บทที่ 25: พื้นที่ล่าสัตว์

“ โอ้ เป็นนายน้อยคนที่ห้าของตระกูลหวังนี่เอง” โจวไป่หยุนยิ้มขณะที่เธอพูด

อารมณ์ของเธอเมื่อสักครู่นี้หายไปในทันที

ก่อนมาที่นี่ เธอได้ทำการบ้านของตระกูลใหญ่และเล็กทั้งหมดในเมืองตงไห่ เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ซุนเกาหยานแนะนำคนเหล่านี้ให้เธอรู้จักเสร็จ ตัวตนของพวกเขาก็แวบเข้ามาในหัวของเธอในทันที

หลังจากการพูดคุยกันอย่างเรียบง่าย เธอก็ขอตัวและไปหาคนอื่น

เมื่อเธออยู่ห่างออกไป ซูเจี๋ยก็ลดเสียงของเขาลงและกระซิบว่า “ ตระกูลของเราอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานของโจวไป่หยุน”

แม้ว่าโจวไป่หยุนจะไม่ได้แสดงอารมณ์ของเธอออกมา แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างในทัศนคติของเธอ เธอไม่ได้พูดคุยกับพวกเขาเหมือนกับที่พูดคุยกับคนอื่นๆ”

ซุนเกาหยานรู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย เขาเป็นคนที่เชิญซูเจี๋ยและเพื่อนๆของเขามา ดังนั้นการกระทำของโจวไป่หยุนในครั้งนี้จึงทำให้เขารู้สึกอับอาย

หวังเต็งตบไหล่ของเขา “ อย่าสนใจเธอเลย เรามาที่นี่ในวันนี้เพื่อความสนุกสนานและเพลิดเพลินกับอาหารดีๆ การหาเพื่อนนั้นเป็นเรื่องรองเท่านั้น”

“ เกาหยาน อย่าคิดมาก นายหันมารู้สึกดีที่ได้กินและเล่นฟรีตลอดทั้งวัน” ซูเจี๋ยหัวเราะ

อีกสามคนรู้สึกดีขึ้นทันทีหลังจากการปลอบโยน

“ เฮ้ หลี่หรงเฉิงรู้จักโจวไป่หยุนได้อย่างไรกัน? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ตระกูลหลี่แข็งแกร่งพอที่จะไปผกมิตรกับตระกูลโจว?” ไป่เว่ยถามขึ้นมาในทันที

“ ฉันได้ยินมาว่าโจวไป่หยุนนั้นกำลังมองหาศิษย์นักสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิษย์นักสู้ขั้นสูงที่มีโอกาสจะกลายเป็นนักสู้” ซุนเกาหยางกล่าว

“ นั่นสมเหตุสมผล เมื่อหลี่หรงเฉิงกลายเป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูง ตระกูลหลี่ก็ได้ประกาศให้ทุกคนทราบ ดังนั้น บางทีพวกเขาก็อาจจะต้องการให้ทุกคนได้รู้ว่าหลี่หรงแงนั้นมีโอกาสท่ะกลายเป็นนักสู้” หยูห่าวเข้าร่วมการสนทนา

“ หืม การเป็นนักสู้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ศิษย์นักสู้ขั้นสูงจะสามารถหาทั่วไป แต่มันก็มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถกลายเป็นนักสู้ได้ โดยภายในบรรดาศิษย์นักสู้ขั้นสูงหนึ่งพันคน มันก็อาจจะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ได้กลายเป็นนักสู้ ซึ่งตระกูลหลี่ก็อาจจะไม่สามารถช่วยให้หลี่หรงเฉิงกลายเป็นนักสู้ที่แท้จริงได้แม้ว่าพวกเขาจะทุ่มทรัพยากรทั้งหมดที่มีไปที่มันก็ตาม” ซูเจี๋ยกล่าวด้วยความดูถูก เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่น่าเชื่อ

“ สิ่งนี้เองสินะที่ทำให้โจวไป่หยุนเลือกที่จะดึงหลี่หรงเฉิงเข้าไปอยู่ด้วย” ไป่เว่ยเยาะเย้ย

“ หว่านแหให้ไกลขึ้นแล้วคุณจะได้ปลามากขึ้น! และหลี่หรงเฉิงก็น่าจะเป็นปลาเพียงตัวเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าโจวไป่หยุนรู้ความสามารถของพี่หวังเต็งแล้วล่ะก็… ฮ่าฮ่า!” ซูเจี๋ยมีรอยยิ้มชั่วร้าย

“ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ไม่ว่าเธอจะปฏิบัติต่อฉันดีแค่ไหน ฉันก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเธอ” หวังเต็งส่ายหัวและตอบ

ความคิดผุดเข้ามาในหัวของซุนเกาหยานในขณะที่เขาฟังการสนทนาของพวกเขาและนึกถึงการแสดงออกของหลี่หรงเฉิงเมื่อครู่…

