ตอนที่ 165 เหลยถิงถูกพิษ
เพิ่งเลิกเรียนช่วงบ่าย มู่เถาเยากำลังเก็บของเตรียมไปกินข้าวกับพวกเซียวเซียว ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
เธอกดเปิดลำโพงวางไว้บนโต๊ะ คุยไปด้วยขณะเก็บของ
“ศิษย์พี่ใหญ่”
“เสี่ยวเยาเยา เดี๋ยวไปไหนหรือเปล่า”
“ศิษย์พี่ใหญ่มีธุระกับฉันเหรอคะ”
“ถ้าเธอว่างฉันจะให้อันนั่วไปรับเธอไปบ้านป้าของเขาที่ฝั่งตะวันออกของเมือง”
“ได้ค่ะ”
มู่เถาเยาขอโทษขอโพยพวกเพื่อนๆ ที่ล้อมเข้ามา “ขอโทษที ศิษย์พี่ใหญ่ของฉันมีธุระให้ฉันไปหา”
เซียวเซียว “เสี่ยวเยาเยา ไปทำธุระเถอะ ปลาเค็มสามตัวอย่างพวกเรารอเธอได้เสมอ”
หวังหมิ่นชิ่น “อุ๊บ…เธอเป็นปลาเค็มแต่ฉันไม่ใช่หรอกนะ ฉันเป็นนางฟ้า!”
หมิ่นชีสยา “ส่วนฉันเป็นพี่สาวแสนสวย!”
มู่เถาเยาฟังพวกเพื่อนๆ พูดติดตลก คิดในใจ
ดูเหมือนเด็กพวกนี้จะไม่มีเรื่องกลุ้มใจเลยนะ
วันๆ พลังเต็มเปี่ยม มีเสียงหัวเราะได้ไม่หยุด ร่าเริงสดใสกันจริงๆ
พอเห็นมู่เถาเยาเก็บของแล้ว พวกหวังหมิ่นชิ่นสามคนก็หยิบของของตัวเองแล้วลงจากตึกไปพร้อมมู่เถาเยา
หมิ่นชีสยา “เสี่ยวเยาเยา สุดหล่อเฉิงมารับเธอตรงไหนเหรอ”
“ปากทางมั้ง”
เวลานี้ตรงลานจอดรถกำลังติดได้ที่
หวังหมิ่นชิ่น “งั้นเดี๋ยวพวกเรารอเป็นเพื่อนนะ”
“เมื่อกี้พวกเธอบอกหิวแล้วไม่ใช่เหรอ”
เซียวเซียว “ตอนนี้ไม่หิวแล้ว ความหล่อของบางคนทำให้พวกเราอิ่มได้!”
มู่เถาเยา “…”
หวังหมิ่นชิ่นยิ้มพูด “ก็แค่ไม่กี่นาทีเอง”
หมิ่นชีสยาพยักหน้า “ใช่ๆ !”
“อืม ชิ่นชิ่น แม่เธอหายดีหรือยัง”
“หายแล้วๆ เสี่ยวเยาเยา ยาของเธอได้ผลดีมากเลย! ดีขึ้นเร็วมาก! ตอนสุดสัปดาห์ที่ฉันอยู่บ้าน พ่อกับแม่ฉันบอกว่าอยากชวนพวกเธอไปกินข้าวที่บ้านด้วย”
“สุดสัปดาห์นี้ฉันไปเมืองหลวง เธอพาแค่ชีสยากับเซียวเซียวไปก็ได้”
เซียวเซียวส่ายมือ “ไม่รีบๆ ไว้เธอว่างค่อยไปด้วยกัน อาหวังทำกับข้าวอร่อยมากเลยนะ!”
หมิ่นชีสยาพยักหน้า “เธอไม่ไปพวกเราจะกล้าไปได้ยังไง คนที่ช่วยแม่หวังไว้คือเธอนะ”
หวังหมิ่นชิ่น “เอ๊ะ จะเกรงใจทำไมเล่า! มาทุกอาทิตย์เลยยังได้!”
