บทที่ 27: เสียงดังภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

สัตว์เริ่มกลายพันธุ์หลังจากได้รับอิทธิพลจากพลังฟอร์ส ขนของหมาป่าสีขาวตัวนี้ขาวราวกับไหม มันไม่เพียงแต่มันจะมีสีขาวบริสุทธิ์ที่สวยงามเท่านั้น แต่มันยังให้ความรู้สึกดีมากเมื่อได้สัมผัส ประสิทธิภาพในการต้านทายความหนาวและการกักเก็บความร้อนเองก็ดีเช่นกัน

โจวไป่หยุนตกหลุมรักมันในทันที

เธอส่งหมาป่าให้หญิงสาวที่ตามเธอมา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและพูดกับหวังเต็งว่า “ ฉันไม่รู้มาก่อนว่าทักษะปืนของคุณจะดีถึงขนาดนี้ ขอบคุณที่ช่วยเมื่อกี้นี้ ฉันหมายถึงสิ่งที่ฉันพูดไป คุณสามารถขอฉันได้หนึ่งอย่าง”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ยิ้มและกล่าวเสริมว่า “ แต่คุณจะมาของอะไรเกินเลยไม่ได้หรอกนะ!”

ปกติแล้วโจวไป่หยุนก็จะเป็นคนที่ดูมีความมั่นใจและหยิ่งในตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอแสดงออกถึงความทะลึ่งทะเล้นเช่นนี้ มันก็ทำให้เธอดูน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นไปอีก

และสาเหตุที่เธอทำตัวแบบนี้ก็น่าจะเป็นเพราะเธอได้เห็นความสามารถของหวังเต็ง ดังนั้นทัศนคติของเธอที่มีต่อเขาจึงเปลี่ยนไป

ฮึ่ม หน้าด้านแท้!

“ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก”

หวังเต็งยิ้ม การแสดงออกที่ไม่แยแสของเขาทำให้หลี่หรงเฉิงแทบจะคลั่งในขณะที่มันกรีดร้องออกมาในใจ

นี่มันเป็นการแสดง!

นี่มันเป็นการแสดง!

ผู้ชายคนนี้จะต้องแสร้งทำเป็นนิ่งอย่างแน่นอน!

“ ไปกันเถอะ!” หวังเต็งหันมาและโบกมือให้ซูเจี๋ยและเพื่อนคนอื่นๆของเขา จากนั้นเขาก็เดินกลับไปยังทางเข้าพื้นที่ล่าสัตว์

เขาเหนื่อยกับการล่าแล้ว เหยื่อที่นี่ไม่สามารถทำให้เขาปลดปล่อยศักยภาพของทักษะปืนของเขาได้ถึงหนึ่งในสามได้ด้วยซ้ำ

ซูเจี๋ยไม่ลังเลใจ หลังจากที่ชี้นิ้วกลางไปที่หลี่หรงเฉิง เขาก็เดินตามหวังเต็งออกไป

โจวไป่หยุนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับการถูกปฏิเสธ

ซุนเกาหยานพูดกับโจวไป่หยุนว่า “ พี่โจว พวกเราเหนื่อยกับการล่ากันหมดแล้ว ดังนั้นเราก็จะกลับไปแล้วในตอนนี้ ขอให้สนุกต่อไปนะ”

โจวไป่หยุนไม่พอใจที่หวังเต็งไม่เคารพเธอ อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่สามารถแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผยได้ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าด้วยท่าทางสงบ

“ รอฉันด้วย!” หยูห่าวทนไม่ได้ที่จะต้องแยกจากจากปืนในมือของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อถ้าเหลือเขาเพียงคนเดียว ดังนั้นเขาจึงวิ่งเหยาะๆและยายามไล่ตามที่เหลือให้ทัน

ทั้งสี่กลับไปที่ทางเข้าและยื่นปืนคืนให้เจ้าหน้าที่

มันมีเก้าอี้ชายหาดจำนวนมากวางอยู่รอบๆสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แสงแดดส่องผ่านต้นไม้ และน้ำพุของภูเขาที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์

หวังเต็งและเพื่อนของเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ชายหาดสี่ตัวและเอนกายลงบนเก้าอี้เหล่านั้น อย่างไรก็ตาม มือของพวกเขาก็ไม่ได้พักผ่อน เพราะพวกเขายังคงยัดผลไม้เย็นๆที่เป็นของว่างและเครื่องดื่มเข้าไปในปากอย่าต่อเนื่อง

กลุ่มสาวงามยังคงเล่นอยู่ในสระว่ายน้ำ อ่า… ช่างเป็นชีวิตที่ดีจริงๆ!

