ตอนที่ 158 ระแวดระวัง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ใช่​ว่า​ราชวงศ์​ปัจจุบัน​ไม่มี​องค์​ชาย​เข้าไปมีส่วนร่วม​กับ​การเมือง​ ​แต่​นั่น​ล้วน​เป็นการ​ฝึกฝน​สำหรับ​เตรียมตัว​ขึ้น​เป็น​รัชทายาท​ทั้งสิ้น

การ​ที่​องค์​ชาย​ใหญ่​ไป​สังเกตการณ์​ที่​กรม​อาญา​ ​จึง​เป็นการ​เผย​ความ​ไม่​ปกติ​ออกมา

ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​พา​เฉินลั​่ว​ไป​ด้วย

ทำให้​เฉินลั​่​วก​ลาย​เป็น​เป้าสายตา​ของ​ทุกคน​ไป​ด้วย​อีก​คน

“​พา​ใต้เท้า​เฉิน​ไป​ด้วย​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​เสียง​ขรึม​ ​“​เป็นการ​ ​‘​พา​ไป​ด้วย​’​ ​แบบ​ไหน​?​ ​ให้​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​?​ ​หรือ​เพราะ​ถูก​ฮ่องเต้​ไล่​ไป​อยู่​กรม​อาญา​กัน​แน่​?​”

คน​อย่าง​พวก​หวัง​สี่​นี้​ ​ก่อน​มา​พบ​เจ้านาย​ย่อม​ทำการบ้าน​ใน​เรื่อง​ที่​เจ้านาย​อาจ​ถาม​มาก​่อ​นอยู​่​แล้ว​ ​ต่อให้​ไม่​อาจ​ตอบ​ได้​ทั้งหมด​ ​แต่​ก็​ตอบ​ได้​เจ็ด​ถึง​แปด​ส่วน​ ​เรื่อง​ของ​เฉินลั​่ว​ ​เขา​เอง​ก็​ทราบ​เป็น​อย่างดี​ ​จึง​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​ฮ่องเต้​ให้​ใต้เท้า​เฉิน​ไป​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ไป​สังเกตการณ์​ที่​กรม​อาญา​ด้วยกัน​ ​แต่​หน้าที่​การงาน​ที่​กองพล​ก็​ยังคง​ต้อง​รับผิดชอบ​อยู่​ ​เป็นเหตุให้​บัดนี้​ใต้เท้า​เฉิน​ต้อง​ไป​กรม​อาญา​เป็นเพื่อน​องค์​ชาย​ใหญ่​ใน​ช่วง​เช้า​ ​หลังจาก​รับประทาน​มื้อ​กลางวัน​เสร็จ​แล้วก็​ต้อง​เร่ง​ไป​ที่​กองพล​ม้า​ทะยาน​ ​ยุ่ง​จน​หัวหมุน​เลย​ขอรับ​”

หวัง​ซี​มุ่น​คิ้ว​ ​ถาม​ว่า​ ​“​นอกจาก​เรื่อง​ที่​เขา​ต้อง​ไป​สังเกตการณ์​ที่​กรม​อาญา​เป็นเพื่อน​องค์​ชาย​ใหญ่​แล้ว​ ​ใต้เท้า​เฉิน​ยัง​ให้​เจ้า​นำ​ความ​อย่าง​อื่น​มาบ​อก​ข้า​อีก​หรือไม่​”

หวัง​สี่​คิดทบทวน​ ​ตอบ​ว่า​ ​“​ตอนที่​เขา​กำลัง​คุย​กับ​ข้า​อยู่​นั้น​มี​คน​ออกมา​ ​เขา​จึง​กล่าว​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ​‘​ฝีมือ​ของ​แม่ครัว​พวก​เจ้า​ไม่เลว​เลย​จริงๆ​’​ ​แล้วก็​ถูก​คน​พาตัว​ไป​ ​ไม่ได้​กล่าวถึง​เรื่อง​อื่น​เลย​ขอรับ​”

