ตอนที่ 237 ตบหน้าครั้งที่สี่ (5)
ก่อนที่เจียงเฉินชิงจะได้ถามเหตุผลออกไป บัวหิมะมัวเมาก็มาโผล่มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มาถึงก็จัดการกระชากกระดูกสันหลังของเจียงเฉินชิงออกมากองที่พื้นด้วยความรวดเร็วราวสายฟ้า คนอื่นๆ ที่เฝ้ามองบัวหิมะมัวเมาอยู่ หลังจากได้เห็นฉากน่าสยดสยองดังกล่าวก็ขนลุกพรึ่บ ไหนเลยจะยังมีความกล้าตอบโต้เขา ทำได้เพียงเบิกตาดูเจียงเฉินชิงใบหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำแล้วค่อยๆ หมดลมหายใจลงในมือของบัวหิมะมัวเมา
“จงโทษตัวเองเสียเถอะที่ปากมาก หากเจ้าพูดน้อยกว่านี้สักสองสามประโยค ข้ายังคิดจะเก็บเจ้าไว้ฆ่าเป็นคนสุดท้าย แต่เจ้าดันไปแตะเกล็ดย้อนของเจ้านายข้าเสียนี่ นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือไง” บัวหิมะมัวเมามองเจียงเฉินชิงพร้อมกับหัวเราะเยาะ อย่ามองว่าปกติจวินอู๋เสียเป็นคนเย็นชา บนโลกนี้มีเรื่องไม่มากนักหรอกที่จะทำให้นางโกรธได้
เว้นเสียแต่ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับคนสกุลจวิน เพราะเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวก็เพียงพอจะเรียกเจตนาฆ่าที่มหาศาลจากตัวนางได้
แต่ไอ้โง่นี่ดันกล้าหยิบยกเรื่องขาของจวินชิงขึ้นมาพูด มิหนำซ้ำยังเปิดเผยความจริงออกมาอีกว่าเมื่อปีนั้นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นไม่ได้ตั้งใจรักษาขาให้จวินชิง!
พวกเขาปล่อยให้จวินชิงใช้ชีวิตอย่างคนพิการไร้ค่ามานานกว่าสิบปี จวินอู๋เสียจะไว้ชีวิตพวกเขาได้อย่างไร!
หนี้เก่ารวมกับแค้นใหม่ เพราะฉะนั้นไอ้แก่นี่ถึงต้องตาย!
“อย่า…” เจียงเฉินชิงตัวสั่นกลัว ไม่หลงเหลือความโอหังยามมาเยือนรัฐชีในครั้งแรกอีกต่อไป
“ข้าจะบอกอะไรดีๆ ให้อย่างหนึ่ง ทักษะทางการแพทย์ของเจ้านายข้าเหนือกว่าเจ้าสำนักชิงอวิ๋นของพวกเจ้าไม่รู้กี่เท่า ขาของท่านอาเล็กของนาง ถูกนางรักษาจนหายขาดนานแล้ว” บัวหิมะมัวเมาชื่นชมตัวเองมากที่สามารถเรียกความตกตะลึงก่อนตายของเจียงเฉินชิงได้ มองดูเจียงเฉินชิงที่ตัวสั่นกลัว เขาก็มอบหมัดสุดท้ายเพื่อส่งตาแก่นี่ออกเดินทาง
ตาแก่นี่บังอาจมาสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้านายของเขา การฆ่ามันให้ตายในหมัดเดียวเลยดูจะง่ายเกินไปสักหน่อย บัวหิมะมัวเมาจึงได้พูดออกไปเช่นนั้น ตัดสินใจมอบประสบการณ์ดีๆ ให้อีกฝ่ายก่อนที่จะไม่เหลือลมหายใจใดๆ อีก
ใบหน้าของเจียงเฉินชิงซีดขาว เมื่อบัวหิมะมัวเมาบรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเก็บชีวิตของเขาไว้อีก
โลหิตสีแดงสดเปื้อนเต็มกำปั้นของเขา และเพียงแค่หมัดเดียว กะโหลกศีรษะของเจียงเฉินชิงก็ระเบิดออกมา เลือดเหนียวข้น สมองสีขาว กระดูกและเศษชิ้นเนื้อกระจัดกระจายเต็มพื้น แต่บัวหิมะมัวเมากลับไม่ได้รังเกียจแม้แต่น้อย ยิ่งมาก็ยิ่งคึก
รสชาติของการฆ่า มันช่างสนุกสะใจจริงๆ!
