ตอนที่ 157 กฎข้อบังคับ

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ด้วย​ใบหน้า​เย็นชา​ว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​เป็นไปได้​หรือ​”

“​ไม่น่า​เป็นไปได้​!​”​ ​หวัง​ซี​ตอบ​ยิ้ม​ๆ​ ​อย่าง​เก้อเขิน​หลังจากที่​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

“​เช่นนั้น​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ทำ​เยี่ยง​ไร​”​ ​เฉินลั​่ว​ถาม​ ​“​สังหาร​คน​?​ ​ออกอุบาย​ทำลาย​เฉิน​อิง​?​”

ตอนแรก​หวัง​ซีกัง​วล​ว่า​เขา​จะ​ทำ​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​เพราะ​นั่น​เป็น​วิธี​ที่​ง่าย​ที่สุด​ ​แต่​เมื่อ​เขา​เอ่ยปาก​ถาม​เช่นนี้​ ​หวัง​ซีพ​ลัน​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​คง​เข้าใจ​เขา​ผิด​ไป​แล้ว​ ​หาก​เขา​คิด​ว่า​สังหาร​เฉิน​อิง​แล้ว​แก้ปัญหา​ทุกอย่าง​ได้​จริง​ ​ด้วย​สถานะ​ของ​เขา​ ​คง​ทำ​ไป​นาน​แล้ว​ ​แต่​ตอนนี้​มิใช่​แค่​เฉิน​อิง​ที่​ยังอยู่​ดีมี​สุข​เท่านั้น​ ​แม้แต่​คนที​่​เคย​หาเรื่อง​เขา​มาก​่อ​นอย​่าง​เฉิน​เจ​วี​๋​ยก​็​อยู่ดี​มีสุข​เช่นกัน​ ​นอกจากนี้​ยัง​มาหา​เรื่อง​เขา​ด้วย​ความ​เดือดดาล​บ่อยๆ​ ​อีกด้วย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​มิใช่​คนที​่​เลือก​ใช้​วิธี​สกปรก​เพื่อให้​บรรลุเป้าหมาย​ประเภท​นั้น

นาง​ยิ้ม​อย่าง​กระดากอาย​ ​เนื่องจาก​มี​ชนักติดหลัง​จึง​ยินดี​หยอกเย้า​เฉินลั​่ว​เพิ่ม​จาก​ยาม​ปกติ​มากขึ้น

“​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ไป​ได้​อย่างไร​ ​เจ้า​มิใช่​คน​เช่นนั้น​เสียหน่อย​!​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ด้วย​สีหน้าท่าทาง​มั่นใจ​ขึงขัง​ ​“​เพราะ​ข้า​กลัว​ว่า​เจ้า​จะ​คิด​เอนเอียง​ไป​ชั่วขณะ​มิใช่​หรือ​ ​หาไม่​จะ​มีคำ​กล่าว​ที่ว่า​ ​‘​กระทำ​ตามอารมณ์​’​ ​ประโยค​นั้น​ได้​อย่างไร​ ​นี่​ข้า​ก็​แค่​เตือนสติ​เจ้า​เท่านั้น​!​”

หาก​มิใช่​เพราะ​เห็น​ว่า​ระหว่าง​ที่​เปิดปาก​พูด​นาง​มีท​่า​ทาง​กระวนกระวาย​ล่ะ​ก็​ ​เฉินลั​่ว​คง​เชื่อ​คำพูด​ของ​นาง​จริงๆ​ ​ไป​แล้ว

อย่างไรก็ตาม​ ​นับว่า​นาง​ยัง​มีไหวพริบ​อยู่​ ​รีบ​ปรับเปลี่ยน​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ได้​ทันท่วงที​ ​หาไม่​แล้วด้วย​ ​‘​ความ​ไม่เชื่อใจ​’​ ​เพียง​เล็กน้อย​ของ​เขา​ ​เขา​อาจจะ​ตัดความสัมพันธ์​กับ​นาง​ก็​เป็นได้

