ตอนที่ 165 บาดเจ็บ
ตอนที่ 165 บาดเจ็บ
“สวัสดีครับ ผมชื่อเฉียนต้าเฉิง เป็นเพื่อนของเสี่ยวหลิน และเป็นสหายพี่ชายควบหัวหน้าของจินซานด้วย” เมื่อเฉียนต้าเฉิงเห็นหลินจินชานก้าวเข้าไปแนะนำตัวเอง เขาก็เดินตามมาเช่นกัน
“พี่เฉียน สวัสดีครับ”
แม้ว่าเฉินเจียเหอจะดูเป็นคนห่างเหินเย็นชาและเข้ากับผู้อื่นได้ยาก แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเพื่อนและญาติของหลินเซี่ยอย่างสุภาพมาก
ได้ยินเฉินเจียเหอเรียกเขาว่าพี่ชาย เฉียนต้าเฉิงก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมามาก
“พี่เฉิน เรียกผมว่าเฉิงจื่อก็ได้ ต่อไปนี้ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าด้านไหน สามารถเรียกใช้ได้เลย”
“ครับ”
ยังไม่ทันที่เฉียนต้าเฉิงจะพูดอะไรเพิ่มเติม เซี่ยไห่ก็มองพวกเขาด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง “พวกนายนี่ขยันเสนอหน้ากันจริง ๆ เลยนะ ไม่ข้ามหัวเจ้านายอย่างฉันไปเลยล่ะ? คิดว่าฉันมองไม่ออกเหรอว่าพวกนายพยายามสร้างสัมพันธ์กับเขา?”
เจ้าโง่ทั้งสองคนนี่ทำงานอยู่บนชั้นสองเมื่อเช้านี้และแอบคุยกันว่าจะรอให้เฉินเจียเหอกลับมาแล้วหาวิธีสร้างความประทับใจอันดีกับอีกฝ่าย เพื่อที่เฉินเจียเหอจะช่วยออกหน้าสนับสนุนเรื่องงานกับเจ้านาย
เซี่ยไห่เกือบจะไล่สองคนนี้ออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
เฉียนต้าเฉิงและหลินจินซานตกใจมาก ต่างคนต่างรีบหุบปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
เฉียนต้าเฉิงอยู่กับเซี่ยไห่มาเป็นเวลานาน จึงมีไหวพริบสูงกว่ามาก “จินซาน ไปเถอะ ไปทำงานกันต่อ”
เฉียนต้าเฉิงคว้าหลินจินซานแล้วหลบเลี่ยงไปจากสถานการณ์น่าอึดอัด
หลินเซี่ยมองไปที่เฉินเจียเหอแล้วพูดว่า “ผมคุณเริ่มยาวแล้ว เดี๋ยวฉันตัดผมให้ แล้วพวกเราค่อยกลับบ้านกันนะคะ”
“เอาสิ”
หลินเซี่ยรีบไปทดสอบอุณหภูมิน้ำเพื่อเตรียมสระผมให้เฉินเจียเหอ
มองเห็นเซี่ยไห่ยังนั่งแช่อยู่ข้าง ๆ เฉินเจียเหอจึงพูดว่า “เหล่าเซี่ย นายกลับไปก่อนเถอะ ไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง”
“ฉันไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว จะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละ นานมากแล้วตั้งแต่เราเจอกันครั้งล่าสุด นายไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง?”
เฉินเจียเหออยากบอกเหลือเกินว่า ไม่เลย!