หวัง​ซี​เข้าใจ​แล้ว​ ​กล่าวว่า​ ​“​เข้าใจ​แล้ว​!​ ​ข้า​จะ​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ ​ส่วน​เจ้า​ไปหา​หลง​จู๊​ใหญ่​สักครั้ง​ ​ให้​เขา​ช่วย​หา​จอม​ยุทธ์​พเนจร​ให้​ข้า​สัก​สอง​สาม​คน​ ​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​เงิน​ ​ข้ามี​เรื่อง​ต้อง​ใช้งาน​”

ถึงขั้น​ต้องหา​จอม​ยุทธ์​พเนจร​มา​ใช้งาน​แล้ว​หรือ​?

หวัง​สี่​พึมพำ​อยู่​ใน​ใจ​ ​เห็น​หวัง​ซี​เร่ง​ออกเดินทาง​ ​จึง​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​มาก​ ​รับคำ​แล้ว​ออก​ไปหา​หลง​จู๊​ใหญ่

ส่วน​หวัง​ซี​ขึ้น​เกี้ยว​ไป​ด้วย​หัวใจ​ที่​หนักอึ้ง

ที่ผ่านมา​เฉินลั​่ว​มิใช่​คนพูด​จาค​้​อม​อ้อม​ ​บัดนี้​อยาก​พบ​นาง​สักครั้ง​เพื่อ​หารือ​เรื่อง​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ยัง​ต้อง​พูดเป็นนัย​เพื่อ​ตบตา​เช่นนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ยากลำบาก​ยิ่ง​ ​เรื่อง​จอม​ยุทธ์​พเนจร​จึง​ไม่​อาจ​ล่าช้า​ ​ยัง​มี​หมี่​เหนียง​จื่อ​อีก​คน​ ​ต้องหา​วิธี​ไป​ติดต่อ​ให้​มากขึ้น​โดย​ไม่​ให้​ผู้อื่น​พบเห็น​ถึง​จะ​ใช้การได้

นาง​ขบคิด​ไป​ตลอดทาง​ ​จน​เดินทาง​มาถึง​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ตั้งแต่​เมื่อไร​ก็​ไม่รู้​ตัว

เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ชื่นชอบ​เด็กสาว​งดงาม​และ​ฉลาดเฉลียว​อย่าง​หวัง​ซี​ผู้​นี้​ด้วย​ความจริงใจ​ ​นาง​เอา​ผลไม้​อบ​แห้ง​มา​ให้​หวัง​ซีกิ​นอย​่าง​ยิ้มแย้ม​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​อา​หลิง​ของ​พวก​ข้า​บอกว่า​เจ้า​กิน​เก่ง​ ​นี่​เป็นผล​ไม้​อบ​แห้ง​ส่ง​มาจาก​หูหนาน​ ​เจ้า​ลอง​ชิม​ดู​ว่า​มี​อะไร​แตกต่าง​ไป​จาก​ของ​จิง​เฉิง​บ้าง​”

ผลไม้​อบ​แห้ง​ของ​จิง​เฉิง​ใช้​น้ำตาล​ใน​การ​หมักดอง​ ​ส่วน​ผลไม้​อบ​แห้ง​ของ​หูหนาน​ใช้​น้ำตาล​ฉาบ​เคลือบ​เอาไว้​ ​แบบ​หนึ่ง​น้ำตาล​ซึม​อยู่​ด้านใน​ ​อีก​แบบ​หนึ่ง​น้ำตาล​ฉาบ​เคลือบ​อยู่​ด้านนอก​ ​อร่อย​ไป​คนละ​แบบ

