เข้าใจ​เป็นเรื่อง​หนึ่ง​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ตระกูล​หวง​หยาม​เกียรติ​พวก​นาง​ก็​เป็นเรื่อง​จริง​เหมือนกัน

นาย​หญิง​สาม​ยังคง​รู้สึก​ไม่สบายใจ

เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​จึง​จับมือ​ของ​นาย​หญิง​สาม​เอาไว้​ ​กล่าว​ด้วย​ความจริงใจ​อีกครั้ง​หนึ่ง​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ล้วน​เป็นความ​ผิด​ของ​พวก​ข้า​ทั้งหมด​ ​ข้า​กับ​สะใภ้​ต้อง​ขอโทษ​พวก​เจ้า​แล้ว​”

ต่อให้​นาย​หญิง​สาม​จะ​ขุ่นเคือง​ใจมาก​เพียงใด​ ​ก็​ไม่​อาจ​คิดบัญชี​กับ​ผู้อาวุโส​เช่นนี้​ได้

นาง​จำต้อง​พึมพำ​กล่าวว่า​ ​“​พวก​ท่าน​เอง​ก็​ไม่​คิด​ว่า​มัน​จะ​เป็น​เช่นนี้​”

หวัง​ซีก​ลับ​รู้สึก​ว่า​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​จบ​ไป​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ ​นาง​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ​เห็น​มีสาว​ใช้​เด็ก​เข้ามา​ตั้ง​น้ำชา​และ​ของว่าง​ ​จึง​ลุกขึ้น​มา​ ​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​ช่วย​สาวใช้​เด็ก​ยก​น้ำชา​ไป​วาง​ข้าง​มือ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา

เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​เอง​ก็​สังเกตเห็น​นาง​แล้ว​เช่นกัน​

นาง​เผย​รอยยิ้ม​หวาน​ออกมา​ทันที​ ​จ้องมอง​ด้วย​ดวงตา​เฉลียวฉลาด​แต่​ก็​เผย​ความไร้เดียงสา​ออกมา​ให้​เห็นด้วย​หลาย​ส่วน​พลาง​กระซิบ​ถาม​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ชรา​เจ้า​คะ​ ​เรื่อง​นี้​ช่าง​น่า​เหลือเชื่อ​นัก​!​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​ถูกใจ​พี่สาว​สี่​ของ​ข้า​?​ ​เรื่องเล่า​นี้​ ​เหมือนกับ​ที่​เขียน​เอาไว้​ใน​หนังสือ​นิทาน​ไม่มี​ผิด​ ​ไม่​สิ​ ​ดู​ซับซ้อน​กว่า​ที่​เขียน​เอาไว้​ใน​หนังสือ​นิทาน​อีก​เจ้าค่ะ​”

ความจริง​แล้ว​เวลา​พวก​ผู้ใหญ่​คุย​กัน​เด็ก​ๆ​ ​ไม่​ควร​กล่าว​แทรก​ ​แต่​ไม่​อาจ​ต้านทาน​ท่าทาง​ไร้เดียงสา​ที่​ชวน​เพ้อฝัน​ของ​หวัง​ซี​ได้​ ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​มอง​แล้วก็​รู้สึก​ชื่นชอบ​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​กับ​นาง​ด้วย​สีหน้า​ใจดี​ว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​เจ้า​ด้วย​!​”

ไม่ใช่​แล้ว​กระมัง​ ​นาง​ก็​แค่​อยาก​ช่วย​ฉัง​เคอ​ถาม​ให้​ชัดเจน​เท่านั้น​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ลาก​ตัวเอง​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ด้วย

นาง​รีบ​ถาม​ ​“ฮู​หยิน​ชรา​หมายความว่า​อย่างไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​ค่อยๆ​ ​กล่าว​ ​“​ที่​งานเลี้ยง​ของ​วัง​หลวง​ใน​วันนั้น​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ทรง​ยุ่ง​กับ​การ​เรียก​สตรี​ชั้นสูง​ทุกคน​เข้าเฝ้า​ ​ข้า​กับ​สะใภ้​ล้วน​เป็น​คนพูด​ไม่เก่ง​ ​กลัว​จะ​รบกวน​สุนทรียภาพ​ของ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ ​จึง​ไป​เดินเล่น​ด้านนอก​”

เพราะ​กลัว​รบกวน​สุนทรียภาพ​ของ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​หรือว่า​กลัว​ถูก​ดึง​เข้าสู่​การช่วงชิง​ของ​พระราชวัง​กัน​แน่นั​้น​ ​เกรง​ว่า​คง​เป็นการ​พูด​โน้มน้าว​ให้​คน​เชื่อมา​กก​ว่า​!

