ตอนที่ 116 ลงมือ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 116 ลงมือ
ฉินหล่างเบิกตาโพลง “หมายความว่ามีคนชักใยอยู่เบื้องหลังท่านพ่อของข้าเช่นนั้นหรือ! ผู้ใดกัน! ฉีอ๋องอย่างนั้นหรือ ไม่…ฉีอ๋องเป็นคนใจกว้างมีเมตตา ต่อให้ต้องการแย่งชิงบัลลังก์กับซิ่นอ๋องก็ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอน ซิ่นอ๋องหรือ!”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้า ดูสิ…ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทีทางคิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะเป็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอคนนั้นหรอก

“จงหย่งโหวไม่เคยกล่าวออกมาว่าคือผู้ใด ท่านก็ไม่ควรจะถามเรื่องนี้ด้วย” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ซีดเผือดของฉินหล่าง

“ท่านเป็นคนฉลาด ได้รับตำแหน่งซื่อจื่อแห่งจวนจงหย่งโหวมาตั้งแต่เล็ก ท่านคงทราบดีว่าในฐานะของซื่อจื่อต้องให้ความสำคัญกับชีวิต และความรุ่งเรืองของทั้งตระกูลเป็นหลัก ต่อมาจึงจะเป็นชีวิต และชื่อเสียงของคนเพียงคนเดียว จงหย่งโหวมอบรายชื่อเหล่านี้ให้ท่านเพราะต้องการให้ท่านแบกภาระที่ยิ่งใหญ่ และสามารถดูแลรับผิดชอบทั้งตระกูลได้”

ไม่ว่าอย่างไรจงหย่งโหวก็เป็นบิดาของฉินหล่าง ความจริงแล้วนางไม่ได้เชื่อใจฉินหล่างถึงขนาดนั้น และไม่คิดว่าฉินหล่างจะยอมทอดทิ้งบิดาผู้ให้กำเนิดเพียงเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้ตระกูลไป๋

แม้ว่าบิดาคนนี้จะเคยปล่อยให้มารดาเลี้ยงรังแก สร้างความลำบาก และเห็นว่าเขาเป็นเพียงคนไร้ค่าก็ตาม

“คุณหนูใหญ่” ฉินหล่างใจสั่นวูบ “ท่านพ่อกล่าวสิ่งใดอีกหรือไม่ขอรับ”

“ท่านโหวกล่าวเพียงว่า…เขารู้สึกผิดต่อตระกูลไป๋ แล้วก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก ระหว่างทางที่ข้ากลับมาข้าครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว เรื่องที่ข้าไปพบท่านโหวในวันนี้คงปิดไม่มิด ท่านโหวคงเป็นคนส่งคนไปฆ่าปิดปากคนในรายชื่อพวกนี้ ย่อมมีหลักฐานหลงเหลืออยู่แน่ หากท่านต้องการปกป้องจวนจงหย่งโหวให้รุ่งเรืองสืบไป ท่านควรนึกอย่างละเอียดว่าก่อนที่คนเหล่านี้จะเสียชีวิต มีผู้ใดในจวนเจิ้นกั๋วกงมีความเคลื่อนไหวผิดปกติบ้างหรือไม่ ใช้ฐานะคุณชายใหญ่ของจวนจงหย่งโหวสืบเรื่องนี้อย่างละเอียด และรีบนำรายชื่อพวกนี้ไปมอบให้ศาลต้าหลี่!”

สีหน้าของฉินหล่างขาวซีดราวกับกระดาษ พยายามควบคุมสติเพื่อคิดวางแผน

ไปฟ้องร้องท่านพ่อที่ศาลต้าหลี่เช่นนั้นหรือ ทว่า…ท่านพ่อจะเป็นอย่างไรกัน!

ทำให้เสบียงเกิดปัญหา ไม่เพียงทำให้บุรุษทั้งหมดของตระกูลไป๋เสียชีวิตอยู่ที่หนานเจียง ทว่า ทหารนับแสนของแคว้นต้าจิ้นก็จบชีวิตลงเช่นกัน

ที่สำคัญ หลิวฮ่วนจางใช้เรื่องเสบียงหลอกลวงซิ่นอ๋องและเจิ้นกั๋วกง!

เสบียง…

ฉินหล่างหายใจไม่ทันจนเกือบล้มลงไปบนพื้น หากไม่ใช่เพราะจับโต๊ะไม้ที่อยู่ทางด้านหลังไว้ เขาคงขาอ่อนจนทรงตัวไม่อยู่แล้ว

หลิวฮ่วนจางทรยศแผ่นดิน นี่มันโทษประหารทั้งตระกูลชัดๆ!

