ตอนที่ 158 ฝังชิปให้เฮยจือหม่า

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 158 ฝังชิปให้เฮยจือหม่า

ตอนที่ 158 ฝังชิปให้เฮยจือหม่า

หลังจากถ่ายรูปแล้ว ซูเถาก็ไปที่อาคารสำนักงานโดยไม่หยุดพักเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ และเรียนรู้ด้านการจัดการด้วยตัวเอง ก่อนเลิกงาน ชีอวิ๋นหลันมาหาเธอ และมีท่าทางลังเลเล็กน้อย

“เถ้าแก่ สยงไท่อาจอยู่ได้ไม่นานถ้าเขายังเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้มีบาดแผลขนาดใหญ่บนใบหน้าของเขา 2 แผล และผู้คนที่สถานีเก่าก็ปฏิบัติต่อเขาไม่ดี เขาสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง บาดแผลมีเลือดออกและเกิดการอักเสบ”

“เขาอยู่ที่เถาหยางมาสองวันแล้ว เฮยจือหม่าข่วนเขาทุกครั้งที่เห็น เนื่องจากในฤดูร้อนเขาจึงไม่ได้สวมเสื้อผ้ามากนัก บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล มีเลือดออก วันนี้ฉันให้เขาไปทิ้งขยะ ผู้เช่าบอกฉันว่าเขาตกลงไปในกองขยะและสลบไป หายใจอ่อนแรง”

ซูเถาไม่ไหวติง “อย่าหลงกลเขา บางทีเขาอาจแสร้งทำเป็นตายเพราะเขาไม่ต้องการทำงาน ผู้ที่มีพลังวิเศษคงไม่อ่อนแอขนาดนั้น”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ชะโงกออกไปนอกหน้าต่างแล้วตะโกนเรียกเฮยจือหม่า จากนั้นไม่นาน เจ้าลูกแมวตัวน้อยก็วิ่งกลับมา

ซูเถาพูดกับชีอวิ๋นหลัน “ถ้าเขายังแสร้งทำเป็นตายแบบนี้ คุณก็ปล่อยให้เฮยจือหม่าเข้าไปจัดการเขา จนกว่าเขาจะเต็มใจลุกขึ้น”

หลังจากพูดจบ เธอก็ลูบหัวของเฮยจือหม่าแล้วพูดว่า

“พอได้แล้วนะ หลังจากนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต แกห้ามไปข่วนเขานะ ไม่งั้นจะถูกลงโทษ”

เฮยจือหม่าดูเหมือนจะเข้าใจจริง ๆ มันเอียงศีรษะและเม้มปาก

ชีอวิ๋นหลันรู้สึกประหลาดใจ “เอาล่ะ งั้นฉันขอตัวก่อน”

……

หลังอาหารเย็น ซูเถาอุทิศตนให้กับการก่อสร้างคลินิก

เธอทำการรื้อถอนของเดิมทั้งหมด และเริ่มสร้างใหม่ตามการออกแบบตกแต่งภายในของคลินิกที่ผู้อาวุโสเหม่ยได้ออกแบบไว้ให้เธอ

โชคดีที่ระบบคืนเงินให้กับวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ยังมีสภาพดีและไม่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นการสร้างใหม่จึงไม่มีค่าใช้จ่ายมากนัก

เธอใช้เวลาก่อสร้างสามชั่วโมง ซูเถายืนอยู่ที่ประตูคลินิกและชื่นชมด้วยความพึงพอใจ

สีของอาคารคลินิกเป็นสีเดียวกับสีของอาคารที่พัก ซึ่งดูเป็นระเบียบมากขึ้น และมีป้ายของคลินิกแขวนอยู่

ตอนนี้อาคารผู้ป่วยนอกมีเพียงชั้นเดียว ด้านหน้าอาคารมีสองประตู ประตูหนึ่งคือแผนกฉุกเฉินและอีกประตูหนึ่งคือแผนกผู้ป่วยนอก

ห้องฉุกเฉินเป็นห้องปฐมพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบครัน

เคาน์เตอร์พยาบาลเป็นสิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อเข้าไปในคลินิก เธอวางแผนที่จะรับสมัครพยาบาลเมื่อมีผู้ป่วยมากขึ้น แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงให้เฉินซีทำงานนอกเวลาเท่านั้น

ด้านหลังเคาน์เตอร์พยาบาลเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีคุณหมอจงเป็นคนดูแล

นอกจากนี้ยังมีม้านั่งตรงประตูห้องผู้ป่วยสำหรับสมาชิกในครอบครัวเพื่อนั่งรอ

ไปทางขวาจากเคาน์เตอร์พยาบาลเป็นพื้นที่สำนักงาน ห้องแรกที่เข้าไปคือห้องทำงานส่วนตัวของหมอจง ซึ่งมีโต๊ะและเก้าอี้พร้อมกับชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดาน สามารถใช้เก็บประวัติผู้ป่วยและต่าง ๆ

