บทที่ 131 ขอใช้คำเดิมพูดย้อนกลับไปให้คุณ ฝันไปเถอะ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 131 ขอใช้คำเดิมพูดย้อนกลับไปให้คุณ ฝันไปเถอะ

หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว เจียงหยุนเอ๋อนำแท่งตรวจครรภ์ไปตรวจที่ห้องน้ำ

ในขณะที่รอผลตรวจอยู่นั้น เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกหัวใจของตนเต้นเร็วมาก

พอผ่านไปได้สักพักหนึ่ง แท่งตรวจครรภ์ก็ได้แสดงขีดสีแดงสองเส้น

เจียงหยุนเอ๋อเอามือปิดปากด้วยความประหลาดใจ ขีดสีแดงสองเส้นนี้แสดงว่าเธอ ตั้งครรภ์แล้ว

มองดูแท่งตรวจครรภ์อีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อจึงมั่นใจว่าตนตั้งครรภ์แล้วจริงๆ และลูกในท้องคนนี้……แน่นอนว่าเป็นของลี่จุนถิง

เจียงหยุนเอ๋อกำลังคิดอยู่ว่าหากนำเรื่องนี้ไปบอกลี่จุนถิง เขาต้องดีอกดีใจจนตัวลอยเลยทีเดียว เธอสามารถจินตนาการได้ว่าลี่จุนถิงที่มีสีหน้าเป็นภูเขาน้ำแข็งพันปีจะฉายความดีใจถึงขั้นไหน

ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก ลูกคือโซ่ทองคล้องใจของเธอกับลี่จุนถิง

ถึงแม้หลายปีก่อนสวรรค์จะไร้ความยุติธรรมแก่ตน แต่ทว่าตอนนี้ฟ้าได้เบิกตาเสียที และยังส่งนางฟ้าตัวน้อยๆให้ตนอีกด้วย

เมื่อพูดถึงนางฟ้าตัวน้อยๆ เจียงหยุนเอ๋อก็นึกถึงถวนจื่อขึ้นมาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มใจทันที

ลี่จุนถิงไม่ใช่พ่อแท้ๆของถวนจื่อ แต่ว่าถ้าถวนจื่อรู้ว่าตนมีลูกอยู่ในท้องคนหนึ่ง จะมีการต่อต้านขึ้นหรือเปล่า?

เป็นไปได้ไหมที่ตนตั้งท้องแล้ว จะทำให้ถวนจื่อรู้สึกว่าตนกับลี่จุนถิงไม่ค่อยรักเขาอีกต่อไปและปฏิบัติต่อเขาไม่ดี

ทุกความเป็นไปได้ได้วิ่งเข้ามาในสมองของเจียงหยุนเอ๋อ

การตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การยินดี แต่ว่าสำหรับเธอแล้วการตั้งครรภ์ทั้งสองครั้งล้วนมีทั้งความดีใจระคนความกังวลไปด้วย

เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดอยู่ตั้งนานก็ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากพูดอย่างไรดี สุดท้ายจึงตัดสินใจผ่อนผันไปก่อน รอให้มีโอกาสที่เหมาะสมในการล่อถามความคิดของถวนจื่อดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ตอนกลางคืน ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อรับประทานอาหารด้วยความกังวลใจ และใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงรู้สึกทนดูไม่ได้เอ่ยปากถามว่า “หยุนเอ๋อ คุณเป็นอะไรเหรอ?ผมดูคุณเหมือนจะมีความในใจนะ?”

“หา?”เจียงหยุนเอ๋อกำลังคิดเรื่องตั้งท้องอยู่ แต่เมื่อลี่จุนถิงเรียกจึงได้หลุดออกมาจากความคิด

“หาอะไร?”ลี่จุนถิงพูดพลางเอาปลายตะเกียบเคาะหัวเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ “คุณดูคุณสิ ไม่ตั้งใจกินข้าวเลย กับข้าวของคุณจะเข้ารูจมูกอยู่แล้ว”

“ที่ไหน”เจียงหยุนเอ๋อทำปากมุ่ย

ลี่จุนถิงยื่นมือไปแตะหน้าผากของเจียงหยุนเอ๋อแล้วมาจับหน้าผากของตัวเองต่อ “คุณไม่สบายหรือเปล่า?”

