หวัง​ซี​ไม่เข้าใจ

คุณหนู​พาน​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เห็น​เจ้า​รังเกียจ​ตระกูล​หวง​เหลือเกิน​ ​คล้าย​สลัด​อะไร​บางอย่าง​ ​อยาก​จะ​สลัด​พวกเขา​ทิ้ง​ใน​คราว​เดียว​ให้​ได้​ก็​ไม่​ปาน​”

หวัง​ซีนั​่ง​ลงมา​กัด​ลูก​ไหน​ไป​คำ​หนึ่ง​ ​กล่าว​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​นัก​ว่า​ ​“​พวกเขา​ยัง​ไม่น่า​รังเกียจ​อีก​หรือ​?​ ​ต่อให้​ถูกใจ​ฉัง​เหยี​ยน​ ​แต่​ด้วย​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ฉัง​เคอ​กับ​ฉัง​เหยี​ยน​ก็​ไม่​ควร​มาสู่​ขอ​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​พวกเขา​ไม่​เพียง​มาสู่​ขอ​เท่านั้น​ ​ยัง​มาด​้วย​ความมั่นใจ​ใน​ความถูกต้อง​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ ​ต้อง​เป็น​เพราะ​คุณชาย​หวง​เคย​เจอ​ฉัง​เหยี​ยน​เป็นการ​ส่วนตัว​มาก​่อน​ ​และ​มีความรู้สึก​บางอย่าง​ต่อ​ฉัง​เหยี​ยน​เป็นแน่​ ​ตระกูล​หวง​ถึง​ได้​เปลี่ยนใจ​มาสู่​ขอ​ฉัง​เหยี​ยน​แทน​อย่างกะทันหัน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​คุณชาย​หวง​ก็​มิใช่​คนดี​อะไร​ ​ในเมื่อ​มี​คน​เห็น​มูล​สุนัข​เป็น​ทองคำ​ ​ข้า​ก็​ไม่​ควร​ไป​ขัดขวาง​ ​เจ้า​ว่า​เหตุผล​นี้​ถูกต้อง​หรือไม่​”

คุณหนู​พาน​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​รู้สึก​ว่า​หวัง​ซีช​่าง​น่าสนใจ​ยิ่งนัก​ ​กล่าวว่า​ ​“​เมื่อก่อน​ข้า​รู้​แค่​ว่า​เจ้า​รู้จัก​หลอกล่อ​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ดีใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​ด่า​คน​เป็น​ด้วย​”

หวัง​ซีกำ​ลัง​อารมณ์ไม่ดี​อยู่​พอดี​ ​พอได้​พูด​ก็​ยิ่ง​ไร้ค​วาม​ระแวดระวัง​มากขึ้น​ ​ได้ยิน​แล้ว​ยักไหล่​ ​โยน​เมล็ด​ลูก​ไหน​ที่​กิน​เนื้อ​สอง​สาม​คำ​จน​หมดเกลี้ยง​ทิ้ง​ลง​ใน​ถังขยะ​ที่อยู่​ไม่​ไกล​ ​หยิบ​ผ้า​สะอาด​บน​จาน​กระเบื้อง​ขาวนวล​วาด​ลาย​สีทอง​ที่อยู่​ด้าน​ข้างขึ้น​มา​เช็ดมือ​ ​ถึง​ได้​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​เจ้า​กำลัง​ชม​ว่า​ข้า​พูดเก่ง​มิใช่​หรือ​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​พูดเก่ง​มาก​เช่นกัน​”