หวัง​ซีก​ล่าว​ชม​ฟักเขียว​เคลือบ​น้ำตาล​ไม่ขาดปาก

เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​หัวเราะ​ร่า​ไม่​หยุด​ ​กล่าวว่า​ ​“​รส​ปากของ​เจ้า​เหมือนกับ​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​นาง​เอง​ก็​ชอบ​กิน​ฟักเขียว​เคลือบ​น้ำตาล​ที่​ส่ง​มาจาก​หูหนาน​เช่นกัน​ ​เจ้า​รอค​รู่​หนึ่ง​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ห่อ​ให้​เจ้า​เอา​กลับ​ไป​ด้วย​”

ส่วน​ของขวัญ​ที่หวัง​ซี​เป็นตัวแทน​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​นำมา​มอบให้​นั้น​ ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่เชื่อ​ว่า​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็น​คน​ส่ง​มา​ให้​ ​นาง​รู้จักฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​ดี​เกินไป​ ​นอกจาก​ตระหนี่​แล้ว​ ​ยัง​ไม่​ค่อย​มี​วิสัยทัศน์​ ​หาก​ไร้​ซึ่ง​คน​ย้ำ​เตือน​ ​เป็นไปได้​ยาก​ที่จะ​นึกถึง​สินน้ำใจ​เหล่านี้

นาง​นับ​ของขวัญ​ดังกล่าว​เป็น​ส่วน​ของ​หวัง​ซี​ ​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ควร​หาคู่​ครอง​ดี​ๆ​ ​ให้​หวัง​ซีสั​กคน​ถึง​จะ​ถูก​ ​จึง​ลาก​นาง​ไป​ถาม​เรื่อง​ของ​ตระกูล​หวัง​อย่างละเอียด​ ​จนกระทั่ง​ตอนที่​ลู่​หลิง​เร่ง​มาถึง​หลังจากที่​รู้​ว่า​หวัง​ซี​มาถึง​แล้ว​นั้น​ ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กำลัง​ถือ​ผ้าเช็ดหน้า​เช็ดน้ำ​ตา​อยู่

ลู่​หลิง​เต็มไปด้วย​งุนงง​ ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เพียง​ไม่นาน​ ​เหตุใด​น้ำตา​ถึง​ร่วง​เป็น​สาย​ไป​หมด​ทั้งสอง​ข้าง​ได้​?​ ​ต้อง​เป็น​เพราะ​พี่สาว​หวัง​เล่าเรื่อง​อะไร​อีก​แน่ๆ​ ​ท่าน​ย่า​ฟัง​แล้ว​ถึง​ได้​รู้สึก​เห็นใจ​สงสาร​ขึ้น​มา​อีกแล้ว​”

เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ถลึงตา​คล้าย​โกรธ​แต่​ก็​คล้าย​ยิ้ม​ใส่​ลู่​หลิง​ครั้งหนึ่ง​ ​ไม่​ตอบคำถาม​นาง​ ​แต่​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​เพิ่ง​มา​เอา​ป่านนี้​ ​ตอน​กิน​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์​ของ​พี่สาว​หวัง​ของ​เจ้า​ ​มิใช่​ว่ากล่าว​ชม​ไม่ขาดปาก​ ​อยาก​กล่าว​ขอบคุณ​นาง​ด้วยตัวเอง​หรอก​หรือ​ ​เหตุใด​พอ​เจอ​ตัว​คน​แล้ว​ถึง​ไม่​พูด​อะไร​แม้แต่​ประโยค​เดียว​?​”

ลู่​หลิง​รู้​ว่านี​่​หมายความว่า​ท่าน​ย่า​ไม่​อยาก​เล่า​ให้​นาง​ฟัง​ ​จึง​เดา​ว่าน​่า​จะ​เป็นเรื่อง​ส่วนตัว​ของ​หวัง​ซี​ ​ก็​เลย​ไม่​ไล่​ถาม​ต่อ​ ​กล่าว​คล้อย​ไป​กับ​คำของ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ว่า​ ​“​มิใช่​ท่าน​หรือ​เจ้า​คะ​ที่​ต้องการ​ส่ง​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์​เข้า​วัง​ให้​ได้​ ​หาไม่​แล้ว​จะ​ต้อง​รบกวน​พี่สาว​หวัง​ได้​อย่างไร​”

เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​กล่าว​กับ​หวัง​ซี​อย่าง​ขออภัย​เล็กน้อย​ว่า​ ​“​ช่วงนี้​เจียง​ไท่​เฟย​ไม่​ค่อย​สบาย​พระทัย​ ​ข้า​นั้น​คิด​ว่า​เป็น​พี่สาว​น้องสาว​กัน​มาน​มนาน​ ​คง​ไม่​อาจ​ยืน​มอง​เฉยๆ​ ​เช่นนี้​ ​อีก​อย่าง​ใน​วัย​ของ​พระนาง​นี้​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ชื่นชอบ​เป็นพิเศษ​แล้ว​ ​ก็​มี​แค่​ชอบ​กิน​ขนม​ต่างๆ​ ​เท่านั้น​ ​ก็​เลย​ต้อง​รบกวน​เจ้า​”

หวัง​ซีคิด​ว่า​โดยมาก​คง​เป็น​เพราะ​ฮ่องเต้​ใช้​พระนาง​เป็น​แพ​ ​เปิดเผย​ความประสงค์​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​ใน​งาน​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ของ​พระนาง​ ​เป็นเหตุให้​ไท่​เฟ​ยพ​ระ​องค์​นี้​มี​ปม​ใน​ใจ

ความจริง​แล้ว​นาง​อยาก​สอบถาม​ให้​ละเอียด​เหลือเกิน​ว่า​ตอนนั้น​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ ​แล้ว​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​อะไร​มาบ​้าง​ ​แต่​นาง​ก็​คิดได้​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​นาง​กับ​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ก็​รู้จัก​กัน​เพียง​ผิวเผิน​เท่านั้น​ ​จึง​ยั้ง​ตัวเอง​เอาไว้​ได้​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​คนสูงอายุ​เมื่อถึง​วัย​นี้​ล้วน​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​ปู่​กับ​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ก็​ชอบ​กิน​อาหาร​เลิศ​รส​เป็นอย่างมาก​ ​ใน​บรรดา​วัตถุดิบ​ทำ​ไส้​ขนม​ที่​ข้าม​อบ​ให้ท่า​นนั​้​นมี​แบบ​ที่​ท่าน​ปู่​กับ​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ชอบ​กิน​อยู่​ด้วย​พอดี​ ​คงได้​นำ​ถวาย​เจียง​ไท่​เฟ​ยด​้วย​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​ของ​ที่​ย่อย​ง่าย​ ​เหมาะสำหรับ​คนสูงอายุ​ทั้งสิ้น​เจ้าค่ะ​”

เนื่องจาก​เป็น​ขนม​ไหว้พระ​จันทร์ที​่​จะ​นำ​ถวาย​เจียง​ไท่​เฟย​ ​จึง​ไม่​อาจ​ทำ​อย่าง​ลวกๆ​ ​ได้

หลังจากที่​ได้รับ​สูตร​ทำ​ไส้​ขนม​เหล่านั้น​มา​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ไล่​ดู​อย่างละเอียด​ไป​แล้ว​หนึ่ง​รอบ​ ​ย่อม​รู้​ว่าวัต​ถุ​ดิบ​ทำ​ไส้​ขนม​เหล่านั้น​ล้วน​เป็น​ของ​ที่​เหมาะสำหรับ​คน​สูงวัย​ทั้งสิ้น