“ท่านมีปฏิกิริยาเช่นนี้แสดงว่าท่านคงเข้าใจแล้ว ว่าท่านพ่อของท่านกับหลิวฮ่วนจางเกี่ยวข้องกันอย่างไร” ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนสะอาดบริสุทธิ์

“นี่คือเหตุผลที่ข้าไปพบท่านพ่อของท่านที่คุกต้าหลี่ในวันนี้ อย่างไรซะ น้องหญิงรองของข้าก็แต่งงานกับท่านแล้ว หากตระกูลฉินเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา น้องหญิงรองของข้าก็คงหนีไม่พ้น ดังนั้นต่อให้ข้าจะเกลียดจงหย่งโหวที่ทำให้เสบียงเกิดปัญหาเพียงใด ก็ต้องไปเพื่อน้องสาวของข้า มีประโยคหนึ่งที่ท่านย่ากล่าวได้ถูกต้องที่สุด คนตาย ตายไปแล้ว การมีชีวิตอยู่ต่อไปคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

ฉินหล่างได้สติขึ้น โค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“ขอบพระคุณหนูใหญ่มากขอรับ บุญคุณที่คุณหนูใหญ่เมตตาช่วยเหลือตระกูลฉิน ฉินหล่างจะตอบแทนอย่างแน่นอนขอรับ!”

ชายหนุ่มยืดกายขึ้น มองดูไป๋จิ่นซิ่วที่นั่งอยู่บนเบาะรองนั่งของเก้าอี้หิน กล่าวอย่างตัดใจ

“เช่นนั้น ข้าเขียนหนังสือหย่าให้จิ่นซิ่วก่อนดีหรือไม่ หากตระกูลฉินเกิดเรื่องอันใดขึ้น จะได้…”

“สามี ท่านกล่าวสิ่งใดออกมา!” ไป๋จิ่นซิ่วขอบตาร้อนผ่าว

“สามีภรรยาถือเป็นคนๆ เดียวกัน เมื่อเผชิญปัญหาจะแยกกันไปคนละทางได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ผู้คนในเมืองหลวงต่างกล่าวกันว่าตระกูลไป๋จะจบสิ้นแล้วแล้ว เหตุใดท่านจึงไม่เขียนหนังสือหย่าให้ข้ากัน!”

เมื่อเห็นว่าฉินหล่างรัก และปฏิบัติต่อไป๋จิ่นซิ่วเป็นอย่างดี ไป๋ชิงเหยียนจึงเบาใจลงไม่น้อย

“หากท่านกับจิ่นซิ่วยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น ฮ่องเต้อาจเห็นแก่องค์หญิงใหญ่ และความเสียสละของคนตระกูลไป๋เมตตาจวนจงหย่งโหว ท่านทราบเรื่องนี้หรือไม่!”

“ข้าทราบดี!” ฉินหล่างกล่าว

ชายหนุ่มมองไปทางไป๋จิ่นซิ่ว “จิ่นซิ่ว ข้าติดค้างเจ้ามากมายนัก ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

ขณะกล่าว ฉินหล่างเริ่มตาแดงก่ำ “อีกอย่างเรื่องที่ท่านพ่อของข้าทำในครั้งนี้ ทำให้คนในตระกูลไป๋…ข้ารู้สึกผิดต่อตระกูลไป๋จริงๆ!”

“เป็นสามีภรรยากัน อย่ากล่าวว่าท่านจะทำให้ข้าเดือดร้อน ท่านพ่อเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด มิใช่ท่านเสียหน่อย ข้าแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกับท่าน มิใช่ท่านพ่อ ท่านยอมย้ายออกจากจวนจงหย่งโหวเพื่อข้า ข้าจะทิ้งท่านไปตอนที่ท่านลำบากได้อย่างไรกัน ทายาทของตระกูลไป๋ซื่อสัตย์ และภักดีต่อครอบครัว ให้ข้าทอดทิ้งครอบครัวไปตอนที่ลำบาก ข้าทำมิได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับท่าน พวกเรารักใคร่กันดั่งสามีภรรยา ข้ายิ่งทำไม่ได้!” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวอย่างจริงจัง

“ฉินหล่าง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ท่านต้องแบกหน้าที่ดูแลรับผิดชอบจวนจงหย่งโหวแล้ว ชีวิตของจงหย่งโหวคงรักษาเอาไว้ไม่ได้ ทว่า ความรุ่งเรือง และเกียรติยศของจวนจงหย่งโหวยังสามารถมีอยู่สืบไป”

ไป๋ชิงเหยียนประคองเตาอุ่นมือไว้ในมือ กล่าวออกมาอย่างสงบนิ่ง

“หากท่านลงมืออย่างรวดเร็ว หรือทำให้ฮ่องเต้ทรงรับรู้ก่อนที่คนที่อยู่เบื้องหลังท่านพ่อของเจ้าจะลงมือปิดปากท่านพ่อของเจ้า ขอแค่ฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับการสืบสวนท่านพ่อของท่าน บางทีท่านพ่อของท่านอาจมีเวลาคิด และยอมสารภาพบาปด้วยตัวเอง”

ฉินหล่างกัดฟันกรอด พยักหน้า “ข้าทราบแล้ว ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่ที่แนะนำขอรับ ข้าจะกลับไปจวนจงหย่งโหวเดี๋ยวนี้”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

เมื่อฉินหล่างเดินจากไปไกลแล้ว ไป๋จิ่นซิ่วจึงหันไปมองไป๋ชิงเหยียน

“พี่หญิงใหญ่ จงหย่งโหวเป็นคนมอบรายชื่อพวกนั้นให้พี่หญิงใหญ่จริงหรือเจ้าคะ”

สายตาของไป๋ชิงเหยียนมองไปทางทิศที่ฉินหล่างเดินจากไป เอ่ยอย่างช้าๆ

“โชคดีที่ฉินหล่างกับท่านโหวไม่สนิทกัน บุตรไม่รู้จักบิดา บิดาไม่รู้จักบุตร มิเช่นนั้นคำกล่าวของพี่ในวันนี้คงหลอกฉินหล่างไม่ได้”

ในใจของฉินหล่าง แม้บิดาจะลำเอียงรักบุตรชายคนเล็กมากกว่าตน ทว่า บิดาของเขาเป็นคนที่ดูยิ่งใหญ่เสมอ

บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนหลอกฉินหล่างว่าฉินเต๋อเจาสำนึกผิด ยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องความสงบสุขของตระกูลไว้ ให้ฉินหล่างจัดการอย่างชอบธรรมเพื่อรักษาเกียรติยศของตระกูลฉินไว้สืบไป ฉินหล่างคิดว่าฉินเต๋อเจาเป็นคนแบบเดียวกับตนจะไม่เชื่อได้อย่างไรกัน

โกหกฉินหล่างจริงๆ ด้วย ไป๋จิ่นซิ่วถอนหายใจ

นางไม่รู้จักจงหย่งโหว ทว่า นางรู้จักพี่หญิงใหญ่ของนางดี เสบียงเกิดปัญหาจนทำให้บุรุษทั้งหมดของตระกูลไป๋เสียชีวิต ไม่ว่าอย่างไรพี่หญิงใหญ่ก็ไม่มีทางปล่อยฉินเต๋อเจาไปแน่ๆ

อีกอย่าง พี่หญิงใหญ่เคยกล่าวไว้ว่าจะช่วยให้ฉินหล่างได้ครอบครองตำแหน่งจงหย่งโหว นางต้องมีแผนการอยู่ในใจแล้วแน่นอน

“เจ้าคิดว่าการที่พี่ทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกฉินเต๋อเจาใช่หรือไม่ พี่หลอกใช้แม้กระทั่งน้องเขยของตัวเอง…”

ไป๋จิ่นซิ่วส่ายหน้า “บนโลกนี้ ทุกคนล้วนวางแผนทั้งนั้นเจ้าค่ะ สถานการณ์บีบจนพี่หญิงใหญ่ที่เป็นคนตรงไปตรงมาต้องใช้วิธีเช่นนี้บ้าง”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองไป๋จิ่นซิ่ว ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ บางปรากฏขึ้น

“ท่านย่าบอกว่าให้จัดพิธีศพอย่างเรียบง่าย ควรคิดได้แล้วว่าจะเขียนคำไว้อาลัยเช่นไรดี เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”

เกาเซิงลอบติดตามหญิงสาวตั้งแต่ที่นางออกจากจวนไปยังคุกต้าหลี่ ตอนนี้คงกลับไปรายงานเหลียงอ๋องแล้วกระมัง เหลียงอ๋องต้องมีความเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน

นางเดาว่าด้วยนิสัยที่รอบคอบของเหลียงอ๋อง เกรงว่าฉินเต๋อเจาคงไม่อาจมองเห็นพระจันทร์ของคืนนี้แล้วด้วยซ้ำ

ต่อมา หากต่งซื่อ นายหญิงใหญ่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกงเหนื่อยจนล้มพับ จวนเจิ้นกั๋วกงผ่อนคลายความเข้มงวด โอกาสของเหลียงอ๋องก็จะมาถึง…

หากชาตินี้ เหลียงอ๋องต้องการใช้จดหมายใส่ร้ายท่านปู่ว่าสมคบคิดกับแคว้นศัตรูอีกครั้ง เขาต้องเริ่มลงมือวางแผนแล้วแน่นอน