เซียวเซียว “อือๆ เอ๊ะ สุดหล่อมาแล้ว เสี่ยวเยาเยา รีบไปขึ้นรถเถอะ”
“อืม พวกเธอรีบไปกินข้าวเถอะ บ๊ายบาย”
ทั้งสามคนโบกมือ
มู่เถาเยาขึ้นรถ
เฉิงอันนั่วขับรถออกจากมหาวิทยาลัย
“อันนั่ว มีเรื่องอะไรที่บ้านป้าของนายเหรอ”
“อาจารย์อาเล็ก พี่ชายผมลาออกจากงานที่เมืองหลวงแล้ว จะกลับมาทำงานที่เย่ว์ตู ป้ากับลุงเขยของผมอยากชวนอาจารย์อาเล็กไปกินข้าวที่บ้าน คราวก่อนก็ไม่ได้เจอกัน”
“ไหนว่างานออกจะดีไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับมาแล้วล่ะ”
เฉิงอันนั่วยิ้มพูด “อาจารย์อาเล็กต้องคาดไม่ถึงแน่ว่าแฟนของพี่ชายผมเป็นใคร!”
“ทำไม ฉันรู้จักเหรอ”
“ถือว่ารู้จักกันนะครับ เธอเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่ย้ายมาจากมหาวิทยาลัยแพทย์เมืองหลวง อยู่สาขาแพทย์แผนโบราณเหมือนพวกเราครับ”
“เจียงเย่ว์เหรอ” มู่เถาเยานึกได้อยู่คนหนึ่ง
ครั้งก่อนในการแข่งขันทักษะการแพทย์ระดับโลก เจียงเย่ว์ก็ได้รับรางวัล แต่อันดับของเธอค่อนไปทางหลังๆ ห่างชั้นกับลู่หันซูที่ได้อันดับหนึ่งอยู่มาก
แน่นอนว่านั่นก็เป็นอันดับที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว
เพียงแต่…
มู่เถาเยาขมวดคิ้ว
“ใช่ครับ ว่าที่พี่สะใภ้ผมก็คือเจียงเย่ว์ แต่อาจารย์อาเล็กครับ ไม่รู้ทำไม ผมไม่ค่อยชอบเธอเท่าไร”
“หืม?”
มู่เถาเยาก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
“ผมรู้สึกเหมือนเธอเสแสร้งยังไงไม่รู้ เหมือนใส่หน้ากากเข้าหา แต่ว่าพี่ผมชอบ…ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ใช่เมียผม”
“อืม ดูไปก่อนแล้วกัน”
ทั้งสองคนคุยกันตลอดทางที่ไปบ้านป้าของเฉิงอันนั่วที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเมือง
เฉิงหรานก็มาถึงแล้ว
“เสี่ยวเยาเยา มา แนะนำให้รู้จัก นี่พ่อกับแม่ของฉันเอง”
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า”
มู่เถาเยาทักทายผู้อาวุโสทั้งสองคนอย่างสุภาพ
หากว่ากันตามอายุควรเรียกคุณตาคุณยายได้แล้ว แต่ผู้อาวุโสทั้งสองก็เป็นคนที่เคร่งครัดตามธรรมเนียมโบราณ
พวกเขาจึงไม่ถือสาที่เด็กสาวเรียกว่าคุณลุงคุณป้าตามลำดับอาวุโสเดียวกับลูกชายของพวกเขา
“เสี่ยวเยาเยาไม่ต้องเกรงใจนะ ศิษย์พี่ใหญ่ของหนูกลับมาบ้านทีไรก็ชอบเล่าเรื่องของหนูให้พวกเราฟังตลอด”
มู่เถาเยาหันไปมองศิษย์พี่ใหญ่ตัวเอง
เฉิงหรานยิ้ม
ช่วยไม่ได้ เมื่อก่อนอาจารย์ก็ชอบอวดศิษย์น้องเล็กให้พวกเขาฟังแบบนี้ พวกเขาฟังเยอะเข้าก็ย่อมพูดติดปาก
“เสี่ยวเยาเยา นี่พี่สาวกับพี่เขยของฉันเอง”
เฉิงซินกับสามีอายุห้าสิบเจ็ดทั้งคู่ แต่ดูเด็กกว่าอายุจริงประมาณสิบปี
“พี่สาว พี่เขย”
มู่เถาเยาเรียกตาม
เฉิงซินจับมือมู่เถาเยาแล้วยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา คราวก่อนอาถิงพาแฟนกลับมาก็ไม่ได้เจอกัน ครั้งนี้เชิญเธอมาจะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการนะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า