เฉินลั​่ว​ครวญ​เสียงเย็น​ครั้งหนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ความตาย​คือ​บทสรุป​มิใช่​ขั้นตอน​การ​ดำเนินการ​ ​มนุษย์​บน​โลก​ใบ​นี้​ ​ใช่​ว่า​เจ้า​จะ​มีชีวิต​อยู่​โดยลำพัง​ได้​ ​เจ้า​ต้อง​มี​การติด​ต่อ​ปฏิสัมพันธ์​กับ​ผู้อื่น​ด้วย​ถึง​จะ​ใช้การได้​ ​และ​เนื่องจาก​เจ้า​ต้อง​มี​ปฏิสัมพันธ์​กับ​ผู้อื่น​ ​ก็​ต้อง​กระทำ​ตาม​กฎระเบียบ​และ​ข้อบังคับ​ที่​ทุกคน​กระทำ​ตาม​ ​การ​ฆ่า​คน​คือ​การละ​เมิด​กฎระเบียบ​และ​ข้อบังคับ​ของ​สังคม​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​ครั้น​เจ้า​กลายเป็น​ผู้ละเมิด​กฎระเบียบ​และ​ข้อบังคับ​ของ​สังคม​แล้ว​ ​เจ้า​ก็​จะ​ไม่ได้​รับ​การคุ​้ม​ครอง​จาก​กฎระเบียบ​และ​ข้อบังคับ​ของ​สังคม​อีก​เช่นกัน​ ​เจ้า​สังหาร​ผู้อื่น​อย่างไร​้​ศีลธรรม​ได้​ ​ผู้อื่น​ก็​ปลิดชีวิต​เจ้า​อย่างไร​้​ศีลธรรม​ได้​ดุจ​เดียวกัน​…

…​เจ้า​เอง​ก็​เคย​พูด​มิใช่​หรือว่า​ ​มี​แต่​จับ​โจร​หนึ่ง​พัน​วัน​ ​ไม่มี​เฝ้า​ระวัง​โจร​หนึ่ง​พัน​วัน​…

…​คนที​่​ไร้​ซึ่ง​การคุ​้ม​ครอง​จาก​กฎระเบียบ​และ​ข้อบังคับ​ของ​สังคม​ ​ก็​อยู่​ห่าง​จาก​การถูก​สังคม​ขับไล่​และ​ความตาย​ไม่​ไกล​แล้ว​…

…​ดังนั้น​พวกเรา​ต้อง​ไม่​ฆ่า​ใคร​ง่ายๆ​ ​เป็นอันขาด​ ​จะ​ให้​ดีที​่​สุด​คือ​อย่า​ได้​แม้แต่​จะ​คิด​!​”

เขา​จ้อง​หวัง​ซีด​้วย​ท่าทาง​ที่​กลัว​ว่านาง​จะ​มี​ความคิด​ดังกล่าว​ผุด​ขึ้น​มา

นี่​ตกลง​ว่า​ใคร​กำลัง​เตือนสติ​ใคร​อยู่​กัน​แน่​!

หวัง​ซี​บริภาษ​อยู่​ใน​ใจ​ ​ทว่า​ไม่กล้า​เผยอ​อก​มา​ให้​เห็น​ทาง​สีหน้า​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ยังคง​พยักหน้า​อย่าง​คน​เชื่อฟัง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ใต้เท้า​เฉิน​กล่าว​ถูกต้อง​แล้ว​”

