ตอนที่ 148 คนเคยรู้จัก

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​เกิดเรื่อง​ของ​ตระกูล​หวง​เช่นนี้​แล้ว​ ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​ฉัง​เคอ​ควร​พัก​เอาไว้​ก่อน​เป็น​ดีที​่​สุด​ ​ต้อง​ไม่​ตอบรับ​งานแต่ง​ของ​ผู้ใด​เพียง​เพราะ​ความกังวล​หรือ​ความโกรธ​ที่​คั่งค้าง​อยู่​เป็นอันขาด​ ​แต่​เด็กสาว​อย่าง​ลู่​หลิง​ผู้​นี้​ไม่​เหมือน​คนอื่น​ ​นอกจาก​นาง​จะ​จริงใจ​กับ​ผู้อื่น​แล้ว​ ​ทำ​อะไร​ก็​ควรค่า​ให้​คน​เชื่อใจได้​ด้วย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นาง​ยัง​บอกว่า​เรื่อง​นี้​นาง​จะ​ให้ท่าน​ย่า​ของ​นาง​เป็น​คน​ออกหน้า​ให้​ ​นั่น​ก็​ยิ่ง​น่าเชื่อถือ​มากขึ้น​แล้ว

​“​เจ้า​ลอง​ว่า​มาก​่อน​ ​เป็นคุณ​ชาย​ของ​ตระกูล​ใด​หรือ​”​ ​นาง​รีบ​ลาก​ลู่​หลิง​เข้าไป​ใน​โถง​รับรอง​ ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​เหมาะสม​จริงๆ​ ​ข้า​จะ​เป็น​แม่งาน​ ​ห่อ​รองเท้า​ถุงเท้า​ของ​ปีนี​้​ให้​เจ้า​เอง​”

​ของขวัญ​ขอบคุณ​แม่สื่อ​ต้อง​มี​รองเท้า​กับ​ถุงเท้า​ ​ถือเป็น​การ​ขอบคุณ​แม่สื่อ​ที่​เหน็ดเหนื่อย​วิ่ง​ไปมา​ให้

​ลู่​หลิง​หัวเราะ​คิก​ ​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ครอบครัว​นั้น​นับว่า​เป็น​สหาย​เก่าแก่​ของ​ครอบครัว​ข้า​ ​แซ่​เวิน​ ​บ้านเดิม​อยู่​ตง​อิ​๋ง​ ​เป็น​ผู้ลากมากดี​ของ​ที่นั่น​…

​…​คนที​่​ข้า​จะ​ทาบทาม​ให้​พี่สาว​สี่​ฉั​งคือ​คุณชาย​ใหญ่​ของ​พวกเขา​ ​ปีนี​้​อายุ​สิบ​แปด​ ​เนื่องจาก​เป็น​หลานชาย​คนโต​ที่เกิด​จาก​ภรรยา​เอก​ของ​ตระกูล​ ​ทั้ง​รูปงาม​และ​ฉลาด​มี​ความสามารถ​ ​ปู่​ของ​เขา​จึง​ให้ความสำคัญ​กับ​เขา​มาก​ ​ไม่ยอม​หมั้น​หมาย​ให้​เขา​เสียที​”

​หวัง​ซีฟัง​แล้ว​คิ้ว​กระตุก​เบา​ๆ

​ฟัง​ดู​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว

​“​คน​ผู้​นี้​ชื่นชอบศัส​ตรา​วุธ​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​ยัง​ค่อนข้าง​มีพรสวรรค์​อีกด้วย​ ​อายุ​สิบ​สี่​สิบห้า​ปีก​็​ดึง​คันธนู​หนัก​สาม​ต้าน​ได้​แล้ว​ ​ปู่​ของ​เขา​รู้สึก​ว่า​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​ช่วง​ก่อน​จึง​มา​ขอร้อง​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ ​บิดา​ของ​ข้า​จึง​เป็น​ผู้รับรอง​ให้​ ​หางา​นที​่​เหมาะสม​ใน​กองพล​ขนนก​ให้​เขา​ได้​หนึ่ง​ตำแหน่ง​…