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัวทันที“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ไม่มีความอยากอาหารเอง”

ลี่จุนถิงฟังมาถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่ฟังคำพูดของตนเลย

ถึงแม้น้ำเสียงของลี่จุนถิงจะจริงจัง แต่แววตายังคงเผยความเป็นห่วงเป็นใยต่อเจียงหยุนเอ๋ออยู่ “ไม่ใช่บอกให้คุณไปตรวจดูที่โรงพยาบาลเหรอ?ทำไมคุณยังไม่ไปอีก?”

เจียงหยุนเอ๋อวางตะเกียบลง“ตอนแรกฉันคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะไป คุณดูสิ ตอนนี้ฉันก็ยังดีๆอยู่เลย?”

เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางมองดูหุ่นของตัวเอง

ลี่จุนถิงอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจ“ช่างเถอะ พรุ่งนี้ผมไปเป็นเพื่อนคุณ ถ้าผมไม่ไป สงสัยคุณต้องรอให้ตัวเองมีอาการสาหัสแล้วค่อยไปโรงพยาบาลแน่ๆ”

ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อคิดจะปฏิเสธ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตนแค่ตรวจด้วยวิธีง่ายๆเท่านั้นเอง ถ้าหากแท่งตรวจครรภ์เกิดผิดพลาดขึ้นมาล่ะ?

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปกันเถอะ”เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยความยิ้มแย้ม

ไม่ว่าจะยังไงสำหรับของพวกนี้แล้ว ผลตรวจจากโรงพยาบาลจะมีความน่าเชื่อถือกว่า

ลี่จุนถิงเห็นครั้งนี้เจียงหยุนเอ๋อรับปากอย่างเชื่อฟัง จึงรู้สึกว่าเจียงหยุนเอ๋อคงคิดได้แล้ว “ดี”

เช้าวันรุ่งขึ้น ลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อตื่นขึ้นมากินข้าวเช้าและทำทุกอย่างเสร็จสรรพ กำลังเตรียมออกจากบ้านไปตรวจอยู่พอดี

แต่ว่าตอนที่พวกเขาจะออกจากบ้าน รถก็ได้หยุดจอดกะทันหัน

การเบรกอย่างกะทันหันทำให้ลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อต่างโน้มตัวไปด้านหน้าทันที

ลี่จุนถิงมีไหวพริบที่รวดเร็วจึงได้กอดเจียงหยุนเอ๋อไว้ทัน พูดกับคนขับรถด้วยเสียงตำหนิเล็กน้อย “ขับรถยังไงเนี่ย?”

คนขับรถพูดด้วยความอึดอัดใจว่า“คุณชายลี่ครับ คุณหนูลี่มาครับ”

คนขับรถเตรียมจะเหยียบคันเร่ง ใครจะไปรู้ว่าลี่จีถองจะวิ่งมาขวางทางเอาไว้

“คุณป้า?”ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว

“พวกเราลงไปดูกันก่อนค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อดึงปลายเสื้อของลี่จุนถิง

ลี่จุนถิงพยักหน้าจากนั้นทั้งสองคนก็ลงจากรถไป

ทั้งสองพึ่งจะลงมาจากรถก็ได้ยินเสียงที่แปลกพิลึกว่า“อุ๊ย ออกจากบ้านตอนเช้าๆอย่างจะไปทำอะไรกันเอ่ย?”

“ป้าไม่ต้องมายุ่ง”ลี่จุนถิงได้ยินลี่จีถองพูดเสียงดัดจริตก็รู้สึกไม่พอใจ

ช่วงนี้ด้วยการกระทำที่เลยเถอะของลี่จีถองทำให้ลี่จุนถิงยิ่งไม่อยากจะคุยกับเธอเลย

ลี่จีถองเห็นลี่จุนถิงทำกิริยาไม่ดีต่อเธอ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าระบายออกมา ได้แต่กดเสียงให้ต่ำแล้วพูดว่า “จุนถิง ทำให้หลานถึงพูดด้วยกิริยาเช่นนี้กับป้าล่ะ?”