หลินเซี่ยสระผมให้เฉินเจียเหอ จากนั้นก็เริ่มตัดผมบราวนี่ออนไลน์
เฉินเจียเหอเพลิดเพลินกับการบริการของภรรยาอย่างเงียบ ๆ
เขามักจะตัดผมสั้นเสมอ แต่คราวนี้เขาไม่ได้เข้าร้านตัดผมมาเป็นเวลานาน ทำให้ตอนนี้ผมของเขายาวมากจนน่ารำคาญ ถึงเวลาเปลี่ยนทรงผมเสียที
หลินเซี่ยตัดผมให้เขา เปิดข้างจนสั้น แล้วเล็มผมส่วนบนออก ทำให้ใบหน้าเขาดูอ่อนกว่าวัยลงหลายปี
“หืม? ฝีมือของหลินเซี่ยไม่เลวเลยนี่”
เซี่ยไห่มองไปที่เฉินเจียเหอ ออร่าของเขาแตกต่างไปจากตอนที่เขาเพิ่งกลับมาอย่างสิ้นเชิง
เซี่ยไห่มองเขาผ่านกระจกเงา ชอบทรงผมใหม่ที่หลินเซี่ยตัดให้
“ไปกันเถอะ วันนี้ปิดร้านเร็วหน่อยก็แล้วกัน”
หลินเซี่ยปิดเครื่องทำน้ำอุ่น เก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็ล็อกประตูร้าน
ขณะที่ครอบครัวทั้งสามกำลังจะเดินกลับบ้าน เซี่ยไห่ก็เดินตามพวกเขาออกไปด้วย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เฉินเจียเหอคงจะต้อนรับขับสู้เขาเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขาต้องการความเป็นส่วนตัวกับภรรยาของเขามากกว่า ใจจริงอยากให้เซี่ยไห่พาหู่จื่อไปนอนด้วยด้วยซ้ำ
เขามองไปที่เซี่ยไห่ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “นายจะตามฉันกลับบ้านหรือไง?”
“ทำไม? ตั้งแต่นายแต่งงาน ฉันก็ตามนายกลับบ้านไม่ได้แล้วเหรอ?” เซี่ยไห่ถามด้วยใบหน้ายั่วเย้า
เมื่อเฉินเจียเหอคิดว่าเครื่องใช้ต่าง ๆ ในบ้านต่างก็เป็นน้ำใจจากเซี่ยไห่ที่ออกเงินซื้อให้ทั้งนั้น จนป่านนี้เขายังไม่ได้จ่ายเงินคืนให้อีกฝ่ายเลย เขาก็นึกเกรงใจอีกฝ่ายขึ้นมา “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
เฉียนต้าเฉิงและหลินจินซานเห็นว่าเซี่ยไห่กำลังจะจากไป พวกเขาก็ออกมายืนอยู่หน้าประตูแล้วถามว่า “หัวหน้า แล้วพวกเราเลิกงานได้หรือยังครับ?”
เซี่ยไห่ดุอย่างโกรธเคือง “เลิกงานกับผีอะไร? นี่มันเพิ่งจะกี่โมงเอง? งั้นถ้าฉันจ่ายเงินเดือนให้พวกนายแค่ครึ่งหนึ่ง นายยอมหรือเปล่าล่ะ?”
เฉียนต้าเฉิงหดคอลงด้วยความกลัว เตรียมหันกลับเข้าไปทำงานต่อ
เซี่ยไห่ออกคำสั่งอย่างเข้มงวด “ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างที่เราเพิ่งไปซื้อกันมาวันนี้ให้เรียบร้อย วันพรุ่งนี้ค่อยออกไปซื้ออย่างอื่นมาเพิ่ม”
“เข้าใจแล้วครับเถ้าแก่”
เซี่ยไห่ติดตามสมาชิกครอบครัวทั้งสามกลับไปที่อาคารพักอาศัย
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในประตูอาคาร หยางเป่าเฉวียนก็วิ่งเข้ามาหาและตะโกนเรียกเฉินเจียเหอด้วยท่าทางเป็นกังวล “เฉินกง รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนผ้ากอซเร็วเข้า ระวังแผลที่บาดเจ็บจะติดเชื้อเอา”
“เปลี่ยนผ้าก๊อซ?” หลินเซี่ยและเซี่ยไห่มองไปที่เฉินเจียเหอด้วยความตกใจพร้อมกัน
หยางเป่าเฉวียนบอกว่า “เฉินกงบาดเจ็บ เขาไม่ได้บอกเธอหรอกเหรอ?”
เฉินเจียเหอหันไปขยิบตาให้หยางเป่าเฉวียน เป็นเชิงบอกเขาว่าอย่าพูดมาก
จากนั้นเมื่อเขาสบตากับหลินเซี่ยที่เป็นกังวล ก็อธิบายด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “อย่ากังวลเลย ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอก เป็นแผลแค่นิดหน่อย ต้องคอยเปลี่ยนผ้ากอซให้ตรงเวลาและพักผ่อนอย่างเพียงพอ”
หลินเซี่ยถาม “คุณบาดเจ็บได้ยังไงคะ?”