​…​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ของ​พวกเขา​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ซื้อ​บ้าน​สาม​ทางเข้า​ตั้งอยู่​ทิศตะวันออก​ของ​เมือง​ให้​เขา​หนึ่ง​หลัง​ทันที​ ​ส่ง​พ่อบ้าน​ของ​ครอบครัว​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​ด้วย​…

​…​หาก​งานแต่ง​ครั้งนี้​สำเร็จ​ลง​ได้​ ​พี่สาว​สี่​ฉัง​ไม่มีทาง​เสียเปรียบ​อย่างแน่นอน​…

​…​เจ้า​เชื่อใจ​ข้า​ได้​!​”

​แน่นอน​ว่า​หวัง​ซี​เชื่อใจ​ลู่​หลิง​ ​แต่​ถ้า​ลู่​หลิง​เอง​ก็​ดู​ผิด​เล่า​?

​นาง​ถาม​อย่างสงบ​ว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​คิดได้​ว่า​อยาก​เป็น​แม่สื่อ​ให้​คุณชาย​เวิน​ท่าน​นี้​กับ​พี่สาว​สี่​”

​ลู่​หลิง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เพราะ​เมื่อวาน​เขา​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ปู่​ของ​เขา​ให้​นำ​พุทรา​มาส​่ง​ให้ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ ​หาไม่​แล้ว​ ​ข้า​เอง​ก็​นึกไม่ออก​เหมือนกัน​!​”

​หวัง​ซี​ถาม​ ​“​ก่อนหน้านี้​เจ้า​รู้จัก​ครอบครัว​นี้​หรือไม่​”

​เนื่องจาก​อยู่​ซาน​ตง​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​ตระกูล​ใหญ่​ตระกูล​โต​ใน​พื้นที่​ ​หาก​มี​ความลับ​น่าละอาย​อะไร​ ​พวก​นาง​อยาก​ตรวจสอบ​ก็​อาจจะ​ตรวจสอบ​ไม่​เจอ

​ลู่​หลิง​ยิ้ม​ตอบ​ ​“​แน่นอน​ว่าย​่​อมรู​้​จัก​อยู่​แล้ว​ ​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ของ​พวกเขา​กับ​ท่าน​ปู่​ของ​ข้า​เป็น​สหาย​สนิท​กัน​ ​ยัง​เคย​ช่วยชีวิต​ท่าน​ปู่​ของ​ข้า​เอาไว้​ด้วย​ ​เมื่อนานมาแล้ว​ ​ตอนที่​หน้าที่​การงาน​ของ​ท่าน​พ่อ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ยุ่ง​มาก​ขนาด​นี้​ ​ล้วน​หา​เวลา​ไป​คารวะ​เยี่ยมเยียน​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ของ​พวกเขา​ทุกปี​ ​เป็น​หลาย​ปี​มานี​้​ ​หลังจาก​มารดา​ของ​ข้า​เสียชีวิต​ ​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ก็​ต้อง​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ใน​จวน​ ​บิดา​ของ​ข้า​จึง​ไม่​อาจ​ออกจาก​เมืองหลวง​ตามใจชอบ​ได้​อีก​ ​ถึง​ได้​ห่าง​กัน​ไป​บ้าง​เล็กน้อย​…

​…​ครอบครัว​พวกเขา​ไม่เลว​เลย​จริงๆ​…

​…​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ตระกูล​เวิน​มีบุ​ตร​ชาย​สี่​คน​บุตรสาว​สอง​คน​ ​คุณชาย​เวิน​มีน​้​อง​ชาย​สาม​คน​และ​น้องสาว​สอง​คน​ ​ยัง​มีลูก​พี่​ลูกน้อง​ชาย​หญิง​ของ​อา​อีก​สิบ​กว่า​คน​ ​นอกจาก​เขา​กับ​คุณชาย​แปด​ของ​พวกเขา​ที่​ฝึก​วิทยา​ยุทธ์​แล้ว​ ​น้องชาย​คนอื่นๆ​ ​ของ​เขา​ล้วน​เรียนหนังสือ​อยู่​ใน​สำนัก​ศึกษา​ ​บรรพบุรุษ​ไม่มี​บุรุษ​คนใด​ละเมิดกฎหมาย​”

​เหตุใด​ฟัง​แล้ว​หวัง​ซี​รู้สึก​คุ้นหู​เหลือเกิน​!