เพราะอย่างไงเสียตอนอยู่ต่อหน้าคนรับใช้ ลี่จุนถิงก็ควรไว้หน้าเธอบ้าง

“แล้วป้าหวังให้ผมมีกิริยายังไงล่ะ?”ลี่จุนถิงใช้ความได้เปรียบที่สูงกว่าจึงใช้วิธีเหล่ตามองลี่จีถอง

ลี่จีถองอ้าปากขึ้น“ต้องมีกิริยามารยาทที่ดีต่อผู้ใหญ่ยังไงล่ะ”

ลี่จุนถิงพูดเสียงเย็น“แต่ก็ต้องดูก่อนว่าผู้ใหญ่ท่านนี้คู่ควรให้ผมไปเคารพหรือเปล่า”

“นาย!”ลี่จีถองเห็นว่าตนพูดเอาชนะลี่จุนถิงไม่ได้ จึงได้แต่เพ่งความสนใจไปที่เจียงหยุนเอ๋อ“ไอ้นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ทำไมชอบพูดใส่ความให้จุนถิงฟัง”

“หยุนเอ๋อไม่ใช่ความอย่างนั้น ขอให้คุณป้าให้เกียรติเธอด้วย”ลี่จุนถิงไม่อนุญาตให้ใครมาพูดไม่ดีเจียงหยุนเอ๋อเด็ดขาด

ลี่จีถองเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะ จึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า“ได้ ป้าให้เกียรติเธอก็ได้ แต่หลานก็รีบเอาสินค้าของป้าคืนมาสิ และยังต้องให้โรงงานนั้นมาร่วมมือกับป้าด้วย”

“ได้”ลี่จุนถิงพยักหน้าด้วยสีหน้าที่สดชื่น

ลี่จีถองคิดไม่ถึงว่าลี่จุนถิงจะยินยอมง่ายๆอย่างนี้“จริงเหรอ?”

ลี่จุนถิงพูดอย่างเย็นชาว่า“แค่ป้าขอโทษหยุนเอ๋อ ผมจะคืนสินค้าให้ป้า”

เพราะยังไงเสียของพวกนั้นก็ไม่ได้มีราคามากมายสำหรับเขาเลย

“แหวะ”ลี่จีถองถุยน้ำลายลงบนพื้น มือทั้งสองข้างวางไว้ที่เอวเหมือนท่าทีคุณป้าขี้บ่น “ฝันไปเถอะ”

“คิก”ลี่จุนถิงหัวเราะเยาะ“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอพูดประโยคเดียวกันกับป้านะ ฝันไปเถอะ!”

หัวใจลี่จีถองเต้นตุกๆ ยิ่งคิดถึงท่าทีที่ลี่จุนถิงมีต่อตนยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นมาอีก ทำไมตนต้องไปขอโทษนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ด้วยล่ะ ลี่จีถองอย่างเธอเป็นคนมีศักดิ์ศรี ไม่มีทางทำแบบนี้เด็ดขาด

เห็นลี่จีถองไม่ได้โต้เถียงอีกต่อไป ลี่จุนถิงจึงเอื้อมมือไปจับมือของเจียงหยุนเอ๋อ พลางใช้น้ำเสียงอ่อนโยนซึ่งต่างไปจากเมื่อสักครู่นี้ “หยุนเอ๋อ พวกเราไปกันเถอะ”

ลี่จีถองได้ยินก็ไม่มีเวลาโมโหอีกต่อไป ไม่ง่ายเลยที่เธอจะมีโอกาสได้เจอตัวหลาน จะให้เขาไปง่ายๆอย่างนี้ได้อย่างไรกัน

“ไม่อนุญาตให้ไป”ลี่จีถองก้าวเท้ายาวไปด้านหน้า จับมือที่กำลังจะเปิดประตูรถของลี่จุนถิงไว้

ลี่จุนถิงมองลี่จีถองแวบหนึ่งอย่างรำคาญใจ

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ลี่จีถองตัดสินใจใช้กำลังกับเจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นจึงยกมือของตนขึ้นเตรียมทำท่าจะตบ