เฉินลั​่​วรู​้​สึก​ว่า​หวัง​ซี​เป็น​คน​ใจกล้า​และ​ดื้อรั้น​มาโดยตลอด​ ​คน​เช่นนี้​มิใช่​คนที​่​จะ​เชื่อฟัง​คำ​หว่านล้อม​ของ​ใคร​ง่ายๆ​ ​เขา​อด​ที่จะ​กล่าว​เพิ่ม​อีก​สอง​ประโยค​ไม่ได้​ว่า​ ​“​องค์​ชาย​ขึ้น​ครองราชย์​แล้ว​ค่อยๆ​ ​กำจัด​บรรดา​เชษฐา​ผู้พ่ายแพ้​ทิ้ง​ ​นั่น​ก็​เป็นการ​ทำให้​ยอมจำนน​ด้วย​กลยุทธ์​ ​แต่​หาก​ไป​สังหาร​คน​โดยตรง​ ​ต่อให้​เป็น​ราชา​ผู้​ปราดเปรื่อง​อย่าง​ถัง​ไท่​จง​ ​ก็​นับว่า​เป็น​มลทิน​อัน​ใหญ่หลวง​ ​จนถึง​บัดนี้​ก็​ยัง​ถูก​ผู้คน​ตำหนิติเตียน​อยู่​!​ ​พวกเรา​จะ​เป็น​คน​เช่นนั้น​ไม่ได้​!​”

“​เอาละ​ ​ข้า​ทราบ​แล้ว​”​ ​หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​เห็นด้วย​อย่าง​คน​เชื่อฟัง​อีกครั้ง​ ​ทว่า​ใน​ใจ​กลับ​รู้สึก​หดหู่​ยิ่ง​ ​เห็น​ๆ​ ​อยู่​ว่า​เป็น​นาง​ที่​กลัว​ว่า​เขา​จะ​มี​ความคิด​เช่นนั้น​ ​เหตุใด​กล่าว​ไป​กล่าว​มา​ ​กลับกลาย​เป็น​นาง​ที่​มี​ความคิด​เช่นนั้น​ไป​ได้​เล่า​?

เฉินลั​่ว​ผู้​นี้​ ​ช่างกลั​บดำ​เป็น​ขาว​ได้​เก่ง​จริงๆ

อย่างไรก็ตาม​ ​หวัง​ซี​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ไม่​ต่อ​ความ​ยาว​กับ​เขา​เหมือน​ยาม​ปกติ​ ​เพราะ​พวกเขา​ยัง​มีเรื่อง​ที่​สำคัญ​กว่า​ให้​ต้อง​จัดการ​อีก

นาง​ถาม​เฉินลั​่ว​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​ควร​ทำ​เช่นไร​”

เฉินลั​่ว​ตอบ​อย่างสงบ​ว่า​ ​“​พวกเรา​รอ​ไป​ก่อน​!​”

เมื่อ​หวัง​ซี​ได้ยิน​ประโยค​นี้​อีกครั้ง​ในเวลานี้​ก็​ลอบ​กลอกตา​มอง​บน​อยู่​ใน​ใจ

ผู้ใด​ไม่รู้​ว่าวิ​ธี​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​การ​รอ​?​ ​แต่​มี​ใคร​บ้าง​ที่​รู้​ว่า​ตกลง​แล้ว​ฮ่องเต้​มีแผน​การ​อะไร​ ​จะ​ลงมือ​เมื่อไร​ ​หรือ​เฉินลั​่ว​ต้อง​ใช้​เข็มเงิน​ทดสอบ​พิษ​ก่อน​กินข้าว​ ​ออกจาก​บ้าน​ไป​ไหน​มา​ไหน​ก็​ต้อง​มี​คน​รายล้อม​คอย​คุ้มกัน​อย่างนั้น​หรือ​?

ต่อให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​หาก​ฮ่องเต้​ประสงค์​ออกอุบาย​ทำร้าย​เฉินลั​่​วจ​ริง​ ​ก็​มี​วิธีทำ​ให้​เขา​อยู่​ลำพัง​ได้​อยู่ดี​!

นาง​ถาม​ ​“​รอ​อย่างไร​”

“​รอ​โดย​ไม่ต้อง​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​”​ ​เฉินลั​่ว​ตอบ​ ​สีหน้า​ดู​เคร่งขรึม​มากขึ้น​ ​เค้าโครง​หน้า​ก็​ดู​เด่นชัด​มากยิ่งขึ้น​ด้วย

