ตอนที่ 188 เชือดให้หมด!

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังเพียะๆ ขึ้นภายในห้องสัมมนาที่เงียบกริบ ท่าให้เสียงนี้ดังเข้าไปในโสตประสาทของทุกคนอย่างชัดเจน

หลี่เฉวียนยู่เองก็ทําได้เพียงแค่มองศาสตราจารย์เรย์มอนด์ ยืนตบหน้าตัวเองต่อหน้าทุกคนในห้องด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก

เวลานี้ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น กัดฟันกรอดจนแทบหัก!

ทั้งเขาและศาสตราจารย์เรย์มอนด์ต่างก็ก้าวลงในเรือลําเดียวกันแล้วทุกครั้งที่ฝ่ามือของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ฟาดลงบนใบหน้าของตนเองหลี่เฉวียนยู่ก็รู้สึกราวกับถูกหลินหนานฉีกหน้าไปด้วยไฟแค้นในใจก็ยิ่งลุกโชนและทวีความรุนแรงมากขึ้น

เวลานี้ หลี่เฉวียนยู่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งกระอักกระอ่วนใจ และอับอายขายหน้าอย่างที่สุด!

ในขณะที่คนอื่นๆ ได้แต่ยืนนิ่งเงียบทําอะไรไม่ถูกนั้น มีเพียงหลินหนานที่กําลังยกโทรศัพท์มือถือในมือถ่ายคลิปวีดีโอที่น่าอับอายนี้เก็บไว้

เวลาผ่านไปมากกว่าสิบนาที ในที่สุดศาสตราจารย์เรย์มอนด์ก็ได้ตบหน้าตัวเองครบหนึ่งร้อยครั้งตามที่ได้ลั่นวาจาไว้!

ใบหน้าของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ในตอนนี้ มีสภาพแดงและบวมเป่งไม่ต่างจากหัวหมูไหว้เจ้า..

หลี่เฉวียนยู่รีบสั่งให้พนักงานโรงแรม พาศาสตราจารย์เรย์มอนด์ลงจากเวทีไป ส่วนหลินหนานยังคงยืนอยู่ที่เดิมหลี่เฉวียนยู่ก้าวเข้าไปยืนแทนที่ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ พร้อมกับประกาศขึ้นว่า

“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ศาสตราจารย์เรย์มอนด์ได้ทําตามที่ลั่นวาจาไว้แล้ว เขาพิสูจน์ให้ทุกท่านในที่นี้ได้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่รักษาคําพูด และยึดมั่นในสัจจะวาจามากเพียงใด!เพราะฉะนั้นการที่คุณชายหลินกล่าวหาว่าศาสตราจารย์เรย์มอนด์เป็นคนเชื่อถือไม่ได้นั้นจึงไม่เป็นความจริง!”

หลี่เฉวียนยู่ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เขารีบพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในทันที!

“ในความเห็นของผม ท่านผู้มีเกียรติไม่ควรให้ความสําคัญเฉพาะข้อมูล และงานวิจัยเกี่ยวกับตัวยานี้เท่านั้นแต่ควรต้องพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของอานุภาพยาด้วยตัวเอง!”

“ผม.. หลี่เฉวียนยู่จะขอใช้ชื่อเสียงและฐานะทางสังคมของตนเองเป็นเครื่องยืนยัน ไม่ว่าท่านผู้มีเกียรติจะเรียกยานี้ว่ายารักษามะเร็งหรือยามหัศจรรย์แต่เชื่อเถิดว่าสรรพคุณและอานุภาพของยานี้จะไม่ทําให้ทุกท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอนท่านผู้มีเกียรติสามารถตัดสินใจซื้อหรือร่วมลงทุนกับเราได้อย่างวางใจ!”

แม้จะอับอายและเจ็บปวดใจมากเพียงใด แต่หลี่เฉวียนยู่ก็ยังต้องกัดฟันดําเนินการทุกอย่งตามแผนที่ได้เตรียมมา

“ในเมื่อคุณชายหลี่ยืนยันด้วยตัวเองแบบนี้ พวกเราก็คงต้องร่วมลงทุนด้วยอย่างแน่นอน!”

“คุณชายหลี่ช่วยสาธยายสรรพคุณของยามหัศจรรย์นี้อย่างละเอียดอีกทีจะได้มั้ย? ผมอยากจะรู้ว่านอกจากรักษามะเร็งได้แล้วยังมีสรรพคุณที่วิเศษล้ำเลิศอย่างไรอีก?”

