ขณะที่พวกวู่หยานกำลังเป็นห่วงฮินางิคุ ตัวฮินางิคุเองก็กำลังเจอกับปัญหาใหญ่อยู่!
“นี่มัน….อะไรกัน…..”
ฮินางิคุสวมชุดทำงานของแอนตี้สกิล ร่างกายบอบบางของเธอปกคลุมไปด้วยชุดเกราะกันกระสุน นอกจากส่วนหัวแล้ว เธอสามารถรับมือได้ทุกการคุกคาม!
ในมือเธอถือปืนกลมืออยู่(submachine gun) ดูราวกับหน่วยพยัคฆ์เหิน(หน่วยงานพิเศษ) แน่นอนว่านี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งทีมีไว้เพื่อปิดบังคนอื่น พลังจริงๆของเธอนั้นขึ้นอยู่กับพลังจากแรงค์7!
ถึงแม้ตอนแรกที่เพิ่งมาถึงโลกนี้เธอจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับสถานะครูและแอนตี้สกิล แต่เธอก็จัดการพวกมันด้วยตัวเองโดยปราศจากความช่วยเหลือของวู่หยาน และพึ่งความสามารถอันน่าทึ่งของตัวเองกับความรู้ได้มาจากฮาคุโอเอาตัวรอดไปได้
เดิมดีฮินางิคุคิดจะใช้ชีวิตไปกับสถานะนี้ขณะที่ตามหาพวกวู่หยานหรือไม่ก็รอให้พวกเขาหาเธอเจอ เวลาเดียวกันก็ทำหน้าที่ของแอนตี้สกิลไปด้วย
วันนี้ก็เหมือนปกติทุกวัน ฮินางิคุสอนบทเรียนไป แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าพอผ่านไปได้ครึ่งคาบเธอก็ได้รับสัญญาณฉุกเฉินของแอนตี้สกิลจากบอส!
ฮินางิคุรีบสวมชุดออกปฏิบัติงาน แล้วรีบมุ่งหน้าไปที่เกิดเหตุ แต่สิ่งที่รอต้อนรับเธออยู่ มันทำให้ฮินางิคุพูดอะไรไม่ออก
ในอดีตเพื่อนที่เคยรวมงานกับเธอ ตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าตนเองโดยไร้สติ!
ใช่แล้ว ยืนทั้งๆที่ไม่มีสติ!
นัยน์ตาพวกเขากลายเป็นสีขาวซีดดูราวกับผี ส่วนด้านหลังศีรษะพวกเขาก็มีสายรยางค์เส้นเล็กๆซึ่งพากันไปเชื่อมต่ออยู่กับ….
สมอง!
สมองอะไรซักอย่างที่กำลังจมอยู่ใต้น้ำ!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฮินางิคุก้าวถอยหลังสองก้าว มองดูเพื่อนรวมงานด้วยความสับสน “นี่มันอะไรกัน!”
ราวกับตอบสนองฮินางิคุ พวกเขาที่แต่เดิมยืนนิ่งๆก็หันขวับมามองเธอ ด้วยสายตาที่ขาวโพลนไม่มีแม้แต่ลูกตา ทำให้ฮินางิคุขนหัวลุก!
“ฮะ เฮ้พวกนายปะ…เป็นไงบ้าง?” ฮินางิคุยืนตะโกนใส่พวกรวมงานด้วยความหวังว่าจะเรียกสติพวกเขากลับมาได้
แต่ทว่า สิ่งที่เห็นต่อมาก็ทำให้เธอต้องผิดหวัง…..
แอนตี้สกิลพวกนี้ไม่เพียงแต่ไม่ฟื้น แต่กลับดูราวกับตุ๊กตาที่โดนชักใย แขนขาพวกเข้าแกว่งไปมา ก่อนจะพากันวิ่งเข้าใส่ฮินางิคุ!
ฮินางิคุตกใจมาก ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองอันฉับไวเธอยกปืนกลขึ้นแต่เมื่อคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนรวมง่าน เธอก็รีบวางปืนลง แต่ช่วงเวลาที่เธอมั่วแต่ลังเลนี่เอง พวกเขาก็เข้ามาถึงด้านหน้าเธอแล้ว!
มองดูอดีตเพื่อนรวมงานที่อ้าปากกว้างแล้วกัดเข้ามาที่คอเธออย่างโหดเหี้ยม ฮินางิคุก็ตอบสนองจนได้ เธอเบี้ยงตัวหลบออกมา!
ฮินางิคุเอามือจับที่หัวอีกฝ่ายแล้วกดลงพื้น จากนั้นตะโกนเรียก “เฮ้ คุณ……”
ยังพูดไม่ทันจบ คนที่เหลือก็ต่างพากันโถมตัวเข้ามา มือเป็นหมัดเท้าเป็นลูกเตะโจมตีใส่ฮินางิคุ!
ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแรงค์7 เธอสามารถสู้กับเลเวล5ได้อย่างสูสีเลยด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับคนพวกนี้ที่แม้แต่แรงค์3ยังไม่ถึง? แต่พวกเขาเป็นเพื่อนรวมงานของเธอ เธอจึงไม่อาจโจมตีตามใจชอบได้ ทำได้แค่เคลื่อนตัวหลับอย่างจนปัญญา
“ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้กันแน่?” ขณะที่หลบการโจมตี สมองฮินางิคุก็แล่นฉิว เธอมองออกว่า พวกเขาไม่ได้ทำด้วยความตั้งใจของตัวเอง!
“หรือว่าจะเป็นเพราะเจ้านั้น?” ฮินางิคุมอง มันสมอง ที่จมอยู่ข้างในภาชนะที่มีน้ำ ในเมื่อคนพวกนี้ไม่มีสติ แสดงว่าต้องเป็นฝีมือเจ้านั้นที่ควบคุมพวกเขา
แถมยังมีเส้นสายจากตัวพวกเขาเชื่อมติดอยู่กับสมองนั่นด้วย เธอคิดเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว
“งั้นมาลองดูกันสิว่า ถ้าทำลายสายพวกนี้ไปจะเป็นยังไง!” ฮินางิคุตัดสินใจหลังจากมองสายนี้เป็นรอบที่สอง
“โยว คนสวยที่มีฝีกมือเก่งกาจ ทางที่ดีเธออย่าไปทำลายสายนี่ดีกว่านะ ถ้าไม่อยากให้สมองของคนพวกนี้ไหม้หมดน่ะนะ…….”
เสียงที่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลันทำให้ฮินางิคุช็อค หยุดมือที่กำลังจะทำลายเส้น ขณะที่โยกตัวหลบการโจมตีไปด้วย
สงบใจลง ฮินางิคุหันไปมองที่มาเสียง เห็นชายหนุ่มที่ไม่ปกติในเสื้อกาวน์ยืนอยู่ข้างแทงค์น้ำที่มีสมองข้างใน นัยน์ตาชั่วร้ายจ้องมาที่ฮินางิคุ ริมฝีปากโค้งขึ้นทำให้ฮินางิคุขมวดคิ้ว
เห็นสีหน้าฮินางิคุ ชายหนึ่มก็ยกมือขึ้นแล้วตบมือแปะๆ ดูเหมือนจะสรรเสริญเธอ “น่าประทับใจมาก สามารถหลบการโจมตีจำนวนมากของเพื่อนตัวเองได้ราวกับกำลังเดินอยู่ที่สวนสนุกแบบนี้ เธอคงเป็นเด็กใหม่ของแอนตี้สกิลที่เขาเล่าลือกันสินะ!”
“นายเป็นใคร!” ฮินางิคุมองชายหนุ่มอย่างเย็นชา ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมงานตัวเอง “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?”
ชายหนุ่มเอามือลงแล้วหัวเราะ “เธอสามารถเรียกฉัน กาคุโอ!”
“พวกเขาเป็นอะไรน่ะเหรอ……” กาคุโอมองสำรวจแอนตี้สกิลที่โดนควบคุม “อย่าห่วงเลย คุณแอนตี้สกิลตัวน้อยที่น่ารัก พวกเขาจะไม่เป็นอะไร!”
“ไม่เป็นอะไร?” ฮินางิคุเดือดจัดจนสังเกตได้จากเสียงหัวเราะเธอ “มีคนปกติที่ไหนกันที่มองว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร!”
“หวาย ทำหน้าน่ากลัวจัง!” กาคุโอแกล้งทำเป็นเอามือตบหน้าอก จากนั้นยกยิ้ม “สบายใจได้ คุณแอนตี้สกิล ฉันก็แค่ต้องการใช้ร่างกายพวกเขามาทดสอบสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของฉันก็เท่านั้นเอง!”
สีหน้าฮินางิคุดิ่งลง เธอจ้องมองกาคุโอด้วยแววตาที่อัดแน่นด้วยความโกรธ!
“ดูจากท่าทางเพื่อนของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งประดิษฐ์ของฉันจะทำได้ไม่เลวเลยนะ!” กาคุโอราวกับไม่เห็นสายตาของฮินางิคุ เขามองดูสมองข้างตัวด้วยแววตาบ้าคลั่ง!
กาคุโอหัวเราะเสียงดัง มือทั้งสองยกลูบแทงค์น้ำ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ดีจริงๆ! ดีมาก! ด้วยสิ่งประดิษฐ์นี้ ไอ้ผู้ชายจากตระกูลบัดซบนั้นต้องช็อคแน่!”
ฮินางิคุจับเบาะแสบางอย่างได้ เธอขมวดคิ้ว
“ตระกูลบัดซบ?”
“ใช่แล้ว! ตระกูลสวะนั่นแหละ!” กาคุโอหันหน้ามาหาฮินางิคุอย่างรุนแรง แล้วพูดน้ำเสียงเกลียดชังว่า “พวกมันคิดว่าตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา พวกมันไม่สนใจผลงานสิ่งประดิษฐ์ของคนอื่น ชอบเอาแต่พูดจาดูถูก แล้วเธอคิดว่าแบบนี้มันไม่ใช่สวะงั้นเหรอ!?”
ฮินางิคุมองกาคุโอที่จมไปกับความโกรธเกลียด “ฉันไม่สนหรอกนะว่านายจะมีความแค้นกับตระกูลนั้นยังไง ฉันต้องการรู้แค่ว่าจะทำให้พวกเขากลับมาเหมือนเดิมยังไง!”
เห็นฮินางิคุไม่คิดฟังตัวเองพูด กาคุโอก็หันไปมองสมองที่ความคลั่งราวกับกำลังมองสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด
“ถ้าเธออยากให้พวกเขาเป็นเหมือนเดิม ก็ต้องใช้เจ้านี่……”
กาคุโอ ชี้ไปที่แผงควบคุมที่ถูกติดตั้งใกล้ๆแทงค์น้ำที่มีสมอง
“ใส่คำสั่งเข้าไปก็โอเคแล้ว ว่าไง? มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
คำพูดต่อมาราวกับกำลังอวดของกับฮินางิคุ แต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะฟัง “ถ้างั้นก็รีบๆทำให้พวกเขากลับมาเหมือนเดิมเร็วเข้า!”
“ไม่เป็นไร ยังไงการทดลองของฉันก็เกือบเสร็จสิ้นอยู่แล้วล่ะนะ……” กาคุโอพูดเสร็จ ก็มองฮินางิคุด้วยแววตาชั่วร้าย
“แต่ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าแอนตี้สกิลที่โดดเด่นที่สุด และเด็กที่สุดอย่างเธอ ถ้าถูกสิ่งประดิษฐ์ของฉันควบคุมเข้า ผลมันจะออกมาเป็นยังไงกันน่ะ…….”