650,000 คน!

เป็นจำนวน 650,000 คนเต็ม!

วันถัดไป เจี๋ยสวี่ ได้ขอให้คนไปนับศพผู้เสียชีวิต

ในหมู่คนเหล่านี้มีผู้เสียชีวิตในน้ำน้อยกว่า 200,000 คน และ อีกหลายคนถูกไฟเผาจนเสียชีวิต

ส่วนใหญ่ทหารเหล่านี้ ถูกไฟคลอกตายภายใต้น้ำมันก๊าซชนิดพิเศษ ทหารที่เหลือนั้นสามารถหลบหนีไปได้จำนวนนึง

แม่ทัพของเมือง เร้ดเมเปิ้ล ที่ติดตาม เจี๋ยสวี่ รู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อยหลังจากได้ยินรายงานของจินยี่เหว่ย

แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพและเข่นฆ่าผู้คนมามากมาย แต่เขาไม่เคยเห็นใครทำศึกที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

ภูเขากลายเป็นทะเลสาบและเต็มไปด้วยซากศพจำนวนมากลอยอยู่บางคนกระทั่งถูกไฟคลอกตายจนมีสภาพอย่างน่าสังเวช

แต่เท่าที่ดู บนใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ กลับไม่มีร่องรอยอะไรผิดปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สิ่งนี้ทำให้เขาถอนหายใจ เจี๋ยสวี่ สมควรได้รับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี จากฝ่าบาทอย่างแท้จริง

ในความเป็นจริง เจี๋ยสวี่ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ ตอนแรก เขาคิดว่า ที่ราบลั่วซานหยวนสามารถฆ่ากองทหารราบได้ประมาณครึ่งล้าน จากนั้นเขาก็ใช้ไฟเผาซ้ำซึ่งมันน่าจะสามารถฆ่าได้มากกว่านี้

ตามการคำนวณคร่าว ๆ สมควรมีผู้บาดเจ็บล้มตายมากกว่า 800,000 คน แต่เนื่องจากภูมิประเทศค่อนข้างกว้างขวางทำให้ทหารที่อยู่ด้านหลังสามารถอพยพหนีไปได้ทัน

“ยังไงก็เถอะ มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 650,000 นาย กองทัพที่เหลืออีก 850,000 คงไม่คิดจะเดินทางต่อไป!”

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ เท่านี้ภัยคุกคามของเมืองงูหยกทางตอนใต้ก็ถูกยกขึ้น แม้ว่ากองกำลังเหล่านี้ยังคงมุ่งหน้าโจมตีเมืองงูหยกทางตอนใต้พวกเขาก็สามารถปิดกั้นได้เป็นระยะเวลาสองสามเดือนได้อย่างไม่มีปัญหา

“เข้ามานี่ ส่งข่าวเรื่องนี้ไปรายงานฝ่าบาทโดยเร็วที่สุด!”

“ขอรับ!”

จินยี่เหว่ย ได้ลงไปจัดการทันที

เจี๋ยสวี่ ได้หันหน้าไปมองซากศพที่ลอยอยู่บนภูเขาและบ่นพึมพัม”หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ข้าเชื่อว่าชื่อเสียงที่ชั่วร้ายของข้าคงจะถูกวิพากษ์วิจารย์อีกครั้ง!”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจี๋ยสวี่ ก็ยิ้มออกมา เขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเอง ทุกสิ่งที่เขาทำก็เพื่อ อาณาจักร และ ลู่เฟิง

จินยี่เหว่ย ได้ส่งข่าวมาเร็วมาก ลู่เฟิง ได้รับรายงานการต่อสู้ทางตอนใต้ของเมืองงูหยกและเขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก”สมแล้วที่เป็น เจี๋ยสวี่ ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ !”

เมื่อซุนฮก เห็นท่าทีดีใจของ ลู่เฟิง เขาก็กล่าวถามด้วยความสับสน”ฝ่าบาท เหวินเหอ ทำอะไรเหรอพะยะค่ะทำไมพระองค์ถึงดูมีความสุขเช่นนี้?”

“เหวินยื่อ เจ้าเอาไปดูเองเถอะ!”

ลู่เฟิง ได้ส่งรายงานให้ ซุนฮก ด้วยความตื่นเต้น

ซุนฮก ที่เห็นเช่นนั้นเขาได้ถอนหายใจออกมา”หากต้องการหารือเรื่องกลยุทธ์คงต้องยกให้เหวินเหอแล้ว!”

สิ่งที่ เขาเห็นนั้นคือความสามารถที่น่าเหลือเชื่อของ เจี๋ยสวี่ เขาไม่เก่งเท่า เจี๋ยสวี่ ดังนั้นหากเป็นเรื่องกลยุทธ์ไม่แปลกใจที่เขาจะยอมแพ้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลยุทธ์ที่ทำการปล่อยน้ำและเผากองทัพให้ตายคาที่เหล่านี้เขาไม่สามารถกระทั่งคิดมันได้

เหลียนป๋อมองไปที่รายงานด้วยความตื่นเต้น”ฝ่าบาท ตราบเท่าที่เราสามารถกระจายข่าวนี้ไปยังเมืองงูหยกทางตอนเหนือได้ กองทัพของราชาเมกาทรอน จะต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน!”

“อืม!”

ลู่เฟิง ได้พยักหน้า ทันที และมองไปที่ทั้งสองคน”ซุนฮก,เหลียนป๋อ”

“ขอรับ!”

“ขอรับ!”

“พวกเจ้าทั้งสองรีบส่งข่าวไปยังเมืองงูหยกทางตอนเหนือ ข้าต้องการให้ทหารทุกคนที่อยู่ภายใต้ราชาเมกาทรอนลู่เว่ยทราบข่าวนี้!”

“ขอรับ!’

หลังจาก ซุนฮก และ เหลียนป๋อ จากไป ลู่เฟิง ก็มองไปที่รายงานการต่อสู้ในมือของเขา”เหวินเหอ ผลลัพธ์การต่อสู้ในครั้งนี้ของเจ้าไร้ที่ติอย่างมาก หากข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของเจ้าที่เป็นถึงนักวิชาการพิษ คงจะโด่งดังไปทั่วทั้งโลกจริง ๆ!”

“แต่สำหรับข้าราชบริพารของอาณาจักรแล้ว ใครจะตำหนิติเตียนเจ้ายังไงข้าไม่สน ข้าเพียงหวังว่าเจ้าจะสามารถรับใช้ข้าตลอดจนประสบความสำเร็จตามความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของข้า…”

แสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เฟิง หากสามารถแก้ปัญหาศัตรูได้โดยการที่ไม่ต้องสูญเสียกองกำลัง ลู่เฟิง ก็อยากให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไป

ทางด้าน ซุนฮก เหลียนป๋อ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ทหารภายใต้ราชาเมการทรอน รับรู้ข่าวการสูญเสียของทหาร 650,000 นาย

ทันใดนั้นกองทัพทั้งหมดก็ตกอยู่ในความโกลาหล บรรยากาศแห่งความโศกเศร้าได้ปกคลุมไปทั่วเมืองงูหยกทางตอนเหนือทันที

หลังจาก ลู่เฟิง ทราบข่าว เขาก็เรียกคนสนิทของเขามาพูดคุยเรื่องนี้

“ทุกคนควรจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ พวกเราจำเป็นจะต้องออกจากเมืองงูหยกทางตอนเหนือและไม่สามารถนั่งรอความตายที่นี่ได้!”ลู่เว่ย ได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

แม่ทัพคนอื่น ๆ ได้เลือกที่จะเงียบทั้งหมด

เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถกระโดดลงแม่น้ำงูหยกเพื่อหลบหนีได้

ฟ่านจุนได้คร่ำครวญเล็กน้อยและกล่าวพูดขึ้น”ฝ่าบาทข้าได้ข่าวมาว่า ตระกูลผู ตั้งใจจะติดต่อกับลู่เฟิงเพื่อขอลี้ภัย!”

“อะไรนะ?”

ลู่เว่ย ได้ตบโต๊ะด้วยความโกรธ”ตระกูลผูกำลังมองหาความตายอยู่หรือไม่?”

ฟ่านจุนได้ตอบกลับทันที”ฝ่าบาท ข้าคิดว่าปล่อยให้เรื่องนี้มันดำเนินการต่อไป นี่เป็นโอกาสที่เราจะเอาชนะลู่เฟิง!”

ลู่เว่ย ขมวดคิ้วแน่นด้วยความสับสนและกล่าวถาม”หมายความว่าไง?”

“ฝ่าบาท ตระกูลผู ก่อนหน้านี้ ทรยศ ลู่เฟิง และ มาลี้ภัยกับพวกเรา ตอนนี้ พวกเขาทรยศพวกเราและไปลี้ภัยกับลู่เฟิง ดังนั้น พวกเขาจะต้องหาทางเปิดประตูเมืองและให้กองทัพของ ลู่เฟิงเข้ามา ด้วยวิธีนี้ นี่เป็นโอกาสของพวกเรา!”มุมปากของ ฟ่านจุน ได้โค้งขึ้นเล็กน้อย

ลู่เว่ย ได้ครุ่นคิดและตอบกลับ”เจ้าหมายถึงให้พวกเราใช้โอกาสนั้นโจมตีลู่เฟิงงั้นหรือไม่?”

ฟ่านจุนได้พยักหน้าทันที”ขอรับ,ฝ่าบาท ข้าไม่รู้ว่าตระกูลผู จะโน้มน้าวให้ ลู่เฟิง เชื่อใจได้อย่างไร แต่เขาจะต้องทำให้กองทัพของลู่เฟิง เข้าโจมตีเมืองอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่เราสามารถเอาชนะกองทัพนั้นได้ เราก็จะชนะ การทำเช่นนี้จะเป็นการปลุกขวัญกำลังใจของทหารของเราให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย”

ลู่เว่ย ได้เงียบและครุ่นคิด นี่อาจเป็นทางรอดเดียวของเขา ถ้ามันล้มเหลวมันก็จะจบลงโดยสมบูรณ์

เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับ”เอาล่ะ ทำตามที่เจ้าว่าไว้ จงกวาดล้างกองทัพของลู่เฟิงให้ได้มากที่สุด อย่างน้อย เราจะต้องฆ่า ลู่เฟิง ซุนฮก หรือ เหลียนป๋อ ให้ได้”

“ขอรับ,ฝ่าบาท โปรดมั่นใจ หากกองทัพของลู่เฟิงกล้าเข้ามา ข้าน้อยจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีทางรอดออกไปได้!”ฟ่านจุน ได้พยักหน้า

ลู่เว่ย ได้พยักหน้าและตอบกลับ”แม่ทัพคนอื่น ๆ รับคำสั่ง!”

“ขอรับ!”

“สำหรับแผนการนี้ ขอให้พวกเจ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของฟ่านจุน ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด!”

“ขอรับ!”

แม่ทัพคนอื่น ๆ รีบไปเตรียมตัวทันที ลู่เว่ย ได้มองไปที่ ฟ่านจุน และกล่าวพูดขึ้น”ฟ่านจุน ความมั่งคั่งและชีวิตของข้าคนนี้ คงต้องฝากไว้ที่เจ้าแล้ว!”

“ฝ่าบาท โปรดมั่นใจ ข้าน้อย ฟ่านจุน จะบดขยี้พวกมัน และทำให้ฝ่าบาทหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย!”

“อืม!”

ในเวลานี้ เต็นท์ทหารของ ลู่เฟิง หัวหน้าตระกูลผู,ผูหยานเต๋า ได้มาหาเขา

ลู่เฟิง มองไปที่อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม”เจ้าบอกว่าเจ้ายอมจำนนต่อข้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าสนับสนุนราชาเมกาทรอนในการต่อต้านข้า บอกเหตุผลข้ามาหน่อย ทำไมข้าจะต้องเชื่อใจเจ้า?”