ตอนที่ 166 ใช้คนทดลองยา
“ถูกพิษ!”
เฉิงอันนั่วเกือบหักรถชนพุ่มไม้
“อืม มันเป็นพิษที่ออกฤทธิ์ช้า ไม่มีทางตายทันที เหลยถิงยังโดนพิษได้ไม่นาน หากจากนี้ไม่ถูกพิษต่อเนื่องอีก แบบนั้นพิษก็จะค่อยๆ ถูกขับออกทางเหงื่อหรือปัสสาวะ”
“อาจารย์อาเล็ก แล้วถ้ายังคงถูกพิษต่อไปล่ะครับ”
“มากสุดครึ่งปีก็จะตาย ซูบผอมจนตาย”
“อาการก็จะประมาณว่าดูเหนื่อยมาก หวาดกลัว หรือไม่ก็เจ็บปวด แบบนี้ไหมครับ”
“อืม ตอนนี้ใบหน้าซูบซีด ผอมเกินไป ดูไร้เรี่ยวแรง ถ้าถูกวางยาอีกครั้งก็จะวิงเวียนศีรษะ ตาลาย อาเจียน ครั้งที่สามก็จะมีอาการอย่างหัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น”
“ดังนั้นถ้าเกิดมีอาการอย่างในตอนท้าย ก็จะดูเหมือนเหน็ดเหนื่อยจนตายเหรอครับ”
“ใช่ ตอนนี้พิษยังเบาบาง ถ้าไม่ถูกวางยาต่อ ออกกำลังกายให้เหงื่อออกเยอะๆ ดื่มน้ำให้ปัสสาวะออกมา อีกสองเดือนก็จะหายด้วยตัวเอง”
“อาจารย์อาเล็กพอจะมองออกไหมครับว่าโดนวางยาตั้งแต่เมื่อไร”
“ช่วงเวลาที่ถูกวางยาน่าจะเป็นตอนเหลยถิงลาออกแล้วต้องส่งมอบงานทำงานหนักเป็นพิเศษ เอาแค่เรื่องนี้ที่ทำงานแบบข้ามวันก็ทำให้เขามีอาการแบบนี้ได้แล้ว คนอื่นๆ ไม่มีทางสงสัย”
“ใครกันที่โหดเหี้ยมขนาดนี้!” เฉิงอันนั่วกัดฟันกรอด
“พิษนี้แก้ง่ายมาก ยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต รีบจับตัวการออกมาแล้วค่อยแก้พิษก่อนดีกว่าไม่อย่างนั้นครั้งหน้าเกิดเป็นพิษตัวอื่น แบบนั้นจะเรื่องใหญ่”
“ครับ เดี๋ยวผมจะปรึกษาพ่อดู”
“คอยสังเกตคนรอบข้างเหลยถิง คนวางยาไม่น่าจะแค่อยากสร้างความลำบากให้เหลยถิง พิษแบบนี้ต้องวางยาเดือนละครั้ง มีแค่คนรอบข้างเขาเท่านั้นที่มีโอกาส”
“อาจารย์อาเล็กสงสัย…เจียงเย่ว์เหรอครับ”
ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของอาจารย์อาเล็ก ไม่มีทางเซ้าซี้ถามไปถึงว่าพ่อแม่ทำงานอะไร
“ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเธอ แต่เธอน่าสงสัย ยังไงซะโอกาสที่พวกเขาอยู่ด้วยกันก็มีมาก เลยอดสงสัยไม่ได้”
“แต่ว่าผมเห็นเธอก็ดูชอบพี่ชายผมนะครับ หรือจะเป็นการแสร้งทำงั้นเหรอ”
น่ากลัวเหลือเกิน!