นาง​ชอบ​ความ​ช่างคิด​ของ​หวัง​ซียิ​่ง​นัก​ ​ยิ่ง​มอง​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ถูกชะตา​ ​จึง​เป็นธรรมดา​ที่​ยาม​พูดจา​เจือ​ความจริงใจ​เอาไว้​หลาย​ส่วน​ ​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้ว​ถอนหายใจ​ยาว​ออกมา​ครั้งหนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​พระนาง​เอง​ก็​ไร้​ทางเลือก​ ​คน​เป็นมา​รดา​แท้ๆ​ ​เมื่อ​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ยัง​ต้อง​มีชีวิต​ด้วย​การ​พึ่งพา​และ​ดู​สีหน้า​ของ​เหล่า​บุตรชาย​หญิง​ ​นับประสา​อะไร​กับ​นาง​ที่​เป็น​เพียง​มารดา​เลี้ยง​ผู้​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​ฮ่องเต้​ให้เกียรติ​นาง​ ​นาง​ได้​เป็นไท​่​เฟย​ ​หาก​ไม่​ไว้หน้า​นาง​ ​นาง​ก็​ไม่มี​อะไร​แล้ว​ ​ทุก​ครอบครัว​ต่าง​มี​คัมภีร์​ยาก​จะ​อ่าน​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่มี​ชีวิต​ของ​ใคร​ที่ราบ​รื่น​ทุกอย่าง​!​”

ลู่​หลิง​เห็น​ย่า​ไม่​ระแวดระวัง​ตัว​กับ​หวัง​ซี​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​ไม่​ระแวดระวัง​ตัว​กับ​หวัง​ซี​ ​กล่าว​ปลอบโยน​ย่า​ของ​นาง​ว่า​ ​“​แม้น​บ้าน​พวกเรา​มี​คน​น้อยที่สุด​ ​แต่​บ้าน​พวกเรา​ก็​มีเรื่อง​น้อยที่สุด​เช่นกัน​ ​อย่างไร​บ้าน​พวกเรา​ก็ดี​กว่า​!​”

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​กลับ​มีท​่า​ที​คล้าย​อยาก​พูด​อะไร​แต่​ก็​หยุด​ไป

หวัง​ซีล​อบ​ประหลาดใจ​ ​ส่วน​ลู่​หลิง​อยาก​ถาม​แต่​ก็​ไม่รู้​จะ​เริ่ม​ถาม​อย่างไร​ ​โชคดี​ที่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​อย่างรวดเร็ว​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พวกเรา​มีเรื่อง​น้อยที่สุด​ ​รอ​ให้​พี่ชาย​ของ​เจ้า​แต่ง​สะใภ้​เข้า​บ้าน​แล้ว​ ​ข้า​จะ​มอบหมาย​เรื่อง​ใน​บ้าน​ให้​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ ​ทีนี้​ก็​ยิ่ง​สบาย​แล้ว​”

ลู่​หลิง​ประหลาดใจ​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​งานแต่ง​ระหว่าง​พี่ชาย​ข้า​กับ​ตระกูล​ถาน​กำหนด​ลงมา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​พ่อ​เจ้า​บอกว่า​ดียิ่ง​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่มีปัญหา​อะไร​แล้ว​”​ ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ตอบ​ยิ้ม​ๆ​ ​“​น่าจะ​เชิญ​แม่สื่อ​ไป​วาง​ของหมั้น​ใน​อีก​ไม่​กี่​วันนี้​”

ตระกูล​ถาน​?​ ​ใช่​ตระกูล​ถาน​ที่นาง​รู้จัก​หรือไม่

หวัง​ซี​ห้ามใจ​ไม่อยู่​ ​ถาม​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ใช่​ตระกูล​ของ​คุณหนู​สี่​ถาน​หรือไม่​”

ลู่​หลิง​พยักหน้า​ ​ยิ้ม​ตอบ​ว่า​ ​“​เป็น​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​คุณหนู​สี่​ถาน​ ​หรือ​ก็​คือ​คุณหนู​ห้า​ของ​พวกเขา​ ​บอกว่า​เป็น​น้องสาว​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​อายุ​น้อยกว่า​คุณหนู​สี่​ถาน​เพียง​สอง​วัน​เท่านั้น​ ​เมื่อก่อน​พวก​ข้า​ยัง​เคย​เล่น​ด้วยกัน​อยู่​บ่อยๆ​ ​แต่​มารดา​ของ​นาง​เข้มงวด​กับ​นาง​ยิ่งนัก​ ​หลาย​ปี​มานี​้​จึง​ไม่​ค่อย​ได้​เห็น​นาง​ออกมา​ร่วมงาน​สังคม​เท่าไร​แล้ว​”

