บทที่ 174 ใช่แล้ว...ได้เวลาซื้อรถใหม่แล้วสิ!

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 174 ใช่แล้ว…ได้เวลาซื้อรถใหม่แล้วสิ!

ไป๋เยี่ยค้นหากระบวนการผลิตยาหยอดตังเซียมจากในอินเทอร์เน็ต เนื่องจากยาชนิดนี้มีมานานหลายทศวรรษแล้วจึงมีการเผยแพร่เอกสารจำนวนมากทางออนไลน์และมีการผลิตยาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันออกมาหลายชนิด

ปัจจุบันในตลาดมียาที่ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างน้อยห้าสิบหกสิบชนิดที่มีส่วนผสมของตังเซียมและซานชี ทำเอาไป๋เยี่ยต้องกัดฟันซื้อยาแต่ละชนิดมา

หลังจากที่สกัดและแยกสารมาอย่างต่อเนื่อง ไป๋เยี่ยก็ประหลาดใจเมื่อพบว่าส่วนผสมที่ใช้ในขั้นตอนการผลิตยาแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกันมาก

ตัวอย่างเช่น ยาหยอดตังเซียมใช้ส่วนผสมเพียงตังเซียมและซานชีเท่านั้น ในขณะที่ยาเม็ดตังเซียม ชนิดหนึ่งมีการใช้ส่วนผสมที่แตกต่างออกไปอย่างคริปโตแทนชิโนน[1]ด้วย ทำให้ไป๋เยี่ยเกิดความสงสัยถึงความแตกต่างนี้

และเพราะว่ายาเหล่านี้เป็นยาที่พบได้ทั่วไปในท้องตลาดในปัจจุบัน ซึ่งนำมาตรวจสอบได้ ไป๋เยี่ยจึงเริ่มต้นการค้นคว้าของเขาอย่างเมามันทันที

ในที่สุดไป๋เยี่ยก็เข้าใจถึงความลำบากของหลิวป๋อหลี่ เขาทำการศึกษายาตัวเก่าที่ถูกวิจัยมานานหลายทศวรรษอย่างละเอียด และได้ลองทำการทดลองหลากหลายรูปแบบเพื่อศึกษาสรรพคุณและความเป็นพิษของมัน

หลิวป๋อหลี่ต้องการฝึกฝนไป๋เยี่ยด้วยกระบวนการนี้ เขาเชื่อในความสามารถของไป๋เยี่ยที่ค้นพบสารอาร์เทแอนนิวอินเชิงซ้อนได้ คนที่มีความสามารถในการคิดค้นเหล่านี้ย่อมผ่านบททดสอบที่เขามอบหมายให้ได้ด้วยดี

หลิวป๋อหลี่มอบหมายให้ไป๋เยี่ยไปวิเคราะห์ส่วนผสมของยาตันชีหั่วเซวี่ย ด้วยความหวังว่าไป๋เยี่ยจะค้นพบความแตกต่างระหว่างยาในตลาดได้บ้าง และค้นหาสาเหตุว่าทำไมยาเหล่านี้ถึงมีความแตกต่าง ทำไมต้องแยกสารบางอย่างออกไป และทำไมถึงต้องเก็บสารบางชนิดไว้ ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านั้นก็หาได้จากฐานข้อมูลเหมือนกัน

หลังจากที่ไป๋เยี่ยศึกษายาชนิดนี้ คลังความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นด้วย อย่างน้อยไป๋เยี่ยก็ทำความเข้าใจยาทั้งสองชนิดนี้ได้อย่างถ่องแท้!

หากเข้าใจถึงแก่นแท้ของยา ก็บอกคนทั้งโลกได้ว่ายาชนิดนั้นๆ รับประทานได้หรือไม่ จางเสวียเวิ่นซึ่งเป็นอาจารย์ของไป๋เยี่ยเองก็มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า ‘จางตังเซียม’ เพราะว่าเขาเข้าใจถึงสรรพคุณของตังเซียมอย่างถ่องแท้ ไม่ใช่แค่จากมุมมองด้านการแพทย์แผนจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่ด้วย

ดังคำกล่าวที่ว่า ถ้าคนเราชำนาญสิ่งใด ก็ย่อมชำนาญสิ่งนั้นได้อย่างถ่องแท้

ถ้าไม่ชำนาญ ก็จะทำอะไรกับสิ่งนั้นไม่ได้เลย

การคิดค้นยาก็เหมือนกัน ถ้าคุณคิดค้นยาตัวหนึ่งได้ คุณก็จะคิดค้นยาตัวอื่นได้เช่นกัน