“นั่นน่ะสิ! ผมเองก็สนใจที่จะร่วมลงทุนด้วย คงจะมีแต่คนโง่เท่านั้น ที่ปฏิเสธรายได้มหาศาลที่รออยู่!”

หลังจากที่พายุมืดครึมผ่านพ้นไป เหล่านักธุรกิจน้อยใหญ่ที่อยู่ในห้อง ต่างก็คืนกลับสู่ความเป็นปกติสัญชาติญาณของผู้ค้ากลับมาเต็มเปี่ยมหลายคนต่างก็พากันร้องบอกหลีเฉวียนยู่ด้วยน้ําเสียงกระตือรือร้นเพราะพวกเขาต่างก็ได้เห็นความอัศจรรย์ของน้ําศักดิ์สิทธิ์นั่นแล้ว!

แม้ว่าหลินหนานจะสามารถเลียนแบบน้ําศักดิ์สิทธิ์ของศาสตราจารย์เรย์มอนด์ได้สําเร็จแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ายามหัศจรรย์ที่ศาสตราจารย์เรย์มอนด์คิดค้น และพัฒนาขึ้นมาเป็นของไม่ดีตรงกันข้ามยิ่งให้ความรู้สึกลี้ลับที่ไม่อาจหาคําตอบได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทําให้คนร่ํารวยเชื่อว่าเป็นของดีมากยิ่งขึ้น

“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กรุณาอยู่ในความสงบก่อน! ที่ผมมาร่วมงานสัมมนาในวันนี้ ก็เพื่อมาหานักธุรกิจที่สนใจจะร่วมลงทุนด้วยอยู่แล้ว! และอีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ พวกเราก็มีแผนที่จะเชิญสื่อมวลชนต่างๆเข้าฟังด้วย”

“ถึงเวลานั้น หากท่านใดสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นพยานในการถือกําเนิดของยามหัศจรรย์นี้ ผมก็ยินดีอย่างยิ่ง!”

หลี่เฉวียนยู่ประกาศต่อหน้าทุกคนด้วยความรู้สึกโล่งอก..

แม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรค และมีจุดพลิกผันกลับไปกลับมาให้รู้สึกใจหาย แต่ท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงเป็นไปตามที่ต้องการ!

ส่วนถังจินซ่งกับหวังชางหยางนั้น หลังจากที่หลี่เฉวียนยู่ประกาศจบ เขาก็ได้ดําเนินการตามแผนที่วางไว้โดยการนําของที่ประมูลมาได้นั้น ไปมอบให้เป็นของขวัญกับนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและคนใหญ่คนโตที่อยู่ภายในห้อง

“หลี่เฉวียนยู่นับเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริงๆ! สามารถอ่านจิตใจของคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่งแต่น่าเสียดาย.. ที่วันนี้เขาทําเรื่องผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย!”

ในระหว่างที่นั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนเวทีมาตั้งแต่ต้นจนจบ หลิวหยิงหยิงก็ได้แต่ยิ้มออกมาก่อนจะหันไปพูดกับหลินหนาน ที่เดินลงมาจากเวที และกลับมานั่งที่เดิมแล้ว

หลินหนานฟังแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และถามกลับไปว่า “คุณหมายความว่ายังไง ที่บอกว่าเขาทําผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย?”

หลิวหยิงหยิงหันไปยิ้มให้กับหลินหนาน พร้อมตอบกลับไปว่า “คุณชายหลิน.. นี่คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่? ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของหลี่เฉวียนยู่ก็คือ การทําให้คนอย่างคุณชายหลินไม่พอใจน่ะสิและนับจากนี้ไป ชีวิตของเขาจะไม่ราบรื่นอีกต่อไป..”

“ดูท่าคําพูดที่ว่า หญิงสาวหน้าอกใหญ่มักจะไร้สมอง คงจะใช้กับเถ้าแก่หลิวไม่ได้สินะ! เพราะนอกจากคุณจะเฉลียวฉลาดเป็นกรดแล้ว ยังมีสายตาที่แหลมคมอีกด้วย!”

ระหว่างที่กระซิบตอบเสียงเบานั้น หลินหนานก็จงใจจ้องมองหน้าอกใหญ่โตของหลิวหยิงหยิงไปด้วย..

“เอาล่ะ.. อย่าเอ็ดไป! คุณรอผมอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะไปคุยกับอาวุโสคู่ซะหน่อย!” หลินหนานกระซิบบอกพร้อมกับปรายตาไปทางที่ท่านหมอกู้ยืนอยู่

หลิวหยิงหยิงตอบกลับไปทันที “ฉันจะไปกับคุณด้วย!”