​นาง​ร้อง​ ​“​อ๋อ​”​ ​เสียง​หนึ่ง​ ​ถาม​ว่า​ ​“​คุณชาย​เวิน​ท่าน​นี้​ยืมมือ​ของ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เข้า​กองพล​ขนนก​ใช่​หรือไม่​”

​“​น่าจะ​ใช่​กระมัง​!​”​ ​ลู่​หลิง​ไม่​ค่อย​กระจ่างแจ้ง​นัก​ ​กล่าวว่า​ ​“​สมัย​หนุ่ม​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​สนิทสนม​กับ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​มาก​ ​ไป​ขอให้​เขา​ช่วย​อะไร​เล็กน้อย​น่าจะ​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​”

​ไม่ใช่​แค่​ไม่ยาก​!​ ​เกือบ​ก่อ​มรสุม​ ​ทำให้​หวัง​ซี​ถูก​บังคับ​ให้​ไป​ขอร้อง​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​แทน​หย่ง​เฉิว​โหว​เสีย​แล้ว

​นาง​ยิ้ม​ขื่น​พลาง​ถาม​ ​“​พวกเขา​กับ​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ยัง​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​กัน​อยู่​ใช่​หรือไม่​”

​ลู่​หลิง​พยักหน้า​ ​กล่าวว่า​ ​“​ย่า​อีก​คน​ของ​เซียง​หยาง​โหว​เป็น​สตรี​จาก​ตระกูล​เวิน​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ย่า​ของ​เซียง​หยาง​โหว​ผู้​นี้​เสียชีวิต​ไป​นาน​แล้ว​ ​เหลือ​คุณหนู​เอาไว้​หนึ่ง​ท่าน​เท่านั้น​ ​หลังจาก​คุณหนู​ท่าน​นี้​ออกเรือน​ก็​เสียชีวิต​ด้วย​ภาวะ​คลอด​บุตร​ยาก​โดย​ไม่​ทิ้ง​บุตร​เอาไว้​เลย​สัก​คน​ ​ปู่​ของ​เซียง​หยาง​โหว​แต่งงาน​ใหม่​กับฮู​หยิน​อีก​ท่าน​หนึ่ง​ ​แม้​ทั้งสอง​ครอบครัว​ยัง​มี​การติด​ต่อกัน​อยู่​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ติดต่อกัน​บ่อย​เท่า​บ้าน​ข้า​ ​หาก​ไม่​เล่า​สาแหรก​กัน​อย่างละเอียด​ ​คนรุ่นหลัง​อย่าง​คุณหนู​ห้า​ของ​จวน​เซียง​หยาง​โหวก​็​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​เป็น​ญาติ​ทาง​ไหน​กับ​ตระกูล​เวิน​!​”

​ถ้าหาก​สิ่ง​ที่​ลู่​หลิง​กล่าว​มา​เป็นความ​จริง​ ​การทาบทาม​ครั้งนี้​ใช่​ว่า​จะ​ลองดู​ไม่ได้

​สิ่ง​สำคัญ​คือ​ลู่​หลิง​บอกว่า​คุณชาย​ตระกูล​เวิน​ผู้​นั้น​รูปงาม

​นาง​อด​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​ที่​บอกว่า​คุณชาย​ตระกูล​เวิน​รูปงาม​นั้น​งาม​อย่างไร​หรือ​”

​ลู่​หลิง​ตรึกตรอง​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​รูปงาม​กว่า​องค์​ชาย​สี่​”