สิ่งที่หลิวป๋อหลี่อยากเห็นก็คือการเริ่มต้นที่สวยงามของไป๋เยี่ยนั่นเอง

ไป๋เยี่ยมีความมุ่งมั่นกับเรื่องนี้มาก เขาจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ถ้าทำการทดลองครั้งแรกไม่ได้ผล เขาก็จะทำครั้งต่อไปเรื่อยๆ และจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ผลลัพธ์

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ไป๋เยี่ยพบว่าเขาเสียเงินค่าซื้อยาไปมากกว่าสองหมื่นหยวนแล้ว

โชคดีที่ฐานเพาะพันธุ์สัตว์ตงซานปิดทำการพอดี สองวันก่อนไป๋เยี่ยกำลังเตรียมเงินไปจ่ายค่าเช่าฐานเพาะพันธุ์ แต่เมิ่นอวิ๋นซีก็บอกเขาว่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแล้วเพราะบริษัทกำลังเจรจาเรื่องการโอนย้ายที่นี่ไปให้อีกบริษัทหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี เมิ่งอวิ๋นซีจึงเร่งให้ไป๋เยี่ยรีบทำสิ่งที่เขาจะทำให้เสร็จเสียก่อน

ไป๋เยี่ยเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร การเจรจาเกิดขึ้นแล้ว สัญญาก็ต้องถูกยกเลิกไปตามปกติ

หลังจากสัญญาสิ้นสุดลง ภาระของไป๋เยี่ยก็ลดลงไปด้วย เขาไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะตอนนี้เขาเสียเงินจำนวนมากไปกับการซื้อยาเพียงอย่างเดียว

ไป๋เยี่ยนั่งนึกถึงยาที่เขาใช้ไปเมื่อสองวันก่อน และคิดว่าเขาควรจะเตรียมคำตอบไปอธิบายให้ทางมหาวิทยาลัยฟังด้วย…

ยังไงก็เสียค่ายาไปตั้งสองหมื่นแล้วแหละนะ

คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็ตระหนักได้ว่างานวิจัยนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากจริงๆ

นี่ขนาดทำแค่แยกสาร สกัดสาร ยังไม่ได้ทดลองอะไรยังเสียเงินไปตั้งเยอะ แล้วถ้าทำวิจัยจริงๆ ล่ะ…

ไป๋เยี่ยไม่กล้าคิดเรื่องนี้ต่อไปแล้ว การทำงานวิจัยโดยไม่มีเงินสนับสนุนน่ะเป็นเรื่องโม้ทั้งนั้น!

แต่ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง รอผลลัพธ์ออกมาก่อนค่อยเริ่มวิจัยใหม่!

ไป๋เยี่ยจึงได้แต่เฝ้ามองค่าประสบการณ์ทักษะการแยกและสกัดสารที่เพิ่มขึ้นทุกคืนอย่างมีความสุข…

ผ่านไปอีกสามวัน ไป๋เยี่ยเริ่มกังวลเล็กน้อย ตอนนี้ก็กลางเดือนมิถุนายนแล้ว ทุกคนกำลังเริ่มฉลองงานวันจบการศึกษา ในขณะที่ไป๋เยี่ยได้แต่ทำการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พบสารอะไรใหม่ๆ แต่ทักษะด้านการแยกสารและสกัดสารเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเลเวลพุ่งขึ้นเป็นเลเวลสี่

ตอนนี้ไป๋เยี่ยกำลังมืดแปดด้าน ถ้ามีการค้นพบใหม่จริง เขาคงจะค้นพบมันนานแล้ว แต่เท่านี้เขาก็รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์มากแล้ว

ตอนนี้อาจจะถือได้ว่าเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับตังเซียมและซานชีสูงมาก

เราจะหยุดแค่นี้จริงๆ เหรอ

รายงานสิ่งที่ค้นคว้ามาได้ทั้งหมดไปก่อนดีไหมนะ ยังไงตอนนี้ก็วิจัยไปได้เยอะแล้ว

ไป๋เยี่ยจึงหยิบหนังสือเกี่ยวกับยาจีนที่เคยจับรางวัลได้ขึ้นมาอ่าน

อย่างไรก็ตาม ทั้งตังเซียมและซานชีก็เป็นยาที่มีมานานแล้ว สิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือกับข้อมูลที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือขั้นตอนการเตรียมยานั่นเอง

ในเมื่อตอนนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรแล้ว ถ้า…เขาลองใส่ส่วนผสมของเวอราทรัม[2]ลงไปจะเกิดอะไรขึ้นนะ

ทุกคนต่างรู้จักสมุนไพรจันทั้งสิบแปดชนิดดี ไม่ว่าจะเป็นโสม ดอกโบตั๋น หรือแม้แต่เวอราทรัม!!

เมื่อนำโสมและเวอราทรัมมาผสมกันจะออกฤทธิ์เป็นพิษ ไหนๆ ไป๋เยี่ยก็คิดว่าเขาคงไม่ค้นพบอะไรใหม่ๆ แล้ว ก็ขอลองเติมเวอราทรัมลงไปแล้วดูว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างดีกว่า

ไป๋เยี่ยลองค้นหาข้อมูล เขาพบว่ามีคนพยายามทำการทดลองนี้จำนวนมากแต่ไม่มีใครตามหาสาเหตุว่าปฏิกิริยานั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงแค่บอกไว้ว่าเวอราทรัมมีพิษต่อระบบประสาทเท่านั้น

ไป๋เยี่ยมองว่านี่เป็นโอกาสของเขา ในเมื่อเขาไม่ค้นพบอะไรใหม่ๆ ก็สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาแทนเสียเลย

สามวันต่อมา ไป๋เยี่ยจ้องมองผลลัพธ์ของการทดลองบนกระดาษโครมาโทกราฟี[3]ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ได้ผลจริงด้วย

ไป๋เยี่ยลองนำส่วนผสมของตังเซียมและเวอราทรัมไปทำปฏิกิริยากับสารทั่วไปหลายชนิดและพบว่ามันไม่เกิดผลใดๆ เลย

เขาจึงลองเติมสารอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสารสกัดจากตังเซียมที่เรียกว่า ‘นอร์แทนชิโนน-3’ ลงไปด้วย แต่เมื่อใส่สารนั้นลงไปแล้วเขาก็ต้องประหลาดใจกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น!

นอร์แทนชิโนน-3 ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยเป็นตัวกระตุ้นปฏิกิริยาต่างๆ ระหว่างสารสกัดทั้งสองชนิด

ไป๋เยี่ยถึงกับตะลึง เจอแล้ว!

แต่เมื่อไป๋เยี่ยเติมสารนอร์แทนชิโนน-3 ลงไปในสารสกัดตังเซียม ซานชี และสารสกัดอื่นๆ เพื่อทำปฏิกิริยากับเวอราทรัม ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย

หมายความว่าไง

นี่คือตัวเร่งปฏิกิริยาเฉพาะ!

เป็นเอนไซม์พิเศษไงล่ะ!

ไป๋เยี่ยสับสน จึงเริ่มค้นหางานวิจัยและการทดลองเกี่ยวกับสารนอร์แทนชิโนน-3 ทันที สารนี้มีอยู่จริงแต่ไม่ค่อยมีการนำไปใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเท่าไหร่ ทว่าสารนี้มักถูกนำมาใช้ในการทดลองทางคลินิกเพราะมีส่วนประกอบของตังเซียมเล็กน้อย ซึ่งจะแสดงผลเมื่อทำปฏิกิริยากับเวอราทรัมเท่านั้น

กุญแจสำคัญคืออะไรกันแน่

ครั้งนี้ไป๋เยี่ยจึงลองผสมนอร์แทนชิโนน-3 เข้ากับสารสกัดตังเซียมแล้วนำมาต้มรวมกัน จากนั้นเขาจึงได้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง นั่นก็คือทั้งสารนอร์แทนชิโนน-3 และสารสกัดตังเซียมละลายหายไปแล้ว!

ต้องเกิดเป็นสารใหม่แน่ๆ!

ไป๋เยี่ยไม่ค่อยมีความรู้ด้านเภสัชกรรมมากนัก เขาจึงค้นคว้าข้อมูลจากในหนังสืออย่างตั้งอกตั้งใจจนลืมเวลาอาหารเย็น

หลังจากที่ทำการค้นคว้าและวิเคราะห์จนเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋เยี่ยก็ค้นพบปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาทำการทดลองต่อไปไม่ได้

ทำไงต่อดี

ต้องร่วมมือกันแล้วละ!

กำลังคนมีน้อยเกินไป ไป๋เยี่ยจึงไปปรึกษากับโจวเม่า เมื่อโจวเม่าได้ยินเรื่องนี้ก็รีบลุกตามไป๋เยี่ยไปทันที

ทั้งคู่เอาแต่ทำการทดลองไม่หลับไม่นอนทั้งคืน จนกระทั่งจู่ๆ โจวเม่าก็หันมามองไป๋เยี่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ต้องทำการทดลองในสัตว์แล้วคอยสังเกตดัชนีต่างๆ แล้วละ”

การทดลองในสัตว์จำเป็นต้องใช้เครื่องมือจำนวนมาก ซึ่งห้องแล็บของสถานบันยาจีนนั้นตอบสนองความต้องการนั้นไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรโจวเม่าก็เป็นถึงผู้อำนวยการสถาบัน เขาจึงยังเป็นผู้ถือครองสิทธิ์อยู่

การทำงานวิจัยนั้นกินทั้งเวลาและแรงจริงๆ

สองสัปดาห์ต่อมา โจวเม่าและไป๋เยี่ยก็กลับมาเจอกันที่ห้องแล็บอีกครั้ง!

ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ถ้านำสารสองชนิดนี้มาผสมรวมกันจะก่อให้เกิดสารใหม่ซึ่งช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระและลดการเกิดอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย!

หมายความว่าอย่างไร

สั้นๆ คือ เมื่อนำสารทั้งสองชนิดมาผสมกันจะทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปอย่างปกติ โดยจะไม่ขยายหลอดเลือดหัวใจ และจะไม่ส่งผลต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือด

ทว่าสรรพคุณชั้นยอดของมันก็คือการต้านอนุมูลอิสระของออกซิเจน

อนุมูลอิสระออกซิเจนคือผลผลิตจากกระบวนการออกซิเดชัน[4]ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นจากภาวะต่างๆ เช่น ความเครียด การสูบบุหรี่ การฉายรังสี และการสัมผัสกับมลภาวะ…

เมื่อมีอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไป สารอนุมูลอิสระจะทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้เซลล์สูญเสียความคงตัวและทำงานไม่ได้ตามปกติ

ตัวอย่างเช่นส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด และอาจจะเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังบางชนิด นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายแก่ดีเอ็นเอ ทำให้เกิดมะเร็ง ก่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงทำให้เซลล์ตายได้ด้วย

แล้วผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไงบ้างนะ

ทำให้แก่ไวขึ้นงั้นเหรอ

ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีความเชื่อว่าการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำจะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระได้ ปกป้องเซลล์จากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และเป็นการชะลอการแก่ลง

อันที่จริงมีการค้นพบว่าตังเซียมมีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระตั้งแต่ปี 1996 แล้ว สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อฉีดสารสกัดตังเซียมเข้าไปจะกำจัดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจได้ด้วย

นอกจากนี้ ภาควิชาเภสัชวิทยาของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ยังมีการศึกษาสรรพคุณของตังเซียมและนำมาผสมเป็นยาแผนปัจจุบันด้วย พวกเขาค้นพบว่าสารสกัดตังเซียมเร่งการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระและลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้

แต่กลับไม่มีใครค้นพบสาเหตุที่แท้จริงเลย!

ไป๋เยี่ยและโจวเม่าต่างหันมามองหน้ากัน ได้ผลแล้ว!

โจวเม่ามองไป๋เยี่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณนี่มัน…อัจฉริยะจริงๆ!”

หลังจากที่ต้องทำงานด้วยกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกไป๋เยี่ยเรียกโจวเม่าว่าอาจารย์โจว แต่ตอนนี้เขากลับเรียกโจวเม่าว่าลุงโจวแทนแล้ว

ไป๋เยี่ยเกาหัวอย่างเคอะเขินก่อนจะกล่าวออกไป “ได้เวลาซื้อรถใหม่แล้วลุงโจว!”

โจวเม่าได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ “ไอ้หนุ่มนี่! ฮ่าๆ…ใช่แล้ว ได้เวลาซื้อรถใหม่แล้วสิ!”

[1] คริปโตแทนชิโนน สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งพบในรากสมุนไพรจีน

[2] เวอราทรัม พืชชนิดหนึ่ง นับเป็นสมุนไพรจีน

[3] กระดาษโครมาโทกราฟี กระดาษที่ใช้ในการทดลองแยกสาร

[4] กระบวนการออกซิเดชั่น ( Oxidation ) ปฏิกิริยาที่อะตอมหรือโมเลกุลเกิดการสูญเสียหรือให้อิเล็กตรอนกับโมเลกุลหรืออะตอมอื่นเพื่อสร้างความเสถียรให้กับโมเลกุล