บทที่138 บาดเจ็บเพื่อข้า ?
” ความรู้สึกเช่นนี้ดีมากใช่หรือไม่? ” เย่แจ๋หยิ่งถามด้วยเสียงทุ้ม
หากรู้ว่าริมฝีปากของนางจะทำให้เขาหลงไหลได้ถึงเพียงนี้ เขาก็คงไม่หากห้ามตัวเองเพียงเพราะนางจูบเขาด้วยจุดประสงค์อื่นหรอก
” ดีอะไรกัน ! ปล่อยข้านะ ”
หลานเยาเยาเลียริมฝีปากที่บวมแดงเล็กน้อยของตัวเองแล้วกัดปากตัวเองด้วยความหดหู่
ทั้งที่จูบได้ย่ำแย่ขนาดนั้น แล้วทั้งที่ตอนยังมีสติก็สร้างเกราะกำบังในใจแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังหลงเข้าไปในกับดักนั่นอยู่ดี
แย่แล้ว !
ไหนพูดแล้ว ว่าจะเป็นสหายร่วมต่อสู้ที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน ตอนนี้ดันจูบกันเสียแล้ว
จะทำยังไงดี?
“······”
เย่แจ๋หยิ่งไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่ก็ยังปล่อยนางออกแต่โดยดี
เขารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่านางเองก็ให้ความร่วมมือ ทำไมพอหยุดถึงได้เปลี่ยนสีหน้าเป็นคนละคนเสียแล้วเล่า?
ในขณะที่เขายังงงงวยอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นคราบแดงๆบนไหล่ เขาก็ไม่ได้ที่จะตะลึงงัน
เขาจึงรีบหันไปยังหลานเยาเยาที่กำลังขึ้นไปยังหลังม้าโดยทันที
ก็เห็นว่านางขมวดคิ้วแน่น ทั้งยังใช้แรงของมือข้างเดียวดึงตัวเองขึ้นม้าไป แต่แขนอีกข้างกลับถูกบดบังด้วยร่างเล็กของนาง
เขามิได้ถามอะไรทั้งสิ้นก็กระโดดขึ้นไปยังหลังม้า จากนั้นก็ดึงนางเข้ามายังอ้อมแขนของตัวเอง พลันเอาบังเหียนออกจากมือของนาง ทั้งยังหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสของแขนที่ได้รับบาดเจ็บของนางอีกด้วย
“ย่าห์······”
หลานเยาเยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการกระทำอันกระทันหันของเขา จึงอดมิได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองเขา แต่ก็ได้เห็นว่าเขาเองก็ละสายตาจากทางข้างหน้าลงมายังร่างของนาง
แล้วยังโน้มลงมาจูบเบาๆบนผมที่เปียกปอนของนางด้วยความรวดเร็วอีก พร้อมด้วยแววตาที่เอาแต่ใจ
แม่เจ้า !
นี่เป็นเพราะนางไม่ปกติ หรือเย่แจ๋หยิ่งไม่ปกติกันแน่ ?
ในขณะเดียวกันในใจของนางก็ถูกบางสิ่งบางอย่างอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด จนทำให้ยิ่งรู้สึกขึ้นมามากยิ่งขึ้น
เดิมทีนางนั้นรู้สึกกังวลหดหู่มากอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ทำให้นางกังวลจะยังมาอยู่ตรงหลังของตัวเอง
หลังจากที่ควบม้ามาหยุดยังหน้าประตูจวนอ๋องเย่ ในขณะที่หลานเยาเยายังมิได้ตอบสนองสิ่งใด นางก็ถูกเย่แจ๋หยิ่งอุ้มลงจากหลังม้าเสียแล้วพร้อมทั้งยังพานางไปยังลานซวนซีอีกเสียด้วย
พ่อบ้านที่เห็นก็รีบยิ้มออกมาด้วยความปลาบปลื้ม
เหล่าองครักษ์เองที่พอเห็นเข้าต่างพาการลืมหน้าที่การลาดตระเวนไปเสียแล้ว ล้วนพากันมองไปยังท่านอ๋องของตัวเองอุ้มพระชายาเดินผ่านไป ก่อนจะตะโกนให้กำลังใจ
ครู่ต่อมา ณ ลานซวนซี
หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งยืนเผชิญหน้ากัน สายตาของทั้งสองต่างก็แฝงด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
” ท่านกล่าวอะไรนะ ? ”
เมื่อสักครู่ตอนที่เข้ามาในห้อง เย่แจ๋หยิ่งกล่าวบางอย่างที่แปลกๆออกมาประโยคหนึ่ง ซึ่งทำให้นางยอมรับไม่ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามอีกครา
” เมื่อคราก่อนข้าเคยกล่าวไว้ว่าไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ เป็นเพราะข้าไม่สามารถปกป้องความบริสุทธิ์ของเจ้าได้ มิได้คิดที่จะหย่ากับเจ้าเลย ”
” จากนั้นเล่า? ” เพียงเท่านี้?
หลานเยาเยากระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้ ในตอนกลางวันได้กล่าวไว้เสียเป็นทางการเช่นนั้น คงไม่ได้อยากจะกล่าวเพียงเท่านี้หรอกสินะ !
” ไม่มีสิ่งใดจากนั้น รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย! ”
” ท่านไม่ออกไปรึ? ” หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
คนที่ตัวเปียกชุ่มไปทั้งร่างก็ไม่ได้มีนางคนเดียวเท่านั้น เขาเองก็เปียกเช่นกันมิใช่หรือ?
ไม่เป็นไรหากเขาไม่คิดจะไปเปลี่ยนเสื้อ แต่จะมายืนนิ่งอยู่ตรงนี้ นี่เขาคิดจะอยู่ดูนางเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไงกัน?
” ดูแล้วเหมือนเจ้าจะไม่ถนัด ให้ข้าช่วยแล้วกัน! ”
ห๊า?
หมายความว่าอันใดกัน?
นางที่ยังไม่ทันได้ตอบกลับสิ่งใดก็เยแจ๋หยิ่งเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าจากนั้นก็หยิบเอาชุดๆหนึ่งออกมาทั้งยังมีผ้าคลุมหน้าอกและกางเกง
ง้องั้นหรือ….
หลานเยาเยาหน้าแดงขึ้นมาทันทีพลางพูดอย่างระมัดระวัง
” ท่านจักทำสิ่งใดกัน ? ”
ทันทีที่เข้ามาในห้องก็อธิบายสิ่งที่กล่าวไว้ในตอนกลางวัน แล้วในเวลานี้ยังจะมาดูนางเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำให้ไม่สามารถที่จะอดคิดไปในทางที่ไม่ดีได้เลย
” ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้า! ” คำตอบของเขานั้นดูมีเหตุผล ไม่เป็นดังที่นางคิดไว้เสียเลยอย่างนั้น
” ไม่ต้องๆ ข้าทำเอง ท่านจะไม่ออกไปก็ไม่เป็นไร อย่าแอบดูก็พอ ”
นางหยิบเสื้อผ้าจากมือของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบไปยังด้านหลังที่กั้น
แต่ทว่า !
นางที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าก็ได้ยินเสียงอันเรียบเฉยดังแทรกเข้ามา
“เจ้านาย ยามาแล้วขอรับ! ”
” อืม! ”
จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเย่แจ๋หยิ่งที่ยิ่งฟังก็ยิ่งใกล้นางเข้ามาทุกที ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และแล้วไม่กี่วินาทีต่อมา เย่แจ๋หยิ่งก็มาถึงยังด้านหลังที่กั้น ไม่มีแม้แต่เวลาที่ให้นางได้หลบเลยเขาก็ตรงไปดูไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บของนาง
” บาดเจ็บเพราะข้างั้นหรือ? ”
บาดแผลบนแขนของนางนั้นลึกอย่างมากแล้วยังมีเลือดไหลอยู่ตลอด
ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจสาเหตุที่นางรีบร้อนกลับมาแล้ว แต่เขายังจะไปสกัดนางไว้กลางทางอีก แล้วยังทำเรื่องเช่นนั้นกับนางอีก เมื่อพิจารณาดูแล้วก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย
” ท่านเลิกหลงตัวเองได้แล้ว ข้าไม่ทันได้ระวังจึงถูกฟันเอา”
” เจ้าได้รับบาดเจ็บก็เพื่อข้า! ”
ในคราก่อนที่หลานจิ่นเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บ นางยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากที่หลานจิ่นเอ๋อได้รับบาดเจ็บ ความสนใจของเขาก็เพ่งไปยังร่างของหลานจิ่นเอ๋อ ฉะนั้นคงจะได้รับบาดเจ็บในเวลานั้นเป็นแน่
“แขร๊ก······”
เย่แจ๋หยิ่งเอื้อมมือมาฉีดแขนเสื้อข้างที่ได้รับบาดเจ็บ แต่พอฉีกครั้งหนึ่งก็ฉีกไปทั้งเสื้อเสียแล้ว
การฉีกเสื้อนั้นถึงกับทำให้นางตะลึงงัน ในขณะที่นางกำลังจะเอ๋ยปากถาม องครักษ์ลับที่อยู่ข้างนอกก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครา เพียงแต่ครานี้เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด
หลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งหันหลังออกไป ในไม่ช้าเขาก็กลับมาพร้อมกับเตาไฟอันหนึ่ง จากนั้นก็วางมันลงยังข้างเท้าของนาง
แม่เจ้า!