หวัง​ซี​วิจารณ์​อยู่​ใน​ใจ​ ​ไม่เชื่อ​ท่าทาง​อบอุ่น​อ่อนโยน​ไร้​พิษภัย​ของ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​และ​เหยี​ยนฮู​หยิน​อย่างที่​พวก​นาง​แสดงออก​มา

“​ใคร​จะ​รู้​ว่า​เดิน​ไป​เรื่อยๆ​ ​จะ​เห็น​เด็กสาว​สวม​ชุด​แดง​คน​หนึ่ง​ ​หน้าตา​งดงาม​อย่างแท้จริง​”​ ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​“​คาด​ว่า​พวก​เจ้า​คง​เคย​ได้ยิน​มาบ​้าง​แล้ว​ว่า​พวก​ข้ามี​เด็กชาย​มาก​เด็กสาว​น้อย​ ​ข้า​กับ​สะใภ้​ต่าง​รู้สึก​ชมชอบ​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​จึง​ตั้งใจ​เดิน​อ้อม​ไปดู​สักหน่อย​ ​พอ​เห็น​ก็​ให้​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ​ยิ่ง​ ​เด็กสาว​ผู้​นี้​งดงาม​กว่า​ที่​พวก​ข้า​จินตนาการ​เอาไว้​เสียอีก​…

…​ตอนนั้น​พวก​ข้า​จึง​คิด​กัน​ว่า​ ​อย่างไร​ก็​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​มิสู​้​ไป​คุย​กับ​เด็กสาว​คน​นี้​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ดีกว่า​ ​ดู​ว่า​เด็กสาว​ผู้​นี้​เป็น​ลูกหลาน​ของ​บ้าน​ใด​”

นี่​คือ​การ​อยาก​หา​อะไร​ทำ​ฆ่าเวลา​ตอนที่​รู้สึก​เบื่อหน่าย​มากกว่า​!

หวัง​ซีป​ระ​ชด​ประชัน

นาย​หญิง​สาม​กลับ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ที่​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​กล่าว​มา​หมายถึง​คุณหนู​ต่าง​สกุล​ของ​พวก​ข้า​หรือ​”

เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​พยักหน้า​ ​กล่าว​ต่อว่า​ ​“​ไม่​คิด​ว่า​ตอนที่​ข้า​ไป​ตามหา​อีกครั้ง​ ​ก็​ไม่เห็น​คุณหนู​หวัง​แล้ว​ ​กลับ​เห็น​คุณหนู​สี่​ของ​พวก​ท่าน​แทน​”​ ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​สีหน้า​นาง​ดู​ไร้​ทางเลือก​เล็กน้อย​ ​“​ตอนนั้น​คุณหนู​สี่​ของ​พวก​ท่าน​กำลัง​คุย​เรื่อง​เกี่ยวกับ​การ​แต่งงาน​ของ​คน​กับ​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​อยู่​”

​นาย​หญิง​สาม​มอง​ฉัง​เคอ​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​ไม่​ค่อย​พอใจ​นัก

ฉัง​เคอ​รู้สึก​ขมขื่น​ยิ่งนัก

นาง​แอบ​กระซิบกระซาบ​กับ​สหาย​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​จะ​มี​คน​มา​ได้ยิน​?

นาง​ก้มหน้า​ลง​อย่าง​คน​อยู่ในโอวาท​ ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​เรื่อง

“​ข้า​ได้ยิน​คุณหนู​สี่​พูดว่า​ ​งานแต่ง​จะ​ดี​หรือ​ร้าย​ ​ก็​เหมือน​ใส่​รองเท้า​ ​มี​เพียง​ตัวเอง​เท่านั้น​ที่​รู้​”​ ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​กล่าว​ ​“​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​ใต้​ผืน​ฟ้า​นี้​ไม่มี​อะไร​สมบูรณ์แบบ​ ​การ​แต่งงาน​ที่​ประสบความสำเร็จ​ห้า​ถึง​หก​ส่วน​ได้​ ​ก็​นับว่า​เป็นเรื่อง​ดี​แล้ว​ ​ส่วนที่เหลือ​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​ใช้ชีวิต​อย่างไร​…