หลังจากการคาดเดาบางอย่าง เขาก็นึกขึ้นได้ และประกายในแววตาก็ปรากฏขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ของเขาออกมา เขายังคงทัศนคติเดิมและค่อยๆพยายามตีสนิทกับหวังเต็งมากขึ้น

หยูห่าวและไป่เว่ยชอบบุคลิกของซุนเกาหยาน และแม้ว่าหวังเต็งจะรู้เจตนาของเขา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของซูเจี๋ย ดังนั้นมันจึงไม่เป็นอะไรที่จะคบหากับเขา

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ตอนกลางวัน และแล้วมันก็เป็นเวลาอาหารกลางวัน

จานอาหารอันวิจิตรถูกจัดเรียงวางลงบนโต๊ะ และกลิ่นหอมของอาหาก็ได้รลอยเข้าสู่จมูกของทุกคนและทำให้พวกเขาน้ำลายไหล

“ นี่คือ… อาหารสัตว์อสูรดารา!”

หยูห่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เขาเคยเห็นอาหารเหล่านี้มาก่อน

“ โจวไป่หยุนจะต้องใช้โชคในการรวบรวมอาหารในครั้งนี้อย่างแน่นอนเพราะอาหารสัตว์อสูรดาราเหล่านี้มันมีราคาที่แพงมาก” ซูเจี๋ยแสดงความคิดเห็น

ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งรอบโต๊ะ แขกบางคนก็ได้พยายามเข้าหาโจวไป่หยุน และภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที ส่วนของด้านหน้าโต๊ะก็เต็มแล้ว

โต๊ะอาหารนี้เป็นโต๊ะยาวและเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ในท้ายที่สุด หวังเต็งและเพื่อนๆของเขาๆก็ได้จับกลุ่มกันนั่งลงที่ส่วนปลายสุดของโต๊ะ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาดูเหมือนกับชนกลุ่มน้อย

ไม่นานทุกคนก็เริ่มทานอาหาร

หวังเต็งหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา เมื่อลิ้นของเขาสัมผัสกับเนื้อ เขาก็สังเกตได้ทันทีว่าพลังฟอร์สในนี้นั้นอ่อนแอมาก

“ พวกนี้น่าจะเป็นเนื้อของสัตว์ป่าบนโลกที่มีการกลายพันธุ์เล็กน้อย” เขาได้ข้อสรุปของเขาเองในทันที

มันสมเหตุสมผล คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจะจัดการกับพลังฟอร์สที่มีอยู่ในเนื้อของสัตว์อสูรดาราจริงๆได้อย่างไรกัน?

หวังเต็งมองดูแขกรอบๆชั่วครู่และเห็นว่ามันมีคนบางกลุ่มที่หน้าซีดเมื่อกินอาหารเหล่านี้เข้าไป พวกเขาดูเหมือนกับพวกอ่อนแอที่สามารถตายได้ทุกเมื่อ

สำหรับคนเหล่านี้แล้ว การรับประทานเนื้อสัตว์อสูรดาราในปริมาณเล็กน้อยก็อาจจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หากพวกเขากินมันมากเกินไป มันก็จะไม่ต่างอะไรจากยาพิษ และมันก็อาจจะทำให้พวกเขาสามารถเสียชีวิตได้

โจวไป่หยุนเข้าใจสิ่งนี้ดี ดังนั้นเธอจึงเตรียมส่วนผสมเหล่านี้มาเป็นอย่างดี

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องนี้ สัตว์ป่าที่ได้รับการกลายพันธุ์เล็กน้อยนั้นเทียบเท่ากับเนื้อหายากที่คนรวยกินในชีวิตที่แล้วของหวังเต็ง ซึ่งปกติแล้วมันก็มีโอกาสได้ชิมกันน้อยมาก

นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ก็ยังถูกปรุงโดยเชฟขั้นสูงอีกด้วย มันมีความโดดเด่นทั้งในด้านสี,กลิ่นและรสชาติ ในขณะเดียวกันพวกมันก็หล่อเลี้ยงร่างกายของผู้กินและทำให้ทุกคนมีความสุขกับการกิน

พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าโจวไป่หยุนมีน้ำใจมาก!

