“เจ้าคิดงั้นเหรอ?”

หญิงสาวในชุดม่วงมองไปที่กองทัพที่นำโดย เจี๋ยสวี่”จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยาน ไม่ใช่คนเรียบง่ายขนาดนั้น เขากระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ซุนฮก ผู้มีพรสวรรค์ อัครมหาเสนาบดีเจี๋ยสวี่ ตั้งแต่กวาดล้างกองกำลังของอาณาจักรซีหยางได้พวกเขาก็มีชื่อเสียงขึ้นอย่างมากในราชอาณาจักร”

“และ เกาชุน อดีตรองผู้บัญชาการของทหารองค์รักษ์ ตอนนี้ได้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักร ชื่อเสียงของเขาได้ขยายไปทั่วหลายประเทศโดยรอบ โดย เฉพาะ เจี๋ยสวี่ ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปทั่ว หยูโจว ในสายตาของคนอื่น แม้จะเป็นชื่อเสียงเล็กน้อย แต่เขาก็มีความฉลาดอย่างมาก ตั้งแต่ที่มารับใช้ลู่เฟิง ภายใต้การชี้นำของลู่เฟิง เขาก็สามารถแสดงความสามารถของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ได้รับบรรดาศักดิ์อัครมหาเสนาบดี มีข่าวลือว่า เหตุผลที่ ลู่เฟิง เอาชนะ อาณาจักรซีหยางได้ เป็นเพราะ เจี๋ยสวี่ เป็นคนคิดค้นกลยุทธ์”

“นอกจากนี้ ยังมี ลิโป้ ที่ไม่เคยโด่งดังมาก่อน ภายหลัง ที่นำทัพทหารม้าผู้ภักดีหนึ่งแสนนายปรากฏตัวขึ้นจากอากาศที่บอบบาง มันได้ทำลายความหวังในการมีชีวิตรอดของกองทัพ 1.3 ล้านคนของอาณาจักรซีหยาง ทั้งยังมี พี่น้อง เมิ่งเถียน เมิ่งอี้ ที่นำกองทัพบุกยึดเมือง หยุนไห่ และ เมืองหลวงของอาณาจักรซีหยาง”

“คนเหล่านี้ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ภายหลังที่มารับใช้ลู่เฟิง พวกเขาสามารถแสดงพรสวรรค์ของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ข้าเองก็รู้สึกชื่นชมในความสามารถของจักรพรรดิลู่เฟิงแห่งอาณาจักรหนานหยาน!”

สาวใช้ที่ได้ยินเช่นนั้นได้กล่าวถามทันที”เช่นนั้นคุณหนูจะเดินทางไปพบ ลู่เฟิง ใช่หรือไม่?”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ข้าต้องการดูว่าเขาจะสามารถกำจัดกองกำลังกบฏของอาณาจักรหนานหยานได้หรือไม่ สิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าข้าจะควรร่วมมือกับเขาดีไหม!”หญิงสาวในชุดม่วงได้ตอบกลับ

สาวใช้พยักหน้าและดูเหมือนจะเข้าใจ

“เอาล่ะ ให้คนไปเตรียมพร้อมเอาไว้ พวกเราจะเดินทางออกจากเมืองทางตอนใต้ที่วุ่นวายแห่งนี้”

“เจ้าค่ะ!”

สาวใช้รีบลงไปจัดการทันที หญิงสาวได้หันไปมองที่ เมืองงูหยก และ บ่นพึมพัมเล็กน้อย”เป็นอาณาจักรที่น่าสนใจจริง ๆ หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”

ในด้านของ เจี๋ยสวี่ หลังจากที่ทุกคนย้ายออกจาก เมืองงูหยกทางตอใต้ เขาก็ได้รับข่าวจากจินยี่เหว่ยและรู้ว่ากองทัพติดตามของ ราชาเมกาทรอน อยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงหนึ่งวัน

เขาได้ให้คนติดต่อไปยังเมืองงูหยกทางตอนเหนือทันที

ทางด้าน ราชาเมกาทรอน ที่ได้รับข่าว เขาได้นั่งอยู่ในคฤหาสน์เจ้าเมืองงูหยก ด้วยสีหน้ามืดมน

ตึก!