…​ข้า​รู้สึก​ว่า​เด็กสาว​ผู้​นี้​กล่าว​ได้​มีเหตุผล​ยิ่ง​ ​จึง​ทด​เอาไว้​ใน​ใจ​ ​ให้​คน​ไป​สอบถาม​มาค​รั้ง​หนึ่ง​ ​ถึง​ได้​รู้​ว่าที่​แท้​ก็​เป็นคุณ​หนู​สี่​ของ​พวก​เจ้า​นี่เอง​”

เหยี​ยนฮู​หยิน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​พยักหน้า​ ​กล่าว​ต่อ​จาก​คำพูด​ของ​แม่​สามี​ว่า​ ​“​ประจวบเหมาะ​กับ​ที่​ตระกูล​หวง​มา​ขอให้​พวก​ข้า​ช่วย​เป็น​แม่สื่อ​ให้​คุณชาย​หวง​ ​ข้า​กับ​แม่​สามี​เห็น​ตรงกัน​ ​รู้สึก​ว่า​คุณหนู​สี่​ของ​พวก​ท่าน​นั้น​ ​นอกจาก​เฉลียวฉลาด​และ​หน้าตา​งดงาม​แล้ว​ ​ยัง​เฉียบแหลม​มอง​อะไร​ทะลุปรุโปร่ง​ ​ถึง​ได้​บังเกิด​ความคิด​ ​ไป​ทาบทาม​งานแต่ง​ครั้งนี้​ขึ้น​มา​…

…​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​คุณชาย​หวง​จะ​ไม่รู้​ความ​ขนาด​นี้​ ​นอกจาก​เปลี่ยนใจ​อย่างง่ายดาย​แล้ว​ ​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​หวง​ก็​เลอะเลือน​ตาม​เขา​ไป​ด้วย​”

กล่าว​จบ​ ​นาง​ถอนหายใจ​ติดๆ​ ​กัน​สองครั​้ง​ ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​ตระกูล​หวง​ทำ​เช่นนี้​ใช้การไม่ได้​ ​ใน​ระยะยาว​คง​ไป​ได้​ไม่​ไกล​”

หวัง​ซี​เอง​ก็​รู้สึก​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​นาง​คิด​ว่า​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ ​ทั้งสอง​ครอบครัว​ก็​อย่า​ติดต่อกัน​อีก​เลย

เพียงแต่ว่า​นาง​ไม่​อาจ​ตัดสินใจ​แทน​นาย​หญิง​สาม​ได้​ ​ทำได้​แค่​มอง​นาย​หญิง​สาม​ครั้งหนึ่ง​เท่านั้น

โชคดี​ที่นาย​หญิง​สาม​รักใคร่​บุตรสาว​ ​กับ​ตระกูล​หวง​ก็ดี​ ​กับ​บ้าน​รอง​ก็ดี​ ​ล้วน​รังเกียจ​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​ถือโอกาส​บอก​ตระกูล​เหยี​ยน​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​ไม่มี​วาสนา​ต่อกัน​แล้ว​ ​ต่อไป​พวก​ข้า​กับ​ตระกูล​หวง​นั้น​ ​ติดต่อกัน​ให้​น้อย​เข้า​ไว้​จะ​ดีกว่า​!​”

เนื่องจาก​ตอนนี้​บ้าน​สาม​อาศัย​อยู่​ใน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​และ​ไม่​อาจ​ย้ายออก​ไป​ได้​ทันที​ใน​เวลา​อัน​สั้น​ด้วย​ ​บ้าน​สาม​กับ​บ้าน​รอง​นั้น​เงยหน้า​ไม่​เจอ​ก้มหน้า​ก็​ต้อง​เจอกัน​อยู่ดี​ ​ต่อให้​นาย​หญิง​สาม​อยาก​ตัดขาด​กับ​บ้าน​รอง​ก็​เป็นไปได้​ยาก​ ​นาง​ถึง​ใช้​โอกาส​ตอนที่​คน​ตระกูล​เหยี​ยน​รู้สึก​ผิด​ต่อนาง​นี้​ ​เสนอ​ความต้องการ​ที่​มีต​่อ​ตระกูล​หวง​ขึ้น​มา​ข้อ​หนึ่ง

เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​ฝั่ง​ตัวเอง​ทั้งหมด​ ​จึง​รับปาก​ทันที​โดย​ไม่ต้อง​คิด

