บทที่ 177 ทำบัญชีปลอม
มู่เทียนซิงกินอิ่มดื่มพอ อยู่ในอ้อมอกของหลิงเล่ไม่นานก็นอนหลับไปแล้ว
เขาอยากช่วยเธอดูบาดแผลข้างล่างมาก ทั้งกลัวว่าตนเองดูที่นั่นของเธอ จะทำให้เธอตกใจ
แม้ว่าอยู่ที่ก่อนหน้านี้ ฉวีซือเหวินเคยบอกกับเขามาก่อนอย่างชัดเจนแล้ว มู่เทียนซิงแช่ยาไปแล้ว ทั้งกินยาต้านการอักเสบด้วย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
แต่ว่า ในใจเขายังเป็นห่วงอยู่ ตำหนิตนเองเหลือเกิน
จูบแล้วจูบอีกอยู่บนหน้าผากเธอ เขาหยิบกระดาษโพสต์อิทออกมา เขียนไปประโยคหนึ่ง “ที่รัก อย่าลืมทายา”
หลังจากเขียนเสร็จ เขาเอากระดาษโพสต์อิทวางไว้อยู่หัวเตียง ทับไว้อยู่ที่ใต้ขี้ผึ้งยากระปุกนั้นที่ฉวีซือเหวินทิ้งไว้ครั้งก่อน
ได้แก้ไขวิกฤติความรักกับที่รัก ตอนนี้ก็สว่างสดใสแล้ว เธอก็นอนหลับแล้ว เป็นเวลาที่เขาจะต้องไปจัดการปัญหาของเรื่องงานแล้ว
เพียงแต่ ใจของหลิงเล่ กลับปล่อยวางตัวเล็กที่อยู่บนเตียงไม่ลงตั้งแต่ต้นจนจบ
อาจจะเป็นห่วงสภาพการณ์ร่างกายของเธอ หรืออาจจะตกใจกับเธอจนเกิดอาการข้างเคียง สรุปได้ว่าหลิงเล่คือแม้แต่นาทีเดียวล้วนไม่อยากห่างไป ก็กลัวว่าแค่พริบตาเดียว เธอก็จะหายไปแล้ว
สั่งจั๋วซีส่งข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานไปยังคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห้องชุด เขาก็ไม่ไปตำหนักหลัง ทำงานอยู่ในห้องหนังสือที่อยู่นอกประตูห้องนอน ทั้งทำงานทั้งเฝ้าเธออยู่
ตอนที่มู่เทียนซิงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง คือตอนเช้าแล้ว
ทันทีที่ออกจากประตูห้องนอน เธอก็เลยมองเห็นหลิงเล่ถึงขนาดนั่งทำงานอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ
เธอแปลกใจยิ้มกับเขา “คุณลุง คุณยังอยู่หรือ?”
หลิงเล่ดีใจจนหัวเราะออกเสียง “อืม นอนหลับฝันดีไหม? สีหน้าไม่เลว”
เธอทำความสะอาดให้กับตนเอง ผมดำเข้มหนาที่ยาวสลวยปล่อยกระจายอย่างอิสระหย่อนอยู่หน้าอกเธอ อ่อนโยนปิดมิดชิด วันนี้เธอไม่ได้สวมใส่ชุดเดรส แต่เลือกเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีฟ้าอ่อนแทน คู่กับกางเกงขาสั้นเจ็ดส่วนสีขาวตัวหนึ่ง
แขนน้อยน่องน้อยที่ขาวจั๊วะ ยังมีรูปร่างน้อยที่เว้านูนสมบูรณ์ ไม่ว่าดูยังไงก็ทำให้คนชื่นชอบอย่างนั้น
หลิงเล่กวักมือไปยังเธอ เธอก็เลยย่างก้าวมา วิ่งกระโดดเข้ามา “คุณลุง!”
เขายิ้มเบาๆ “ข้างล่างไม่เจ็บแล้วหรือ?”
เขาคิดว่า การแช่ยากับยาต้านการอักเสบนั้นน่าจะมีประสิทธิผล เห็นตอนที่อีหนูวิ่งเข้ามา ลักษณะนั้นดีใจขนาดไหนล่ะ
ความคิดของอีหนูตั้งแต่ไหนแต่ไรก็หลอกลวงคนไม่ได้ ในใจคิดอะไรอยู่ บนใบหน้าล้วนปรากฏขึ้นมาทันที เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอนี้ สายตาน้อยลอยไปที่อื่น เขาก็รู้ว่าเธอเขินอายแล้ว
ยื่นมือออกมา หลิงเล่กอดเธอไว้อยู่ในอ้อมอก ให้เธอนั่งอยู่บนขาของตนเอง พูดว่า “พวกเราจะเป็นคู่สามีภรรยา จะต้องร่วมผ่านชีวิตทั้งชาติ เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องเขินอาย ผมก็เพียงแค่เป็นห่วงร่างกายของคุณ”
เขายังเป็นห่วงผลประโยชน์ของเขาอยู่
ถ้าหากว่าบาดแผลของที่นั่นเธอสามารถดีขึ้นเร็วหน่อย อย่างงั้นเขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีก ไม่นานก็มีเนื้อได้กินอีกแล้ว
อะแฮ่ม แน่นอน สิ่งเหล่านี้เขามีแต่แอบเก็บไว้อยู่ในใจได้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่พูดออกมาอยู่ต่อหน้าเธออย่างแน่นอน
มือสองข้างของมู่เทียนซิงวางไว้อยู่หน้าอกของเขา หย่อนขนตาลง ตอบกลับคำหนึ่งอย่างเบาๆว่า “นิดหน่อย แต่ว่า ตอนที่ปัสสาวะก็จะมีความเจ็บเล็กน้อย ตอนที่ไม่ได้ปัสสาวะก็จะไม่เจ็บ”
หลิงเล่พยักหน้าต่อๆกัน ในใจคิดว่า งั้นน่าจะเป็นความหมายที่ยังไม่ได้หายดี
“อืม คุณไปเที่ยวเองเถอะ อีกสักครู่ผมก็จะทำงานเสร็จแล้ว ค่อยเป็นเพื่อนคุณ”
เขามีเอกสารอย่างหนึ่งจะต้องวิเคราะห์สักหน่อย คือเกี่ยวข้องกับงบการเงินในช่วงห้าปีนี้ของซวี่ซิน จั๋วซีพบเห็นจุดรั่วอย่างหนึ่ง น่าจะเป็นหลิงเย่แอบยักยอกเงินกองกลางทำบัญชีปลอมลับหลังหลิงหยวน !
การพบเห็นนี้ต่อหลิงเล่มากล่าวแล้ว แทบจะดั่งเสือติดปีกจริงๆ
ดังนั้น ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาไม่เคร่งครัดไม่ได้!
มู่เทียนซิงก็รู้กาลเทศะมาก รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาล้วนทำงานดีๆยังไงไม่ได้ พยักหน้าต่อๆกันขานรับ จากนั้นมีความเขินเล็กน้อยจ้องมองเขาจ้องมองแล้วจ้องมองอีก
เขาแปลกใจ “เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
ใบหน้าน้อยของเธอแดงขึ้นทันที เงยหน้าขึ้นจูบอยู่ที่แก้มของเขาหนึ่งที จากนั้นเขินอายวิ่งออกไปดั่งโจร วิ่งออกไปนอกห้องชุดโดยตรงเลย
“เหอะๆ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~!”
เสียงหัวเราะที่ไพเราะของหลิงเล่ล่องลอยอยู่ทุกมุมของห้องหนังสือ จูบนี้ของอีหนู หวานชื่นนะ หวานเข้าไปในใจของเขาโดยตรง!
มู่เทียนซิงอึดใจเดียววิ่งลงไปข้างล่าง!
อยู่บนบันไดหมุน เธอพบปะกับหนีหย่าจูน อึ้งชะงักหนึ่งที จากนั้นยิ้มหวานอยู่ “พี่หย่าจูน!”
หนีหย่าจูนเห็นเธอกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ทั้งพินิจพิเคราะห์เธอหนึ่งทีอย่างละเอียดอีก มีความคลุมเครือเล็กน้อยถามว่า “วันนี้สีหน้าไม่เลวนะ?”
เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน แต่ว่า ที่แบบนั้นน่าจะเป็นที่ที่อ่อนแอที่สุดของผู้หญิง ฟื้นฟูเร็วขนาดนี้เลยหรือ สมรรถภาพทางกายของอีหนูนี้ช่างดีจริงๆนะ
มู่เทียนซิงพยักหน้าต่อๆกัน ถามอีกว่า “มือถือของฉันล่ะ?”
ไม่มีมือถือ ช่างไม่สะดวกจริงๆนะ!
หนีหย่าจูนจ้องมองเธอ ตาสว่างขึ้นทันที “ผมกำลังจะมาหาคุณพูดคุยเรื่องนี้ล่ะ มือถือของคุณผมเอาให้โม่หลินแล้ว ผมค่อยซื้อเครื่องใหม่ให้คุณล่ะ คุณอยากได้ลักษณะแบบไหนหรือ ผมล้วนซื้อให้คุณ!”
“โม่หลินหรือ?”