ฟ่านจุนได้เดินเข้ามาหา ลู่เว่ย

“นอกจากการยึดครองเมืองงูหยกทางตอนใต้ ยังมีข่าวร้ายอื่นอีกหรือไม่?”ลู่เว่ย ได้กล่าวถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ทหารที่ฝ่าบาทส่งไปก่อนหน้านี้พวกเราพบศพเขาที่แม่น้ำงูหยก!”ฟ่านจุนได้ตอบกลับ

ตึง!

ลู่เว่ย ได้ตุบโต๊ะที่ด้านหน้าของเขาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขากล่าวพูดด้วยความโกรธ”ลู่เฟิง ไม่คิดจะให้ทางรอดแก่ข้าจริง ๆ ใช่ไหม?”

หากไม่มี เมืองงูหยกทางตอนใต้ เขาก็ไม่สามารถส่งข่าวได้ในตอนนี้ เขาเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้ กองทัพของเขา ถูกล่ามอยู่ในกรงอย่างแท้จริง

ไม่มีโอกาสหลบหนี

ใบหน้าของ ฟ่านจุน ก็น่าเกลียดมาก

“ส่งต่อคำสั่ง!”

ลู่เว่ย ได้สูดลมหายใจเข้าลึก”ให้ทหารเตรียมพร้อมต่อสู้ หาก ลู่เฟิง ต้องการบุกโจมตีเมือง ให้กองกำลังทำการป้องกันทันที!”

“ขอรับ!”

หลังจาก ฟ่านจุน ออกไป ลู่เว่ย ก็บ่นพึมพัมออกมา”ลู่เฟิง ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าเจ้าจะทำลายเมืองงูหยกของข้าได้หรือไม่!”

ทางด้านของลู่เฟิง เขาเฝ้ามองดูการล่าถอยของกองทัพที่หลบเข้าไปในเมืองงูหยกทั้งหมดเขาได้ถอนหายใจออกมา”โอ้ว,ลุงของข้าดูเหมือนจะมีสมองอยู่บ้าง เขาได้วางรูปแบบทางการทหารเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารม้าของข้าลอบโจมตี!”

ลู่เฟิง ในตอนนี้มีทหารม้าไม่มาก เขาไม่สามารถปล่อยให้ทหารเหล่านี้วิ่งไปโดนเกาทันฑ์ของอีกฝ่ายโจมตีแบบฟรี ๆ ได้

“ฝ่าบาทไม่ต้องกังวล รูปแบบทางการทหารของอีกฝ่ายวางไว้เพียงเพื่อป้องกันทหารม้าของเรา แต่ยังไงก็ไม่สามารถรับประกันความอยู่รอดของพวกเขาได้!”เหลียนป๋อได้ตอบกลับ

“ท่านมีแผนการใช่หรือไม่?”ลู่เฟิงกล่าวถาม

“ฝ่าบาท จะได้เห็นในไม่ช้า!”

เหลียนป๋อ ได้ตอบกลับ ไม่นาน เครื่องยิงหินมากกว่าหนึ่งโหลได้ถูกดึงออกมา ตามคำสั่งของ เหลียนป๋อ เครื่องยิงหินเหล่านี้ มีไว้เพื่อทำลายรูปแบบทางการทหารของศัตรู

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าอย่างลับ ๆ เขารู้ว่า เครื่องยิงหินเหล่านี้ไม่สามารถเล็งได้อย่างแน่ชัด ท้ายที่สุดระยะยิงของมันก็ไม่ไกลเกินไป

อย่างไรก็ตาม เครื่องยิงหินนี้ เหลียนป๋อ ได้ทำมาเป็นพิเศษ มันสามารถยิงได้ไกลพอสมควร