​“​จริง​หรือ​”​ ​หวัง​ซี​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​ ​ถาม​ว่า​ ​“​เมื่อ​เทียบ​กับ​เฉินลั​่ว​เล่า​”

​“​พอ​ๆ​ ​กับ​เฉินลั​่​วก​ระ​มัง​!​”​ ​ลู่​หลิง​ตอบ

​“​เป็นไปได้​อย่างไร​!​”​ ​หวัง​ซี​ตกใจ​ ​ถาม​อย่าง​ไม่​อยาก​เชื่อ​ว่า​ ​“​เจ้า​บอกว่า​เขา​รูปงาม​กว่า​องค์​ชาย​สี่​มิใช่​หรือ​”

​“​ก็​ข้า​รู้สึก​ว่า​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​รูปงาม​กว่า​องค์​ชาย​สี่​นี่​นา​!​”​ ​ลู่​หลิง​กล่าว​อย่าง​ไม่เข้าใจ

​หวัง​ซีคิด​ว่า​ต่อให้​การทาบทาม​ครั้งนี้​ไม่สำเร็จ​ ​การ​ได้​ไปดู​ว่า​คุณชาย​เวิน​ท่าน​นี้​หน้าตา​เป็น​อย่างไร​ก็​ไม่​แย่​เหมือนกัน

​แต่​นาง​ยัง​ไม่​ถึงขั้น​ไป​โน้มน้าว​นาย​หญิง​สาม​เพียง​เพราะ​อยาก​ไปดู​ว่า​คุณชาย​เวิน​ท่าน​นี้​หน้าตา​เป็น​อย่างไร

​“​ข้า​คิด​ว่า​ด้าน​นาย​หญิง​สาม​น่าจะ​ยินดี​ไป​เจอ​สักครั้ง​หนึ่ง​”​ ​นาง​ขบคิด​พิจารณา​อยู่​ใน​ใจ​ ​กล่าว​กับ​ลู่​หลิง​ว่า​ ​“​ตระกูล​เวิน​นับว่า​เป็น​ตระกูล​ดีที​่​หา​ได้​ยาก​ตระกูล​หนึ่ง​ ​ก็​ต้อง​รอดู​ว่า​ตระกูล​เวิน​คิดเห็น​อย่างไร​กับ​ตระกูล​ฉัง​แล้ว​ ​เจ้า​บอกว่า​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ของ​ตระกูล​เวิน​ให้ความสำคัญ​กับ​หลานชาย​คนโต​ผู้​นี้​มาก​มิใช่​หรือ​ ​กลัว​แต่ว่า​บิดา​ของ​พี่สาว​สี่​ฉัง​ไร้​ยศ​ตำแหน่ง​ ​พวกเขา​อาจ​ไม่​ค่อย​พึงพอใจ​เท่าไร​”

​ลู่​หลิง​รีบ​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ไป​ถาม​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ดู​”

​กล่าว​จบ​ ​ก็​เดิน​จากไป​อย่างรวดเร็ว​ดุจ​สายลม​หอบ​หนึ่ง​เหมือน​ตอน​มา​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​ไป​เจอ​หน้า​ฉัง​เคอ

​กระทั่ง​หวัง​ซีก​ลับ​เข้ามา​ใน​ลานบ้าน​ ​ฉัง​เคอ​กับ​คุณหนู​พาน​ต่าง​มอง​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​นาง​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ ​“​คุณหนู​ลู่​เล่า​?​”

​หวัง​ซีพึม​พำ​งึมงำ​ ​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​จะ​หาเหตุ​ผล​ให้​เรื่อง​นี้​ได้​ ​แม้แต่​ตอน​ทำ​น้ำ​ปรุงรส​เห็ด​ปลวก​ ​แม่ครัว​ถาม​นาง​ว่า​ต้องการ​เติม​พริก​ลง​ไป​หรือไม่​ ​นาง​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​สิ่ง​นี้​จะ​เกิดขึ้น​ ​ทำ​น้ำ​ปรุงรส​เห็ด​ปลวก​ไร้​พริก​ออกมา​กอง​หนึ่ง

