ตอนที่ 125 เงื่อนงำ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 125 เงื่อนงำ
หากต้องเลือกระหว่างหลานชายกับผู้มีพระคุณ นางจำเป็นต้องเลือกหลานชายของตัวเองและทำผิดต่อผู้มีพระคุณ

องค์หญิงใหญ่ตัดสินใจเด็ดขาด น้ำเสียงหนักแน่นเยือกเย็นราวกับน้ำเย็นในบ่อน้ำลึกอันสงบนิ่ง “กำจัดคนของหมู่บ้านที่รู้เรื่องการตายของสตรีผู้นั้นให้หมด รับตัวเด็กสารเลวนั่นกลับมา บอกกับทุกคนว่าภรรยาของจี้ถิงอวี๋ตามเด็กนั่นกลับมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงเพื่อดูแลจี้ถิงอวี๋ เจ้าไปหาสตรีที่รูปร่างและอายุรุ่นราวคราวเดียวกับสตรีผู้นั้นมาที่จวน ให้นางปลอมตัวให้เหมือน จี้ถิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บหนัก ฟื้นขึ้นมาในคืนนี้จากนั้นก็สลบไม่ได้สติไปอีกครั้ง หลังจากร่างของท่านกั๋วกงถูกฝัง ผู้กล้าจี้ถิงอวี๋ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวติดตามท่านกั๋วกงไป ภรรยาของเขาฆ่าตัวตายตามไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ จบเรื่องนี้ลงเช่นนี้เถิด!”

เพียงแค่ถ้อยคำไม่กี่คำขององค์หญิงใหญ่ก็ตัดสินชะตาชีวิตของจี้ถิงอวี๋ได้แล้ว

เจี่ยงหมัวมัวทราบดีว่าที่องค์หญิงใหญ่จัดการเรื่องนี้อย่างรวดเร็วเพราะต้องการอาศัยช่วงที่คุณหนูใหญ่กำลังวุ่นวายอยู่กับพิธีศพจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น ชิงจบเรื่องนี้ลงก่อน

เจี่ยงหมัวมัวติดตามรับใช้องค์หญิงใหญ่มาตั้งแต่เด็ก นางทราบดีว่าเมื่อองค์หญิงใหญ่ตัดสินใจทำสิ่งใดแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจโน้มน้าวเปลี่ยนใจท่านได้ แต่นางก็อดเตือนออกมาไม่ได้ “องค์หญิงใหญ่ จัดการเช่นนี้หากคุณหนูใหญ่ทราบภายหลัง คุณหนูใหญ่อาจเอาใจออกห่างองค์หญิงใหญ่ได้นะเพคะ!”

“อย่าให้อาเป่ารู้เรื่องนี้!” องค์หญิงใหญ่ลืมตาที่แดงก่ำของตัวเองขึ้น มือที่คลำลูกประคำอยู่สั่นเทาอย่างรุนแรง “อย่าให้อาเป่ารู้เรื่องนี้เด็ดขาด!”

มิเช่นนั้น นางจะเผชิญหน้ากับหลานสาวของตัวเองได้อย่างไร

นางเป็นสตรีที่เติบโตในวังหลวง ไม่กล้ากล่าวว่านางไม่เคยมือเปื้อนเลือดคน ทว่า นางไม่อยากให้หลานสาวที่นางรักมากที่สุดต้องมาเห็นด้านที่โหดเหี้ยมชั่วร้ายที่สุดของตน

แม้จะรู้ดีว่าหลานสาวของนางอดทนเพื่อนางมามาก แม้จะรู้ดีว่าหลานสาวยอมไว้ชีวิตบุตรอนุผู้นั้นเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด! หลานสาวเห็นแก่ที่ตระกูลไป๋ปกป้องแผ่นดินนี้มาทุกชั่วรุ่น…เห็นแก่นางจึงยอมเป็นขุนนางที่จงรักภักดีไม่คิดกบฏ แม้จะรู้ดีว่าหากฆ่าจี้ถิงอวี๋จะเป็นการบีบให้หลานสาวของนางไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนาง

ทว่า ด้วยนิสัยของอาเป่า หากรู้ว่าบุตรอนุสารเลวไป๋ชิงเสวียนทำให้ภรรยาของจี้ถิงอวี๋ต้องตาย อาเป่าไม่มีทางไว้ชีวิตเด็กสารเลวนั่นอย่างแน่นอน!

