ตอนที่ 30-1การทุบตี
หลี่เว่ยหยางต้องเดินผ่านบริเวณสวนหลังตำหนัก และระยะทางห่างไกลเพื่อไปยังหนานหยวน
นางได้สั่งให้สาวใช้ และแม่นมทั้งหมดหลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดอย่างเงียบ ๆ
และเว่ยหยางเดินทางไปกับไป๋จื่อเพียงสองคนเท่านั้น สาวใช้ผู้นี้กำลังถือเพื่อกำบังฝน ขณะที่พวกนางเดินเข้าไปในสวน
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายนั้นแม้ว่าไป๋จือจะพยายามถือร่มด้วยความระมัดระวัง
แต่ไหล่ข้างหนึ่งของหลี่เว่ยหยางก็ยังคงเปียกโชกอยู่
เกาจินกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ใบตองโดยมีเซียวซี ผู้ซึ่งกำลังยืนถือร่มอยู่ด้านหลัง เพื่อบังฝนให้กับเขา
“คุณชาย คุณหนูสามกำลังเดินมาแล้ว!”
เซียวซี ผู้ซึ่งเป็นคนรับใช้แจ้งเตือนคุณชายของเขา
ดวงตาคู่นั้นของเกาจินเริ่มจับจ้องไปยังร่างของหลี่เว่ยหยางอย่างใจจดใจจ่อ
ในตอนนี้นางสวมเสื้อทำจากผ้าไหม ช่วงบนของเสื้อมีลายปักรูปนกกางเขน ด้านล่างเป็นกระโปรงสีเดียวกันที่ทำจากผ้าฝ้ายทอมือ
ขณะที่เว่ยหยางกำลังเดินใกล้เข้ามา จึงได้สังเกตุเห็นว่า นางช่างดูบอบบางและมีความงดงามเป็นอย่างมาก
เกาจินจ้องมองนางอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า
และในขณะที่เฝ้ามองดูนางนั้น เขาได้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นจนมิสามารถอธิบายได้
เขากรีดร้องอยู่ในใจอย่างมีความสุข เพราะหลังจากวันนี้นางจะเป็นของเขาแล้ว!
ไป๋จือยังคงมีความรู้สึกราวกับว่า มีคนแอบมองดูพวกนาง จึงรู้สึกมิค่อยสบายใจ:
“คุณหนู, บ่าวกลัว!”
หลี่เว่ยหยางยิ้มออกมาเล็กน้อย:
“มิมีอันใดที่ต้องกลัว เดินต่อไป”
เสียงของคุณหนูสามก้องกังวานราวกับระฆังที่ถูกกระทบด้วยสายลมที่เยือกเย็น
สิ่งนี้ทำให้เกาจินเกิดความรู้สึกต้อง การที่จะใกล้ชิดกับนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมิสามารถยับยั้งความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไป
เขากระโดดออกมา โดยหวังที่จะตะครุบตัวนางอย่างเต็มที่
ในขณะที่เขากระโดดออกมานั้น มิทราบว่าด้วยสาเหตุใด มือของเกาจินเริ่มมีความรู้สึกชาและมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น
หลี่เว่ยหยางเลิกคิ้ว และใช้เท้าเตะอย่างไร้ความปรานี ที่บริเวณส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย ซึ่งนั่นก็คือ เป้ากางเกงของเขานั่นเอง
หลังจากที่เขาส่งเสียงกรีดร้องร่างกายของเขาก็หงายหลังลงทันที
ในเวลาเดียวกับที่เท้าของนางวางอยู่บนร่างกายส่วนล่างของเขา มือของ
เกาจินก็กำลังจะจับข้อเท้านั้น
ไป๋จื่อรีบดึงถุงผ้าออกมาในทันทีแล้วใช้มันคลุมศรีษะของเขาทันทีและตะโกนออกมาว่า
“มีคนบุกรุก เร็วเข้า มีขโมยอยู่ทางนี้! เร็วเข้า!”
