หลังจากที่ซีเว่ยตกลงที่จะเข้าร่วมวิหารล่องหน สิงโตตัวใหญ่อัสลานก็ส่ายหาง

“แค่นั้นเหรอ? ข้าไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาอะไรเลยเหรอ” ซีเว่ยถามอย่างสงสัย

“ถ้าเจ้าไม่ได้ให้หนึ่งในตรีเอกานุภาพแห่งการสรรค์สร้างทำหน้าที่เป็นคนกลาง สัญญาต่าง ๆ ก็ไม่สามารถควบคุมการกระทำของเราได้มากนัก” อัสลานสะบัดแผงคอสีขาวของเขา “และอย่างที่ข้าได้พูดไปก่อนหน้านี้ พันธมิตรของเรามีความอิสระมากกว่าที่อื่น ๆ สัญญาที่ระบุกฎ จะขัดต่อความตั้งใจนั้น เจ้าสามารถถือว่าเราเป็นคลับพิเศษก็ได้”

“แล้วข้าจะติดต่อท่านได้ยังไง” ซีเว่ยถามอย่างรีบร้อน

เขาจะต้องท่องไปในความว่างเปล่าเพื่อค้นหาอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพันธมิตร เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลืองั้นหรอ…นี่จะทำให้แผนฉุกเฉิน แค่ก การเป็นพันธมิตรของเราล้มเหลว…

เมื่อศัตรูมาเคาะประตูบ้าน เขาแน่ใจว่าตัวเองไม่มีเวลาไปตามหากำลังเสริมแน่…

“ไม่ต้องรีบ ข้ากำลังจะบอกเจ้า”

อัสลานนั่งลงเหมือนแมวตัวใหญ่ และสอดกรงเล็บเข้าไปในแผงคอ

มีบางสิ่งบางอย่างหลุดร่วงออกมาจากขนหนา ๆ

ตอนแรกซีเหว่ยคิดว่ามันเป็นหมัด แต่หลังจากคิดดูแล้ว เว้นแต่มันจะเป็นหมัดเทพเจ้า คงไม่มีหมัดใด ๆ จะสามารถอาศัยอยู่บนร่างกายของอัสลานได้ เขามองสิ่งนั้นด้วยความสามารถในการทำนายของเขา ซีเว่ยก็รู้ว่ามันเป็นขนของอัสลานขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติของอัสลานแฝงอยู่

แม้จะเป็นเพียงเส้นขน มันก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของเทพ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่มันจะกลายเป็นสื่อนำที่มีคุณสมบัติวิเศษ

สิงโตใช้พลังงานเทพเจ้าของเขาส่งขนไปให้ซีเว่ยที่มีสีหน้ารังเกียจ โชคดีที่ลูกบอลไม่มีหน้า ไม่งั้นสิงโตก็คงจะไม่พอใจแน่

“นี่เป็นเทคนิคแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมในหมู่เทพ มันสะดวกมากในการสื่อสาร เส้นขนนี้มีคุณสมบัติของข้าแฝงอยู่ ทุกครั้งที่เจ้าต้องการพบข้า เพียงแค่ใส่พลังงานศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าลงไป” ราชาสิงโตอธิบายอย่างร่าเริงโดยไม่สนใจความคิดของซีเว่ย

หลังจากนั้นเทพแห่งความยุติธรรมอัสลานก็ออกจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย และกลับไปยังดินแดนของตนเอง

เมื่อเขาอยู่คนเดียว ซีเว่ยก็เริ่มศึกษามันอย่างใกล้ชิด

“โอ้ มันช่างน่าสนใจอะไรอย่างนี้…”

เทคนิคนี้เป็นรูปแบบความสามารถชนิดหนึ่งที่ต้องฉีดพลังเหนือธรรมชาติ (พลังงานศักดิ์สิทธิ์หรือพลังเวท) ก่อนถึงจะใช้งานได้