นาย​หญิง​สามวา​งค​วาม​กังวล​ใน​ใจ​ลงมา​ได้​ ​สนทนา​กับ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ชรา​และ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ครู่หนึ่ง​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​คุย​กันได​้​อย่าง​ออกรส

ตระกูล​เหยี​ยน​อยาก​ชดเชย​ให้​ฉัง​เคอ​ ​เหยี​ยนฮู​หยิน​ลาก​นาย​หญิง​สาม​ไป​ตัด​ชุด

นาย​หญิง​สาม​ไม่​อยาก​มี​ปฏิสัมพันธ์​กับ​ตระกูล​เหยี​ยน​มากเกินไป​ ​อย่างไร​ก็​ไม่​ยินยอม

หวัง​ซีก​ลับ​มอง​ความนึกคิด​ของ​ตระกูล​เหยี​ยน​ได้​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​ ​คิด​ว่า​หาก​ไม่​ให้​พวก​นาง​ชดเชย​ตอนนี้​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​พวก​นาง​จะ​คิด​อย่างไร​ ​ต่อให้​อยาก​ขีดเส้น​แบ่ง​กับ​ตระกูล​เหยี​ยน​ให้​ชัดเจน​ก็​เกรง​ว่า​คง​ไม่​ง่าย​นัก​ ​ไม่​สู้​รับเอา​ไว้​อย่างสงบ​ ​เมื่อ​ตระกูล​เหยี​ยน​สบายใจ​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​ก็​จะ​ผ่านพ้น​ไป​เอง

นาย​หญิง​สาม​ฟัง​ที่หวัง​ซี​โน้มน้าว​แล้ว​ ​แม้น​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เท่าไร​ ​แต่​ก็​ยังคง​ช่วย​เลือก​เสื้อผ้า​และ​เครื่องประดับ​ให้​ฉัง​เคอ​กับ​หวัง​ซี​หลาย​ชุด

หลังจาก​ส่ง​แม่​สามี​และ​สะใภ้​สกุล​เหยี​ยน​กลับ​ไป​แล้ว​ ​หวัง​ซีก​ล่า​วกั​บนาย​หญิง​สาม​ว่า​ ​“​ข้ามี​เสื้อผ้า​มากมาย​ ​ท่าน​ไม่ต้อง​ทำให้​ข้า​หรอก​ ​ตัด​ให้​พี่สาว​สี่​ทั้งหมด​เลย​ดีกว่า​”

มี​เพียง​นาง​ที่​ยัง​ไม่ได้​กำหนด​เรื่อง​งานแต่ง​ ​ต่อไป​นาง​คงได้​ติดตาม​ผู้อาวุโส​ออก​ไป​เข้าสังคม​ร่วมงาน​เลี้ยง​อีก​บ่อยครั้ง​ ​จะ​ได้​ใช้ประโยชน์

นาย​หญิง​สาม​ยืนกราน​ว่าไม่ได้​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ไม่​ให้​ข้า​ได้​นอนหลับ​สนิท​เลย​หรือ​ ​แม้น​เจ้า​อายุ​น้อย​ ​แต่​เรื่อง​ของ​อา​เคอ​นี้​ข้า​กระจ่างแจ้ง​แก่​ใจดี​ว่า​ล้วน​พึ่งพา​เจ้า​ทุกอย่าง​ ​เจ้า​เอา​ใส่ใจ​นาง​ยิ่งกว่า​พี่น้อง​แท้ๆ​ ​ของ​นาง​เสียอีก​ ​หัวใจ​ดวง​นี้​ของ​ข้า​รับรู้​มัน​ได้ดี​!​ ​หาก​จะ​กล่าวโทษ​ก็​กล่าวโทษ​ที่​ป้า​สะใภ้​สาม​กับ​ลุง​สาม​ของ​เจ้า​ไร้ความสามารถ​ ​ไม่​อาจ​ช่วยเหลือ​อะไร​เจ้า​ได้​เลย​ ​หาก​แม้แต่​สิ่งของ​เจ้า​ยัง​ไม่ยอมรับ​ไว้​ ​เจ้า​จะ​ให้​ข้า​เอา​ใบหน้า​ชรา​นี้​ไป​วาง​ที่ไหน​!​”

หวัง​ซี​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จำต้อง​ตาม​ฉัง​เคอ​ไป​ตัด​อาภรณ์​มาก​อง​หนึ่ง