หลังจากทำลายรูปแบบทางการทหารส่วนหนึ่งได้เขาก็ให้ทหารม้าเข้าชาร์จ

แต่เห็นได้ชัดว่า ราชาเมกาทรอนได้ตระหนักถึงสิ่งนี้อยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่ เกาทันฑ์ถูกทำลาย พลธนูจำนวนมากก็ออกมาซ้อนเพื่อช่วยเหลือ

ฝนลูกศร ทำให้ ลู่เฟิง ไม่มีความคิดที่จะปล่อยทหารม้าเข้าชาร์จอีกต่อไป เขาไม่ต้องการให้ทหารม้าสูญเสียสาหัสในสถานที่แห่งนี้

แม้จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ลู่เฟิง ก็ทำได้เพียงแค่เฝ้าดู ราชาเมกาทรอนหลบอยู่ในเมืองงูหยก

“ฝ่าบาท เหวินเหอ ส่งข่าวมาพะยะค่ะ!”ในเวลานี้ ซุนฮก ได้มาหาลู่เฟิง

ลู่เฟิง ได้หยิบมันขึ้นมาดูและหัวเราะออกมา”เหวินเหอ สมแล้วที่เป็นอัครมหาเสนาบดีของข้า ทำได้ดีมาก!”

เหลียนป๋อ และ ซุนฮก ที่ได้ยินดังนั้น พวกเขามองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยความสงสัย

ลู่เฟิง ได้ส่งจดหมายรายงานการต่อสู้ของ เจี๋ยสวี่ ให้พวกเขาทันที

เมื่อพวกเขาได้เห็นพวกเขาก็ดีใจอย่างมาก”อัครมหาเสนาบดีเจี๋ย ช่างสุดยอดจริง ๆ เขาได้ยึดเมืองงูหยกทางตอนใต้ ตอนนี้ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องรีบโจมตีอีกแล้ว พวกเราเพียงแค่ค่อย ๆ โจมตี และ บ่อนทำลายจิตวิญญาณต่อสู้ของราชาเมกาทรอน หลังจากผ่านไปหลายวัน อีกฝ่ายจะต้องทุกข์ร้อนใจเป็นแน่”

ลู่เฟิง ได้ยิ้มและพยักหน้า”ถูกต้องนี่เป็นโอกาสที่เหวินเหอสร้างให้กับพวกเรา!”

“ซุนฮก!’

“ข้าน้อยอยู่นี่พะยะค่ะ!”

“จัดการเรื่องนี้ในทันทีและแจ้งให้ทุกคนในเมืองงูหยกทางตอนเหนือทราบเรื่องนี้!”

“ขอรับ!”

ซุนฮก ได้ถอยออกไป

“เหลียนป๋อ!”

“ขอรับ!”

“จัดการให้ใครบางคนตะโกนใส่เมืองงูหยกเพื่อกระจายข่าว ถ้า ราชาเมกาทรอน ต้องการจะสู้ ก็ปล่อยให้ทหารของเขาสูญเสียจิตวิญญาณต่อสู้”

“ข้าน้อยจะทำตามคำสั่งทันที!”

หลังจาก นั้น ลู่เฟิง ก็จ้องมองไปที่ เมืองงูหยกที่อยู่ตรงหน้าและกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม”ดูเหมือนว่าการที่ฉันจะสามารถทำลายเมืองงูหยกได้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น”

หลังจากที่ทหารอีกฝ่ายสูญเสียจิตวิญญาณต่อสู้ ลู่เฟิง มั่นใจว่าจะสามารถทำลายเมืองงูหยกได้ในระยะเวลาอันสั้น

เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่ไม่ใช่สงครามระหว่างประเทศ มันเป็นสงครามภายในอาณาจักร

ไม่นาน ข่าวของ ซุนฮก ก็แพร่ออกไป ตระกูลผู ได้รับข่าว และ อาวุโสหลายคนได้มารวมตัวกันในห้องลับด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดมาก