ใครมา!

นั่นคือคำที่ซีเว่ยอยากจะตะโกนไปให้ถึงสวรรค์ แต่เพื่อความปลอดภัยของเขา เขาจะไม่เริ่มติดต่อกับอีกฝ่ายก่อน

ความจริงเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

มีเพียงเทพกะโหลกและเทพธิดาสมุทร 2 องค์นี้เท่านั้น ที่ซีเว่ยคิดว่าจะมาเคาะบ้านเขาแบบไม่บอกไม่กล่าว

น่าเศร้าที่ตัวเอกของเราไม่สามารถต่อสู้กับคนใดคนหนึ่งได้เลย

ถ้าให้เทียบกันแล้ว เขาอาจจะรับการโจมตีของเทพกะโหลกได้ครั้งสองครั้งก่อนตาย แต่เขาจะถูกเทพธิดาสมุทรฆ่าทันที…

ดูเหมือนเขาจะต้องหนีไปซ่อนอยู่ในดินแดนมรรตัยแล้วในตอนนี้

โชคดีที่ผู้มาเยือนของเขาดูเหมือนจะไม่อยากทุบประตูบ้านเขา สิ่งนี้ทำให้ซีเว่ยมีเวลาพอสมควรในการเก็บข้าวของจำเป็นอย่างรวดเร็ว

ในตอนที่เขากำลังจะเอาเทพกระดูกเน่าออกจากเครื่องคั้นน้ำผลไม้ เขาก็รู้สึกได้ถึงความเมตตาที่ส่งมาจากนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา โดยมีต้นกำเนิดมาจากเทพด้านนอก

ซีเว่ยสับสน นี่คือเขาพยายามล่อฉันออกไปข้างนอกและซุ่มยิงฉันให้ตายในครั้งเดียวใช่ไหม ไร้สาระ ไม่ต้องใช้แผนนี้เขาก็ยังสู้ใครไม่ได้อยู่ดี…

เป็นไปได้ไหมว่าเทพที่มาไม่ใช่เทพกะโหลกหรือเทพธิดาสมุทร?

ซีเว่ยคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจทิ้งเทพกระดูกเน่าไว้ในบ้านเล็ก ๆ ของเขาตามเดิม และเริ่มเตรียมตัวย้ายออกไปดู หลังจากเขาออกมานอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวังแล้ว เขาก็ได้เผชิญหน้ากับแขกที่ไม่คาดคิดของเขา

ความประทับใจแรกของเขาคือ ‘ว้าว ต้นขานั่นขาวมาก’

ถูกต้อง

แขกของเขาคือสิงโตตัวใหญ่สีขาวราวหิมะ แผงคอหนารอบคอบ่งบอกว่านี่คือสิงโตตัวผู้

“สวัสดี เทพเจ้าใหม่”

สิงโตมีเสียงที่ค่อนข้างเหมาะสมกับรูปลักษณ์ของเขา เสียงเขาทุ้มเหมือนผู้ชายในช่วงวัย 40 ปลาย ๆ คำพูดของเขาเต็มไปด้วยพลังอำนาจ

“ทำไมถึงมีสิงโตอยู่นอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของฉัน…”

ฉากนี้น่าประหลาดเกินไป มันทำให้วงจรในสมองของซีเว่ยพังจากความตกใจ

“รูปลักษณ์ของเทพเจ้าไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนัก ตราบเท่าที่เจ้ามีพลังงานศักดิ์สิทธิ์ เจ้าก็สามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ…เจ้าก็เป็นแค่ลูกบอลเหมือนกันไม่ใช่หรือ” เทพอีกองค์ตอบกลับ

หลังจากที่สมองของเขารีบูตตัวเองเรียบร้อยแล้ว ซีเว่ยก็สแกนความทรงจำที่เขามีอีกครั้ง เขาได้รับความทรงจำส่วนหนึ่งจากเจ้าแห่งน้ำ ธนาคารความจำของเขาตอนนี้เลยค่อนข้างใหญ่กว่าเมื่อก่อน ไม่นานเขาก็พบความทรงจำเกี่ยวกับเทพองค์นี้

“ท่านคือเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมในตำนานเหรอ?”

ซีเว่ยผงะ

สิงโตตัวใหญ่หรือ ‘อัสลาน’ คือเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม เดิมทีเขามีรูปร่างเป็นมนุษย์ แต่ตามตำนานก่อนหน้านี้เขาเคยเดิมพันกับผู้ศรัทธาและแพ้เดิมพัน ดังนั้นเพื่อรักษาสัญญา เขาจึงรักษารูปลักษณ์เป็นสิงโตมาจนถึงปัจจุบัน

“ถูกต้อง” อัสลานก้มหัวสิงโตสีขาวขนาดใหญ่ ใบหน้าสิงโตของเขาก็มีความภาคภูมิใจในตัวเองอยู่นิด ๆ

“เนื่องจากคำสอนที่เข้มงวดเกินไปของอัสลาน ผู้ศรัทธาจำนวนมากจึงฝ่าฝืนกฎและทรยศต่อศาสนจักรแห่งความยุติธรรม เขาจึงได้รับฉายาว่า ‘เทพที่มีผู้ทรยศมากที่สุด’ มานานกว่าพันปี? อัสลานตนนั้นนะเหรอ”

“อะแฮ่ม ข้าปรับเปลี่ยนคำสอนของตัวเองให้เข้ากับมาตรฐานของมนุษย์แล้ว ตอนนี้เลยมีคนทรยศไม่มากเท่าไหร่” สิงโตไอเบา ๆ เขาเปลี่ยนหัวข้อทันที “ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ เราไปคุยกันในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าดีไหม? แม้จะเป็นเทพเจ้า มันก็ยากที่จะอยู่ในความว่างเปล่าเป็นเวลานาน”

คำพูดของเขาทำให้ซีเว่ยลังเล

ชื่อเสียงของสิงโตตนนี้เป็นที่น่าอัศจรรย์ในหมู่เทพเจ้า หากมีโอกาสที่จะสามารถสร้างพันธมิตรกับเทพเจ้าตนใดก็ได้ เทพเจ้าที่ชอบด้วยกฎหมายจำนวนนับไม่ถ้วน จะเลือกอัสลานเป็นตัวเลือกแรกแน่นอน

ปัญหาคือชายคนนี้เป็นคนดีก็จริง แต่ความยุติธรรมของเขาก็ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกหายใจไม่ออกเป็นบางครั้ง หากเขาได้เข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย เขาอาจจะจากไปเมื่อเห็นซากเทพกระดูกเน่าที่ถูกยัดลงในเครื่องคั้นน้ำผลไม้…

ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม อัสลานเป็นพิษต่อเทพเจ้าชั่วร้ายมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นสิงโตตัวใหญ่ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในโลกนี้มาได้โดยสวัสดิภาพ และมักพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบข้า แต่เจ้าไม่สามารถกำจัดข้าได้” เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมาก

แม้แต่เทพอย่างเทพกะโหลก ก็เป็นแค่ไม้จิ้มฟันของเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมเท่านั้น…

“ไม่ต้องกังวล ข้าสนใจการกระทำของผู้ศรัทธาของเจ้าเมื่อไม่นานมานี้ ข้ารู้ว่าเจ้าได้กำจัดเทพกระดูกเน่าไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ศพและพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เป็นของเจ้าตามกฎของสงคราม ตราบใดที่เจ้าไม่กลายเป็นเทพเจ้าชั่วร้าย ข้าก็จะไม่ทำอันตรายเจ้า”

สิงโตสามารถมองเห็นความกังวลของซีเว่ยได้ และทำให้เขามั่นใจขึ้น

เนื่องจากแขกของเขายืนยันจุดยืนของตัวเองแล้ว ซีเว่ยจึงจำยอมต้องต้อนรับเขาเข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

ตามที่คาด สิงโตขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นศพของเทพกระดูกเน่าในเครื่องคั้นน้ำผลไม้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

“แล้ว…ทำไมท่านถึงมาที่นี่” ซีเว่ยใช้หนวดของเขาส่งโค้กให้อัสลานดื่ม

แขกของเขากระดกหมดขวดในอึกเดียว ก่อนปล่อยให้เสียงเรอออกมา “อย่างที่ข้าได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ ข้าสนใจการกระทำของผู้ศรัทธาเจ้า ข้าสังเกตเห็นว่าผู้ศรัทธาของเจ้าบุกโจมตีลัทธิกระดูกเน่า กำจัดอันตรายในท่อระบายน้ำใต้ดิน กำจัดเรเวแนนท์ในหุบเขาแห่งความตาย และช่วยเหลือชนเผ่าที่อ่อนแอกว่า ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม”

“ท่านอยากให้ข้าเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของท่านหรือ” มีริ้วรอยเกิดขึ้นบนลูกบอล

แม้เขาจะไม่สามารถสู้ได้ แต่ซีเว่ยก็จะไม่กลายเป็นผู้ติดตามตัวน้อยของเทพตนอื่นแน่ การกลายเป็นเทพผู้ใต้บังคับบัญชาของเทพตนอื่นนั้นมีข้อจำกัดมากเกินไป และความสามารถพิเศษในการข้ามโลกของเขาอาจจะถูกเปิดเผยได้ง่าย ๆ

“ข้าอัสลาน ไม่เคยแสวงหาเทพเจ้าใต้บังคับบัญชา!” สิงโตคำรามอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ข้ามาที่นี่เพื่อหาพันธมิตร”

“พันธมิตร?” ซีเว่ยอึ้ง

“ถูกต้อง สำหรับเทพระดับกลางและล่าง มันยากมากที่จะเลื่อนขั้น การหาผู้ศรัทธาใหม่อาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทที่ไม่ต้องการกับเทพเจ้าองค์อื่น นอกจากนี้โลกของเทพเจ้าก็ยังไม่ค่อยสงบสุข นั่นทำให้เทพเจ้าต้องมีพันธมิตร” อัสลานเริ่มต้นอย่างช้า ๆ

“พันธมิตรของเราคือ ‘วิหารล่องหน’ ไม่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดให้ต้องปฏิบัติตาม สมาชิกของเราตกลงที่จะร่วมมือกันในบางครั้ง เมื่อมีการค้นพบเทพชั่วร้ายที่แข็งแกร่ง เราก็จะให้ผู้ศรัทธาของเราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน หลายปีที่ผ่านมามันยากมากที่จะสู้กับเทพเจ้าชั่วร้ายด้วยกำลังของเทพเพียงตนเดียว ความยุติธรรมที่ผู้ศรัทธาของเจ้าได้แสดงออกมา ทำให้ข้ารู้สึกตื่นเต้น ดังนั้นข้าจึงหวังว่าเจ้าจะตอบรับคำเชิญของข้า เพื่อเข้าร่วมกับวิหารล่องหน และกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา”

ซีเว่ยคิดตามแล้วถามออกมาว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสมาชิกของท่านถูกโจมตีโดยเทพองค์อื่น”

“เว้นแต่จะเป็นหนึ่งในเทพบิดรทั้งเจ็ด เราจะให้ความช่วยเหลือในการปกป้องสมาชิกของเราอย่างแน่นอน!” อัสลานขยับแผงคออันงดงามของเขาเพื่อให้ซีเว่ยมั่นใจ

“ตกลง ไม่มีปัญหา จากนี้ไปท่านจะเป็นแผนฉุกเฉินของข้า!”

ร่างลูกบอลเรืองแสงของซีเว่ยยืดหนวดไปพันรอบอุ้งเท้าของสิงโตตัวใหญ่และเขย่ามันขึ้นลง นี่เป็นฉากที่ค่อนข้างแปลก

“แผนฉุกเฉิน?”

“ท่านได้ยินผิดแล้ว อย่าคิดมาก~”