“ก็ใช่ว่าจะไม่มีความจริงใจเลย แต่มันก็อาจจะมีเกินมีขาด หรือเป็นการสมยอมก็ได้”
ใครเกินใครขาด ใครสมยอม แค่ดูก็รู้
“ครับ ยังไงซะพี่ชายผมก็ไม่ไปเมืองหลวงแล้ว ไว้ผมจะลากออกมาตะล่อมถามดู…เลี่ยงเจียงเย่ว์”
“อืม เหลยถิงเคยทำงานอะไรที่เมืองหลวงเหรอ”
“นักวิเคราะห์การเงินครับ”
มู่เถาเยาพยักหน้า
“นายกลับไปเถอะ เล่าให้ศิษย์พี่ใหญ่ฟังก่อน”
“ครับ”
เฉิงอันนั่วขับรถไปคิดไป แต่จนถึงบ้านก็ยังไม่เข้าใจสาเหตุ
พี่ชายของเขาเป็นแค่คนธรรมดา จะถูกคนวางยาได้ยังไง แล้วคนทำมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ครั้งก่อนที่กลับมาบ้านน่าจะยังไม่ได้ถูกวางยาหรือเปล่า
พี่ชายเขาไปล่วงเกินใครที่เมืองหลวงหรือไงกัน
เฉิงอันนั่วเดินขึ้นชั้นบน ไปห้องของพ่อแม่
ประตูไม่ได้ปิด เขาเดินเข้าไปทันที
ในห้องไม่มีคนอยู่ มีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยมา
เขาเดินไปตะโกนหน้าห้องน้ำ “อาบเร็วหน่อยครับพ่อ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”
เฉิงหรานล้างฟองสบู่เสร็จพอดี พอได้ยินลูกชายตะโกนก็ปิดน้ำ คลุมผ้าเช็ดตัวเดินออกมา
“มีอะไรเหรอ ดูร้อนใจเชียว อาจารย์อาเล็กฝากมาบอกอะไรหรือเปล่า”
“ประมาณนั้นครับ แต่เกี่ยวกับพี่เหลยถิง”
“เหลยถิงเป็นอะไร”
“พ่อรู้สึกไหมครับว่าพี่ดูผอมเกินไป”
“ใช่ ผอมเกินไป อาถิงบอกว่าช่วงนี้งานยุ่งมากไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ลาออกกลับมาแล้ว ก็พอดีจะได้พักผ่อนระยะหนึ่ง”
“พ่อครับ อาจารย์อาเล็กบอกว่าพี่เหลยถิงถูกพิษครับ!”
“ถูกพิษเหรอ”
เฉิงหรานตกใจจนทำผ้าเช็ดผมหล่นพื้น
“ครับ ถูกพิษ”
ดวงตาเฉิงหรานฉายแววโกรธขึ้นมาทันที
“อันนั่ว เล่ามาให้หมดว่าอาจารย์อาเล็กพูดอะไรบ้าง”
เฉิงอันนั่วเล่าคำพูดของมู่เถาเยาออกมาหมดแบบไม่ขาดแม้แต่คำเดียว
เฉิงหรานฟังจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหามู่เถาเยา
“เสี่ยวเยาเยา ยังไม่นอนใช่ไหม”
“ยังค่ะ ฉันรู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่จะต้องโทรมา”
“เสี่ยวเยาเยา เจียงเย่ว์น่าสงสัยจริงเหรอ”
“อาจไม่ใช่เธอก็ได้ค่ะ”
แต่ผู้หญิงคนนี้ชวนให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้เธอเกิดความรู้สึกไม่ชอบ
ทั้งๆ ที่ไม่ได้คุยอะไรกันมาก แต่เธอก็แค่ไม่ชอบ ถึงขั้นที่…รังเกียจ
แต่ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน จะใส่ร้ายว่าคนอื่นวางยาแค่เพราะตัวเองไม่ชอบไม่ได้
“เสี่ยวเยาเยา อาถิงถูกพิษอะไร” เขาแค้นใจที่เมื่อก่อนตัวเองไม่ตั้งใจเรียนเรื่องพิษกับอาจารย์
“เป็นพิษที่ได้จากผลที่เรียกว่ากลับสู่ถิ่นค่ะ ไม่ใช่พิษรุนแรง แต่ถ้าวางหนักในครั้งเดียวก็จะถึงแก่ชีวิตได้ พิษในตัวเหลยถิงมีความเป็นไปได้ว่าคนคนนั้นแค่อยากลองยา”
“ใช้คนทดลองยา น่ารังเกียจที่สุด!”