คุณหนู​พาน​มอง​แล้ว​ ​ระเบิด​เสียงหัวเราะ​ออกมา​อีก​คำรบ​หนึ่ง

หวัง​ซีนึก​ถึง​ความบาดหมาง​ระหว่าง​ตระกูล​ว่าที่​สามี​ของ​นาง​กับ​ครอบครัว​ของ​หลิวจ​้ง​ ​อยาก​จะ​เตือน​นาง​สัก​สอง​ประโยค​เหมือนกัน​ ​แต่​ก็​คิดได้​ว่า​ถ้า​คุณหนู​พาน​เป็น​คน​มอง​อะไร​ทะลุปรุโปร่ง​ ​ก็​น่าจะ​ทราบ​ความ​ไม่เหมาะสม​ของ​ตระกูล​หลิว​ดี​ ​แต่​เรื่อง​สมรส​นี้​ ​ขึ้นอยู่กับ​การควบ​คุม​ของ​บิดา​มาร​หรือไม่ก็​สถานะ​ทางสังคม​ ​บางที​นี่​อาจ​เป็น​งานแต่งงาน​ที่​ดีที​่​สุดที​่​นาง​หา​ได้​แล้วก็​เป็นได้​ ​จึง​จำเป็นต้อง​เลือก​และ​ยอมรับ​มัน​ ​นาง​ทอดถอนใจ​อยู่​ใน​ใจ​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​กล่าว​สิ่งใด

คุณหนู​พาน​เข้าใจ​ว่านา​งกำ​ลัง​เป็นห่วง​เรื่อง​ฉัง​เคอ​อยู่​ ​จึง​ไม่ได้​กล่าว​อะไร​มาก​เช่นกัน​ ​กล่าว​เสนอ​ความช่วยเหลือ​ขึ้น​ก่อน​ว่า​ ​“​หรือ​ข้า​ไป​หยั่งเชิง​ดูท่า​ที​ของ​ท่าน​อา​หญิง​ของ​ข้า​ดูดี​หรือไม่​ ​แม้น​ไม่​อาจ​ทำให้​นาง​ไป​ขัดขวาง​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​อย่างโจ่งแจ้ง​ได้​ ​แต่​อย่างน้อย​ก็​ทำให้​นาง​ทำ​พอเป็นพิธี​ ​ไม่​ถึงกับ​ปล่อย​ให้​บ้าน​รอง​กิน​อ้อย​แล้วยัง​คาย​ชานอ้อย​ทิ้ง​อีก​”

นี่​ก็ดี​เหมือนกัน​!

หวัง​ซี​อด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​โหวฮู​หยิน​เป็น​คนดี​เกินไป​”

คุณหนู​พาน​กล่าว​ ​“​มิใช่​เพราะ​ท่าน​อา​หญิง​ของ​ข้า​เป็น​คนดี​หรอก​ ​แต่​เพราะ​ท่าน​อา​เขย​ดี​เกินไป​ต่างหาก​ ​ท่าน​อา​หญิง​ของ​ข้า​จึง​เอาชนะ​ท่าน​อา​เขย​ไม่ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​นอกเหนือจาก​ญาติ​ผู้​พี่​คนโต​ของ​ข้า​แล้ว​ ​ก็​นับว่า​คุณชาย​สาม​ของ​บ้าน​รอง​มีหน้า​ที่​การงาน​ดีที​่​สุด​ใน​บรรดา​พี่น้อง​ ​ท่าน​อา​หญิง​ของ​ข้า​เอง​ก็​มีเรื่อง​ให้​ต้อง​ระมัดระวัง​เช่นกัน​”

นึกถึง​คนที​่​รับ​อนุ​และ​สาวอุ​่น​เตียง​เหล่านั้น​ ​มี​ภรรยา​เอก​หลาย​คนที​่​ชอบ​รับ​อนุ​และ​สาวอุ​่น​เตียง​เหล่านี้​อยู่​จริงๆ​ ​ที่​อดทน​ไว้​ก็​เพราะ​ไม่​อยาก​มีปัญหา​กับ​สามี​ ​ถึง​เวลา​จะ​ได้​ไม่​กระทบ​ต่อ​ผลประโยชน์​ของ​บุตรชาย​หญิง​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​ก็​เท่านั้น

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​สามี​ยังคง​สำคัญ​กว่า​แม่​สามี​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​สามี​จะ​เชื่อฟัง​แม่​สามี​ทุกอย่าง​”