“ใช่ มือถือของเธอคือเครือข่ายพระราชวัง พกออกมาก็ใช้ไม่ได้แล้ว เป็นมือถือที่สั่งทำเป็นพิเศษ ซิมการ์ดของผู้ให้บริการรายอื่นล้วนใช้ไม่ได้ผล ตอนที่ดูแลผมอยู่ในโรงพยาบาล เธอร้อนใจที่จะโทรหาแม่ของเธอ มือถือของผมก็ไม่ใช่ถูกพี่ชายผมทุบไปแล้วหรือ ที่อยู่บนกายผมเป็นของคุณ ก็เอาของคุณให้เธอไปเลย เธอใช้ไปสักพัก บอกว่าใช้ดีมาก ผมก็เลย…..”
“คุณก็ถือโอกาสแสดงน้ำใจ เอามือถือของฉันให้เธอเลยหรือ?”
มู่เทียนซิงไม่แคร์กับมือถือเพียงเครื่องเดียว เพียงแค่รู้สึกว่าท่าทีที่หนีหย่าจูนมีต่อโม่หลินเหมือนมีอะไรไม่ค่อยเหมือนเดิม
เธอก็พูดไม่ออกว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน เพียงแค่พูดได้ว่า เป็นสัมผัสที่หกอย่างหนึ่งของผู้หญิงมั้ง!
หนีหย่าจูนหัวเราะแฮ่ๆ หัวเราะแล้วหัวเราะอีก พูดว่า “ฉันบอกกับคุณนะ เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พยายามและตั้งใจเรียนรู้อย่างมาก อายุเท่ากันกับคุณ ผ่านการสอบแบบรวมสอบได้ซ่างซือขั้นสี่ระดับสูง เก่งมากใช่ไหม?”
มู่เทียนซิงแลบลิ้นต่อๆกัน ยังคิดไม่ถึงจริงๆ!
หนีหย่าจูนพูดอีกว่า “ผมก็รักทะนุถนอมบุคลากรเช่นกัน!”
เขาดูเหมือนกำลังหาข้ออ้างอะไรให้แก่ตนเองอยู่ แต่ว่ามู่เทียนซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน เพียงแค่พยักหน้า ฝ่ามือน้อยแบออกไปยังเขา “หลายวันก่อนฉันกำลังคิดว่าอยากจะซื้อมือถืออยู่ มองเห็นเครื่องหนึ่งหมื่นสอง แพงเกินไป ตัดใจไม่ลง ในเมื่อคุณใจกว้างขนาดนี้ พี่หย่าจูน เงินล่ะ!”
“…….” สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าหนีหย่าจูนมีการกระตุกเล็กน้อย “หมื่นสองหรือ?”
ถ้าอยู่ในยามปกติ เขายังไม่แคร์เงินเล็กน้อยนี้จริงๆ
แต่ในปัจจุบันนี้ นอกจากเงินก่อตั้งธุรกิจ เขาไม่มีเงินเก็บอื่นอีกแล้ว
“ได้ คุณรอก่อน นี่ผมจะไปเอาเงินให้คุณ! ห้านาที!” พูดจบ เขาไม่สนใจกับความตื่นตะลึงของมู่เทียนซิง ปึงปึงปึง ขึ้นบันไดไปเลย
มาถึงห้องหนังสือของหลิงเล่โดยไม่ได้รับเชิญ ทันทีที่เขาเข้าประตูไป ก็พูดว่า “พี่ชาย มีเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับอีหนู ผมไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณดีหรือไม่”
หลิงเล่เหล่ตาขาวจ้องมองเขาหนึ่งที “เรื่องอะไรหรือ?”
หนีหย่าจูนยักคิ้วไปยังเขาหนึ่งที “อีหนูมองเห็นมือถือรุ่นหนึ่ง หมื่นสองแพงเกินไป ตัดใจไม่ลงที่จะซื้อ แฮ่ๆ คุณก็แสดงให้เห็นสักหน่อยล่ะ?”
หลิงเล่แม้แต่สายตาสักนิดก็ล้วนไม่ให้เขา พูดว่า “หนี้ของตนเองที่ติดค้างไว้ คิดหาวิธีด้วยตนเอง!”
รอยยิ้มของหนีหย่าจูนค่อยๆเก็บกลับไป “คุณ…….”
“หรือว่าไม่ใช่?” หลิงเล่ใช้นิ้วเท้าคิดล้วนคิดออก “ถ้าไม่ก็คือแกทำมือถือของเธอหายไป ถ้าไม่ก็คือแกเอามือถือของเธอส่งให้คนอื่นแล้ว ยังไงก็ตาม ความยุ่งเหยิงที่แกก่อขึ้นเอง ฝันไปเถอะที่จะให้ผมมาช่วยจัดการสถานการณ์ที่กำลังพังพินาศย่อยยับ!”
หนีหย่าจูนนึกไม่ถึงอย่างแน่นอนว่า หลิงเล่แค้นเขาอยู่ในใจเนื่องเพราะโทรสายนั้นในตอนที่เขากำลังเข้าหออยู่ล่ะ!