“นี่คือเหลยถิงพี่ชายของอันนั่วกับเจียงเย่ว์แฟนของเขา”
ทั้งสองคนจับมือ พูดเป็นเสียงเดียวกัน “อาจารย์อาเล็ก”
“เหลยถิง เจียงเย่ว์”
“อาจารย์อาเล็กน่าจะยังจำฉันได้ใช่ไหมคะ”
รอยยิ้มของเจียงเย่ว์สมบูรณ์แบบมาก
“จำได้ค่ะ ก็แค่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแฟนของพี่ชายอันนั่ว ชินกับเย่ว์ตูหรือยังคะ”
“ชินแล้วค่ะ”
“งั้นก็ดีค่ะ”
มู่เถาเยากวาดตามองเหลยถิงกับเจียงเย่ว์แบบไม่ให้สังเกตเห็น
เฉิงซิน “เสี่ยวเยาเยา ในห้องครัวยังเหลือกับข้าวอีกสองอย่างที่ยังไม่เสร็จ เธอนั่งกินผลไม้ไปก่อนนะ เดี๋ยวกับข้าวก็เสร็จแล้ว”
“ได้ค่ะ” จงใจไม่เสนอตัวช่วยเหลือ
เจียงเย่ว์ “ฉันช่วยนะคะคุณน้า”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ น้ากับพ่อเหลยถิงช่วยกันก็พอแล้ว มีหมอมีเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยมาที่บ้านพอดี หนูเพิ่งมาเย่ว์ตู อยู่คุยกับคุณน้า อันนั่ว แล้วก็เสี่ยวเยาเยาไปเถอะจ้ะ”
“โอเคค่ะ”
เฉิงหราน “อาถิง ทำไมนายผอมกว่าครั้งล่าสุดที่กลับมาอีกล่ะ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไร ดูคล้ำๆ ซีดๆ”
“น้าครับ ช่วงนี้ผมทำงานข้ามวันตลอด นอนไม่พอ ก็เลยผอมลงครับ”
“งั้นนายกลับมาก็ถูกแล้ว! เงินเดือนจะสูงแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าสุขภาพหรอกนะ”
“ครับ เสี่ยวเย่ว์มาอยู่ทางนี้แล้ว ผมก็ไม่อยากอยู่ที่เมืองหลวงคนเดียวด้วย”
มู่เถาเยา “เจียงเย่ว์เป็นคนเมืองหลวงอยู่แล้วเหรอ”
“พ่อฉันเป็นคนเซิ่งตูค่ะ แต่ว่าอยู่ในเมืองหลวงกับแม่มาหลายสิบปีแล้ว ก็ถือว่าเป็นคนเมืองหลวงแล้วมั้งคะ”
“คุณพ่อคุณแม่ของเธอก็ทำงานเกี่ยวกับการแพทย์เหรอ”
“คุณพ่อฉันเปิดคลินิกเล็กๆ ส่วนคุณแม่มีงานของตัวเองค่ะ”
“อ่อ”
เฉิงหรานมองมู่เถาเยา
วันนี้ศิษย์น้องหญิงเล็กดูผิดจากปกติไปหน่อยนะ
มู่เถาเยาแสร้งทำเป็นไม่เห็น ยกชาขึ้นมาดื่ม
พูดคุยกันอยู่ไม่นาน เฉิงซินกับสามีก็เรียกทุกคนกินข้าว
อาหารมื้อนี้ไม่ถือว่าครึกครื้น แต่ก็ไม่ถึงกับกระอักกระอ่วน
เนื่องจากมีหลายคนที่เป็นนักศึกษา พอกินเสร็จก็แยกย้าย
เหลยถิงไปส่งเจียงเย่ว์ที่มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตู
เฉิงหรานขับรถกลับบ้าน
เฉิงอันนั่วไปส่งมู่เถาเยากลับเรือนอุ่นรัก
หลังจากรถจอดสนิทแล้ว มู่เถาเยาก็ไม่รีบร้อนลงจากรถ
“อันนั่ว ครั้งก่อนที่นายเจอเหลยถิงสีหน้าของเขาเป็นยังไง”
“อาจารย์อาเล็ก ครั้งก่อนที่พี่ชายผมกลับมา เขาไม่ได้ดูผอมขนาดนี้ ตอนนี้ดูผอมเกินไปมาก ถึงแม้ครั้งก่อนที่เขากลับมาจะดูเหนื่อยๆ แต่สีหน้าก็ไม่เหมือนตอนนี้ อาจารย์อาเล็ก พี่ชายผมป่วยเหรอ ทำไมผมมองไม่ออก”
คนที่ความกดดันสูง ต้องทำงานข้ามคืนอยู่บ่อยๆ กินอาหารไม่เป็นเวลา ก็จะมีลักษณะแบบเหลยถิง
“อันนั่ว หาเวลาพาเหลยถิงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลหน่อยนะ”
“อาจารย์อาเล็ก พี่ชายผมป่วยจริงๆ เหรอครับ”
“เหลยถิงไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ”