“แต่ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าแอนตี้สกิลที่โดดเด่นที่สุด และเด็กที่สุดอย่างเธอ ถ้าถูกสิ่งประดิษฐ์ของฉันควบคุมเข้า ผลมันจะออกมาเป็นยังไงกันนะ…….”
ได้ยินคำพูดของผู้ชายที่ชื่อกาคุโอ ใบหน้าของฮินางิคุกลายเป็นเย็นชาทันที เธอโยนปืนในมือทิ้งแล้วยืดตัวตรงขึ้น
“ดูเหมือนว่าการเจรจาจะล้มเหลวสินะ……” ฮินางิคุพูดขณะที่สายตาจับจ้องไปที่แทงค์น้ำข้างตัวกาคุโอ!
“โอ้? ดูเหมือนว่าคุณแอนตี้สกิลต้องการลิ้มรสสิ่งประดิษฐ์ของฉันเป็นการส่วนตัวสินะ!”
กาคุโอหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่เคยทดลองกับผู้มีพลังจิตก็เถอะนะ แต่เธอรู้ไหม? ว่าตามทฤษฎีแล้วสิ่งประดิษฐ์ของฉันสามารถควบคุมได้แม้กระทั่งเลเวล5เลยนะ…..”
ฮินางิคุไม่พูดตอบอะไร เธอทำเพียงแค่จ้องเขม็งไปที่แทงค์น้ำ ก่อนจะตัดสินใจว่าตนเองจะต้องวิ่งไปตบไอ้ผู้ชายตรงหน้านี่ให้สลบไปสักหนึ่งอาทิตย์ให้ได้ หลังจากนั้นค่อยมาคิดหาวิธีช่วยเพื่อนร่วมงานเอา
บางทีอาจเป็นเพราะเดาใจฮินางิคุได้ กาคุโอถอยหลังไปสองก้าวมาตรงข้างๆแทงค์น้ำ “หลังจากที่คุณแอนตี้สกิลได้ทดลองสิ่งประดิษฐ์ของฉันแล้ว หลังจากนั้นฉันก็จะไปควบคุมพวกผู้มีพลังจิต!!”
“จากเลเวล1ไปเลเวล2 จากนั้นก็ เลเวล3 เลเวล4 และสุดท้ายเลเวล5!” ราวกับมองเห็นอนาคตที่ผลงานของตัวเข้าไปควบคุมผู้คนได้สำเร็จ กาคุโอหัวเราะดังลั่น
“สุดท้ายของสุดท้าย ฉันจะใช้สิ่งประดิษฐ์นี้ไปควบคุมพวกสวะที่บังอาจมาย่ำยีเกียรติของฉัน! หลังจากนั้น ทุกคนก็จะรู้ว่าฉัน กาคุโอ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา!!”
ดูเหมือนกาคุโอจะเพ้อจนถึงขีดสุดไปแล้ว เขายกมือกดไปที่แผงควบคุมบนตัวแทงค์และด้วยวิธีบางอย่าง เส้นสายรยางค์อันเล็กๆจำนวนมหาศาลก็ผุดขึ้นมาจากภายในแทงค์ พวกมันงอกออกมาจากสมองที่อยู่ข้างใน จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ต่างพากันตรงดิ่งเข้าหาฮินางิคุ!
เร็วมาก!
ฮินางิคุตกใจเล็กน้อย สายพวกนี้มันเร็วมากเสียจนสายตาคนธรรมดาไม่มีทางมองตามพวกมันทันแน่!
แต่เธอที่เป็นแรงค์7 สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของพวกมันได้ ดังนั้นเธอจึงฉีกตัวหลบอย่างรวดเร็ว เส้นสายพุ่งทะลุผ่านจุดที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่!
โดยไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาแม้แต่จะถอนหายใจโล่งอก สายรยางค์วกกลับมาหาเธออีกครั้ง นัยน์ตาฮินางิคุหดตัวลง แต่เธอก็สามารถทำใจให้สงบลงได้อย่างรวดเร็ว แบมือออกจากนั้นกลีบดอกซากุระที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ไปรวมตัวที่มือเธอ ก่อตัวเป็นดาบคริสตัล!
เป็น ชิโระซากุระ! ที่วิวัฒนาการกลายเป็นยุทธภัณฑ์ดิน!
เห็นดาบชิโรซากุระ กาคุโอก็หรี่ตาลง แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “ผู้มีพลังจิต?”
“ไม่! ไม่ใช่แน่!” กาคุโอขมวดคิ้วมองดาบในมือฮินางิคุ “ไม่เตยได้ยินเลยว่าคุณหนูแอนตี้กิลมีพลังจิตด้วย…..”
ขบคิดชั่วขณะ กาคุโอก็ส่ายหัวตัดสินใจเลิกคิดต่อ “ไม่เป็นไร ผิดแผนไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น มันอาจจะดีกว่าก็ได้ที่ได้ทดลองกับผู้มีพลังจิตก่อนเวลาแบบนี้”
ฮินางิคุมองเส้นสายที่ตรงเข้ามา จากนั้นตวัดดาบตัดพวกมันจนขาด!
ฮินางิคุไม่ได้ดีใจหรือมีความสุขแม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นเพราะสายรยางค์ชุดใหม่ก็ได้เข้ามาแทนอันที่เธอตัดไป เธอยกดาบขึ้นเตรียมตัว ในเวลานี้เองร่างคนหลายคนก็ได้ปรากฏขึ้นมาใกล้กับฮินางิคุจากนั้นกระโจนตัวเข้าใส่เธอที่กำลังจะตวัดดาบตัดสาย เป็นเหล่าแอนตี้สกิลที่โดนควบคุม!
ฮินางิคุยกเลิกความคิดที่จะตัดสายรยางค์ เธอกระโดดข้ามหัวพวกแอนตี้สกิลก่อนจะปรับตัวกลางอากาศแล้วลงพื้นไม่ไกลออกไป
แต่เพียงไม่นาน แอนตี้สกิลก็เข้ามาโมตีฮินางิคุอีกครั้ง!
ฮินางิคุกัดฟันกรอด ก่อนจะพูดขอโทษนะในใจ แล้วพุ่งตัวเข้าหาเพื่อนรวมงานแทนที่จะหนีเหมือนทุกครั้ง โดยไม่ใช่ชิโระซากุระ เธอใช้เพียงแค่มือเปล่าๆปลดข้อต่อพวกเขา!
ฝ่ามือเคลื่อนไหงปลดข้อต่อเพื่อนแอนตี้สกิลไม่หยุด จนกระทั่งพวกเขาลงไปนอนกองกับพื้นหมดทุกคน นี่มันช่วยไม่ได้ ถ้าถามว่าทำไมไม่ทำให้หมดสติไป ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้สติกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเปล่าประโยชน์มีเพียงวิธีนี้ที่จะหยุดไม่ให้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวได้อีก
หลังจากจัดการแอนตี้สกิลจนหมด ฮินางิคุก็ผ่อนคลายลง ทว่าวินาทีนี่เองสายรยางค์จำนวนมากก็ได้เข้ามาล้อมรอบตัวเธอแล้ว พวกมันพุ่งเข้ามาจนเต็มระยะสายตาเธอ!
ฮินางิคุตกใจกับสิ่งที่เห็น เธอยกชิโระซากุระฟันเส้นที่อยู่ด้านหน้าไปจนหมด ทว่ายังเหลือทางด้านหลังอยู่ พวกมันงอตัวเล็กน้อยราวงูที่กำลังจะฉกเหยื่อแล้วโจมตีเข้าที่หลังหัวฮินางิคุ!
เห็นแบบนี้ กาคุโอที่ยืนอยู่ไกลออกไปก็เผยอให้เห็นถึงรอยยิ้มชัยชนะ……
ชั่วขณะที่ฮินางิคุจะโดนโจมตี ร่างเล็กบอบบางที่มีผมสีชมพูทรงทวินเทลปรากฏออกมาด้านหน้าเธอ ภายใต้สายตาช็อคๆของฮินางิคุ สายน้อยทวินเทลก็เอามือไปวางที่ไหล่ฮินางิคุ จากนั้นทั้งสองคนก็หายไปพร้อมกัน!
ฮินางิคุรู้สึกเพียงแค่ว่าภาพที่เห็นเบลอไป เมื่อสายตาเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม ร่างที่คุ้นเคยหลายร่างก็มายืนอยู่ข้างตัวเธอแล้ว!
“หยาน! มิโคโตะ! อิคารอส! แอสเทรีย!”
เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมที่อยู่ๆพวกเขาก็ปรากฏออกมา แต่ฮินางิคุก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ
“ฮินางิคุ!” มิโคโตะยิ้มอย่างมีความสุขมองฮินางิคุ นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะตั้งแต่ตอนที่เธอโดนอัญเชิญออกมา คนที่คอยอยู่ข้างๆเธอตลอดนอกจากวู่หยานก็เป็นฮินางิคุนี่แหละ
ถ้าถามว่าใครที่ดีกับฮินางิคุที่สุด คนๆนั้นจะไม่ใช่วู่หยาน แต่เป็นมิโคโตะ!
“มิโคโตะ!” ฮินางิคุเข้าไปกอดมิโคโตะด้วยความสุขอย่างมาก เพราะตั้งแต่มาที่เมืองแห่งการศึกษา เธอก็คอยหาตัวเพื่อนพ้องอยู่ตลอด แล้วตอนนี้พวกเขากลับมาปรากฏต่อหน้าเธอ แบบนี้จะไม่ให้เธอมีความสุข?
“พวกเธอเป็นใคร!” ไกลออกไป กาคุโอที่เห็นว่าแผนตัวเองล้มเหลวสีหน้าก็มืดมนลงทันที สายตาที่มองพวกวู่หยานกลายเป็นเลวร้ายมาก
ได้ยินเสียงตะโกน พวกเธอจึงหันไปมองกาคุโอ ในแววตาวู่หยานเป็นประกายวาบอย่างเย็นชา ถึงแม้เขาจะโผล่มาตอนที่ฮินางิคุกำลังจะโดนโจมตีพอดี จึงไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้านั้น แต่ที่เขาจำเป็นต้องรู้จริงๆมีเพียงแค่เจ้านี่โจมตีฮินางิคุ!
วู่หยานขยับตัววูบ ทำให้จุดที่เขายืนอยู่เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ภาพติดตา พริบตาต่อมา เขาก็ไปปรากฏตัวด้านหน้ากาคุโอ ทำให้ใบหน้าที่กำลังไม่พอใจของมันแข็งค้างไปทันที
ยกหมัดข้างหนึ่งขึ้นแล้วประเคนอัดเข้าไปที่จมูกกาคุโอ จนเหลือกระฉูด วู่หยานเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อมันก่อนที่ตัวจะกระเด็นไป จากนั้นชกเข้าไปที่ท้องอีกหนึ่งหมัด!
“อ๊าก!!!” สองหมัดของวู่หยานทำให้กาคุโอร้องอย่างโหยหวน เมื่อเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ตรงท้องก็รู้สึกปวดจี๊ด ตรงจมูกก็มีน้ำสีแดงไหลออกมาอย่างหนัก
ผ่านหมัดทั้งสองของวู่หยานไป ตัวกาคุโอก็กลายเป็นอ่อนปวกเปียก เมื่อวู่หยานปล่อยมือที่จับคอเสื้อ กาคุโอก็ร่วงลงไปนอนขดที่พื้นราวกับกุ้งโดนน้ำร้อน………
ยกมือขึ้นตบไปมา ก่อนจะเตะกาคุโอที่พื้นไปอีกหนึ่งดอก “สองหมัดนี้ คือราคาที่แกกล้ามารังแกฮินางิคุ!!”
ตอนนี้เอง พวกฮินางิคุที่อยู่ห่างออกไปก็ได้สติ ต่างพากันรีบวิ่งมาหาวู่หยาน และฮินางิคุเป็นคนที่วิ่งมาเร็วที่สุดด้วย!
ต้องพูดว่าในเมืองแห่งการศึกษา คนที่เธอคิดถึงมากที่สุดก็คือ วู่หยาน!
นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว หัวใจของเธอเป็นของเขาไปแล้วนิ แล้วจะไม่ให้คิดถึงได้ยังไงจริงไหม? ถึงแม้เธอจะซึนเดเระ ที่ไม่ต้องการแสดงความรู้สึกคิดถึงให้เห็น แต่มาเจอวู่หยานในสถานการณ์แบบนี้ แถมยังเห็นเขาโกรธเพื่อตนเองด้วย ทำให้ฮินางิคุเผลอตัวแสดงความรู้สึกจริงๆที่อยู่ลึกข้างในออกมา
แน่นอนว่า ความสุขนี่เมื่อเธอวิ่งไปถึงตัววู่หยาน เธอก็ได้พับเก็บมันลงไปเรียบร้อยแล้ว
“ก่อนหน้านี้นายมัวไปวิ่งเล่นที่ไหนมา?” ฮินางิคุจงใจทำสีหน้าไม่พอใจมองวู่หยาน แล้วกล่าวหาเขา ราวกับว่าเรื่องที่ทุกคนกระจัดกระจายกันเป็นความผิดของวู่หยาน
วู่หยานหัวเราะอย่างขมขื่น “พวกเราตามหาตัวเธอตลอดเวลาเลยนะ โอเคร?…….”
“ฮึม นายบอกว่าตามหาตลอดเวลาสินะ……..” ฮินางิคุทำเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา แล้วไล่มองมิโคโตะ อิคารอส และแอสเทรีย “เห็นกันอยู่ชัดๆว่าคนสุดท้ายคือฉัน……”
“ถ้าฉันบอกว่าบังเอิญเจออิคารอสกับแอสเทรีย เธอจะเชื่อไหม?” วู่หยานยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พูดกับฮินางิคุ
“ไม่เชื่อย่ะ!!”
ฮินางิคุตอบกลับมาแบบนี้แหละ…….