เมื่อ​กลับ​ถึง​จวน​ ​พวก​นาง​บังเอิญ​เจอ​กับ​ฉัง​หนิง​ที่​ไม่ได้​พบ​มานาน

นาง​ทำความเคารพ​นาย​หญิง​สาม​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​ไม่​ประจบ​แต่​ก็​ไม่​โอหัง​ ​แต่​เมื่อ​นาย​หญิง​สาม​จากไป​ ​นาง​กลับ​กล่าว​กับ​ฉัง​เคอ​อย่างใจ​ร้าย​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​ขัง​ตัวเอง​ไว้​ไม่​ออก​ไป​ไหน​เสียอีก​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​ใจกล้า​ถึง​เพียงนี้​ ​วิ่ง​ไป​ตัด​ชุด​ที่​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​ได้​ ​คาด​ว่า​บ้าน​รอง​คง​ชดเชย​เงิน​ให้​เจ้า​ไม่น้อย​เลย​กระมัง​!​”

ฉัง​เคอ​โกรธ​จน​ตัวสั่น​ไม่​หยุด​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ไป​ครู่ใหญ่

หวัง​ซี​เห็น​แล้ว​ช่วย​ทวง​ความอยุติธรรม​แทน​นาง​ ​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​เย็นชา​อยู่​ด้าน​ข้าง​ทั้งที่​ไม่เกี่ยว​กับ​ตัวเอง​ว่า​ ​“​ของเล่น​ที่​เน่าเปื่อย​แล้ว​ ​ผู้ใด​ต้องการ​ก็​ลาก​เอา​ไป​ ​ควรค่า​ให้​พวก​ข้า​ต้อง​กิน​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​ที่ไหน​กัน​ ​ส่วน​เงิน​ค่า​ตัด​ชุด​ ​ขอ​เพียง​ข้า​ไม่ต้อง​ออก​เงิน​เอง​ ​ข้า​คิด​ๆ​ ​แล้วก็​รู้สึก​มีความสุข​มาก​จริงๆ​ ​พี่สาว​รอง​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​”

“​เจ้า​มัน​คน​ปาก​งูพิษ​”​ ​ฉัง​หนิง​ด่า​หวัง​ซี​ ​หวัง​ซีก​ลับ​ลาก​มือ​ฉัง​เคอ​เดิน​จากไป

ฉัง​หนิง​กระทืบเท้า​ ​ทว่า​ไม่กล้า​ไป​ฟ้อง​โหวฮู​หยิน​ ​กลัว​โหวฮู​หยิน​จะ​ขัง​นาง​ไว้​ใน​เรือน​อีก

ส่วน​งานแต่ง​ของ​ฉัง​เหยี​ยน​ ​นาง​ก็​ดูแคลน​ไม่​ต่างกัน​ ​นอกจาก​ไม่​ไป​กล่าว​แสดงความยินดี​กับ​ฉัง​เหยี​ยน​แล้ว​ ​ยัง​ถาม​ซือ​จู​ว่า​ ​“​ดีร้าย​ทุกคน​ก็​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​เจ้า​ก็​ไม่​ห้ามปราม​ฉัง​เหยี​ยน​สักหน่อย​ ​หาก​เรื่อง​แพร่​ออก​ไป​ ​ชื่อเสียง​ทุกคน​ล้วน​แย่​ไป​ด้วย​!​”​

ซือ​จูนั​่​งอยู​่​หน้า​กระจก​ ​จัด​ปิ่น​ชนิด​ต่างๆ​ ​ใน​กล่อง​อย่างตั้งใจ​ไป​ด้วย​ ​กล่าว​อย่าง​ไม่​ยี่หระ​ไป​ด้วยว่า​ ​“​ใต้​หล้า​นี้​มี​กำแพง​ที่​สายลม​ไม่​พัดผ่าน​ด้วย​หรือ​ ​นาง​เคย​ทำ​อะไร​ไว้​ ​ช้า​เร็ว​ทุกคน​ก็​รู้​เอง​ ​เหตุใด​ข้า​ต้อง​ช่วย​ปกปิด​ให้​นาง​ด้วย​ ​อีก​อย่าง​ ​นาย​หญิง​รอง​ของ​พวก​เจ้า​วางตัว​เป็น​คน​สง่างาม​มีคุณ​ธรรม​สูงส่ง​ผู้​หนึ่ง​ ​พูดจา​น่าฟัง​กว่า​ใคร​ทั้งหมด​ ​ทว่า​การกระทำ​กลับ​ไร้​ซึ่ง​คุณธรรม​ ​ตอนแรก​ขโมย​งานแต่ง​ของ​ตระกูล​หันไป​ ​บัดนี้​ก็​ขโมย​งานแต่ง​ของ​ตระกูล​หวง​ไป​อีก​ ​มี​แค่​เจ้า​เท่านั้น​ที่​ไม่รู้​จัก​ใช้​สมอง​ ​ตอนนี้​ยัง​มาเรีย​กร้อ​งค​วาม​ยุติธรรม​ให้​บ้าน​สาม​อยู่​ตรงนี้​อีก​”

ความหมาย​โดยนัย​ก็​คือ​ ​หาก​นาง​มี​เวลาว่าง​นัก​ไม่​สู้​ไป​สนใจ​เรื่อง​ของ​บ้าน​หลักดี​กว่า

ฉัง​หนิง​สะบัด​แขน​เสื้อ​จากไป​ด้วย​ความโกรธ

ซือ​จู​ร้อง​ ​“​ชิ​”​ ​คำ​หนึ่ง​ ​รู้สึก​ว่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่มี​คน​ปกติ​เลย​จริงๆ​ ​นาง​อยาก​จะ​รีบ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​เหลือเกิน

แน่นอน​ว่า​หวัง​ซีย​่​อม​ไม่รู้​ว่า​ฉัง​หนิง​กับ​ซือ​จู​คุย​อะไร​กัน​บ้าง​ ​นาง​เห็น​ว่า​ช่วงนี้​อากาศ​ดี​ ​จึง​ชวน​คุณหนู​พาน​กับ​ฉัง​เคอ​มาทำ​น้ำ​ปรุงรส​เห็ด​ปลวก​ด้วยกัน

น้อย​นัก​ที่​คุณ​พาน​จะ​ได้​ทำกิจกรรม​ประเภท​นี้​ ​จึง​สนใจ​มาก​ ​วิ่ง​มาช​่วย​ใน​ครัว​คัดเลือก​เห็ด​ปลวก​ตั้งแต่​เช้าตรู่

แม่ครัว​ที่​หลง​จู๊​ใหญ่​สกุล​หวัง​ส่ง​มา​ให้​กำลัง​ให้​คำแนะนำ​พวก​นาง​อยู่​ตรงนั้น​ ​“​เห็ด​ปลวก​ต้อง​เล็ก​ ​จะ​ให้​ดีที​่​สุด​หัว​ต้อง​สีดำ​ ​ใบ​ต้อง​ไม่​แตก​มาก​…​”

พวก​นาง​นั่ง​ทำงาน​หัว​ชนกั​นอยู​่​ใต้​ซุ้ม​องุ่น​ใน​ลานบ้าน​ ​ไป๋​กั่ว​วิ่ง​เข้ามา​ ​กล่าวว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อมา​หา​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​มีเรื่อง​ด่วน​ต้องการ​พบ​ท่าน​”

หวัง​ซี​แปลกใจ​ ​รีบ​วาง​ตะกร้า​หวาย​ลง​ ​บอกกล่าว​คุณหนู​พาน​กับ​ฉัง​เคอ​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​เดิน​ไป​ที่​โถง​รับรอง

“​พี่สาว​หวัง​ ​พี่สาว​หวัง​!​”​ ​ลู่​หลิง​สวม​เสื้อ​คาด​อก​สีม่วง​คราม​ขอบ​ลาย​ดอกไม้​กลางเก่ากลางใหม่​ตัว​หนึ่ง​ ​ด้านล่าง​เป็น​กระโปรง​จีบ​ผ้าไหม​หังโจว​สีขาว​ ​บน​มวยผม​ทั้งคู่​ปัก​ดอก​หอม​หมื่น​ลี้​สีทอง​เรืองรอง​เอาไว้​สอง​ช่อ​ ​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​อยู่​บ้าน​ ​จาก​ที่​ไกลๆ​ ​นาง​ก็ได้​กลิ่นหอม​เข้มข้น​ของ​ดอก​หอม​หมื่น​ลี้​แล้ว

หวัง​ซี​ตกใจ​มาก​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​เจ้า​เป็น​อะไร​หรือเปล่า​ ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​”

หนึ่ง​ไม่​ส่ง​เทียบ​มาแจ้ง​ก่อน​ ​และ​สอง​ไม่​แต่งกาย​ให้​เรียบร้อย​ก็​วิ่ง​ออกมา​หานา​งด​้ว​ยส​ภาพ​เช่นนี้​แล้ว

ลู่​หลิง​รีบ​คล้อง​แขน​ของ​หวัง​ซี​เอาไว้​ ​กล่าวว่า​ ​“​พี่สาว​สี่​ฉั​งคง​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​หรอก​กระมัง​ ​ข้า​ได้ยิน​คนพูด​กัน​ว่า​ ​คนที​่​พี่สาว​สาม​ฉัง​หมั้น​หมาย​ด้วย​ผู้​นั้น​ความจริง​แล้ว​ถูกใจ​พี่สาว​สี่​ฉั​งก​่อน​ ​นอกจาก​งานแต่ง​ของ​นาง​จะ​ล้มเหลว​แล้ว​ ​หย่ง​เฉิว​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยัง​ชดเชย​เงิน​ให้​พี่สาว​สี่​ฉัง​เพียง​จำนวน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​เป็นเรื่อง​จริง​หรือไม่​”

หวัง​ซี​ขมวดคิ้ว​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ผู้ใด​เป็น​คน​บอก​เจ้า​”

ข่าวคราว​นี้​แพร่กระจาย​ได้​เร็ว​เกินไป​แล้ว

“​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​เป็น​คน​บอก​ข้า​”​ ​ลู่​หลิง​ลด​เสียง​ลง​ ​“​เห็น​บอกว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เป็น​คนเล​่า​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ของ​พวก​นาง​ฟัง​ ​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ช่าง​เลอะเลือน​เกินไป​แล้ว​ ​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ก็​ไม่​อาจ​เอา​ไป​พูด​ไป​ทั่ว​ ​บัดนี้​มี​คน​เริ่ม​กระจาย​เรื่อง​นี้​กัน​แล้ว​ ​ต่อไป​จะ​ให้​พี่สาว​สาม​ฉั​งกับ​พี่สาว​สี่​ฉัง​ทำตัว​เช่นไร​!​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​ยินดี​กับ​ความ​โชคร้าย​ของ​ผู้อื่น

เป็นจริง​ตามนั้น​ ​เมื่อ​เรื่อง​นี้​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ทั้ง​ฉัง​เหยี​ยน​และ​ฉัง​เคอ​ล้วน​ต้อง​เสียหน้า​ด้วยกัน​ทั้งสิ้น​ ​แต่​ฉัง​เหยี​ยน​น่าจะเป็น​ทุกข์​มากกว่า​ ​เมื่อก่อน​นาง​อยาก​แต่ง​เข้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ ​ผล​ปรากฏ​ว่านาง​ถูก​ย่า​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​ตบหน้า​ ​นอกจาก​นาง​จะ​ไม่ได้​แต่ง​เข้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​แล้ว​ ​ย่า​ของ​นาง​ยัง​ทำให้​คน​จวน​เซียง​หยาง​โหว​รู้​ว่านาง​ขโมย​งานแต่ง​ของ​น้องสาว​อีก

เกรง​ว่านี​่​คง​เป็น​อะไร​ที่​แม้แต่​ใน​ความฝัน​นาง​ก็​ยัง​คิดไม่ถึง​เลย​กระมัง

หวัง​ซี​รู้สึก​ว่ายาย​ของ​นาง​ผู้​นี้​ก็​มี​อะไร​ให้​น่าสนุก​เหมือนกัน​ ​พลัน​รู้สึก​ว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่ได้​น่ารังเกียจ​ขนาด​นั้นแล​้ว

ลู่​หลิง​เห็นท่า​ที​ของ​หวัง​ซีก​็​รู้​แล้ว​ว่าที่​คน​ลือ​กัน​ข้างนอก​นั่น​เป็นเรื่อง​จริง​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​ ​“​พี่สาว​หวัง​ ​พี่สาว​หวัง​ ​ข้า​จะ​เป็น​แม่สื่อ​ให้​พี่สาว​สี่​ฉัง​เอง​ ​หาก​เจ้า​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​ว่า​ใช้ได้​ ​ข้า​จะ​ไป​คุย​กับ​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ ​รับรอง​ว่า​พึ่งพา​ได้มา​กก​ว่า​ตระกูล​หวง​ขี้ปะติ๋ว​อะไร​นั่น​ร้อย​เท่า​พัน​เท่า​!​”

…………………………………………………………………..

ตอนต่อไป