ในขณะที่มนุษย์ไม่ค่อยได้ติดต่อกับพลังประเภทนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าใจพลังเหนือธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พวกเขาเลยต้องใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้า ถึงจะเริ่มเข้าใจพลังของเทพเจ้า แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตระดับสูงเช่นเหล่าทวยเทพ พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย

เส้นขนในมือของซีเว่ยนั้นมีเทคนิคอันงดงามและซับซ้อนซ่อนอยู่ มันใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเพื่อเชื่อมต่อไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อีกฝั่งผ่านความว่างเปล่า โดยไม่คำนึงถึงระยะทาง ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของมันห่างไกลจากความรู้ของมนุษย์ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจและเรียนรู้ มีเพียงเทพเช่นซีเว่ยเท่านั้นที่มีความสามารถในการใช้มัน

แต่สิ่งนี้ทำให้ซีเว่ยไปมีแรงบันดาลใจ

“การสื่อสารข้ามเวลาและอวกาศ…ลองคิดดูสิ ก่อนหน้านี้ผู้เล่นมักจะตะโกนคุยกัน…”

ซีเว่ยยื่นหนวดของเขาไปถูตรงจุดที่น่าจะเป็นคาง

เขาเคยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มาก่อน วิธีแก้ปัญหาเดิมของเขาคือการสร้างระบบอีเมลสำหรับผู้เล่น และทำให้พวกเขาสามารถสื่อสารกันแบบตัวต่อตัว ไม่จำเป็นต้องข้ามผ่านเวลาและอวกาศด้วยซ้ำ เนื่องจากซีเว่ยวางแผนว่าเขาจะเป็นผู้ดำเนินการเพื่อช่วยเชื่อมต่อเส้นทางการโทรของผู้เล่น ไม่ใช่ว่าไม่มีระบบการสื่อสารที่ดีกว่านี้ที่สามารถนำไปใช้ได้ แต่มันแพงเกินไป…

แต่ด้วยการเทคนิคใหม่ที่เขาได้รับมานี้ ก็สามารถช่วยเขาประหยัดพลังงานศักดิ์สิทธิ์ไปได้ไม่น้อย ไม่ต้องคิดถึงรายละเอียดอื่น ๆ อย่างน้อยพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำมัน ซีเว่ยรู้สึกได้ถึงไอเดียที่ปรากฏขึ้นในหัวกลม ๆ ของเขา

“ฉันควรสร้างช่องแชทสาธารณะ จากนั้นก็แชทกลุ่ม แชทปาร์ตี้ และแชทส่วนตัวในภายหลังดีไหม? ไม่ ตอนนี้ยังมีผู้เล่นไม่มากมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เมื่อมีผู้เล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่องแชทสาธารณะจะอัปเดตอยู่ตลอดเวลา มันอาจทำให้ผู้เล่นพลาดข้อความสำคัญไปจำนวนมาก แต่ถ้าไม่มีแชทสาธารณะ การเข้าสังคมในหมู่ผู้เล่นก็จะค่อนข้างจำกัด…”

หลังจากคิดหนัก ซีเว่ยก็ตัดสินใจสร้างเว็บไซต์สื่อสารสำหรับผู้เล่นในรูปแบบของฟอรัม

ในการสร้างฟอรัม ก่อนอื่นเขาต้องมีเซิร์ฟเวอร์

สายตาของซีเว่ยจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ ใบหน้ากลม ๆ ของเขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้น ‘ฉันเลือกนาย XP!

ดังนั้นซีเว่ยจึงเพิ่มฟังก์ชันให้กับ XP ตัวน้อยที่ขยันขันแข็ง

เนื่องจากตอนนี้มีผู้เล่นไม่มากนัก คอมพิวเตอร์ตัวน้อยนี้ควรจะสามารถจัดการได้ หลังจากผู้เล่นที่ออนไลน์อยู่เพิ่มจำนวนขึ้น XP ของเราก็จะได้รับการอัปเกรดเป็น Sunway Taihulight* อย่างแน่นอน

(Sunway Taihulight ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แบรนด์จีน)