แต่หลินหนานกลับส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับตอบไปว่า “อย่าดีกว่า เพราะมันจะดูเอิกเกริกไป!คุณรอผมอยู่ที่นี่ล่ะ อีกอย่างเรื่องสนุกๆตื่นเต้นก็จบไปแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก!”

จากนั้น หลินหนานก็ลุกจากเก้าอี้ และเตรียมจะเดินออกจากห้องสัมมนาไป แต่ในระหว่างนั้นหลี่เฉวียนเองก็ได้เดินลงมาจากเวทีแล้วเช่นกัน และกําลังเดินตรงมาหาหลินหนาน

แต่เมื่อเห็นหลินหนานกําลังจะเดินออกจากห้องสัมมนาไป เขาก็รีบวิ่งไปยืนขวางหน้าไว้ พร้อมกับถามขึ้นว่า

“อะไรกันหลินหนาน นายทําให้โปรเฟสเซอร์เรย์มอนด์ต้องอับอายขนาดนั้นแล้ว กลับคิดที่จะชิ่งหนีไปง่ายๆงั้นเหรอ?”

“หรือนายมีปัญญาบังคับให้ฉันอยู่ต่อ?” หลินหนานเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับหลี่เฉวียนยู่ พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

ในเมื่อทั้งเขาและหลี่เฉวียนยู่ต่างก็ประกาศตัวเป็นศัตรูกันอย่างชัดเจนแล้ว หลินหนานก็ไม่จําเป็นต้องรักษามารยาทอะไรกับชายหนุ่มคนนี้อีก

เวลานี้ ทั้งหลี่เฉวียนยู่และหลินหนาน ต่างก็อยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคน หลี่เฉวียนยู่จึงแสร้งทําเป็นตอบกลับอย่างมีมารยาท

“คุณชายหลินอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด! ผมแค่อยากจะรู้ว่า คุณเลียนแบบน้ําศักดิ์สิทธิ์ของมิสเตอร์เรย์มอนด์ได้ยังไงก็เท่านั้นเอง?”

แม้ว่าสีหน้า ท่าทาง และน้ําเสียงของหลี่เฉวียนยู่จะดูอ่อนโยน แต่แววตาของเขานั้น กลับเย็นยะเยือกจนผู้พบเห็นต้องสะท้านกลัว

ถึงแม้ว่าแผนการของเขาจะสําเร็จลุล่วงตามที่ตั้งใจ แต่เขาก็คงจะรู้สึกไม่สบายใจแน่ หากปล่อยให้หลินหนานกลับไปโดยไม่รู้ว่าหลินหนานใช้วิธีอะไร สร้างน้ําที่มีคุณสมบัติคล้ายกับน้ําศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นมาได้?

ยามหัศจรรย์นี้.. คือสื่อชักนําที่องค์กรนักฆ่าผลิตขึ้น จุดประสงค์เพื่อแฝงตัวเข้ามาในประเทศจีน

และด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าอย่างไรจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้

“ฉันไม่บอก!”

หลินหนานตอบกลับไปอย่างไม่ไว้หน้า..

“คุณชายหลิน.. อย่างน้อยก็ควรเห็นแก่หน้าผมบ้าง?” แม่ใบหน้าของหลี่เฉวียนยู่จะฉาบด้วยรอยยิ้มแต่แววตานั้นกลับเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม

ถึงจินซ่งและหวังชางหยางที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กําลังจ้องมองหลินหนานอยู่เช่นกัน เมื่อเห็นหลินหนานไร้มารยาทกับหลี่เฉวียนยู่เช่นนี้ จึงได้แต่ร้องคํารามออกมาด้วยความไม่พอใจ

“หลินหนาน อย่าคิดว่าพวกเราจะทําอะไรแกไม่ได้นะ! ถึงวันนั้นก็อย่ามาคร่ําครวญว่าพวกฉันโหดร้ายก็แล้วกัน!”

“นั่นน่ะสิ! คนอย่างคุณชายหลี่ไม่จําเป็นต้องสนใจคนอย่างแกด้วยซ้ํา นี่แกคงคิดว่าตัวเองสําคัญแล้วก็ใหญ่โตมากสินะ? ฉันจะบอกอะไรให้.. ถ้าพวกเราคิดจะจัดการกับคนอย่างแกจริงๆแค่ไม่กี่นาทีก็เรียบร้อยแล้ว!”

“งั้นเหรอ?! อยากจะกําจัดฉันว่างั้น?!”

หลินหนานตอบโต้กลับด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน และไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “ถ้าพวกนายคิดว่าตัวเองเก่งกาจแล้วก็มีอํานาจอิทธิพลขนาดนั้น ก็เชิญเลย! แต่อย่าว่าฉันดูถูกพวกนายเลยนะคนอย่างพวกนายไม่มีปัญญาแน่!”

“อ่อ.. แต่ฉันก็ขอเตือนพวกนายทั้งสามคนไว้ก่อน อย่ายุ่งกับฉันให้มากนัก เพราะไม่อย่างนั้น พวกนายทั้งสามคนอยู่ไม่สงบแน่!”

หลังจากได้ยินคําข่มขู่ของหลินหนาาน ทั้งหวังชางหยางและถังจินซ่งก็ถึงกับตกใจกลัวจนต้องกระโดดถอยหลังหนีตัวสั่น

แต่หลี่เฉวียนกลับตอบหลินหนานด้วยน้ําเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าเดิม“หลินหนานต่อให้นายจะมีวรยุทธก็อย่าคิดที่จะใช้ข้อได้เปรียบนี้มาข่มขู่พวกเราขึ้นนายกล้าใช้วรยุทธของตัวเองทําร้ายพวกเราที่นี่นายก็อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้เลย..”

หลังจากที่ได้ยินคําพูดของของหลี่เฉวียนยู่ ใบหน้าเฉยเมยของหลินหนาน พลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที

“ไม่ต้องห่วง! ฉันจะไม่เป็นคนเริ่มแน่ แต่ถ้าพวกนายกล้าทําอะไรลับหลังฉัน หรือแอบเล่นงานฉันล่ะก็.. รับรองได้ว่าฉันไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่!”

เมื่อได้ยินคําขู่พร้อมกับเห็นสายตาของหลินหนานในครั้งนี้ แม้แต่หลี่เฉวียนยู่เองยังถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกเช่นกันแต่ก็ยังฝืนยิ้มสดใส และตอบหลินหนานกลับไปว่า

“คุณชายหลินดูเป็นคนมีอารมณ์ขันไม่น้อยเลย! พวกเราต่างก็อยู่ในยุคศิวิไลซ์ที่ไม่นิยมใช้กําลังกันแล้วพวกเราจะทําอะไรแบบนั้นได้ยังไง?แต่ถ้าคุณชายหลินยอมบอกผมว่าสามารถทําน้ําศักดิ์สิทธิ์เลียนแบบได้ยังไงผมยินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างสูงทีเดียว!”

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หลินหนานถึงกับยิ้มออกมาทันที “นี่นายพูดจริงใช่มั้ย?! ถ้ามีผลตอบแทนแบบนี้ก็ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย!”

“เชอะ! คิดว่าเป็นคุณชายฐานะร่ํารวยที่ไม่สนใจเรื่องเงินๆทองๆ ที่แท้ก็เป็นพวกคนยากคนจนขัดสนเงินนี่เอง!” ถึงจินซึ่งอดที่จะกระแนะกระแหนหลินหนานไม่ได้

หลินหนานหันไปตอบถึงจินซ่งด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “นี่นายรู้ได้ยังไง? ฉันกําลังร้อนเงินมากจริงๆแล้วก็กําลังอยากได้เงินจํานวนมากด้วยสิ!”

หลังจากที่ได้ยินคําตอบของหลินหนาน หลี่เฉวียนยู่ถึงแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก..

เฮ้อ.. คิดว่าจะคุยกับมันยากเย็น ที่แท้เอาเงินเข้าล่อก็ยอมปริปากบอกแล้ว!

“ถ้าคุณชายหลินยอมตกลง พวกเราก็ไปนั่งเจรจาเรื่องค่าตอบแทนได้เลย..” หลี่เฉวียนยู่บอกกับหลินหนานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

แต่คนอย่างหลินหนานไม่ชอบพิธีรีตรอง เขาจึงพูดโพล่งออกไปทันที “จะต้องเจรจาให้มันยุ่งยากทําไมกัน? ในเมื่อนายยินดีที่จะให้ค่าตอบแทนให้ ฉันก็เรียกจํานวนเงินไปเลยก็แล้วกัน!”

ในเมื่อลูกแกะอ้วนๆเป็นฝ่ายเสนอตัววิ่งขึ้นเขียงของเขาเอง จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่หลินหนานจะต้องไว้ชีวิตพวกมัน?

และเขาก็จะเชื่อดพวกมันให้หมด!