เมื่อออกมาจากสำนักงาน จะพบกับพื้นที่ทำงานสองแห่งที่ล้อมรอบด้วยผนังครึ่งหนึ่ง

หนึ่งในนั้นสงวนไว้สำหรับเฉินซี

ไปทางด้านหลังของสำนักงานเป็นห้องดื่มชาแบบเปิด ซึ่งปกติจะใช้สำหรับแพทย์และพยาบาลเพื่อพักผ่อน

นอกจากนี้ยังมีร้านยาขนาดเล็ก แต่ภายในยังว่างเปล่า

ซูเถาวางแผนที่จะหาเวลาคุยกับจางหลิน หัวหน้าขนส่งที่ภูเขาผานหลิว เพื่อดูว่าเขาสามารถหาวิธีซื้อยาได้หรือเปล่า

จากนั้นให้จวงหว่านรับสมัครแพทย์มืออาชีพหนึ่งหรือสองคน

ถ้าเป็นไปตามที่เธอวางแผน คลินิกก็จะถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ผู้เช่าทั่วไปที่มีไข้หรือเป็นหวัดสามารถไปพบแพทย์ในเถาหยางได้ และหมอจงก็จะได้รักษาอาการบาดเจ็บที่ใหญ่ขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม เธอต้องเตรียมห้องพักสำหรับหมอจงสักห้อง เพราะว่าอาคารเก่าเธอได้ทุบทิ้งไปหมดแล้ว

ดังนั้นจึงมีการขยายห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้องเป็นพิเศษสำหรับหมอจง การตกแต่งมีความเรียบง่ายและเนื่องจากเขาไม่ได้ทำอาหารจึงไม่ได้ติดตั้งครัวขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม เธอมีการเตรียมตู้เย็น เตาไมโครเวฟ และเครื่องดื่มไว้ให้เขา

ก่อนหน้านี้เธอได้ยินจากจวงหว่านว่าเขาชอบดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ซูเถาจึงได้เติมเครื่องดื่มทุกชนิด ไอศกรีม และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งที่สามารถอุ่นด้วยไมโครเวฟ

จากนั้นก็ปรับแต่งรายละเอียดบางอย่างของบ้าน เหลือแค่รอหมอจงมาทำงานในเดือนสิบ

ในขณะที่ยังมีเวลาอยู่บ้าง เธอก็ขยายห้องเดี่ยว 20 ห้องในคราวเดียว

เธอตกแต่งห้องพักทั้ง 20 ห้องนี้อย่างเรียบง่าย มีเฉพาะเตียง โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำเท่านั้น ทั้งหมดนี้มีราคาต่ำสุด ลดค่าเช่ารายเดือนเหลือ 3,000 ต่อเดือน

เธอวางแผนที่จะปล่อยห้องพักสวัสดิการที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายสำหรับผู้เช่าที่มีสภาพขัดข้องทางการเงิน

เนื่องจากเป็นการตกแต่งที่เรียบง่าย เธอจึงใช้เวลาน้อยกว่าสิบห้านาทีในการตกแต่งห้องทั้งยี่สิบห้อง

ซูเถาชำเลืองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่า และเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วเธอขยายห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่น จนถึงตีสามหลังจากการตกแต่ง เธอก็รีบกลับเข้าห้องไปนอน

แต่ไม่ว่าจะง่วงแค่ไหน เธอก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าหาเฮยจือหม่าที่กำเริบเสิบสานก่อนจะกลับห้อง จากนั้นเธอจึงนอนลงและหลับไป

ตอนที่เธอหลับไป ก็รู้สึกว่าเธออาจจะตายอย่างกระทันหันตั้งแต่อายุยังน้อย

เธอยุ่งกับการเรียนและการทำงานในตอนกลางวัน ทั้งยังตามหาแมวระหว่างการก่อสร้างในตอนกลางคืน เธอมีเวลานอนสี่หรือห้าชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

วันต่อมา ซูเถาถูกบังคับให้ตื่นตอนแปดโมง เพราะไป๋จือหม่ามาฟ้องเธอ ว่าเฮยจือหม่าเปิดหน้าต่างมุ้งลวดด้วยตัวเอง และกระโดดออกจากหน้าต่างแล้วหนีออกไปเล่นข้างนอก

ซูเถาง่วงหาว เธอให้อาหารเจ้าขนปุย จากนั้นก็ได้รับข่าวรายงานจากลูกน้องของเธอ ดังนั้นจึงต้องไปล้างตัวด้วยเวลาอันรวดเร็ว และไปทำงานที่อาคารเถาหลี่หลังจากทานอาหารเสร็จ

เมื่อเห็นห้องให้เช่ามากมาย จวงหว่านก็อดประหลาดใจไม่ได้ และชื่นชมการทำงานของเจ้านาย

“เถ้าแก่ คุณมีแรงจูงใจมากเกินไป ฉันขอแสดงความเคารพอย่างสูงต่อคุณในนามของผู้เช่าทั้งหมด”

ซูเถาจิบกาแฟ

“ขอบคุณนะคะ พี่ช่วยฉันจับเฮยจือหม่าหน่อย ฉันอยากเอาไปฝังชิปตอนบ่าย จะได้ตามมันกลับบ้านง่าย ๆ”

จวงหว่านถามว่า “เป็นชิปแสดงตำแหน่งเหรอ”

ซูเถาพยักหน้า “พี่รู้จักใครที่ทำสิ่งนี้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่รู้จักฉันก็จะไปหาพี่เผยตง”

จวงหว่านพูดทันที “คุณไม่จำเป็นต้องไปหาพี่เผยหรอก ผู้เช่าของเรามีชายคนหนึ่งชื่อกานหงอวี้ คุณจำเขาได้ไหม เขาเคยขับรถให้เราช่วงหนึ่ง และเขาทำสิ่งเหล่านี้ได้ สุดสัปดาห์นี้ฉันจะขอให้เขาช่วยเป็นธุระให้”

แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน กานหงอวี้ก็มาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง

เขาเปิดกระเป๋าเดินทาง หยิบชิปขึ้นมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เข้าใจได้ยาก เขาใส่ชิปเข้าไปในนั้นแล้วออกแรงดันเล็กน้อย

“เถ้าแก่ซู ช่วยจับมันไว้หน่อย อย่าปล่อยให้มันขยับ การฝังชิปจะมีความเจ็บปวดเล็กน้อย”

จู่ ๆ ซูเถาก็รู้สึกเป็นทุกข์ แต่เธอก็อุ้มเฮยจือหม่าขึ้นมาแล้วกอดไว้ในอ้อมกอด

เข็มหนาจมเข้าไปในผิวหนังของลูกแมว และเฮยจือหม่าก็กรีดร้องและดิ้นขลุกขลักทันที

โชคดีที่กานหงอวี้รวดเร็ว เขาดึงเข็มออกมาภายในเวลาสองวินาที และลูบคอของเฮยจือหม่า

“โอเค โอเค ไม่เจ็บแล้ว”

ซูเถารีบอุ้มมันขึ้นมาเพื่อเกลี้ยกล่อม เฮยจือหม่าส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารเท่าที่จะทำได้

กานหงอวี้หยิบเครื่องสื่อสารของซูเถาขึ้นมา และเล่นกับมันสักพัก ก่อนจะยื่นคืนให้เธอ

“มีซอฟต์แวร์อยู่ข้างใน และคุณสามารถดูตำแหน่งตามเวลาจริงได้ด้วยการคลิกที่มัน ผมได้ตั้งค่าระยะไว้ เมื่อออกนอกพื้นที่เถาหยางเกิน 500 เมตร มันจะเตือนคุณโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าคุณสามารถปรับระยะทางนี้ได้ด้วยตัวคุณเอง”

ซูเถาหยิบมันขึ้นมาดู ก็พบว่าการใช้งานของมันง่าย “ขอบคุณนะคะ สะดวกมากเลย คุณคิดค่าบริการยังไงคะ ฉันยินดี ฉันไม่รบกวนคุณฟรี ๆ หรอกค่ะ”

กานหงอวี้รู้สึกอึกอักเล็กน้อย

“….เถ้าแก่ซู พูดตามตรง ผมมีเพื่อนร่วมงานที่มีส่วนร่วมในการวิจัยในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเหมือนผม เขาอยากอยู่ในเถาหยางมาตลอด แต่เขาก็ยังคงรอคิวอยู่ แต่ถ้ามันทำให้คุณลำบาก ก็ลืมมันซะเถอะ ผมขอโทษจริง ๆ”

ซูเถายิ้มและพูดว่า “คุณถามได้ตรงเวลาจริง ๆ ตอนนี้มีห้องว่าง เพื่อนร่วมงานของคุณอยู่คนเดียว หรือมีสมาชิกในครอบครัวคะ”

“มีสมาชิกในครอบครัว 4 คน เป็นภรรยาและลูกของเขา พวกเขาต้องการหาห้องที่มีสามห้องนอนและสองห้องนั่งเล่น”

ซูเถาตอบกลับ “ตกลงค่ะ ให้เขาส่งใบแสดงความจำนงไปที่อีเมล์ของผู้จัดการจวงได้เลยค่ะ ยินดีต้อนรับเขาเข้ามาอยู่ที่นี่นะคะ”

กานหงอวี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ และเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขาก็มีความสุขมาก

“ขอบคุณเถ้าแก่ซูมาก เพื่อนร่วมงานของผมแซ่เฝิง ก่อนหน้านี้ที่เราคุยกัน เขาบอกผมว่าถ้าเขาสามารถเข้ามาอยู่ที่เถาหยางได้ เขายินดีจะช่วยเถาหยางแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิคโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผมเองก็เช่นกัน ผมจะช่วยกันกับเขา”