ซูเจี๋ยและซุนเหยานหัวเราะเหมือนเป็ดขณะที่พวกเขามองไปยังสาวๆในสระ

หยูห่าวอดไม่ได้ที่จะมองไปที่พวกเขาสองสามครั้ง เขามองพวกเขาอย่างดูถูกเหยียดหยามก่อนที่จะหันไปมองไป่เว่ยด้วยการแสดงออกที่จริงจังและจริงใจ

“ มันเป็นเรื่องดีที่ยังหนุ่มยังสาว เพราะทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยพลัง!” หวังเต็งสวมแว่นกันแดดและเอาบุหรี่เข้าปาก ขณะสูบบุหรี่ เขาก็คร่ำครวญเหมือนคนแก่

หนุ่มคนนี้แสดงละครอีกแล้ว!

คราวนี้เขาแกล้งทำเป็นเจ้าสัวริมสระ…

ซูเจี๋ยเองก็เอนตัวลงมาและถามเขาอย่างลับๆ “ พี่หวังเต็ง พี่ชอบใครในนี้?”

“ ฉันหรอ?”

ซูเจี๋ยพยักหน้า

หวังเต็งเหลือบมองไปที่สระว่ายน้ำก่อนจะตอบว่า “ รู้อะไรไหม? ฉันจะเลือกคนที่มีรูปร่างดีที่สุด”

“ ไร้ยางอายที่สุด!”

ทั้งสามคนอุทานพร้อมกัน

หวังเต็งหัวเราะดังตอบกลับ เมื่อเขาหันกลับมามองสาวสวยอีกครั้ง จู่ๆมันก็มีฉากที่ทำให้เขาต้องหรี่ตาลง

เขาหยิบก้อนกรวดเล็กๆบนพื้นขึ้นมาแล้วใช้นิ้วดีดออกไป

ฟิ้ว!

ก้อนกรวดตัดผ่านอากาศและไปโดนมือของชายหนุ่ม ผู้ชายคนนี้แอบพยายามที่จะลวนลามหญิงสาว

ความแข็งแกร่งและความแม่นยำนั้นถูกต้องตรงจุด

สมบูรณ์แบบ!

“ อ้ะ!”

ชายหนุ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาดึงมือกลับมาทันทีราวกับว่าเขาถูกเข็มทิ่ม

“ เกิดอะไรขึ้น?”

ไป่เว่ยหันกลับมามองชายหนุ่มอย่างสงสัย

“ โอ้ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าฉันโดนอะไรบางอย่างกัดน่ะ มันทำให้ฉันกลัว” เขาหัวเราะอย่างเชื่องช้าขณะวางมือไว้ด้านหลังโดยไม่ทิ้งร่องรอยอาชญากรรมไว้

ไป่เว่ยไม่สนใจเขาและยังคงเล่นปืนฉีดน้ำกับหญิงสาวคนอื่นๆต่อไป ซู่ ซู่ ซู่ ซู่…

ชายหนุ่มมองไปที่หลังมือของเขา มันบวม และมันก็ให้ความรู้สึกเจ็บมากซะจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก

เกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้?

เขากวาดสายตามองไปรอบๆอย่างสับสน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นอะไรเลย

หวังเต็งคิดว่าหลังจากบทเรียนนี้ ชายหนุ่มก็คงจะยับยั้งตัวเอง อย่างไรก็ตาม สิบนาทีต่อมา ชายหนุ่มคนนี้ก็แอบตามไป่เว่ยไปและพยายามที่จะลวนลามเธออีกครั้ง

ซึ่งนั่นก็ทำให้หวังเต็งขมวดคิ้ว

ไอ้เวรนี่มันยังไม่จบอีกอย่างงั้นหรอ?

เขาหยิบก้อนกรวดขนาดใหญ่ขึ้นแล้วดีดออกไปอีกครั้ง จากนั้นก้อนกรวดก็พุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่มอย่างน่ากลัว

คราวนี้มันไม่ได้โดนหลังมือของเขา แต่มันมุ่งตรงไปที่ส่วนล่างของร่างกายของเขาแทน

“ แผละ!”