หวัง​ซี​ตะลึงงัน

ตั้งแต่​เมื่อใด​กันที่​เฉินลั​่ว​สลัด​ใบหน้า​เยี่ยง​เอกบุรุษ​ของ​ก่อนหน้านี้​ทิ้ง​ไป​กลายเป็น​ขึงขัง​เด็ดเดี่ยว​ ​องคาพยพ​ทั้ง​ห้า​ดู​เด่นชัด​ขึ้น​มา​เช่นนี้

เหมือน​ต้น​ไผ่​ลำ​หนึ่ง​ ​ที่​ก่อนหน้านี้​มี​แต่​ความ​ผ่ายผอม​ ​ทว่า​บัดนี้​กลับ​เริ่ม​มี​ลักษณะ​เป็น​เอกลักษณ์​โดดเด่น​ของ​ตัวเอง​ให้​เห็น​รางๆ​ ​แล้ว

นี่​มิใช่​เรื่อง​ดี​กระมัง​?

แต่​เฉินลั​่​วที​่​เป็น​เช่นนี้​ ​ดูดี​และ​ใจกล้า​ห้าวหาญ​กว่า​เมื่อก่อน​มาก​โข

หวัง​ซี​รู้สึก​เหมือน​ตัวเอง​ได้​ย้อนกลับ​ไป​อยู่​บน​ศาลา​ของ​สวน​หิมะ​งาม​ตอนที่​เห็น​เฉินลั​่​วรำ​กระบี่​เป็นครั้งแรก​อีกครั้ง​ ​ใจเต้น​โครมคราม​อย่าง​ว้าวุ่น​ไป​ครู่ใหญ่​ ​นาง​ลูบ​หน้าอก​เบา​ๆ​ ​ถึง​ทำให้​หัวใจ​ที่​เต้น​ไม่​เป็น​ส่ำ​สงบ​ลงมา​ได้​ ​กระนั้น​ก็ตาม​ยาม​พูด​นาง​ยังคง​รู้สึก​ยาก​ที่จะ​สื่อสาร​ความหมาย​ที่​ต้องการ​ออกมา​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​“​นั่น​มิ​เท่ากับ​ว่า​พวกเรา​เป็น​ฝ่าย​ถูกกระทำ​มากเกินไป​หรอก​หรือ​ ​เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​เพราะเหตุนี้​ถึง​ได้​สูญเสีย​โอกาส​เป็น​ฝ่าย​โจมตี​ไป​?​ ​ควร​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ข่าว​ให้​ละเอียด​อีกหน่อย​หรือไม่​ ​ห่าน​ป่า​ผ่าน​มายัง​ทิ้งร่องรอย​ ​ต่อให้​เป็น​ฮ่องเต้​ ​ไม่ว่า​มี​เป้าประสงค์​อะไร​ ​ย่อม​ไม่​อาจ​ขจัด​ร่องรอย​ทั้งหมด​ทิ้ง​ได้​หรอก​กระมัง​”

ความจริง​แล้ว​นาง​กำลังใจ​ลอย​ ​ไม่รู้​ตัว​ด้วยซ้ำ​ว่า​ตัวเอง​พูด​อะไร​ไป​บ้าง

เฉินลั​่​วก​ลับ​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เป็น​อย่างที่​เจ้า​กล่าว​มา​จริงๆ​ ​ห่าน​ป่า​ผ่าน​มายัง​ทิ้งร่องรอย​ ​ไม่ว่า​ฮ่องเต้​ประสงค์​จะ​ทำ​อะไร​ ​ย่อม​ต้อง​ทิ้งร่องรอย​เอาไว้​บ้าง​เช่นกัน​ ​พวกเรา​ระมัดระวัง​ตัว​สักหน่อย​ ​เล่น​ไป​ตาม​สถานการณ์​ก็​พอ​”

หวัง​ซี​ได้สติ​คืน​กลับมา​ ​เพิ่งจะ​กระจ่างแจ้ง​ในเวลานี้​เอง​ว่า​เมื่อ​ครู่​ตน​พูด​อะไร​ไป​บ้าง

นาง​หน้าร้อน​ผ่าว​เล็กน้อย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ถัดจาก​นี้​พวกเรา​ควร​ทำ​อะไร​ ​ต่าง​คน​ต่าง​อยู่​ใน​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​หรือ​ควร​ให้​คน​ข้าง​กาย​จับตาดู​ข่าวคราว​อะไร​เอาไว้​สักหน่อย​?​”

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรื่อง​ทาง​ฝั่ง​ข้า​ ​เจ้า​อย่า​สนใจ​เลย​ดีกว่า​”​

เพราะ​ไม่รู้​ว่า​ฮ่องเต้​ต้องการ​ทำ​อะไร​ ​จึง​ทำให้​คน​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​และ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่​อยาก​ให้​ผู้อื่น​รู้​ว่า​เขา​กับ​หวัง​ซี​ติดต่อกัน

ผู้ใด​จะ​กล้า​ตบ​อก​รับประกัน​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​จะ​ไม่​ทำให้​หวัง​ซี​ติดร่างแห​ไป​ด้วย​?

คิดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​รู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง​เล็กน้อย​ที่มา​หา​หวัง​ซี

แต่​เรื่องราว​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​คงได้​แต่​ต้อง​คิด​ในแง่​ดี​เข้า​ไว้​ ​และ​มุ่งหน้า​เดิน​ไป​ใน​ทิศทาง​ที่​คิด​ว่า​ดี​เท่านั้น​แล้ว

เขา​กล่าว​ ​“​หมี่​เหนียง​จื่อ​ที่​เจ้า​ให้​ข้า​ยืม​ตัว​มา​ใช้​ผู้​นั้น​มีประโยชน์​ยิ่งนัก​ ​ระยะนี้​ไม่ว่า​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​เกิดเรื่อง​เล็ก​เรื่องใหญ่​อะไร​นาง​ล้วน​เอา​มาบ​อก​ข้า​ทั้งสิ้น​ ​โดยเฉพาะ​การติด​ต่อ​หากั​นระ​หว่าง​เฉิน​เจ​วี​๋​ยกับ​เฉิน​อิง​ ​คน​ของ​พวก​เจ้า​มี​ความสามารถ​มาก​จริงๆ​”

หวัง​ซี​รู้สึก​ได้รับ​เกียรติ​ไป​ด้วย​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นั่น​มัน​ของ​แน่​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ไม่เก่ง​กาจ​ ​นาง​ย่อม​ไม่ได้​แต่งงาน​กับ​ลูก​ของ​บ่าว​ใน​บ้าน​พวก​ข้า​”​ ​จากนั้น​นาง​ถาม​อย่าง​ฉงน​สงสัย​ว่า​ ​“​ช่วงนี้​เฉิน​เจ​วี​๋​ยกับ​เฉิน​อิง​กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​หรือ​”​

เฉินลั​่ว​เหยียด​ริมฝีปาก​ ​กล่าวว่า​ ​“​เฉิน​เจ​วี​๋​ยกำ​ลัง​แนะนำ​ให้​เฉิน​อิง​รีบ​แต่งงาน​ ​และ​จะ​ให้​ดีที​่​สุด​คือ​แต่งงาน​กับ​ซือ​จู​ ​แต่​เฉิน​อิง​รู้สึก​ว่า​เป็นไปได้​ยาก​ ​อันดับ​แรก​คือ​ซือ​จู​ไม่เห็น​เขา​อยู่​ใน​สายตา​ ​คนที​่​สายตา​ไม่​มืด​บอด​ล้วน​ทราบ​กัน​ดี​ว่า​ตระกูล​ซือ​ปรารถนา​จะ​มีพ​ระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ ​เฉิน​เจ​วี​๋ย​จึง​ติเตียน​เฉิน​อิง​ว่า​ทำ​อะไร​ก็​มักจะ​คิด​ว่า​เป็นไปไม่ได้​ ​และ​ถอดใจ​ตั้งแต่​ยัง​ไม่ได้​เริ่ม​…