คุณหนู​พาน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เพราะฉะนั้น​เรื่อง​เช่นนี้​ต้อง​ดูวา​สนา​ด้วย​ ​ไม่​อาจ​คิด​ว่า​แม่​สามี​สำคัญ​กว่า​เพียง​อย่าง​เดียว​ ​แล้วก็​ไม่​อาจ​คิด​ว่า​สามี​สำคัญ​กว่า​เพียง​อย่าง​เดียว​”

ทั้งสอง​คน​เจ้า​คุย​ประโยค​หนึ่ง​ข้า​คุย​ประโยค​หนึ่ง​ ​เปิดใจ​คุย​กัน​กว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ความประทับใจ​ที่​มีต​่​อกัน​ดีกว่า​เมื่อ​หลาย​เดือนก่อน​มาก​โข​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​มี​คน​มาแจ้ง​ข่าว​ ​เกรง​ว่า​ทั้งสอง​คง​คุย​ต่อไป​เรื่อยๆ

“​เช่นนั้น​ทาง​ด้าน​ของ​โหวฮู​หยิน​คง​ต้อง​รบกวน​เจ้า​แล้ว​”​ ​หวัง​ซี​ไป​ส่ง​คุณหนู​พาน​ที่​ประตู​ด้วยตัวเอง

คุณหนู​พาน​ก็​ไม่​สงวน​มารยาท​กับ​นาง​ ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ข้า​ได้ข่าว​อะไร​ที่​เป็นประโยชน์​ ​จะ​เอา​มาบ​อก​เจ้า​ทันที​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ขอบคุณ​อีกครั้ง​ ​ถึง​ได้​เดิน​กลับ​ห้องโถง​ไป​พร้อมกับ​อา​หนา​นที​่​มา​พบ​นาง

อา​หนา​นขมวด​คิ้ว​มุ่น​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​นาย​หญิง​รอง​โน้มน้าวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​สำเร็จ​ ​ทำให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เห็นด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​ระหว่าง​ตระกูล​หวง​กับ​คุณหนู​สาม​ ​ได้ยิน​ว่า​เพราะ​กลัว​จะ​เกิดเหตุ​ไม่คาดฝัน​ขึ้น​ ​ก็​เลย​จะ​มา​วาง​ของหมั้น​เล็ก​ใน​อีก​สาม​วัน​ให้​หลัง​นี้​แล้ว​ ​จาก​ความหมาย​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คือ​ให้​โหวฮู​หยิน​ไป​ช่วย​บ้าน​รอง​ ​โหวฮู​หยิน​ไม่​ค่อย​พอใจ​นัก​ ​แต่​ก็​ไม่​ปฏิเสธ​อย่างโจ่งแจ้ง​”

ก่อนหน้านี้​หวัง​ซีก​็​คาดการณ์​เอาไว้​เหมือนกัน​ว่า​เรื่องราว​จะ​เป็น​เช่นนี้

ถ้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​รู้สึก​ว่า​ไม่ดี​จริงๆ​ ​ก็​คง​ไม่​ทำ​แค่​โมโห​เพียง​ครั้งหนึ่ง​เท่านั้น​

นาง​รู้สึก​ดีใจ​อีกครั้ง​ที่​ปีนั​้น​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่ยอมรับ​มารดา​ของ​นาง

ไม่อย่างนั้น​นาง​อาจ​ได้​เป็น​ฉัง​เคอ​คนที​่​สอง​แล้วก็​ได้

นี่​ทำให้​นาง​พลัน​บังเกิด​ความรู้สึก​มี​ศัตรู​ร่วมกัน​ขึ้น​มา

นาง​กระวีกระวาด​ออก​ไปหา​ฉัง​เคอ

นาย​หญิง​สาม​ยัง​ไม่​จากไป​ ​นั่ง​เคียงคู่​กับ​ฉัง​เคอ​อยู่​บน​แหย่ง​หลัว​ฮั่น​ ​กำลัง​โน้มน้าว​บางอย่าง​กับ​ฉัง​เคอ​อยู่​ ​เมื่อ​เห็น​หวัง​ซี​เข้ามา​ ​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​ ​พลาง​เอ่ย​เรียก​หวัง​ซี​ ​“​รีบ​มานั​่ง​เร็ว​เข้า​!​”