มื้อนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากอิ่มท้องแล้ว โจวไป่หยุนก็ยืนขึ้นและกล่าวว่า “ มีสถานบันเทิงมากมายบนภูเขาเป่าอัน ในตอนบ่ายทุกคนสามารถพักผ่อนได้ เราจะออกไปสนุกกันเวลา 14.30 น. และเนื่องจากเรามาถึงที่นี่แล้ว เราก็ควรจะมีช่วงเวลาที่ดีสักหน่อย”

พวกเขาทั้งหมดเห็นด้วยกับเธอ

วิลลาแห่งนี้มีหลายห้อง ดังนั้นแขกจึงไปหาห้องของตน ส่วนผู้ที่ต้องการพักผ่อนก็จะขอแยกตัวออกไป ขณะที่คนอื่นๆรวมตัวกันและพูดคุยกัน

ซูเจี๋ย,หยูห่าวและไป่เว่ยไม่มีพลังงานมากพอจะไปทำอะไรต่อ ดังนั้นหวังเต็งจึงเลือกที่จะพักบ้างเช่นกัน

นับตั้งแต่หวังเต็งเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ เขาก็จะทำให้แน่ใจเสมอว่าร่างกายของเขาจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดตลอดเวลา และเนื่องจากตอนนี้เขาไม่มีอะไรทำ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจงีบหลับสักงีบ

14.30 น.

ทุกคนออกจากห้องไปรวมตัวกันที่ห้องโถง ภายใต้การนำของโจวไป่หยุน พวกเขาทั้งหมดก็ได้เข้าไปในภูเขา

มันมีจุดบันเทิงมากมายบนภูเขา เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่สามารถเล่นปืนฉีดน้ำภายใต้แสงแดดที่ร้อนระอุได้ ซึ่งพวกเขาก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการได้เห็นสาวสวยในชุดบิกินี่อีกต่างหาก

ต้องรู้ว่ามันมีสาวสวยสาวงามมากมายในหมู่ลูกเศรษฐีที่ร่ำรวย

ไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีพื้นที่พิเศษที่ปิดล้อมเป็นพื้นที่ล่าสัตว์บนภูเขาเป่าอันอีกด้วย ดังนั้นแขกที่มาที่ภูเขาแห่งนี้จึงสามารถจัดตั้งทีมและล่าสัตว์ที่นั่นได้ และมันก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น

ผู้ชายชอบปืน ดังนั้นเกมล่าสัตว์ประเภทนี้จะตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขา

ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงมีสถานบันเทิงมากมายบนภูเขาแห่งนี้ และมันก็คงไม่ฉลาดเท่าไหร่หากจะเข้าไปลองดูสักที่

ไม่นานทั้งกลุ่มก็ได้ไปถึงที่หมายและมองดูสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา มันตั้งอยู่ใต้น้ำตกเล็กๆ นอกจากนี้มันก็ยังมีความบันเทิงมากมายที่สร้างขึ้นรอบๆสระว่ายน้ำ ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนรู้สึกอยากถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดลงไปในน้ำเย็นในทันที

“ ว้าว!”

และมันก็เห็นได้ชัดว่าบางคนกำลังทำสิ่งนี้อยู่ ชายคนหนึ่งร้องโหยหวนราวกับหมาป่าและกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำโดยไม่ได้ถอดเสื้อผ้าด้วยซ้ำ

น้ำกระเซ็นไปทุกที่!

“ หลินห่าว นายบ้าไปแล้ว”

เพื่อนของเขาเริ่มหัวเราะและหยอกล้อเขา

หลินห่างโผล่หัวออกมาจากสระและเช็ดน้ำออกจากใบหน้า เขาหัวเราะอย่างเต็มที่และพูดว่า “ มันรู้สึกดีมาก รีบลงมากันได้แล้ว พวกนายจะรออะไรกัน?”

“ นายช่างกล้าหาญและไม่สนใจอะไรสมชื่อของนายจริงๆ (ในภาษาจีน ‘ห่าว‘ หมายถึงกล้าหาญและไม่เครียด)” โจวไป่หยุนยกย่องเขา

หลินห่าวหัวเราะดังอีกๆครั้ง

“ ช่างงี่เง่าจริงๆ” ซูเจี๋ยบ่นถึงเขาเบาๆด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกพูดไม่ออก

“ พื้นที่ล่าสัตว์อยู่ด้านข้าง คุณสามารถไปที่นั่ได้นถ้าคุณต้องการ และสิ่งที่คุณต้องทำก็คือการลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่”

“ คุณสามารถไปล่าพวกสัตว์ป่าและเอาเนื้อพวกมันมาทำบาร์บีคิวกินกันตอนกลางคืนได้!”

“ และฉันก็ได้เตรียมของขวัญลับๆสำหรับคนที่จับเหยื่อได้มากที่สุดเอาไว้แล้ว”

โจวไป่หยุนชี้ไปที่จุดทางเข้าทางด้านซ้ายและอธิบาย ในตอนท้ายเธอก้ได้เตือนทุกคน

“ อย่างไรก็ตาม ฉันต้องเตือนพวกคุณก่อนว่ามันมีสัตว์ป่าดุร้ายอยู่ภายในด้วยเช่นกัน ดังนั้นโปรดมั่นใจในความปลอดภัยของตัวคุณเอง มันจะดีกว่าที่จะไปกันเป็นกลุ่ม พวกคุณจะได้สามารถดูแลซึ่งกันและกันได้ เพราะหากคุณต้องทำคนเดียวมันก็จะอันตรายมาก”