แม้จะรู้ดีเช่นนี้ แต่นางก็ตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้

ทว่า นางยังโลภ ยังมีความหวังลึกๆ ว่านางสามารถปกป้องชีวิตของบุตรอนุผู้นี้และสามารถรักษาความสัมพันธ์ย่าหลานกับอาเป่าไว้ได้ด้วย

องค์หญิงใหญ่เจ็บปวดรวดร้าวจนร้องไห้ออกมาในที่สุด

ยามที่ท้องฟ้าเมืองหลวงมืดสนิทลง ไป๋ชิงเสวียนกลับมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เขากลับมาเพียงคนเดียว องค์หญิงใหญ่สั่งให้มารดาของไป๋ชิงเสวียนรออยู่ที่หมู่บ้าน

องค์หญิงใหญ่ไม่ได้ออกไปพบไป๋ชิงเสวียนด้วยตัวเอง เพียงสั่งให้เจี่ยงหมัวมัวไปบอกให้ไป๋ชิงเสวียนไปเฝ้าวิญญาณที่โถงทำพิธี เมื่อพบพี่หญิงใหญ่ไป๋ชิงเหยียนต้องเชื่อฟังและเคารพนอบน้อม หากไม่เชื่อฟังพี่หญิงใหญ่ หลังเสร็จสิ้นพิธีศพจะถูกลงโทษอย่างหนัก

ไป๋ชิงเสวียนรับคำอย่างว่าง่าย เดินตามเจี่ยงหมัวมัวไปยังโถงทำพิธี

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเสวียนโค้งกายคำนับสุดตัว ก้มหน้าลงไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็นรอยแผลที่ใบหน้าซึ่งถูกสตรีผู้นั่นข่วน “คาราวะพี่หญิงใหญ่ พี่หญิงรองขอรับ!”

เมื่อไป๋จิ่นจื้อมองเห็นไป๋ชิงเสวียนที่เดินตามหลังเจี่ยงหมัวมัวมาก็โมโหขึ้นในทันที กล่าวเสียงเย็น “มิใช่หนีไปแล้วหรือ เหตุใดเมื่อฮ่องเต้มีพระราชโองการแต่งตั้งท่านปู่ลงมาถึงได้กลับมาที่จวนอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้เล่า”

คิ้วของไป๋ชิงเสวียนกระตุก ก้มหน้าซ่อนแววตาที่โหดเหี้ยมไว้ คุกเข่าลงหน้าพิธีโดยไม่เอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น

“คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง คุณหนูสาม คุณหนูสี่ องค์หญิงใหญ่ให้คุณชายเสวียนมาเฝ้าวิญญาณในคืนนี้เจ้าค่ะ พวกคุณหนูกลับไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ!”

“เช่นนั้นก็ดี!” ไป๋ชิงเหยียนไม่เกรงใจ จับมือชุนเถาลุกขึ้นยืน สายตากวาดมองไปยังบาดแผลบนใบหน้าของไป๋ชิงเสวียนแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยกับบรรดาน้องสาว “พวกเรากลับกันเถิด พรุ่งนี้เคลื่อนขบวนศพยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก”

เมื่อกลับมาถึงเรือนชิงฮุย ชุนซิ่งสั่งให้สาวใช้ถือน้ำอุ่นเดินเข้ามา เมื่อปรนนิบัติไป๋ชิงเหยียนล้างหน้าเสร็จจึงสั่งให้สาวใช้ตั้งสำรับอาหารอ่อนๆ ขึ้นโต๊ะเพื่อให้ไป๋ชิงเหยียนทานก่อนเข้านอน

“บ่ายวันนี้จี้ถิงอวี๋ตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่” หญิงสาวใช้ผ้าขนหนูอุ่นเช็ดไปตามใบหน้าพลางหันไปถามชุนเถา

ชุนเถาที่กำลังจัดเตียงอยู่กัดริมฝีปากแน่น ควบคุมเสียงสะอื้นของตัวเองพลางออกแรงสะบัดผ้าห่มให้มากขึ้น แสร้งยิ้มพลางตอบเปลี่ยนเรื่อง “บ่าวได้ยินว่าวันนี้ภรรยาของจี้ถิงอวี๋มาเจ้าค่ะ กล่าวว่าต้องการมาดูแลจี้ถิงอวี๋ด้วยตัวเอง บ่าวไปแอบดูมาแล้ว เป็นหญิงงามผู้หนึ่งเลยเจ้าค่ะ!”

ถงหมัวมัวสั่งไว้ว่าห้ามรายงานเรื่องที่จี้ถิงอวี๋สลบไม่ฟื้นให้คุณหนูใหญ่ฟัง จี้ถิงอวี๋เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ท่านหมอหงต้องช่วยรักษาอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว ไม่ควรให้คุณหนูใหญ่พลอยกังวลใจไปด้วย หลายวันมานี้คุณหนูใหญ่นอนหลับพักผ่อนเพียงวันละสองชั่วยามก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว

เรื่องที่จี๋ถิงอวี๋แต่งงานเมื่อปีที่แล้ว นางได้ยินองครักษ์หลูผิงรายงานเมื่อสองสามวันที่แล้ว