บัวหิมะมัวเมาโยนร่างของเจียงเฉินออกไป และโดยไม่มีการหยุดชะงัก เขาก็ตรงไปที่เป้าหมายต่อไปของเขาต่อ
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทีละเสียงกลางท้องพระโรง ผู้บุกรุกที่น่าเกรงขามและทรงพลังหมายเหยียบย่ำศักดิ์ศรีและอำนาจของฮ่องเต้รีฐชีและสกุลจวินในตอนแรก มาบัดนี้กลายเป็นเพียงลูกแกะตัวน้อยที่รอถูกเชือด พวกเขาดิ้นรนอย่างหนักภายใต้หมัดของบัวหิมะมัวเมา แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยชะตากรรมที่เจ็บปวด เหลือทิ้งไว้เพียงศพที่ไม่สมประกอบของพวกเขา!
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กหนุ่มรูปงามและสดใส แต่วิธีการฆ่าของเขานั้นวิปริตยิ่งกว่าใครๆ ที่พวกเขาเคยเห็นมาทั้งชีวิต!
ในช่วงเวลาสั้นๆ รอบตัวของบัวหิมะมัวเมาก็กองพะเนินไปด้วยซากศพไม่สมบูรณ์ของเหล่าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นและผู้เชี่ยวชาญที่พวกเขาเชิญมา
กลิ่นคาวเลือดเหม็นคลุ้งขึ้นทุกที ทุกคนในสำนักชิงอวิ๋นถูกฆ่าตายจนหมดยกเว้นฉินอวี่เยียนที่ยืนเหม่อลอยอยู่หน้าบัลลังก์กับไป๋อวิ๋นเซียนที่ซุกตัวซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่งของท้องพระโรงด้วยเนื้อตัวที่สั่นระริก
ฉินอวี่เยียนมองไปที่ท้องพระโรงเปื้อนเลือด ดวงตานางก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและตกใจ
เจียงเฉินชิงตายแล้ว ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นก็ตายแล้ว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญสิบกว่าคนที่สำนักชิงอวิ๋นเชิญมาก็ไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว…
ทันใดนั้น นางก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่จวินอู๋เสียที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าท้องพระโรงด้วยใบหน้าที่ไร้สีเลือด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ล้วนอยู่ภายใต้คำสั่งของจวินอู๋เสีย แต่เห็นได้ชัดว่าจวินอู๋เสียเป็นเพียงคุณหนูจากจวนหลินอ๋องเล็กๆ เท่านั้น นางใช้วิธีการใดถึงสามารถเชิญผู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาช่วยนางได้!
“เจ้านาย นั่น…ต้องฆ่าด้วยหรือเปล่า” บัวหิมะมัวเมาเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสียด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะชี้ไปที่หน้าฉินอวี่เยียนที่ยืนอยู่หน้าบัลลังก์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เพียงปลายนิ้วเปื้อนเลือดที่ชี้มา เลือดในกายของฉินอวี่เยียนก็เย็นเยียบแข็งทื่อไปทั้งตัว นางผงะก้าวถอยหลัง ล้มลงบนบัลลังก์ด้วยสภาพน่าสมเพช
บนบัลลังก์สีทองอร่าม ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่มันถูกย้อมไปด้วยเลือด คราบสีแดงอันแสนน่ากลัวดูเหมือนจะชัดเจนและสะกดสายตามากขึ้นไปอีกเมื่ออยู่บนพื้นหลังสีทองนั้น
ตอนที่ 238 ตบหน้าครั้งที่สี่ (6)
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ ข้าคือคุณหนูใหญ่ของสำนักชิงอวิ๋น หากเจ้ากล้าที่จะฆ่าข้า ท่านพ่อของข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าทุกคนไปอย่างแน่นอน แล้วสำนักชิงอวิ๋นจะกวาดล้างรัฐชีให้ราบ!” นี่คือความเย่อหยิ่งเล็กๆ สุดท้ายของฉินอวี่เยียน หญิงสาวแสร้งทำเป็นสงบแล้วมองไปที่จวินอู๋เสีย แต่มือของนางที่จับบัลลังก์เอาไว้แน่นกับนิ้วมือที่ซีดขาวนั้นกลับทรยศนาง เผยให้เห็นถึงความตึงเครียดของนางในขณะนี้อย่างชัดเจน
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แม้นางจะไม่เคยได้ติดต่อกับฉินอวี่เยียนเป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่วิธีการที่ฉินอวี่เยียนใช้ข่มขู่นางโดยการยกสำนักชิงอวิ๋นขึ้นมาอ้างนั้น ช่างคล้ายกับตอนที่ไป๋อวิ๋นเซียนพยายามกดดันนางไม่ผิดเพี้ยน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จวินอู๋เสียก็เหลือบมองไปที่ไป๋อวิ๋นเซียนที่ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ในมุมหนึ่งของท้องพระโรง เมื่อถูกสายตาของจวินอู๋เสียจ้องมา ไป๋อวิ๋นเซียนก็เข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้นตัวสั่นสะท้าน
นอกจากยกชื่อสำนักชิงอวิ๋นขึ้นมาอ้างแล้ว พวกนางไม่มีลูกไม้อะไรใหม่ๆ เลยหรือ
“ไปจับตัวนางมา” จวินอู๋เสียสั่งบัวหิมะมัวเมาเสียงเรียบ
บัวหิมะมัวเมาก็รีบพุ่งไปที่บัลลังก์ทันที เสียงหวีดร้องของฉินอวี่เยียนดังก้องท้องพระโรง
คุณหนูฉินอวี่เยียนผู้ซึ่งสูงส่งถูกพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจมาตลอดทั้งชีวิต ไม่เคยมีใครกล้าต่อกรกับนางมาก่อน แต่วินาทีนี้ นางกลับถูกบัวหิมะมัวจิกผมแล้วลากตัวลงมาจากบัลลังก์ นำตัวไปส่งให้กับจวินอู๋เสียราวกับนางเป็นเศษขยะชิ้นหนึ่ง!
คุณหนูใหญ่แห่งสำนักชิงอวิ๋น ไม่เคยเลยที่จะต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชแบบนี้ ในขณะที่บัวหิมะมัวเมา ไม่ได้ปฏิบัติต่อนางในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเลย
“พิษบนตัวเขา เป็นเจ้าที่วางยาพิษเขาสินะ” จวินอู๋เสียชี้ไปที่มั่วเฉี่ยนยวนที่อยู่บนหลังสัตว์ร้ายสีดำ
ริมฝีปากของฉินอวี่เยียนสั่นเล็กน้อย นางพยายามหาคำพูดเพื่อที่จะโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับเจียงเฉินชิงที่ตายไปแล้ว แต่เมื่อได้สบกับสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียที่มองมา มันก็ทำให้นางเปลี่ยนใจและรีบสารภาพความจริงออกไป
“ข้ามียาถอนพิษ!” ฉินอวี่เยียนพูดออกไปอย่างเร่งรีบ
ไป๋อวิ๋นเซียนที่หลบอยู่ด้านข้างลอบหัวเราะเยาะเสียงเย็น นางกับฉินอวี่เยียนปกติก็ไม่ได้สนิทสนมกันอยู่แล้ว ออกจะชิงชังลักษณะของคุณหนูใหญ่ที่ชอบวางตัวโอหังอย่างนางไม่น้อย การที่นางต้องมาตกต่ำมีสภาพเช่นเดียวกันกับตัวเอง จิตใจที่บิดเบี้ยวของไป๋อวิ๋นเซียนก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก
ยาถอนพิษหรือ
ด้วยทักษะทางการแพทย์จวินอู๋เสีย นางจะมาสนใจยาถอนพิษของฉินอวี่เยียนได้อย่างไร!
“เอายาพิษกับยาถอนพิษทั้งหมดออกมา” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างคลุมเครือ
ฉินอวี่เยียนก็รีบคว้าเอาทุกอย่างที่อยู่ในตัวส่งมอบให้กับจวินอู๋เสีย ได้ยินเพียงเสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้นต่อว่า “ทั้งหมด”
ฉินอวี่เยียนชะงักไปครู่หนึ่ง และในวินาทีต่อมา หนังศีรษะของนางก็ชาวาบเจ็บร้าวไปหมด บัวหิมะมัวเมากระชากผมของนางอย่างแรง ความรู้สึกเจ็บปวดนั้น ทำให้หญิงสาวน้ำตาร่วงเผาะ ดวงตาคู่งามเบี่ยงไปทางจวินอู๋เย่าที่อยู่ด้านหลังเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา วางแผนจะใช้มารยาสตรีล่อลวงชายหนุ่ม
จวินอู๋เย่ายิ้มอย่างชั่วร้าย
“ฟังที่เจ้านายข้าพูดไม่เข้าใจหรือ เอายาพิษกับยาถอนพิษทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวของเจ้าออกมาซะ” บัวหิมะมัวเมาดึงผมของฉินอวี่เยียนอย่างรุนแรงด้วยความหงุดหงิด โดยไม่คาดคิด เพราะออกแรงมากเกินไปผมของหญิงสาวจึงหลุดติดมือเขามาด้วยกระจุกหนึ่ง
กระจุกผมที่ถูกดึงออกไปอย่างกะทันหัน ทำให้ฉินอวี่เยียนกรีดร้องเจ็บปวดทันที แต่ก่อนที่นางจะได้ผ่อนคลาย บัวหิมะมัวเมาก็ดึงผมนางอีกครั้งทั้งยังเพิ่มแรงขึ้นด้วย
“ขืนเจ้ายังชักช้าอยู่อีก ข้าจะถอนผมของเจ้าให้หมดหัวเลย” จวินอู๋เสียบอกว่าจะไม่ฆ่า แต่ไม่ได้บอกว่านางจะไม่ทรมานอีกฝ่ายนี่!
น้ำเสียงวิปริตของบัวหิมะมัวเมาที่ตะคอกเตือน ทำให้ฉินอวี่เยียนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว นางรีบเอาขวดโอสถวิเศษชนิดต่างๆ ทุกขวดที่นางเก็บไว้ส่งไปที่เบื้องหน้าจวินอู๋เสียอย่างรวดเร็ว
ขวดกระเบื้องเคลือบสิบกว่าขวดปรากฏขึ้นต่อหน้าจวินอู๋เสีย เด็กสาวเหลือบมองไปที่ใบหน้าซีดขาวของฉินอวี่เยียนแล้วมองไปที่ยาเหล่านั้น จวินอู๋เสียเปิดฝาจุกออกทีละขวด ยกมันขึ้นดม ตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวัง
“ตราบเท่าที่เจ้ายอมปล่อยข้าไป เจ้าอยากได้เม็ดยาเท่าไรข้าก็มีให้เจ้าทั้งนั้น อย่าลืมว่าท่านพ่อของข้าคือเจ้าสำนักชิงอวิ๋น เขามอบให้เจ้าได้ทุกอย่าง!” ฉินอวี่เยียนถูกความโหดร้ายของบัวหิมะมัวเมาข่มขู่จนหวาดกลัวไปหมดแล้ว นางร้องไห้ออกมาทั้งน้ำตา ดวงตาที่มีเสน่ห์และหวานหยด คลับคล้ายกับจะสูญเสียความน่ามองไปชั่วขณะหนึ่ง ฉินอวี่เยียนในสภาพนี้แทบจะเอาไปเชื่อมโยงกับคุณหนูใหญ่แห่งสำนักชิงอวิ๋นผู้สูงส่งไม่ได้เลย