กลางดึก
บลูส์คลับ
หลังจากที่เฉินฮวนฮวนเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องล็อกเกอร์พนักงานเสร็จแล้ว เธอก็เตรียมพร้อมจะออกไป
คุณยายของเธอยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลคุณยาย
เธอรีบเดินไปทางประตูด้านหลังของคลับเฮ้าส์
ทันใดนั้น ประตูห้องเก็บของถูกเปิดออก แขนเรียวยาวข้างหนึ่งยื่นออกมาคว้าเธอเอาไว้ และลากเธอเข้าไป
“อื้อ!”
เฉินฮวนฮวนอยากจะกรีดร้อง ทว่าริมฝีปากของเธอกลับถูกปิดเอาไว้ เธอพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่พละกำลังของชายหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
เธอไม่อาจต้านทานแรงของเขาได้…
เดิมทีเธอไม่ได้เป็นพนักงานของบลูส์คลับ เธอแค่มาเข้าเวรแทนเพื่อนเท่านั้น แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
“ฉันจะรับผิดชอบเอง”
เสียงแหบแห้งของชายหนุ่มดังขึ้นในโสตประสาทของเธอ เพื่อแลกกับเสียงร้องตะโกนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ของเธอ
…
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว
หลังจากตื่นขึ้นมาบนโซฟาเก่าที่ขาดรุ่งริ่งตัวหนึ่ง เฉินฮวนฮวนสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มข้างเธอหลับไปเสียแล้ว
เวลานี้ภายในห้องมืดสนิท ทำให้เธอไม่เห็นแม้แต่หน้าตาของเขา
เธอไม่กล้าเปิดไฟ เธอได้แต่ลูบคลำควานหาทางเดินท่ามกลางความมืด เมื่อแตะลูกบิดประตู เหมือนว่าเธอได้พบความหวังของชีวิตเข้าแล้ว
เฉินฮวนฮวนไม่สนใจความเจ็บส่วนล่างของร่างกาย เธอวิ่งไปที่ระเบียงทางเดินอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเธอก็ออกไปทางประตูด้านหลังของคลับเฮ้าส์จนได้
เธอกลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะตามเธอทัน จนกระทั่งเธอมานั่งรถเมล์ไปโรงพยาบาล เธอถึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ข้างนอก จู่ๆ ฝนก็ตกลงมา
เสื้อผ้าบนตัวเธอยังอยู่ในสภาพดี เธอแค่รู้สึกปวดบางส่วนของร่างกายเท่านั้น ทำให้เธอรู้ว่าตัวเองได้สูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว
น้ำตาของเฉินฮวนฮวนไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของเธอก็สั่นขึ้น
เฉินฮวนฮวนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พบว่าเป็นคุณหมอที่โทรเข้ามา เธอจึงรีบกดรับสายทันที
“คุณเฉิน อาการคุณยายของคุณทรุดลงกะทันหัน ท่านเพิ่งจากไปครับ”
โทรศัพท์มือถือหลุดจากมือของเธอ หล่นลงบนรถเมล์เสียงดัง “ตุ๊บ!”
“คุณยาย…”
บนรถเมล์ เสียงร้องไห้ของเด็กสาวดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
…
ภายในห้องเก็บของ
เมื่อเฟิงหานชวนตื่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกปวดศีรษะราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ฝ่ามือของเขาค้ำยันบนโซฟาเก่าที่ขาดรุ่งริ่ง ขณะกำลังลุกขึ้นนั่ง ทันใดนั้น เขาก็คลำเจออะไรบางอย่าง
เขาหยิบขึ้นมาดู คิดไม่ถึงว่ามันคือสร้อยคอทองคำที่ดูโบราณคร่ำครึเส้นหนึ่ง นี่เป็นของที่ผู้หญิงคนนั้นทำหล่นไว้เหรอ
เฟิงหานชวนมองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีแม้แต่เงาของใครสักคน
ผู้หญิงคนเมื่อคืนไปแล้วเหรอ
“ปัง ปัง ปัง…”
ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่หลายครั้ง จากนั้นเสียงจากนอกประตูก็ดังขึ้นมาอีก “ประธานเฟิง ผมเองครับซูอวี่”
“เข้ามา” เฟิงหานชวนเอ่ยตอบเสียงเย็นพลางหยิบสร้อยคอทองคำเส้นนั้นใส่ลงในกระเป๋ากางเกงของเขา
ประตูถูกเปิดออก ซูอวี่เดินเข้ามา และโค้งคำนับให้เฟิงหานชวนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่สภาพผุพัง
“ท่านประธานเฟิงไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ซูอวี่ส่งเอกสารหนึ่งปึกให้เฟิงหานชวน และรายงานว่า “เมื่อคืนมีคนวางแผนทำร้ายท่านประธานครับ เดิมทีห้องบาร์ของท่านประธานต้องส่งผู้หญิงที่ติดเชื้อHIVเข้าไปคนหนึ่ง แต่ท่านประธานออกไปจากห้องบาร์ก่อน ดังนั้นแผนของพวกเขาจึงไม่สำเร็จครับ”
เฟิงหานชวนอ่านเอกสารในมือของเขา เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยสั่งด้วยเสียงกดต่ำ “หาผู้หญิงคนที่ฉันลากเข้ามาเมื่อคืนนี้หน่อย เธอน่าจะออกไปตั้งแต่ตอนเช้ามืด”
“ครับ” ซูอวี่พยักหน้ารับทันที
เฟิงหานชวนลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไป จู่ๆ ซูอวี่ก็เบิกตากว้าง และชี้ไปที่กางเกงของเขา
เขาก้มศีรษะดู บนกางเกงสแล็คสีเทาของเขามีคราบเลือดติดอยู่