…​เฉิน​อิง​โมโห​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​รู้สึก​ว่า​เฉิน​เจ​วี​๋ย​ยืน​พูด​เฉยๆ​ ​ย่อม​ไม่รู้​สึก​ปวด​เอว​ ​แต่​ยังคง​อดกลั้น​ความโกรธ​นั้น​ไว้​ ​ถาม​เฉิน​เจ​วี​๋ย​ว่าน​อก​จาก​ว่า​ซือ​จู​แล้ว​ ​ยัง​มีตัว​เลือก​อื่น​อีก​หรือไม่​…

…​เฉิน​เจ​วี​๋ย​จึง​แนะนำ​ให้​เขา​แต่ง​กับ​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​หรือไม่ก็​คุณหนู​ของ​ตระกูล​ถาน​”

ดวง​หน้า​ของ​หวัง​ซี​เผย​ความประหลาดใจ​ออกมา

จวน​เซียง​หยาง​โหว​นั้น​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ​ดอง​กับ​ตระกูล​ชั้นสูง​ทั่วทั้ง​จิง​เฉิง​ ​ส่วน​ตระกูล​ถาน​นั้น​ ​สู่ขอ​บุตรสาว​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​จวน​เว​่​ยกั​๋​วกง​ไป​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​บัดนี้​กำลังจะ​มีพ​ระ​ชายา​องค์​ชาย​อีก​ผู้​หนึ่ง​ด้วย​ ​หาก​เรื่อง​นี้​ประสบผลสำเร็จ​ ​ตระกูล​ทั้งสอง​ตระกูล​นี้​ล้วน​เป็น​ผู้ให้​ความช่วยเหลือ​ที่​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว

หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​เป็นกลาง​ว่า​ ​“​พี่สาว​ของ​เจ้า​ช่าง​มีสาย​ตาแหลม​คม​”

เฉินลั​่​วก​ลับ​กล่าว​อย่างดูแคลน​ว่า​ ​“​นาง​ก็​แค่​ทะนงตัว​ ​คิด​ว่า​ขอ​เพียง​นาง​ถูกใจ​ ​ก็​ไม่มีทาง​ล้มเหลว​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​สอง​ตระกูล​นี้​เป็น​คู่​หมาย​ที่​ดี​ ​ไม่​คิด​บ้าง​หรือว่า​ผู้อื่น​ก็​ถูกใจ​สอง​ตระกูล​นี้​เช่นกัน​?​ ​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​ของ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไม่ได้​รับ​การ​แต่งตั้ง​เสียที​ ​คน​จำนวนมาก​ไม่ได้​มอง​เฉิน​อิง​ดีสัก​เท่าไร​นัก​ ​เขา​อยาก​ยืม​อำนาจ​ของ​ผู้อื่น​ ​แต่​ผู้อื่น​ก็​มิใช่​คนโง่​ ​คง​ไม่​ง่ายดาย​ขนาด​นั้น​!​”

“​แต่​ตอนนี้​คง​ไม่​เหมือนเดิม​แล้ว​กระมัง​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​เนื่องจาก​ฮ่องเต้​มีพ​ระ​ประสงค์​จะ​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​แล้ว​”

“​เพราะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​จึง​ยิ่ง​ไม่​ควร​รีบร้อน​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​อย่างไร​เสีย​ไม่ว่า​เรื่องราว​จะ​ลงเอย​อย่างไร​ ​ก็​เป็นเรื่อง​ที่จะ​เกิดขึ้น​ใน​ไม่​กี่​เดือน​นี้​แล้ว​”

หญิงสาว​ของ​ตระกูล​ถาน​นั้น​หวัง​ซี​รู้จัก​แค่​คุณหนู​สี่​ ​หรือ​ก็​คือ​คนที​่​กำลังจะ​หมั้น​หมาย​กับ​องค์​ชาย​สี่​ท่าน​นั้น​เท่านั้น​ ​ส่วน​คนอื่นๆ​ ​นั้น​นาง​ไม่รู้​จัก​ ​จึง​ไม่มี​ความเห็น​อะไร​ ​แต่​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​นั้น​ ​เป็น​คนที​่​เคย​ปฏิสัมพันธ์​ด้วย​หลายครั้ง​ ​เมื่อ​คิด​ว่านา​งอาจ​ต้อง​แต่ง​กับ​เฉิน​อิง​แล้ว​ ​หวัง​ซี​รู้สึก​เสียดาย​แทน​นาง​เล็กน้อย​จริงๆ

จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ซับซ้อน​เกินไป​ ​มิใช่​ตระกูล​สามี​ที่​ดีนัก

แต่​นี่​ก็​เป็นความ​คิด​ของ​นาง​เพียง​คนเดียว​ ​ไม่แน่​ว่า​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​อาจจะ​คุ้นเคย​กับ​ชีวิต​เช่นนั้น​อยู่​แล้วก็​เป็นได้

หวัง​ซียั​งคง​รู้สึก​ว่า​เฉินลั​่ว​ไม่ปลอดภัย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ช่วงนี้​เจ้า​ก็​อย่า​เพิ่ง​วิ่ง​พล่าน​ไป​ทั่ว​เลย​ ​ข้า​จะ​บอก​หลง​จู๊​ใหญ่​ของ​พวก​ข้า​เอาไว้​สัก​คำ​หนึ่ง​ ​ดู​ว่า​จะ​หาวิ​ธี​ว่าจ้าง​จอม​ยุทธ์​พเนจร​มาช​่วย​จัดการ​ธุระ​และ​คุ้มกัน​เจ้า​อย่าง​ลับ​ๆ​ ​สัก​สอง​สาม​คน​ได้​หรือไม่​ ​คน​เช่น​พวกเขา​นั้น​ ​ทำงาน​แลก​เงิน​ ​เชื่อถือได้​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ดีร้าย​ก็​เป็น​ผู้คุ้มกัน​ได้​ผู้​หนึ่ง​”

เฉินลั​่ว​ครุ่นคิด​ตาม​ ​ไม่ได้​ปฏิเสธ​นาง​ ​กล่าว​ขอบคุณ​หวัง​ซีด​้ว​ยน​้ำ​เสียง​จริงใจ

หวัง​ซีจึ​งม​อบ​หมาย​เรื่อง​นี้​ให้​หวัง​สี่​ ​ส่วน​นาง​ง่วน​กับ​การทดลอง​ทำ​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์​ไส้​ผลไม้​อยู่​ที่​บ้าน

ไม่รู้​ว่า​ผิดพลาด​ตรง​ที่ใด​ ​สุดท้าย​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์ที​่​ทำ​ออกมา​ยังคง​ไม่​อาจ​รักษา​เอกลักษณ์​ของ​ผลไม้​เอาไว้​ได้​อยู่ดี​ ​ก็​เลย​ยอมแพ้

นาง​จึง​ทำ​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์ตาม​แบบฉบับ​ขนม​ของ​ซู​โจว​และ​ก่วงตง​มอบให้​ผู้อื่น​ ​ส่วน​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์ที​่​ส่งกลับ​สู่​จง​นั้น​เป็น​ขนม​ตามแบบฉบับ​ของ​จิง​เฉิง​ ​ถือเป็น​การ​ให้​ทุกคน​ได้​เปลี่ยน​รสชาติ​ ​กิน​ของแปลก​ใหม่​สักครั้ง​หนึ่ง

นอกจากนี้​เพียงพริบ​ตาเดียว​ก็​จะ​ถึง​ต้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​นาง​เอง​ก็​ต้องเต​รี​ยม​ตัว​เดินทาง​กลับ​สู่​จง​แล้ว​ ​ครั้งนี้​จึง​ส่งจดหมาย​หนึ่ง​ฉบับ​กลับ​ไป​ให้​มารดา​ของ​นาง​เป็นพิเศษ​ด้วย​ ​เล่าเรื่อง​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ให้​นาง​ฟัง​ ​อยาก​ให้​มารดา​ของ​นาง​อนุญาต​ให้​นาง​เดินทาง​กลับ​ไป​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​สู่​จง