อยู่ๆเย่แจ๋หยิ่งก็ช่วยก่อไฟในนาง พรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้นมายังทางทิศตะวันตกหรือไม่นะ ?
” ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าท่านคือเย่แจ๋หยิ่ง? ”
คนที่อยู่สูงและน่าเกรงขามอย่างเย่แจ๋หยิ่ง จุดไฟในนางงั้นรึ ?
หากประกาศออกไป คนอื่นคงจะคิดว่านางเป็นบ้าแล้วเป็นแน่
แต่แล้ว เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ตอบคำถามของนาง ใช้เพียงสายตาที่เย็นชามองไปยังนาง ก่อนที่จะตวาดลงมายังร่างของนาง
เสื้อชั้นในสีขาวบริสุทธิ์และผ้าคลุมหน้าอกสีแดงสด ล้วนแต่เปียกชุ่มไปหมดทำให้ผ้าติดแนบกับร่างกายของนาง เป็นเหตุให้ยามที่นางขยับตัวดูแล้วน่าดึงดูด
เขาถึงกับกลืนน้ำไหลอย่างอดไม่ได้ จึงทอดสายตาไปทางอื่นแทน
เสื้อคลุมที่เปียกชุ่มก็ถูกฉีกจนขาดแล้ว แต่เสื้อชั้นในและผ้าคลุมหน้าอกเองก็เปียกหมดแล้วเช่นกัน แล้วเขาควรที่จักช่วยถอดให้นางด้วยหรือไม่ ?
ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะช่วยนางทำแผลเสียก่อน ดังนั้นแขนเสื้อจึงถูกเขาฉีกออกจนขาดวิ่นแล้ว
“······”ช่างโหดร้ายเสียจริงที่ทำเช่นนี้ต่อเสื้อผ้าของนาง
นางต่อต้าน !
แววตาของเย่แจ๋หยิ่งก็ปรากฏให้เห็นความเจ็บปวดเล็กน้อยที่เห็นแผลลึกๆนั้นของนาง จากนั้นก็นำน้ำร้อนมาล้างทำความสะอาดแผลให้นาง
ในคราที่เขาเตรียมตัวจะทำแผลให้ หลานเยาเยาก็หยิบยาฆ่าเชื้อขึ้นมาขวดหนึ่ง
” นี่คือยาแก้อักเสบ ให้ทาก่อนที่จะทำแผล ”
ยังไงเสียเขาก็เคยเห็นนางหยิบสิ่งของจากกลางอากาศแล้ว ดังนั้นเมื่อหยิบของจากระบบออกมานางก็เลยทำต่อหน้าเขาเสียเลย
แม้ว่าเขาจะเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเหลือเชื่อในทุกครั้ง ครานี้เองก็เช่นกัน
” ได้! ”
หลังจากที่เขารับมาก็ทำตามสิ่งที่นางกล่าวไว้
หลังจากรอจนพันผ้าพันแผลเสร็จ เย่แจ๋หยิ่งก็มองยังใบหน้าของนางที่แม้จะซีดขาว แต่ดูราวกับว่าไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น เลยอดไม่ได้ที่จะจิ้มแขนของนาง
” ไม่เจ็บรึ? ”
” ไม่เจ็บ! ”
ยาแก้อักเสบเมื่อสักครู่นี้มีส่วนผสมของยาชาไว้ด้วย ดังนั้นจึงให้นางไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
” ยาแก้อักอักเสบนั่นของเจ้า มิใช่เพียงมีฤทธิ์แก้อักเสบเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ยาชาด้วยงั้นรึ? ”
ไม่จำเป็นให้นางกล่าวสิ่งใด เย่แจ๋หยิ่งก็เดาออกแล้ว
“ก็ไม่เชิง!”
อย่างไรเสียยาที่นางหยิบออกมานั้นเป็นถึงยาที่เพิ่งเปิดใช้จากกลุ่มยาของระดับ 4 ซึ่งฤทธิ์ของมันมีมากกว่ายาแก้อักเสบและยาชาเป็นถึงเท่าตัว