มู่เถาเยาฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่าเฉิงหรานโมโหขนาดไหน
“ศิษย์พี่ใหญ่คะ ใจเย็นๆ ค่ะ เหลยถิงยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทางที่ดีรีบหาเหตุผลพาเขาออกห่างจากเจียงเย่ว์มาให้ฉันตรวจดูดีกว่านะคะ”
“ได้ ฉันจะลองหาทางดูนะ”
“ศิษย์พี่ใหญ่อย่าเพิ่งบอกคนครอบครัวเหลยนะคะ รวมถึงพี่สาวของศิษย์พี่ด้วย กลัวพวกเขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้พากันแหวกหญ้าให้งูตื่น”
ถ้าใช้คนทดลองยาจริง งั้นก็เป็นไปได้ว่าจะไม่ใช่แค่เหลยถิงคนเดียวที่เป็นเหยื่อ
“เข้าใจแล้ว”
“พรุ่งนี้เที่ยงฉันจะเอาพวกยาถอนพิษไปให้ศิษย์พี่ที่โรงพยาบาลผิงคังค่ะ ถ้ากังวลมาก ให้เขากินสักเม็ดก่อนก็ได้ค่ะ”
ยาถอนพิษเวอร์ชันปรับปรุงแทบจะถอนพิษได้ทุกชนิด
“เสี่ยวเยาเยา ถอนพิษแล้วจะมีความเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดไหม”
“ไม่ค่ะ ถึงแม้หลังถอนพิษสีหน้าจะไม่ได้ดูแย่มากแล้ว แต่ยังไงซะสุขภาพก็เสียไปแล้ว ต้องใช้เวลาบำรุงระยะหนึ่งถึงจะกลับมาเป็นแบบเดิมค่ะ”
“อืม พรุ่งนี้เที่ยงฉันจะให้อันนั่วมาที่โรงพยาบาลผิงคัง เดี๋ยวสั่งอาหารมารอพวกเธอ”
“ค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยารีบพักผ่อนนะ”
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะศิษย์พี่ใหญ่”
“ราตรีสวัสดิ์”
เฉิงหรานวางสายเสร็จก็วางโทรศัพท์มือถือ
“อันนั่ว เจียงเย่ว์อยู่สาขาเดียวกับลูก คอยจับตาดูเธอไว้นะ!”
“ครับ ปาอินอยู่คลาสเดียวกับเธอพอดี ผมจะขอให้เธอช่วยดูเจียงเย่ว์ไว้ครับ”
“ลูกสนิทกับปาอินเหรอ” คนเป็นพ่อชักอยากรู้อยากเห็น
“เธอเป็นคนของอาจารย์อาเล็ก เจอกันบ่อย ก็เลยได้คุยกันมากหน่อยครับ” ไปๆ มาๆ ก็เริ่มคุ้นเคยกัน
ก็แค่คุ้นเคย ไม่ได้สนิทอะไรมาก
“เห็นอาจารย์อาเล็กบอกว่าปาอินมีพรสวรรค์สูงมากในด้านแพทย์แผนโบราณ อันนั่ว วันหน้าลูกต้องรับช่วงต่อด้านแพทย์แผนโบราณ ถ้ามีปาอินคอยช่วยลูก…”
เฉิงอันนั่วทำตาตี่ใส่พ่อ
“พ่อคิดมากแล้วครับ ผมกับปาอินไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น เธอจะช่วยผมได้ยังไง ทำอย่างกับว่าอีกหน่อยเธอไม่ต้องกลับเผ่าหมาป่าพระจันทร์”
ถ้าเป็นคนประเทศอื่น พวกเขายังพอจะชวนมาทำงานโดยเอาเงินเดือนสูงมาล่อได้ แต่เธอเป็นคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์!
“ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นแล้วจะทำให้มีไม่ได้หรือไง เด็กคนนี้นิสัยดี มีความสามารถ หน้าตาก็ใช้ได้! ถ้าแกไม่ใช่ลูกชายฉัน ฉันก็ไม่ได้อยากให้ไปจีบหรอก!”
เฉิงหรานกลุ้มใจจนจะบ้า
เฉิงอันนั่ว “…”
เขาสงสัยว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ไม่มีหลักฐาน
“อายุยี่สิบห้าแล้วยังไม่มีแฟน ขายหน้า!”
“เดือนกันยาผมจะไปท่องเที่ยวเรียนรู้แล้ว จะมีแฟนไปทำไม แบบนั้นก็ต้องห่างกันสิครับ”
“หาไม่ได้ก็คือหาไม่ได้ ยังจะอ้างนั่นอ้างนี่อีก ออกไปๆ ฉันจะนอนแล้ว”
เฉิงอันนั่ว “…”