ยัง​ริน​ชา​ให้​หวัง​ซีด​้วย​ตัวเอง​อีกด้วย

หวัง​ซีลุก​ขึ้น​มารั​บถ​้วย​ชาด​้วย​ความ​นอบน้อม​ ​ไม่ได้​หลบเลี่ยง​นาย​หญิง​สาม​ ​เล่าเรื่อง​ที่​ได้ยิน​มา​เมื่อ​ครู่​ให้​นาย​หญิง​สาม​ฟัง

นาย​หญิง​สาม​พลัน​ร้องไห้​ออกมา

ฉัง​เคอ​กัด​ริมฝีปาก​แน่น​จน​ปาก​แดง​ช้ำ​ ​ทว่า​สีหน้า​กลับ​เยือกเย็น​ยิ่งนัก

หวัง​ซี​รู้สึก​ว่ายาม​พานพบ​เรื่อง​เสียใจ​ ​การร้องไห้​ออกมา​ช่วย​ปลดปล่อย​ความรู้สึก​ไม่ดี​ออก​ไป​ได้​ ​แต่​การร้องไห้​ก็​ต้อง​ดู​เวลา​ด้วย​ ​ร้อง​ก่อน​และ​หลัง​เกิด​ปัญหา​ได้​ ​ทว่า​ไม่​ควร​ร้อง​ระหว่าง​ที่​กำลัง​มีปัญหา

เพราะ​การร้องไห้​ช่วย​แก้ปัญหา​อะไร​ไม่ได้

การ​ที่​ฉัง​เคอ​เป็น​เช่นนี้​ ​กลับ​ทำให้​หวัง​ซีนั​บถื​อนา​งมาก​ขึ้น​ ​กระทั่ง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ยินดี​ช่วยเหลือ​นาง​อย่างเต็มกำลัง​อีกด้วย

“​เจ้า​คิดเห็น​เช่นไร​”​ ​หวัง​ซี​ถาม​ฉัง​เคอ

ฉัง​เคอ​เห็น​หวัง​ซี​เป็น​ดั่ง​พี่น้อง​แท้ๆ​ ​ทั้ง​ไม่​ปิดบัง​และ​ไม่​อ้อมค้อม​ ​กล่าว​ตามตรง​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ข้า​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​ควร​ทำ​เช่นไร​ ​แต่​ข้า​รู้สึก​ว่า​ข้า​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​จบ​ไป​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ได้​ ​ทว่า​ข้า​ก็​กังวล​ว่า​หาก​ข้า​ไป​คิดบัญชี​กับ​คนบ้า​นร​อง​ ​คนบ้า​นร​อง​จะเข้า​ใจ​ผิด​คิด​ว่า​ข้า​หวงแหน​งานแต่งงาน​กับ​ตระกูล​หวง​ครั้งนี้​ ​ถ้า​เกิด​พวกเขา​รู้สึก​ว่างาน​แต่ง​ไม่ดี​ขึ้น​มาด​้ว​ยอี​กคน​ ​ผลัก​ตระกูล​หวง​มา​ให้​ข้า​ ​มิ​เท่ากับ​ว่า​ข้า​ต้อง​เสียเปรียบ​แย่​หรอก​หรือ​!​”

หวัง​ซี​ได้ยิน​แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​ ​กล่าวว่า​ ​“​ตระกูล​หวง​ยัง​ไม่ได้​หน้าหนา​ถึง​เพียงนั้น​ ​ที่​แต่ง​ฉัง​เหยี​ยน​ไม่สำเร็จ​แล้วยัง​กลับมา​หา​เจ้า​”

