของภูเขาเท่านั้นที่หายไป แม้แต่บ่อน้ำธรรมชาติกว่าพันเมตรเองก็เช่นกัน ภาพนี้ทำให้ผู้คนที่เห็นตกใจอย่างอดไม่ได้แต่ภาพถ่ายจากดาวเทียมทำให้เห็นทุกอย่างไม่ชัดเจนเท่าไหร่ มันจึงกลายเป็นเรื่องลี้ลับที่หาคำตอบไม่ได้
ภายในท้องนาที่เดิมทีมีคนจำนวนมากกำลังทำนาอยู่ อยู่ๆพวกเขาก็ต่างหมดแรงแล้วนอนลงกับพื้นร้องครวญครางก่อนจะหลับไป ทันทีที่พวกเขาหลับลงพลังวิญญาณก็กลับเข้ามาในร่างและหลอมรวมเข้ากับร่างกายของพวกเขา
ร่างกายที่ใกล้โรยรากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ร่างของหญิงสาวที่ฉู่เหินเจอจากเดิมที่ทรุดโทรม ผิวหนังก็พลันเปล่งปลั่งร่องรอยความชราเลือนหายไป ผมที่ซีดขาวค่อยๆกลับมาเป็นสีดำ จนในที่สุดตอนนี้เธอดูอายุ 30 ตามที่เธอว่าเอาไว้ในตอนแรกแล้ว
แม้เธอจะยังหลับอยู่แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่มีใบหน้าเย็นชาตอนนี้ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มจางๆออกมา รอยยิ้มนั้นทั้งงดงามและเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม …!
เมื่อเวลาผ่านไป ฉู่เหินก็ตื่นขึ้นมา เขารู้สึกเจ็บตามร่างกายสุดๆ เขาอยากจะลุกขึ้นมาแต่กระดูกน่าจะหักหลายท่อน เขากลั้นความเจ็บปวดแล้วโคจรพลังดวงดาวเพื่อทำการเชื่อมกระดูกที่หักในทันที
หลังจากจัดการแขนแล้วเขาก็ลองขยับมือเบาๆ การที่เขายังอยู่ตรงนี้นานๆไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงต้องรีบไปก่อนที่จะมีใครมาเห็น
ฉู่เฟิงก็ออกมานั่งยองๆเพื่อแบกฉู่เหินขึ้นหลัง จากนั้นก็มีเสียงตะโกนด้วยความโกรธก็ดังก้องเข้ามาในหูของทุกคน
“ไอ้เจ้าเด็กบ้า แกเอาชีวิตฉันไปแล้วยังคิดจะหนีอีกเหรอ จงทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่ซะเถอะ!” ฉู่เหินได้ยินก็สะดุ้งสุดตัว เพราะมันเป็นเสียงของงูยักษ์ตัวนั้น แต่เมื่อหันมองซ้ายมองขวาเขาก็ไม่ได้เห็นตัวมันเลย ทันใดนั้นเงาสลัวๆก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ฉู่เหินมองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง งูเหลือมยักษ์ไม่สามารถคงกายเนื้อเอาไว้ได้อีกแล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือวิญญาณของมันเท่านั้น
ในเวลานี้นั้นงูยักษ์ที่เหลือแค่วิญญาณโกรธอย่างมาก เพราะแผนการของมันพังไม่เป็นท่า ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการมากที่สุดก็คือจัดการกับฉู่เหิน!!
ฉู่เหินตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แม้งูยักษ์จะเหลือแค่วิญญาณแต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาแล้ว ทั้งพี่เสือ แรดเขาเดียว ฉู่เฟิง ผู้อาวุโสปลาหมึก และแมวนพเวทย์ ต่างก็ออกมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้เห็นวิญญาณนี้ ถึงพวกมันจะไม่สามารถสู้กับวิญญาณได้ แต่ความปลอดภัยของฉู่เหินต้องมาก่อน
เมื่อร่างวิญญาณพุ่งเข้ามา กระต่ายต้องสาปก็ใช้คำสาปกว่าร้อยอย่างของมัน ทว่าการทำเช่นนี้ยิ่งทำให้ตัวเองอ่อนแอลงไปเรื่อยๆจนแทบจะหมดสภาพ
แม้มันจะไม่ตายแต่ก็อ่อนล้าเต็มทน ทว่าสายตาของมันกลับไม่ยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย มันรู้ตัวเองดีว่าได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีไปแล้ว แมวนพเวทย์เองก็เตรียมใช้คาถาภาพลวงตา แต่วิญญาณของงูแข็งแกร่งเกินไปวิชาพวกนี้ไม่มีผลกับมัน ยิ่งใช้วิชามากเท่าไหร่ร่างกายของเจ้าแมวก็ยิ่งอ่อนแอลงๆ
ในตอนนี้วิญญาณงูยักษ์ไม่ได้สนใจการโจมตีของพวกมันเลยแม้แต่น้อย ฉับพลันมันก็กลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปในตัวฉู่เหิน ถ้าปล่อยเอาไว้ละก็อีกไม่นานฉู่เหินจะต้องตายเป็นแน่!!
งูยักษ์ในตอนนี้บ้าคลั่งเต็มที่เพราะมันถึงกับเข้าไปอยู่ภายในตัวของฉู่เหิน แม้ทำแบบนี้ตัวมันจะต้องเสี่ยงไปด้วย แต่มันก็ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกลืนกินวิญญาณของฉู่เหินให้สิ้นซาก
ภายในจิตใจของงูยักษ์ที่เหลือแค่วิญญาณตอนแรกนั้นมันสั่นเทา แต่พอมองไปรอบๆ ก็รู้ว่าไม่มีใครทำอันตรายกับมันได้ คนที่พอจะสู้กับมันได้อย่างฉู่เหินในตอนนี้ก็หมดสภาพไปแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้นมันก็ไม่ลังเลอีกต่อไป มันพุ่งเข้าใส่ฉู่เหินในทันที มันต้องการที่จะทำลายและดูดกลืนวิญญาณของฉู่เหินเสียให้สิ้นซาก
แน่นอนว่าการกลืนกินร่างกายปกตินั้นมันทำได้ แต่กลืนกินวิญญาณแบบนี้มันเป็นไปได้ยาก แต่ตอนนี้มันไม่มีร่างกายมันเลยได้แต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น!
ทั้งงูยักษ์และฉู่เหินไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้นั้นสร้อยหยกที่คอของฉู่เหินกำลังส่องแสงอย่างแรงกล้าออกมา มันดูดวิญญาณของงูยักษ์เข้าไปโดยที่
ฉู่เหินนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย งูยักษ์จู่ๆก็สลายหายไปโดยที่มันไม่อาจขัดขืนได้เลย!!
ฉู่เหินเหลือบมองไปทางสร้อยหยกที่คอ หยกที่ชายชรามอบให้เขามาในวันนั้นตอนนี้มันกำลังปกป้องเขาจากวิญญาณร้าย ตอนแรกเขาไม่อาจจะรับมันไว้ เขาไม่คาดคิดว่ามันจะมีประโยชน์ก็วันนี้
จากนั้นฉู่เหินเก็บฉู่เฟิงแล้วเดินทางต่อ อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้รุนแรงมาก ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาละก็ อาการรุนแรงนี้สามารถเป็นอัมพาตได้เลย ตอนนี้ที่เขายังเดินได้ก็นับน่ามหัศจรรย์