​น้ำ​ปรุงรส​ที่​ไม่มี​พริก​ ​สำหรับ​คน​สู่​จง​แล้วก็​เหมือน​น้ำ​ปรุงรส​ที่​ไม่มี​รสชาติ

​หวัง​ซี​หัวเราะ​ไม่​ออก​ร้องไห้​ไม่ได้

​ยังดี​ที่​ลู่​หลิง​วิ่ง​มาหา​อีกครั้ง​ช่วง​พลบค่ำ​ ​ยัง​เอา​พุทรา​มา​ให้​นาง​กับ​พวก​ฉัง​เคอ​ด้วย​หลาย​ตะกร้า

​“​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​บอกว่า​ใช้ได้​”​ ​นาง​กล่าว​อย่างดีอกดีใจ​ ​คล้าย​กำลัง​เป็น​แม่สื่อ​ให้​นาง​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ส่ง​ให้​ตระกูล​เวิน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​อย่างมาก​ครึ่ง​เดือน​ก็​น่าจะ​มี​ข่าวคราว​ตอบกลับ​มา​แล้ว​”

​กล่าว​จบ​ ​นาง​ยัง​ยัก​คิ้ว​อย่าง​ภาคภูมิใจ​พลาง​กล่าว​ ​“​ฮึ่ม​!​ ​ไม่มี​คน​ขาย​หมู​แซ่จาง​ ​ก็​คิด​ว่า​ต้อง​กิน​หมู​มี​ขน​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​!​ ​คอย​ดูเถิด​ ​ถึง​เวลา​จะ​ทำให้​พวก​เจ้า​ต้อง​ตกใจ​ครั้ง​ใหญ่​ ​ทำให้​พวก​เจ้า​ต้อง​เสียใจ​ภายหลัง​!​”

​หวัง​ซี​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น​ ​กอด​ลู่​หลิง​แรง​ๆ​ ​กล่าว​อย่าง​รักใคร่​ว่า​ ​“​เจ้า​ช่าง​น่ารักน่าชัง​จริงๆ​!​”

​ลู่​หลิง​ยัก​คิ้ว​ให้​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ ​จะ​วิ่ง​กลับ​ออก​ไป​ประหนึ่ง​ควัน​สาย​หนึ่ง​อีกครั้ง​ ​“​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​รอ​ข้า​กลับ​ไป​ลองเสื้อ​ผ้า​ชุด​ใหม่​อยู่​ ​อีก​สอง​วัน​ข้า​ต้อง​เข้า​วัง​ไป​เยี่ยม​เจียง​ไท่​เฟ​ยกั​บท​่าน​ย่า​”

​“​ไป​เถอะ​ ​ไป​เถอะ​!​”​ ​หวัง​ซี​โบกมือ​ ​วันรุ่งขึ้น​ให้​ไป๋​กั่ว​ไป​พบ​หลง​จู๊​ใหญ่​ของ​ตระกูล​หวัง​ ​“​หาวิ​ธี​ไปหา​ตุ๊กตา​ของ​ชาวตะวันตก​มา​ให้​คุณหนู​ลู่​”​

​ให้​นาง​ได้ดี​ใจ​สักหน่อย

​ไป๋​กั่ว​รับคำ​ยิ้ม​ๆ​ ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

​หวัง​ซี​อยาก​แบ่งปัน​เรื่องราว​นี้​ให้​เฉินลั​่ว​ฟัง​ ​นาง​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ให้​เฉินลั​่ว​ ​ทั้งสอง​คน​ไป​เจอกัน​ที่​กำแพง

​ตอน​เฉินลั​่ว​มา​ ​หวัง​ซี​มาถึง​ก่อน​แล้ว

​นาง​พาด​ตัว​อยู่​บน​กำแพง​ที่​ปูด​้วย​เสื่อ​ผ้า​เนื้อ​ละเอียด​สีฟ้า​ไร้​ลาย​อย่างใจ​ลอย​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