ยัง​พูด​ไม่​จบ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ถ้อยคำ​นี้​ไม่​ถูกต้อง​นัก​ ​ให้​ความหมาย​เหมือน​กำลัง​ช่วย​ฟอกขาว​ให้​ตระกูล​หวง​อยู่​ ​ตอนนี้​คนที​่​นาง​ชังน้ำหน้า​ที่สุด​คือ​บ้าน​รอง​ ​ทว่า​คนที​่​เกลียดชัง​ที่สุด​คือ​ตระกูล​หวง​ ​นาง​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​ตระกูล​หวง​มา​หยาม​เกียรติ​ฉัง​เคอ​ได้​อีก​ ​กล่าวว่า​ ​“​แน่นอน​ ​ตระกูล​หวง​นั่น​ก็​ไม่ใช่​คนดี​อะไร​ ​หาไม่​คง​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ออกมา​ไม่ได้​ ​ตาม​หลัก​ ​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​ที่​กลืน​คำพูด​ตัวเอง​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​กล้า​ตบ​อก​แล้ว​พูดว่า​พวกเขา​ทำไม​่​ได้​บ้าง​!​ ​ที่​เจ้า​กังวล​ก็​นับว่า​มีเหตุผล​”

สีหน้า​ของ​ฉัง​เคอ​ดูดี​ขึ้น​มาก

หวัง​ซี​โล่งใจ​เล็กน้อย​ ​เสนอ​ความคิด​ให้​ฉัง​เคอ​ต่อว่า​ ​“​หาก​เป็น​ข้า​ ​ข้า​ก็​คง​ไม่​ไป​ทะเลาะ​อะไร​กับ​บ้าน​รอง​เหมือนกัน​ ​เนื่องจาก​เรื่อง​นี้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็น​คน​อนุญาต​ ​ข้า​คง​ไปหา​แค่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เท่านั้น​”

ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็น​ดั่ง​ยอด​หญ้า​บน​กำแพง​ ​ลม​ฝั่ง​ไหน​พัด​แรง​กว่านา​งก​็​เอนเอียง​ไป​ฝั่ง​นั้น

เพียงแต่ว่า​นาง​ไม่​อาจ​พูด​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​ต่อหน้า​คน​เป็น​หลานสาว​อย่าง​ฉัง​เคอ​ได้

ฉัง​เคอ​ตะลึงพรึงเพริด​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไปหา​นาง​ทำไม​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​ยินดี​เหมือนกัน​นี่​นา​!​”

“​แต่​นาง​เป็น​คน​อนุญาต​”​ ​น้ำเสียง​ของ​หวัง​ซีนุ​่ม​เบา​สบาย​ ​ทว่า​ถ้อยคำ​ที่​เปล่ง​ออกมา​กลับ​หนักหน่วง​ประหนึ่ง​หนัก​พัน​ชั่ง​ ​“​นาง​กับ​โหวฮู​หยิน​เป็น​คน​ปกครอง​บ้าน​หลัง​นี้​มิใช่​หรือ​ ​หาก​นาง​ไม่​อนุญาต​ ​ตระกูล​หวง​จะ​มา​วาง​ของหมั้น​ได้​อย่างไร​”

ฉัง​เคอ​ก้มหน้า​ลง​ครุ่นคิด​ตาม

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​พวกเรา​ไม่​อาจ​โวยวาย​อย่างเปิดเผย​ ​โวยวาย​ไป​ก็​มี​แต่​จะ​ทำให้​ผู้อื่น​เห็น​เป็นเรื่อง​ตลกขบขัน​เท่านั้น​ ​แต่​ของ​ที่​สูญเสีย​ไป​อย่างเปิดเผย​ ​หาก​ภายใน​ไม่ได้​รับ​การ​ชดเชย​ ​มิ​เท่ากับ​ว่ายิ​่ง​เสียเปรียบ​หรอก​หรือ​”