ส่วน​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​นาง​นั้น​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​เฟ้นหา​จาก​ตระกูล​เดิม​ของ​ป้า​อาสะใภ้​หรือไม่ก็​ตระกูล​เดิม​ของ​พี่สะใภ้​มาสัก​สอง​สาม​คน​ก็ได้​ ​เพราะ​ทุกคน​ต่าง​รู้จัก​พื้นเพ​กัน​เป็น​อย่างดี​ ​ขอ​เพียง​รูปงาม​ ​รู้ความ​และ​ฉลาด​มีไหวพริบ​ก็​พอแล้ว

นาง​ไม่ได้​มี​เงื่อนไข​หรือ​ข้อเรียกร้อง​สูงส่ง​อะไร

อย่างไร​เสียนา​งก​็​ดื่ม​กิน​จาก​สิน​เจ้าสาว​ของ​ตัวเอง​ได้​ ​เพียง​จัดการ​สิน​เจ้าสาว​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​คอย​มอง​สีหน้า​ของ​ตระกูล​สามี​แล้ว

ช่าง​ตรง​กับ​คำกล่าว​ที่ว่า​พอ​ไร้​เรื่อง​กวนใจ​ร่างกาย​ก็​เป็นสุข​ประโยค​นั้น​ยิ่งนัก​ ​รอ​จนกระทั่ง​ตอนที่​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มา​ขอยืม​ตัว​อาจารย์​ทำ​ขนมหวาน​กับ​นาง​ ​นาง​ยัง​จัดเตรียม​วัตถุดิบ​สำหรับ​ทำ​ไส้​สูตร​ลับ​เฉพาะ​ของ​ตระกูล​หวัง​หลายชนิด​ให้​อย่างกระตือรือร้น​อีกด้วย​

หลังจาก​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทราบ​เรื่อง​แล้ว​ ​ก็​เชิญ​นาง​ไปรับ​ประทาน​อาหาร​ที่​บ้าน​ ​ยัง​ให้​คน​ไป​แจ้งฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทราบ​เป็นการ​เฉพาะ​ด้วย

ช่วงนี้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​วุ่นอยู่กับ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​หลานชาย​และ​หลานสาว​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​ใส่ใจ​หวัง​ซี​เท่า​ก่อนหน้านี้​ ​หวัง​ซีจึง​ไม่​ค่อย​ได้​ไปรั​บมื​้อ​เย็น​เป็นเพื่อน​นาง​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว

นาง​รู้สึก​ว่า​หาก​หวัง​ซี​ผูกมิตร​กับ​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ได้​ ​ก็​เป็นการ​ดี​ต่อ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​หวัง​ซี​ ​จึง​ไม่​เพียง​ตอบรับ​อย่าง​ยินดี​เท่านั้น​ ​ยัง​มอบ​เงิน​ห้าสิบ​ตำลึง​ให้​หวัง​ซีนำ​ติดตัว​ไป​ใช้​อีกด้วย

หวัง​ซี​เอง​ก็​ไม่​ปฏิเสธ​ ​นำ​ไป​ซื้อ​ส้ม​น้ำผึ้ง​สด​ใหม่​ที่​เพิ่ง​วางขาย​มา​หนึ่ง​ตะกร้า​เป็น​ของฝาก​จากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า

เพียงแต่ว่า​ตอนที่​นาง​กำลังจะ​เดินทาง​ไป​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​นั้น​ ​หวัง​สี่​ก็​วิ่ง​กระหืดกระหอบ​เข้ามา​ ​บอกว่า​เฉินลั​่ว​ให้​คน​มาแจ้ง​นาง​ว่า​ ​ฮ่องเต้​ให้​องค์​ชาย​ใหญ่​ไป​สังเกตการณ์​ที่​กรม​อาญา​ ​โดย​ให้​เขา​ติดตาม​ไป​ด้วย

หวัง​ซี​ตกใจ​ ​ลาก​หวัง​สี่​ไป​คุย​ข้างๆ​ ​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​ตระหนก​ ​ใต้เท้า​เฉิน​บอกอะ​ไร​มาบ​้าง​”

……………………………………………………………………………

ตอนต่อไป