เสียงที่คมชัดเขย่าหัวใจชายหนุ่ม

“ อุ๊ว!” หลังจากนั้นหวังเต็งก็ได้ยินเสียงหอนของความเจ็บปวดดังออกมาจากมัน

เสียงกรีดร้องที่สั่นสะเทือนทำให้ทุกคนตกใจกลัว ใบหน้าของชายหนุ่มบิดเบี้ยวขณะที่มันจับส่วนล่างของร่างกาย ตอนนี้มันขดตัวยู่ยี่เหมือนกับกุ้งตัวใหญ่

“ เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนหันมามองเขา เพื่อนๆของเขาเดินไปข้างหน้าและแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

ชายหนุ่มไม่กล้าบอกความจริง เขาโบกมืออย่างแรงและใช้เวลานานเพื่อสงบสติอารมณ์ และในที่สุด เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ ฉันสบายดี ฉันสบายดี ฉันคิดว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างกัดฉัน”

ไป่เว่ยมองเขาอย่างงุนงงเมื่อเธอได้ยินคำตอบที่คุ้นเคยของเขาเป็นครั้งที่สอง นอกจากนี้ชายคนนี้ก็ยังยืนอยู่ข้างหลังเธออีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเขาก็กรีดร้องออกมาโดยไม่มีเหตุผลและอธิบายว่าเขาโดนอะไรบางอย่างกัด อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้โง่

ไป่เว่ยมีลางสังหรณ์และเงยหน้าขึ้น จากนั้นสายตาของเธอก็บังเอิญไปหยุดที่หวังเต็งซึ่งอยู่บนฝั่ง

หวังเต็งเลิกคิ้วขึ้นและให้สัญญาณแก่เธอ ในทันทีที่ไป่เว่ยรู้แจ้ง ความรู้สึกรังเกียจก็ปรากฎขึ้นกับชายหนุ่ม

หลังจากปัญหาในครั้งนี้ เธอก็ไม่มีอารมณ์จะสนุกอีกต่อไป เธอก้าวออกจากสระว่ายน้ำและมานั่งอยู่ข้างๆหวังเต็งและเพื่อนๆของเธอ

เธอหาม้านั่งที่ว่างเปล่าและนั่งลงบนนั้น จากนั้นเธอก็คุยกับพวกเขาแบบสบายๆขณะดื่ม ไป่เว่ยไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในไม่ช้า ท้องฟ้าก็มืดลง และทุกคนก็เริ่มก่อกองไฟ

ก่อนหน้านี้ โจวไป่หยุนได้สั่งให้คนของเธอทำความสะอาดเหยื่อที่ถูกจับได้

ปัจจุบันมีการแจกจานและจานเนื้อสด บรรดาผู้ที่รู้วิธีทำบาร์บีคิวเริ่มแสดงความสามารถของตน พวกเขาต้องการที่จะทำผลงานต่อหน้าเหล่าสาวสวย

อาหารประกอบด้วยเนื้อย่างและผัก ริมฝีปากของทุกคนเต็มไปด้วยคราบน้ำมันจากอาหาร

บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อพวกเขาจับคู่อาหารกับเบียร์

ชายหนุ่มและหญิงสาวรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ พวกเขาร้องเพลงและเล่นด้วยกันราวกับว่ารู้จักกันมานาน

ขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนาน เวลาก็ค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ

21.00 น. ทุกคนเริ่มรู้สึกเหนื่อยหลังจากสนุกสนานมาทั้งวัน และพวกเขาก็เตรียมที่จะกลับ

โจวไป่หยุนยืนขึ้นและปรบมือเพื่อเรียกความสนใจของทุกคน เธอวางแผนที่จะพูดคำลาสองสามประโยคก่อนจะจากกัน

ทุกคนเคารพเธอและมองดูเธออย่างเงียบๆ

โจวไป่หยุนเปิดปากของเธอ…

บู้มม!

จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังมาจากป่าในระยะไกล แม้จะอยู่ห่างไกล แต่เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนของพื้นดิน

“ เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขามองไปในทิศทางต้นตอของเสียง มันมืดสนิท และมองไม่เห็นสิ่งใดชัดเจน