ฉัง​เคอ​พลัน​เข้าใจ​เรื่องราว​ขึ้น​มา​ ​เพียงแต่ว่า​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​อะไร​ ​นาย​หญิง​สาม​ที่​ไม่รู้​ว่า​หยุด​ร้องไห้​ไป​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ขยับ​เข้ามา​เบียด​อยู่​ตรงกลาง​ระหว่าง​ฉัง​เคอ​กับ​หวัง​ซี​ ​กล่าว​เสียงดัง​ขึ้น​ว่า​ ​“​ยังคง​เป็นคุณ​หนู​ต่าง​สกุล​ที่​เฉลียวฉลาด​ ​บาง​เรื่อง​ไม่ต้อง​ชี้แนะ​ก็​เข้าใจถ่องแท้​ ​ความคิด​นี้​ดี​ ​พวกเรา​ต้อง​ไปหาฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ต้อง​ให้​นาง​ชดเชย​ด้วย​งานแต่ง​ที่​ไม่​ต่าง​จาก​ตระกูล​หวง​ ​ไม่​สิ​ ​ต้อง​ดีกว่า​ตระกูล​หวง​ถึง​จะ​ใช้ได้​”​

หวัง​ซีนวด​ขมับ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ถ้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มี​ความสามารถ​หางาน​แต่ง​ที่​ดีกว่า​ตระกูล​หวง​ได้​ ​บ้าน​รอง​คง​ไม่ต้อง​มา​ขโมย​งานแต่ง​ของ​พี่สาว​สี่​แล้ว​”

นาย​หญิง​สาม​มอง​หวัง​ซี​ ​ถาม​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​เช่น​..​ ​เช่นนั้น​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​”

“​พูด​ต่อหน้า​บ้าน​รอง​กับ​บ้าน​สาม​ให้​ชัดเจน​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​สิน​เจ้าสาว​ของ​พี่สาว​สี่​ ​หรือไม่ก็​ดู​ว่านาย​ท่าน​สาม​คิดเห็น​เช่นไร​ ​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ชดเชย​ด้วย​สิ่งของ​ที่​พวก​เจ้า​ได้​ใช้​จริงๆ​”​ ​ขณะที่​หวัง​ซีพู​ดอยู​่​นั้น​ ​ใน​ใจ​กลับ​คิด​ว่า​ ​หาก​เป็น​นาง​ ​คง​ถือโอกาส​นี้​ย้ายออก​จาก​จวน​ไป​ใช้ชีวิต​เอง​ ​กล่าวคือ​ ​ตอนแรก​ที่​ยอม​ติด​อยู่​ใน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ก็​มิใช่​เพราะ​อยากได้​ผลตอบแทน​ดี​ๆ​ ​หรอก​หรือ​ ​ตอนนี้​เรื่อง​ดี​ไม่มี​ ​เรื่อง​ร้าย​ยัง​มา​เรื่อง​แล้ว​เรื่องเล่า​อย่างไม่ขาดสาย​อีก​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​นาง​ ​ธง​ผืน​ใหญ่​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวกำ​ลัง​จะ​ขาด​ ​แต่​บ้าน​หลัง​นี้​ก็​ต้อง​แบ่ง​ด้วย​ถึง​จะ​ถูกต้อง

น่าเสียดาย​ที่นาย​หญิง​สาม​ไม่เคย​คิด​เรื่อง​แยก​บ้าน​มาก​่อน

ดวงตา​ทั้งคู่​ของ​นาง​ระยิบระยับ​ ​กล่าว​กับ​หวัง​ซี​อย่าง​ซาบซึ้งใจ​ว่า​ ​“​คุณหนู​ต่าง​สกุล​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​ที่สุด​ ​ข้า​จะ​ไปหาฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เดี๋ยวนี้​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​ตระกูล​หวง​ยัง​ไม่​มา​วาง​ของหมั้น​เล็ก​ ​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ช่วย​ชดเชย​สิน​เจ้าสาว​ให้​อา​เคอ​ของ​พวก​ข้า​สัก​เล็กน้อย​”

จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ถูก​ท่าน​โหว​ผู้เฒ่า​ถลุง​เงิน​ไป​ไม่น้อย​ ​ทุกวันนี้​ความเป็นอยู่​ก็​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​หลานชาย​ถือเป็น​คน​ของ​ตัวเอง​ ​หลานสาว​นับเป็น​สะใภ้​ที่​ช่วย​เลี้ยง​ให้​ผู้อื่น​ ​เงิน​สำหรับ​ออกเรือน​ของ​หลานสาว​จึง​ไม่​มาก​นัก​ ​นาย​หญิง​สาม​เอง​ก็​ไม่ได้​มีสิน​ติดตัว​มากมาย​อะไร​ ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​สาเหตุ​ที่​เวลา​พูดคุย​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​ฉัง​เคอ​ไม่​ราบรื่น​เท่า​ของ​ฉัง​เหยี​ยน

นาง​พูด​ลม​เป็น​ฝน​ ​ลุกขึ้น​หมาย​จะ​เดิน​จากไป

“​ท่าน​รอก​่อน​”​ ​หวัง​ซี​หยุด​นาย​หญิง​สาม​เอาไว้​อย่าง​รู้สึก​ปวดศีรษะ​ ​มอง​ฉัง​เคอ​ครั้งหนึ่ง

ช่วย​แต่​พอดี​เป็นคุณ​ ​ช่วย​มาก​ไป​เป็นโทษ​ ​นาง​ไม่​อยาก​ช่วย​คน​แล้วยัง​ช่วย​จน​เกิดเรื่อง​ผิดพลาด​ขึ้น​มาด​้วย

เรื่อง​นี้​คง​ต้อง​ให้​พวก​นาง​สอง​แม่​ลูก​ตัดสินใจ​กันเอง

ฉัง​เคอ​รีบ​เรียก​มารดา​เอาไว้​ ​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ ​พวกเรา​จะ​ไป​พบฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ก่อน​ไป​ต้อง​มี​การวางแผน​ก่อน​กระมัง​!​ ​ยกตัวอย่างเช่น​ ​ต้องการ​เงิน​จากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จำนวน​เท่าไร​ ​เงินก้อน​นี้​เอา​มาจาก​เงิน​ส่วนตัว​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทั้งหมด​หรือว่า​นาย​หญิง​รอง​ต้อง​เอา​มา​ให้​ส่วนหนึ่ง​ด้วย​ ​หรือไม่ก็​แบ่ง​สิน​เจ้าสาว​ของ​พี่สาว​สาม​มา​ให้​ข้า​หนึ่ง​ส่วน​ ​ถัดจาก​นั้น​เมื่อ​พบฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​แล้ว​ ​พวกเรา​ควรจะ​เจ้าอารมณ์​หรือ​แสดง​เป็น​คนอ่อนแอ​ดี​?​ ​เรื่อง​พวก​นี้​หาก​ไม่​หารือ​กัน​ให้​ดี​ ​ตอน​ไป​ขอการ​ชดเชย​จากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​นอกจาก​จะ​เป็นการ​ตัก​น้ำ​ด้วย​ตะกร้า​ไม้​ไผ่​แล้ว​ ​อาจ​กลายเป็น​ตัวตลก​ให้​บ้าน​รอง​เอา​ไป​เล่า​ให้​ตระกูล​หวง​ฟัง​ด้วย​!​”

นาย​หญิง​สาม​ไม่รู้​ว่า​บุตรสาว​ของ​ตัวเอง​กลายเป็น​คนเก่ง​กาจ​เช่นนี้​ไป​ตั้งแต่​เมื่อใด

อาจ​เป็น​เพราะ​ได้​พานพบ​กับ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​หวง​กระมัง

นาง​ทั้ง​ปวดใจ​ทั้ง​พึงพอใจ​ ​เป็นครั้งแรก​ที่​มอง​บุตรสาว​อย่าง​เที่ยงตรง​ ​ให้​บุตรสาว​เป็น​คนที​่​ปรึกษาหารือ​ด้วย​ได้​ผู้​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ดี​ ​ดี​ ​ดี​ ​พวกเรา​คุย​กัน​ให้​เสร็จ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไปหาฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​”

หวัง​ซี​เห็น​ว่า​ไม่มี​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ ​จึง​เอ่ยถึง​คุณหนู​พาน​แล้ว​ขอตัว​อำลา

นาย​หญิง​สาม​อด​ทอดถอนใจ​ไม่ได้​ ​“​ยังคง​มี​คนดี​อยู่​มากมาย​!​ ​ดวงตา​ของ​ทุกคน​ต่าง​มองเห็น​กระจ่างแจ้ง​ดี​”

ฉัง​เคอ​เอง​ก็​ประหลาดใจ​มาก​เช่นกัน

นาง​กับ​คุณหนู​พาน​ไม่ได้​สนิทสนม​กัน​มากมาย​ ​คุณหนู​พาน​กลับใจ​กว้าง​และ​กล้าหาญ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ประโยค​ที่​บอกว่า​รู้​คน​รู้​หน้า​ไม่รู้​ใจ​นั้น​มีเหตุผล​มาก​จริงๆ

ตก​กลางคืน​ ​หวัง​ซี​ได้รับ​ข่าว​แจ้ง​ว่านาย​หญิง​สาม​กับ​ฉัง​เคอ​ไปร​่ำ​ไห้​อย่าง​ร้าวราน​ใจ​ต่อหน้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทน​ไม่ได้​ ​นอกจาก​รับปาก​ว่า​จะ​สมทบ​เบี้ย​รายเดือน​ให้​คุณชาย​แปด​ฉัง​ ​น้องชาย​ร่วมอุทร​ของ​ฉัง​เคอ​เป็น​เงิน​สิบ​ตำลึง​ทุก​เดือน​แล้ว​ ​ยัง​รับปาก​ว่า​จะ​ชดเชย​สิน​เจ้าสาว​ให้​ฉัง​เคอ​เป็น​เงิน​สาม​พัน​ตำลึง​อีกด้วย​ ​แน่นอน​ว่า​เงิน​สาม​พัน​ตำลึง​นี้​ ​บ้าน​รอง​เป็น​คน​ออก​ให้​สอง​พัน​ตำลึง

ต้อง​รู้​ว่า​ ​สิน​เจ้าสาว​ยาม​ออกเรือน​ของ​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​นั้น​มี​แค่​ห้า​ร้อย​ตำลึง

ใคร​เห็นใจ​สงสาร​บุตรสาว​ ​ก็​ต้อง​เอา​เงิน​ส่วนตัว​สมทบ​เข้าไป

หวัง​ซี​รีบ​ถาม​หวังห​มัว​มัว​คนที​่​มาแจ้ง​เรื่อง​นี้​ให้​นาง​ทราบ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​เงิน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​ของกอง​กลาง​นับ​รวม​อยู่​ใน​จำนวน​นี้​ด้วย​หรือไม่​ ​ให้​ตอนนี้​เลย​หรือ​ต้อง​รอตอ​นที​่​พี่สาว​สี่​ออกเรือน​ก่อน​ถึง​จะ​ให้​?​”

ตาม​ความคิด​ของ​นาง​แล้ว​ ​เงิน​จำนวน​สอง​พัน​ตำลึง​ก้อน​นี้​บ้าน​รอง​ต้อง​ให้​อย่าง​ไม่เต็มใจ​แน่​ ​หาก​ต้อง​รอ​จน​ฉัง​เคอ​ออกเรือน​ถึง​จะ​ให้​ ​เงิน​ของ​บ้าน​รอง​ก้อน​นี้​คง​ต้อง​ยื้อยุด​กัน​อีก​อย่างแน่นอน

หวังห​มัว​มัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ในที่สุด​นาย​หญิง​สาม​ก็​ฉลาด​ขึ้น​มา​แล้ว​ ​ส่วน​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กับ​ส่วน​ของกลาง​จำนวน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​นั้น​จะ​มอบให้​ตอน​คุณหนู​สี่​ออกเรือน​ ​แต่​ส่วน​ของ​บ้าน​รอง​จำนวน​สอง​พัน​ตำลึง​ก้อน​นั้น​จะ​ต้อง​มอบให้​วันพรุ่งนี้​กับ​วัน​มะรืน​เจ้าค่ะ​”

……………………………………………………………………….

ตอนต่อไป