ภายในมิกี่อึดใจ เหล่าคนรับใช้ที่ซ่อนตัวอยู่ได้รีบวิ่งกรูออกมาอย่างรวดเร็ว
หลี่เหว่ยหยางชี้ไปที่เกาจินและกล่าวอย่างเย็นชาว่า:
“ตีเขาให้ตาย!”
ผู้ที่อยู่ในถุงผ้าตะโกนออกมาว่า
“ผู้ใดกล้าตีข้า! ชื่อเกาจิน ข้าเป็นพี่ชายของเจ้านะเว่ยหยาง!”
เกิดอันใดขึ้น? ทุกคนเกิดความรู้สึกสับสนทันที
หลี่เว่ยหยางแสยะยิ้มอย่างเย็นชา
“พี่เกาจินจะมาอยู่ในสวนได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าผู้กระทำความผิดรายนี้มีความฉลาดมาก โดยใช้ชื่อผู้อื่นมากล่าว อ้าง!
ตีให้ตาย!”
หลังจากได้เห็นว่า คุณหนูสามจัด
การกับฮัวเหม่ยอย่างไรบ้าง
คนรับใช้ทุกคนก็เริ่มที่จะเกรงกลัวนางแล้ว
ผู้ใดจะกล้าขัดขืนคำสั่งของนาง
เกาจินกรีดร้องและวิงวอนขอชีวิตของตนเอง จากนั้นได้สาปแช่งคนรับใช้เหล่านั้น
แต่เขาก็ถูกพวกคนรับใช้ และแม่นมรั้งเอาไว้ ในขณะที่พวกเขายังคงทุบตีผู้ที่อยู่ในถุงผ้าอย่างดุเดือด
เพราะพวกเขากลัวคุณหนูสามจะคิดว่า พวกเขามิได้พยายามอย่างเต็มที่
หลี่เว่ยหยางมองไปที่ต้นกล้วย ซึ่งอยู่มิไกลนัก
และด้วยความประหลาดใจ นางได้เห็นเงาของผู้ใดบางคนวิ่งหนีไป
เกาจินถูกทุบตีเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จนทุกคนมิมีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว
จากนั้นทุกคนจึงหยุดทุบตีเขา พร้อมกับมีอาการเหนื่อยหอบโดยถ้วนหน้า
ขยะในถุงผ้าที่ต้องการจะทำร้าย
เว่ยหยาง ได้ถูกทุบตีจนหมดสติไปแล้ว
หลี่เว่ยหยางมองเขาแวบหนึ่ง แล้วจึงสั่งว่า:
“โยนผู้กระทำความผิดนี้ออกไป!”
หญิงสี่คนได้ช่วยกันโยนร่างของ
เกาจินเอาไว้ที่ข้างกำแพงนั้น
ในที่สุดคนรับใช้ชื่อเซียวซีที่มากับเขาก็กล้าที่จะเดินออกมาด้วยอาการตัวสั่นเทา
ขณะที่เปิดถุงผ้าที่คลุมร่างชายผู้นั้นขึ้นมาเหนือศีรษะ
และเขารู้ว่าครั้งนี้คงต้องตกที่นั่งลำบากแล้ว…
และได้เห็นว่า หน้าผากของคุณชายมีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด
จมูกของเขาเอียงไปทางด้านหนึ่งรอยต่อของดวงตาฉีกขาด และดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ณ ตำหนักของฮูหยินใหญ่
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างในตอนนี้ฝนยังคงตกอยู่
ขณะที่หยาดน้ำได้หยดลงบนใบตองสีเขียวสด และร่วงหล่นกระทบพื้นอย่างเป็นจังหวะ
และมิทราบว่าด้วยสาเหตุใด ขณะนี้ภายในหัวใจของฮูหยินใหญ่ได้เกิดความรู้สึกร้อนรน และกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
ลูกประคำพุทธกำลังหมุนอยู่ในมือของนางเป็นเวลานาน ก่อนที่นางจะวางลูกประคำนั้นลงในที่สุด