“เข้าบ้านแล้วค่อยคุยกัน”
หลังจากเข้าไปในบ้าน หลินเซี่ยยืนกรานจะให้เขาถอดเสื้อผ้าออก เพราะอยากตรวจสอบบาดแผล
เซี่ยไห่ก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน เข้าไปหยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาจากชั้นวางอย่างรวดเร็ว
เฉินเจียเหออธิบายว่า “พ่อของหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายบุกเข้ามาในทีมตรวจสอบพร้อมกับมีด เขารู้สึกสะเทือนใจมาก คิดว่าการที่รถไฟตกรางถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของช่างเทคนิค ก็เลยเงื้อมีดฟันเพื่อระบายความแค้น แต่ผมเข้าไปขวางเขาไว้ได้ทันเวลา”
หลินเซี่ยถอดเสื้อเขาออก เห็นไหล่ของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้ากอซ
เซี่ยไห่หยิบกล่องปฐมพยาบาลมาวาง แต่เมื่อเขาเปิดฝาออก กลับไม่เจอผ้ากอซอยู่ข้างใน
“ฉันจะออกไปซื้อผ้ากอซกับไอโอดีน”
ขณะที่เขากำลังจะออกไป เลขานุการหลี่และหยางเป่าเฉวียนก็มาที่ประตูพร้อมกับหมอจากคลินิกประจำโรงงาน
หลังจากที่เฉินเจียเหอกลับมาเขาก็ตรงไปหาหลินเซี่ย นี่จึงถือเป็นครั้งแรกที่เลขาหลี่ได้เจอเขา จึงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ “เสี่ยวเฉิน ผมได้ยินเหล่าหยางบอกว่าคุณได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องเปลี่ยนผ้ากอซให้ตรงเวลา ผมรู้ว่าคุณเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ดังนั้นเลยพาหมอมาทำแผลให้ถึงบ้าน”
“ขอบคุณครับเลขาหลี่”
หยางเป่าเฉวียนมองไปยังรอยแผลของเฉินเจียเหอ บ่นว่า “ตอนแรกผมบอกแล้วว่าให้เขากลับบ้านมาพักผ่อน แต่พอเขาเห็นว่าภรรยากับลูกชายไม่อยู่ที่นี่ ก็ยืนกรานว่าจะออกไปตามหาพวกเขาให้ได้”
“สหาย นั่งบนโซฟาในท่าที่ผ่อนคลายที่สุด และอย่าขยับในขณะระหว่างที่ผมทำแผลและเปลี่ยนผ้ากอซให้” หมอสวมถุงมือ จากนั้นก็จัดการล้างแผลอย่างชำนาญ
เลขานุการหลี่ยืนอยู่เคียงข้าง พร้อมกับยกนิ้วให้เฉินเจียเหอ
“เสี่ยวเฉิน เหล่าหยางบอกผมว่าคุณได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่หลายวันก่อน แต่คุณก็มุ่งมั่นอยู่ที่ไซต์งาน ทำงานจนสำเร็จลุล่วง นับว่าคุณมีจิตสำนึกในการทำงานที่ดีมาก ผมจะเขียนเอกสารส่งขึ้นไปที่ฝ่ายบริหารของโรงงานเพื่อมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้”
เฉินเจียเหอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เลขาหลี่ นั่นคืองานของผม ในเวลาแบบนี้ใครจะยังมีใจเห็นแก่รางวัลอะไรนั่นอีก?”
การเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ในครั้งนี้ ทำให้เขาประสบความสะเทือนขวัญและเสียกำลังใจมากเกินไป ในฐานะกำลังหลักของฝ่ายช่างเทคนิค เขาไม่ได้รู้สึกดีเลย
“ผมผิดไปแล้ว อย่าลืมพักผ่อนเยอะ ๆ ล่ะ”
พอหมอเปลี่ยนผ้ากอซให้เฉินเจียเหอเสร็จ เลขาหลี่ก็ตระหนักถึงสถานการณ์ จึงรีบขอโทษเขา และกำชับให้เขาพักผ่อนอย่างเต็มที่
หยางเป่าเฉวียนพูดว่า “เสี่ยวเฉิน พวกเราขอตัวก่อนนะ คืนนี้อย่าลืมนอนหลับพักผ่อนเยอะ ๆ เรายังต้องเข้าไปที่โรงงานเพื่อเรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าของงานพรุ่งนี้เช้า”
“ครับ”
หลังจากที่เลขาหลี่และคนอื่น ๆ จากไปแล้ว หลินเซี่ยมองไปที่เฉินเจียเหอด้วยสีหน้าเศร้าโศก น้ำตาคลอเบ้า
เฉินเจียเหอลูบหัวเธอและปลอบเบา ๆ “ไม่เป็นไรแล้ว เรื่องเล็กน้อย”
หลินเซี่ยเห็นว่าริมฝีปากของเขาเหมือนจะแห้งผากอีกครั้ง จึงวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อต้มน้ำร้อน
เซี่ยไห่มองดูเขาและถามอย่างจริงจัง “อุบัติเหตุร้ายแรงมากเหรอ?”
“อืม”
เฉินเจียเหอเม้มริมฝีปาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาหนักอึ้ง “นี่อาจจะเป็นอุบัติเหตุรถไฟโดยสารที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ ตู้โดยสารสี่คันตกรางและไถลตกลงไปจากเนินเขา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมหลายร้อยคน เมื่อเรามาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเคลียร์สถานที่เกิดเหตุ ฉากนั้นน่าสลดใจมาก”
เฉินเจียเหอถึงกับฝันร้ายบ่อยครั้งในช่วงสองสามคืนแรกตอนอยู่ที่นั่น ในฝันเต็มไปด้วยเหตุการณ์นองเลือด
เขาลูบหน้าตัวเองพลางถอนหายใจ “ในฐานะสมาชิกของโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตหัวรถจักร ฉันรู้สึกอึดอัดและเสียใจมากเมื่อเห็นเหตุการณ์แบบนี้”
เซี่ยไห่ตบไหล่เขา “อย่าเศร้าไปเลย ฉันได้ยินมาว่ามันไม่ใช่หัวรถจักรที่ผลิตโดยโรงงานของนายนี่นา นายไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ทั้งนั้นกับเรื่องนี้ ฉะนั้นอย่าแบกความกังวลจนเกินไป”
เมื่อเซี่ยไห่ตบไหล่ให้กำลังใจ เฉินเจียเหอก็สูดลมหายใจเข้าเสียงดัง แสดงออกถึงความเจ็บปวด “ลืมหรือไงว่าฉันเจ็บตรงนี้?”
“ขอโทษที ลืมไปเลย”
เซี่ยไห่รีบรีบดึงมือของเขากลับด้วยท่าทางเคอะเขิน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับโดยอัตโนมัติเมื่อเขาเผลอทำอะไรไม่เข้าท่า
“เจ็บมากไหม?” เซี่ยไห่พูดพลางตั้งท่าจะถอดเสื้อเขาอีกรอบเพื่อตรวจดู
“ไม่มาก”
เมื่อเฉินเจียเหอเห็นหลินเซี่ยเดินเข้ามา ท่าทางของเขาก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
หลินเซี่ยนำน้ำมาเสิร์ฟให้เขากับเซี่ยไห่
“เถ้าแก่เซี่ย ดื่มน้ำก่อนค่ะ”
“ขอบคุณ”
หลินเซี่ยปรนนิบัติสามีอย่างดี ถึงกับยกแก้วขึ้นมาจ่อปากเฉินเจียเหอโดยตรง เฉินเจียเหอจิบน้ำช้า ๆ ด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“เฉินเจียเหอ อย่าคิดมากเลยค่ะ คิดซะว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นทั้งบทเรียนและประสบการณ์ คุณจะได้ควบคุมการผลิตหัวรถจักรคันใหม่ที่มีความก้าวหน้าและปลอดภัยมากขึ้นในอนาคต”
เฉินเจียเหอมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วตอบกลับว่า “ผมจะพยายามอย่างเต็มที่”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
โห พี่เหอบาดเจ็บแล้วไม่บอกใครเลยเหรอ พี่ไม่ใช่คนเหล็กนะ อย่าเก็บงำอะไรไว้คนเดียวสิ
ไหหม่า(海馬)