​สายลม​ยามค่ำคืน​พัด​เส้น​ผม​นาง​เบา​ๆ​ ​ตรง​จอน​ผม​มี​เส้น​ผม​ลุ่ย​ลงมา​ปอย​หนึ่ง

​เฉินลั​่​วรู​้​สึก​คัน​ยุบยิบ​ที่​มือ​อีกแล้ว​ ​อยาก​จับ​ผม​ปอย​นั้น​เกล้า​ขึ้นไป​ให้​นาง​ใหม่​ถึง​จะ​สบายใจ​ได้

​เพียงแต่ว่า​เขา​เพิ่งจะ​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​ ​หวัง​ซีก​็​ได้สติ​กลับคืน​มา​แล้ว​ ​กล่าว​ทักทาย​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ร่าเริง​ว่า​ ​“​เจ้า​มา​แล้ว​”​ ​ทว่า​ดวงตา​กลับ​ติด​ตรึง​อยู่​บน​ร่าง​เขา​ไม่​อาจ​ถอน​ออกมา​ได้

​เสื้อ​แขน​กว้าง​คอกลม​ผ้าไหม​หังโจว​สีขาว​พระจันทร์​ไร้​ลาย​ถูก​ลม​พัด​จน​แนบ​อยู่​บน​ตัว​เขา​ ​ไหล่​กว้าง​เอว​คอด​กิ่ว​ ​ช่วง​ขายาว​ดูดี​ ​ดุจ​ต้น​หลิว​ยืดหยุ่น​แต่​แข็งแรง​และ​ต้นสน​ที่มั่น​คง​ ​สว่างไสว​เย็นสบาย

​คุณชาย​เวิน​จะ​รูปงาม​เท่า​เฉินลั​่​วจ​ริง​หรือ​!

​หวัง​ซี​ไม่เชื่อ

​นาง​ถาม​เฉินลั​่ว​ ​“​พวกเรา​กำหนด​วิธี​ลับ​ๆ​ ​สัก​อย่างหนึ่ง​ขึ้น​มา​ได้​หรือไม่​ ​เวลา​ข้ามี​เรื่องด่วน​จะ​ได้​พบ​เจ้า​ได้​ทันที​”

​เฉินลั​่ว​คิด​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​เอา​ระฆัง​ไป​แขวน​ไว้​บน​ต้น​หลิว​ตรงนั้น​ ​เมื่อ​ข้า​ได้ยิน​เสียง​ระฆัง​ ​พวกเรา​ก็​มา​พบกัน​ตอน​ยาม​โหย​่ว[1]”​

​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​เมื่อ​เฉินลั​่​วก​ลับ​ถึง​บ้าน​ก็​จะ​ให้​คน​ไป​ฟัง​ดู​ว่า​มีเสียง​ระฆัง​จาก​ทาง​นี้​หรือไม่

​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​ดีมาก

​นาง​ยิ้ม​ตาหยี

​เฉินลั​่ว​ถาม​นาง​ ​“​มีเรื่อง​ด่วน​อะไร​หรือ​”​ ​ไม่อย่างนั้น​คง​ไม่รีบร้อน​มาหา​เขา​เช่นนี้

​หวัง​ซี​รีบ​เล่าเรื่อง​ที่​ลู่​หลิง​เป็น​แม่สื่อ​ให้​ฉัง​เคอ​ให้​เฉินลั​่ว​ฟัง​ ​ยัง​กล่าว​อย่าง​ไม่​หาย​ตื่นเต้น​ว่า​ ​“​หาก​สอง​ตระกูล​มา​วาง​สินสอด​ใกล้​ๆ​ ​กันได​้​ก็​คงดี​!​”