หลังจากทำเสร็จ ซีเว่ยก็ได้พิมพ์ข้อความระบบเพื่อแจ้งผู้เล่นทุกคน

[ติ้ง! ระบบเกมเวอร์ชั่น 0.21 ได้รับการอัปเกรดอย่างสมบูรณ์แล้ว เพิ่มหน้า ‘ฟอรัมผู้เล่น’ ตอนนี้ท่านสามารถพูดคุยกันได้ตามต้องการ]

ขณะที่หน้าฟอรัมเปิดขึ้นเป็นครั้งแรก เนื้อหายังคงว่างเปล่าโดยมีเพียงคำแนะนำของซีเว่ยแขวนอยู่ด้านบน

ในข้อความ เขาได้อธิบายสั้น ๆ ว่าฟอรัมคืออะไร มีหน้าที่อะไร และยังระบุกฎของฟอรัมว่าห้ามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง และเขียนบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง

เดิมซีเว่ยเคยคิดว่าผู้ศรัทธาของเขามีความเป็นนักเลงคีย์บอร์ดแฝงอยู่ในตัวสูง สิ่งที่เขาต้องทำก็คือรอ 2-3 นาทีก่อนที่ฟอรัมจะเต็มไปด้วยโพสต์แบบสุ่มแปลก ๆ และตลก

แต่ซีเว่ยรอนานกว่าหนึ่งชั่วโมง และข้อความเดียวในฟอรัมคือข้อความของเขา

จากนั้นอีกชั่วโมง โพสต์ใหม่ก็ปรากฏขึ้น นั่นคือโพสต์ของเจ้าหญิงนักรบลีอา เธอเพิ่งร้องเพลงสรรเสริญ ‘เทพเจ้าแห่งเกม’ ในโพสต์ของเธอ โดยมีผู้เล่นหลายคนติดตามเธอในคอมเมนต์ แม้แต่ซีเว่ยที่แอบอ่านก็ยังรู้สึกขนลุก

สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ซีเว่ยรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กลุ่มผู้เล่นของเขากลายเป็นคนมีอารยะ

แต่ไม่ช้าเขาก็เข้าใจเหตุผล

ในฐานะผู้ดูแลฟอรัม ซีเว่ยใช้ภาษาที่ “เป็นทางการ” อย่างมากในโพสต์แนะนำตัวของเขา บวกกับกฎหลายข้อที่เขาตั้งไว้ มีน้ำเสียงที่แฝงอยู่อย่างชัดเจนว่า ‘ข้าคือพ่อเจ้า’ ผู้เล่นจึงเดาได้ว่าผู้ที่สร้างฟอรัมนี้คือเทพเจ้าของพวกเขา

ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นนักเลงแค่ไหน พวกเขาก็ยังศรัทธาในตัวซีเว่ยและให้ความสำคัญกับเขามากที่สุด เนื่องจากพวกเขาได้รับระบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเคารพและชื่นชมซีเว่ยในฐานะเทพที่เหมาะสม พวกเขาจึงไม่สามารถแสดงด้านแย่ ๆ ของพวกเขาต่อหน้าเทพเจ้าได้

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมีเพียงลีอาคนเดียวที่โพสต์ เธอได้เคยเผชิญหน้ากับเทพมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอเลยสามารถรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อโพสต์คำสรรเสริญซีเวยที่น่าทึ่งออกมาได้…

“พวกนายคิดว่าฉันไม่รู้จริง ๆ รึไงว่าปกติแล้วพวกนายเป็นคนยังไง…?” ซีเว่ยอดไม่ได้ที่จะแขวะผู้ศรัทธาตัวน้อยของเขา

แต่เขาไม่กังวลว่าฟอรัมจะยังคงเงียบต่อไป ตราบใดที่เขาไม่พูดและออกหน้า ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะผ่อนคลายในฟอรัมและเริ่มแสดงสีสันที่แท้จริงของพวกเขา

ในขณะที่ซีเว่ยกำลังคิดอยู่ จู่ ๆ ก็มีโพสต์ใหม่ปรากฏขึ้นในฟอรัม

[ช่วยเด็ก! เราต้องการความช่วยเหลือ!]