หวัง​ซี​ถาม​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​แล้ว​ที่​บ้าน​ของ​พวกเขา​ยัง​มี​เด็กสาว​ที่​ถึง​วัย​แต่งงาน​อีก​หรือไม่​”

“​น่าจะ​ไม่มี​แล้ว​กระมัง​”​ ​ลู่​หลิง​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ปีนี​้​คุณหนู​หก​ของ​พวกเขา​เพิ่งจะ​หก​ขวบ​เท่านั้น​ ​คุณหนู​สาม​หมั้น​หมาย​กับ​คุณชาย​หก​ของ​จวน​เว​่​ยกั​๋​วกง​ ​ส่วน​คุณหนู​ใหญ่​กับ​คุณหนู​รอง​ต่าง​แต่งงาน​กัน​หมด​แล้ว​”

เช่นนั้น​ภรรยา​ของ​เฉิน​อิง​ก็​ไม่ใช่​หนึ่ง​ใน​นี้​แล้ว

หวัง​ซี​รู้สึก​ยินดี​กับ​หายนะ​ของ​ผู้อื่น​เล็กน้อย

ทีนี้​ก็​รอดู​ว่า​เฉิน​อิง​กับ​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​จะ​มี​วาสนา​ต่อกัน​หรือไม่​เท่านั้น

นาง​นึกถึง​เรื่อง​ที่​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​หลบเลี่ยง​ตระกูล​เหยี​ยน​ขึ้น​มา​ ​รู้สึก​ว่า​คุณหนู​ห้ามิ​ใช่​คน​ไร้ค​วาม​คิด​ ​เฉิน​อิง​อยาก​แต่ง​กับ​นาง​ ​เกรง​ว่า​ก็​มิใช่​เรื่อง​ง่ายดาย​นัก

***​

หลัง​กลับมา​จาก​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ ​หวัง​ซี​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็นอัน​ดับ​แรก

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่ได้​พบ​นาง​ ​บอกว่า​หย่ง​เฉิง​โหว​มาหา​ ​กำลัง​คุย​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อยู่​ใน​ห้อง​ ​แม้แต่​คน​ข้าง​กาย​อย่าง​ซือห​มัว​มัว​ยัง​ถูก​ไล่ออก​มา​อยู่​ข้างนอก

นาง​กล่าว​กับ​หวัง​ซี​อย่าง​ขออภัย​ว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​ท่าน​โหว​ออกมา​แล้ว​ข้า​จะ​ไป​แจ้งฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ให้​ทราบ​ไว้​ว่า​คุณหนู​ต่าง​สกุลมา​หา​แล้ว​ ​คุณหนู​ต่าง​สกุล​กลับ​ไป​ผลัดเปลี่ยน​อาภรณ์​ก่อน​ดีกว่า​ ​รอ​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มี​เวลาว่าง​แล้ว​ ​ข้า​จะ​รีบ​ส่ง​คน​ไป​แจ้ง​ท่าน​ทันที​”

หวัง​ซีก​ลับ​สวน​ร่ม​หลิว​ไป​ด้วย​ความสงสัย​ ​เห็น​ใน​ครัว​ยัง​ตุ๋น​น้ำแกง​แม่​ไก่​เอาไว้​อยู่​ ​จึง​สั่งการ​แม่ครัว​ว่า​ ​“​เก็บ​น้ำแกง​ไว้​ต้ม​บะหมี่​กิน​”

คืนนี้​เฉินลั​่ว​ต้อง​มาหา​นาง​อย่างแน่นอน​ ​งาน​ยุ่ง​มาก​ขนาด​นั้น​ ​อาหารการกิน​ก็​คง​กิน​อย่าง​ลวกๆ​ ​เท่านั้น​ ​ให้​เขา​ได้​กิน​น้ำแกง​อะไร​บ้าง​ ​ถือเป็น​การ​บำรุง​ร่างกาย

แม่ครัว​ขานรับ​คำ​ด้วย​รอยยิ้ม​ร่า

กว่า​เฉินลั​่​วจะ​มาตะ​วัน​ก็​ลับ​ขอบฟ้า​ไป​แล้ว

เขา​เต็มไปด้วย​ความเหนื่อย​ล้า​อย่างที่​คาดการณ์​เอาไว้​จริงๆ

หวัง​ซี​ไม่​พูด​อะไร​ ​ยก​บะหมี่​น้ำแกง​ไก่​ที่​ทำ​จาก​แป้ง​ข้าวสาลี​สด​ใหม่​มา​ให้​เขา​ก่อน​หนึ่ง​ถ้วย

เฉินลั​่ว​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด​ ​กิน​บะหมี่​จน​หมด​ชาม​แล้ว​ถึง​ได้​รู้สึก​เหมือน​ตัวเอง​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​นั่ง​อ่อนเปลี้ยเพลียแรง​อยู่​บน​เก้าอี้​มี​เท้าแขน​ใต้​ซุ้ม​องุ่น​ไม่​อยาก​ขยับเขยื้อน

หวัง​ซี​อยาก​ลาก​เขา​ไป​เดิน​สัก​สอง​รอบ​เหลือเกิน​ ​แต่​เห็น​สีหน้า​สบายใจ​ของ​เขา​แล้วก็​โยน​ความคิด​ดังกล่าว​ทิ้ง​ไป​เสีย

ช่างเถิด​ ​ปกติ​เขา​ก็​ซ้อม​ขี่ม้า​ยิง​ธนู​อยู่​แล้ว​ ​เวลา​สั้น​ๆ​ ​แค่นี้​คง​ไม่เป็นไร​ ​ให้​เขา​ได้​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​สักหน่อย​ก็แล้วกัน

หวัง​ซี​ว่าง​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​จึง​ชงชา​โบตั๋น​ขาว​รับรอง​เฉินลั​่ว​ ​เพียงแต่ว่า​เปลี่ยน​จาก​ขนมหวาน​เป็นผล​ไม้​อบ​แห้ง​ของ​หูหนาน​ที่​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มอบให้​มา​วันนี้

เฉินลั​่​วก​ลับตา​ดียิ่ง​นัก​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ซื้อ​ผลไม้​อบ​แห้ง​ของ​หูหนาน​มาตั​้ง​แต่​เมื่อไร​ ​เจ้า​ไม่​ชอบ​กิน​ของ​ที่​มีรส​หวาน​เกินไป​มิใช่​หรือ​”

“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​”​ ​หวัง​ซี​แปลกใจ

เฉินลั​่ว​พึมพำ​กล่าว​สอง​ประโยค​ไป​อย่าง​คลุมเครือ​ ​แล้วก็​เอ่ยถึง​ของว่าง​กิน​คู่​ชา​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​“​นี่​ฉาบ​เคลือบ​ด้วย​น้ำตาล​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ดื่ม​น้ำชา​ตาม​ไม่น้อย​แล้ว​กระมัง​ ​นี่​เจ้า​กลัว​ว่าน​้ำ​แกง​ไก่​ไม่พอ​ยัด​ให้​ท้อง​ข้า​เต็ม​หรือ​อย่างไร​!​”​

คิ้ว​สวย​ของ​หวัง​ซี​เป็น​เส้นตรง​ ​กล่าวว่า​ ​“​มิใช่​เพราะ​ข้า​ได้ยิน​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​บอกว่า​จ่าง​กง​จู่​ชอบ​กิน​ผลไม้​อบ​แห้ง​เช่นนี้​หรอก​หรือ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​ไม่รู้​จัก​สำนึก​ขนาด​นี้​!​”

เฉินลั​่ว​ประหลาดใจ​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​อะไร​นะ​ ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มอบให้​เจ้า​?​ ​นาง​บอกว่า​มารดา​ของ​ข้า​ชอบ​กิน​ผลไม้​อบ​แห้ง​เช่นนี้​?​”

“​ถูกต้อง​!​”​ ​หวัง​ซี​ถาม​อย่าง​เป็นกังวล​ว่า​ ​“​มี​อะไร​ไม่​ถูกต้อง​อย่างนั้น​หรือ​”

เฉินลั​่ว​หยิบ​ฟักเขียว​เคลือบ​น้ำตาล​ขึ้น​มาชิ​้น​หนึ่ง​ ​ไม่​กล่าว​อะไร​ไป​กว่า​ครู่ใหญ่

หวัง​ซีก​ล่าว​ขึ้น​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​คน​ผู้​นี้​ ​ตกลง​อยาก​พูด​อะไร​กัน​แน่​?​ ​อย่า​พูด​เพียง​ครึ่ง​ๆ​ ​กลางๆ​ ​คำธรรมดา​สามัญ​ทำให้​เจ้า​เป็นกังวล​ ​ทำให้​คน​ไม่สบายใจ​ได้​”

“​ข้า​เพียง​รู้สึก​แปลกใจ​เล็กน้อย​เท่านั้น​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​แต่​จาก​สีหน้า​ของ​เขา​ทำให้​ดูออก​ว่ายั​งมี​เรื่อง​ใน​ใจอยู่​ ​หวัง​ซีล​อบ​จดจำ​ไว้​ใน​ใจ​ ​คิด​ว่า​สักวัน​ตน​จะ​ต้อง​สอบถาม​ให้​กระจ่าง​ให้​ได้​ ​แต่​ตอนนี้​เรื่อง​องค์​ชาย​ใหญ่​สำคัญ​กว่า​ ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​กระจ่าง​ก่อน​เรื่อง​อื่น​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที

นาง​ริน​ชา​ให้​เฉินลั​่ว​ถ้วย​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​พูด​มา​เถอะ​!​ ​มาหา​ข้ามี​เรื่อง​อะไร​?​ ​แม้แต่​คำพูด​ยัง​พูดตรงๆ​ ​ให้​ชัดเจน​ไม่ได้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ข้าง​กาย​เจ้า​มี​คนที​่​เจ้า​ไม่ไว้ใจ​แต่​ก็​กำจัด​ทิ้ง​ไม่ได้​อยู่​ด้วย​ ​เป็น​คน​ของ​ฮ่องเต้​หรือว่า​เป็น​คน​ของ​ผู้อื่น​?​”

เฉินลั​่ว​มีสี​หน้า​เหลอ​หลา​ ​รู้สึก​ว่าการ​ที่หวัง​ซี​ฉลาด​เกินไป​ก็​หา​ใช่​เรื่อง​ที่​ดีนัก​ ​เพราะ​เขา​อยาก​ปิดบัง​อะไร​นาง​ก็​ทำได้​ยาก​ยิ่ง

“​ฮ่องเต้​ส่ง​มา​”​ ​เขา​กล่าว​ ​“​บอกว่า​คน​มีปัญญา​ไม่​ยืน​ใต้​กำแพง​อันตราย​ ​แต่​ความจริง​เป็น​คนที​่​ย้าย​มาจาก​ต้าถง​ทั้งหมด​ ​แม้แต่​ข้า​ยัง​ไม่​คุ้นหน้า​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​องค์​ชาย​ใหญ่​เลย​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​แทนที่จะ​บอกว่า​เป็นการ​มาคุ​้​มกั​นพ​วก​ข้า​ ​มิสู​้​บอกว่า​กำลัง​จับตาดู​พวก​ข้า​อยู่ดี​กว่า​”

………………………………………………………………………….

ตอนต่อไป