​เฉินลั​่ว​มอง​หวัง​ซีค​รั้ง​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ตระกูล​เวิน​นั่น​มี​กฎ​ว่า​ ​ต่อให้​ใน​บ้าน​จะ​มั่งคั่ง​ร่ำรวย​แค่ไหน​ ​บุตรหลาน​ใน​ตระกูล​แต่งงาน​ก็​มี​การกำ​หนด​สินสอด​ตายตัว​เอาไว้​เล่า​”

​ถึง​เวลา​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ผู้ใด​จะ​เสียหน้า​มากกว่า​กัน

​“​นั่น​เป็นปัญหา​อะไร​กัน​”​ ​หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​ไม่​ยี่หระ​ ​“​ข้า​เติม​ให้​นาง​ก็ได้​แล้ว​”

​เรื่อง​ที่​ใช้​เงิน​แก้ปัญหา​ได้​ ​ไม่​นับว่า​เป็นปัญหา

​เฉินลั​่​วก​ลับ​คิดถึง​ตระกูล​เวิน​ ​ถาม​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​คุณชาย​เวิน​ผู้​นั้น​มีนาม​ว่า​อะไร​”

​เขา​คิด​ว่า​จะ​ให้​ดี​ต้อง​ไป​สืบ​ดู​สักหน่อย

​เป็น​คน​ของกอง​พล​ขนนก​ ​ใคร​จะ​รู้​อาจจะ​ได้​ทักทาย​กัน​สักวันหนึ่ง​ก็​เป็นได้

​“​เห็น​ว่า​มีนา​มอั​กษร​เดียว​ว่า​ ​‘​เจิง​’​”​ ​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​ต่อให้​จิง​เฉิง​กว้างใหญ่​มาก​ ​แต่​ต้อง​มีสัก​วันที่​เฉินลั​่​วจะ​ได้​เจอ​ ​หาก​สืบ​ได้​ว่า​คน​ผู้​นี้​เป็น​คน​เช่นไร​ก็​ยิ่ง​ดี

​ไม่​คิด​ว่า​เฉินลั​่ว​ได้ยิน​แล้ว​จะ​พยักหน้า​ ​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​มาหา​ข้ามี​อะไร​”

​หวัง​ซี​ตะลึงงัน

​เมื่อ​ครู่​นาง​พูด​ไป​แล้ว​นี่​นา​!

​เฉินลั​่ว​ย่น​คิ้ว​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ยัง​มีธุระ​ ​มีเรื่อง​อะไร​ ​พวกเรา​ค่อย​คุย​กัน​อีกที​ครั้งหน้า​ก็แล้วกัน​!​”

​หวัง​ซี​เบื้อ​ใบ้​ ​เฉินลั​่ว​หมุน​กาย​เดิน​จากไป​แล้ว​ถึง​ได้สติ​คืน​กลับมา​ ​นาง​เดือด​ปุด​ปุด​ ​หัก​กิ่ง​หลิว​มา​โยน​ใส่​หลัง​ของ​เขา

​เฉินลั​่​วที​่​เดิน​อยู่​ใต้​แสงจันทร์​เม้มปาก​กลั้น​หัวเราะ​ ​มี​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​ปรากฏ​อยู่​ตรง​หาง​ตา

​เขา​ถาม​เฉิน​อวี​้​ที่​เดินตาม​มา​ว่า​ ​“​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหวก​ลับ​ไป​ตอน​ไหน​”

​เฉิน​อวี​้​กระซิบ​กล่าว​ ​“​กลับ​ไป​ก่อนที่​ท่านกั​๋​วกง​จะ​กลับมา​ขอรับ​”​ ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​ดวง​หน้า​เขา​เผย​แวว​ลังเล​ออกมา​ให้​เห็น

​เฉินลั​่ว​ครวญ​เสียงเย็น​ครั้งหนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​มา​เยี่ยม​มารดา​ข้า​ ​บิดา​ข้า​ยัง​ไม่รู้​ ​หาก​บอกว่า​ไม่มี​ฝีมือ​ของ​มารดา​ข้า​อยู่​ด้วย​ ​ผู้ใด​จะ​เชื่อ​”

​เฉิน​อวี​้​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ยิ้ม​ขื่น​ ​ไม่​อยาก​ให้​เฉินลั​่ว​เห็น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ตรวจสอบ​มา​แน่ชัด​แล้ว​ ​อีก​สอง​วัน​เป็น​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ของ​เจียง​ไท่​เฟย​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​แล้ว​ ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​มีพ​ระ​ประสงค์​จะ​จัดงาน​อย่างดี​ให้​เจียง​ไท่​เฟ​ยสั​กค​รั้ง​หนึ่ง​ ​ก็​เลย​อยาก​เชิญ​จ่าง​กง​จู่​เข้า​วัง​ขอรับ​”

​เฉินลั​่ว​หลุบ​ตาก​้​มห​น้า​ลง

​เชิญ​มารดา​ของ​เขา​เข้า​วัง​เป็นเรื่อง​รอง​ ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​อยาก​ใช้​โอกาส​นี้​ขอโทษ​ฮ่องเต้​ ​นี่​ต่างหาก​คือ​วัตถุประสงค์​หลัก​ของ​ตระกูลปั​๋ว

​มารดา​ของ​เขา​น่าจะ​ตอบรับ

​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​มารดา​ของ​เขา​ล้วน​ให้ความสำคัญ​กับ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง

​แต่​น้ำเสียง​ของ​เฉิน​อวี​้​เปลี่ยนไป​ ​ดวงตา​เผย​ความ​งุนงง​ออกมา​พลาง​กล่าว​ต่อว่า​ ​“​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​ยัง​หารือ​กับ​จ่าง​กง​จู่​ด้วยว่า​ ​อยาก​ใช้​โอกาส​ที่​จัดงาน​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ให้​เจียง​ไท่​เฟ​ยนี​้​ ​สมทบ​เงิน​ค่า​เครื่องเขียน​ให้​องค์​ชาย​ทั้งหมด​ขอรับ​”

​เฉินลั​่ว​หน้า​เคร่ง

​เบี้ย​รายเดือน​ของ​เหล่า​องค์​ชาย​ล้วน​ถูก​กำหนด​เอาไว้​ตายตัว​ ​เบี้ย​รายเดือน​มาก​น้อยมี​ผล​ต่อ​รายจ่าย​ของ​แผ่นดิน​ ​ดึง​ขน​เพียง​หนึ่ง​เส้น​แต่​กาย​สั่น​ไป​ทั้ง​ร่าง​ได้​ ​ปกติ​แล้ว​ไม่​อาจ​เปลี่ยนแปลง​ได้​ ​เหล่า​องค์​ชาย​เอง​ก็​ใช่​ว่า​อยาก​ใช้จ่าย​อย่างไร​ก็​ใช้จ่าย​อย่างนั้น​ได้

​หาก​ฮ่องเต้​เห็นใจ​โอรส​ ​องค์​ชาย​ที่​ยัง​เรียนหนังสือ​อยู่​ก็​จะ​ใช้​ค่า​เครื่องเขียน​เป็น​ข้ออ้าง​ ​องค์​ชาย​ที่​เสกสม​รส​แล้ว​จะ​ใช้​ค่า​ฟืน​ไฟ​เป็น​ข้ออ้าง​ ​ลอบ​สมทบ​เงิน​ให้​องค์​ชาย​เป็นการ​ส่วนตัว​อย่าง​ลับ​ๆ

​แต่​การ​เอาเรื่อง​ลับ​มาก​ระ​ทำ​อย่างโจ่งแจ้ง​เช่นนี้​ ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​คิด​จะ​ทำ​อะไร​กัน​แน่

​ใต้​หล้า​ปรองดอง​กัน​แล้ว​ ​ทุกคน​จะ​ได้ส่วน​แบ่ง​อย่างนั้น​หรือ

​…………………………………………………………….

[1]ยาม​โหย​่ว ​17.00-19.00​ ​นาฬิกา

ตอนต่อไป