ไป๋ชิงเหยียนยื่นผ้าขนหนูให้สาวใช้ หันไปกำชับชุนเถา “ครอบครัวของจี้ถิงอวี๋ไม่มีผู้ใหญ่หลงเหลืออยู่แล้ว ภรรยาของเขาอยู่ที่เรือนคนเดียวคงไม่สบายใจ ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันก็ดี กำชับให้พวกบ่าวดูแลภรรยาของจี้ถิงอวี๋ให้ดีด้วย”

“คุณหนูใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ ฮูหยินทราบว่าภรรยาของจี้ถิงอวี๋มาก็สั่งให้ฉินหมัวมัวไปกำชับแล้วเจ้าค่ะ บ่าวรับใช้ต่างเคารพภรรยาของจี้ถิงอวี๋มากเจ้าค่ะ” ชุนเถากางมุ้งออก “คุณหนูใหญ่ทานอาหารเสร็จก็พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจุดเทียนหอมช่วยให้หลับสบายให้คุณหนูแล้ว พรุ่งนี้ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากเจ้าค่ะ!”

ตั้งแต่ทราบข่าวในวันที่สามสิบ เรื่องต่างๆ ถาโถมเข้ามามากมาย หญิงสาวเหนื่อยมากจริงๆ ทว่าในใจยังรู้สึกข้องใจกับคำกล่าวของจิ่นถงที่กล่าวว่าเจี่ยงหมัวมัวพาคนไปยังเรือนฉางโซ่วอย่างรีบร้อน

“ชุนซิ่ง เจ้าไปตามถงหมัวมัวมาพบข้าหน่อย ข้ามีเรื่องจะถามนาง”

“เจ้าค่ะ!” ชุนซิ่งรับคำแล้วเดินจากไป

หญิงสาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะสี่เหลี่ยม หยิบน้ำอุ่นที่ชุนซิ่งวางไว้บนโต๊ะเล็กสีดำขึ้นมาจิบสองอึก ทานของว่างไปสองคำ ถงหมัวมัวก็เดินเข้ามา

“คุณหนูใหญ่” ถงหมัวมัวทำความเคารพ

“สืบได้เรื่องหรือไม่” หญิงสาวยกนมแพะขึ้นดื่ม

บัดนี้ต่งซื่อมอบหมายให้ไป๋ชิงเหยียนดูแลเรื่องในจวนทั้งหมด ถงหมัวมัวเป็นหมัวมัวข้างกายคนสนิทที่สุดของไป๋ชิงเหยียน นางสืบเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย

“ได้เรื่องแล้วเจ้าค่ะ หญิงรับใช้ชราที่เจี่ยงหมัวมัวพามาในวันนี้แซ่ฉีเจ้าค่ะ วันนี้เจี่ยงหมัวมัวให้หญิงรับใช้ชราสองสามคนไปรับตัวบุตรอนุของท่านชายรองจากหมู่บ้านกลับมาเจ้าค่ะ หญิงรับใช้ชราฉีเป็นหนึ่งในนั้น! แต่ต่อมาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงมีเพียงหญิงชราฉีคนเดียวที่กลับมาขอพบเจี่ยงหมัวมัวเจ้าค่ะ จากนั้นเจี่ยงหมัวมัวก็พานางที่ไปเรือนฉางโซ่ว เมื่อออกมาจากเรือนฉางโซ่วหญิงรับใช้ชราผู้นั้นก็กลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง จากนั้นก็กลับมาพร้อมบุตรอนุของท่านชายรองเจ้าค่ะ! แต่พอบ่าวไปตามหาหญิงชราผู้นั้นกลับไม่พบตัวแล้วเจ้าค่ะ! หญิงชราและคนบังคับม้าที่ไปรับตัวบุตรอนุผู้นั้นกลับมาล้วนหายตัวไปหมดทุกคนเลยเจ้าค่ะ!” ถงหมัวมัวกล่าวจบก็เอ่ยสำทับขึ้นอีก “อีกอย่าง ภรรยาของจี้ถิงอวี๋กลับมาพร้อมกับหญิงชราฉีและบุตรอนุของท่านชายรองเจ้าค่ะ ได้ยินว่าตระกูลจี้ก็อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนั้นเจ้าค่ะ”

ไปรับบุตรอนุผู้นั้นกลับมา…แต่กลับมาเพียงคนเดียว รีบไปหาท่านย่าอย่างรีบร้อน รอบที่สองถึงรับตัวบุตรอนุผู้นั้นกลับมา เรื่องนี้ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

บัดนี้หญิงชราและคนบังคับม้าที่ไปรับบุตรอนุผู้นั้นกลับมาล้วนหายตัวไปหมด นางไม่เชื่อหรอกว่าเรื่องนี้ไม่มีเงื่อนงำ

ไม่ใช่ว่านางเป็นคนขี้หวาดระแวง ทว่า ตระกูลไป๋ในตอนนี้จะมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด