ตอนที่ 164 ผู้สร้างรายใหญ่

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 164 ผู้สร้างรายใหญ่

ตอนที่ 164 ผู้สร้างรายใหญ่

ชีอวิ๋นหลันนำคนไปที่นั่น แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ภายในเต็นท์ที่มีแสงสลัว ๆ กระพริบอยู่ที่นั่น รอบด้านมีคนเดินผ่านไปมาประปราย

เหลยสิงกล่าวกับซูเถา “ลูกสาวของมี๋อู้ดื้อรั้นพอ ๆ กับพ่อเขา เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ พ่อลูกเหมือนกันจริง ๆ”

“ตอนนี้มี๋อู้เป็นยังไงบ้าง” ซูเถาถามว่า

เหลยสิงยักไหล่ “เขายังไม่ยอมเปิดปาก ทั้งยังเชื่อมั่นว่าถานหย่งจะต้องหาคนมาช่วยเขา ถ้าเขารู้ว่าถานหย่งไม่เพียงแต่ไม่มีแผนที่จะช่วยเขา แต่ลูกสาวคนเดียวของเขาก็จะเอาตัวเองมาเปลี่ยนกับพ่อของเธอ ไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อจะรู้สึกยังไง”

“อีกอย่างเขายังด่าผมอย่างรุนแรงด้วยว่าผมใจดำอำมหิต เอาตัวรอดอยู่คนเดียว ในขณะที่ตกลงให้ความร่วมมือกับสถานีเก่า แต่ผมกลับรับปากทำงานให้คุณ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาโกรธแทบตาย”

ซูเถาถามอีกครั้ง “คุณคิดยังไงกับมี๋อู้”

“ตัวเขาไม่มีอะไร แต่เป็นคนตรงไปตรงมาเกินไป เขาคิดว่าในวันสิ้นโลกนี้ยังมีรักแท้ แต่ก็อีกนั่นแหละ คนแบบนี้ค่อนข้างไว้ใจได้ คบหาได้ ถานหย่งได้ใจลูกน้องอย่างเขาไปเต็มๆ”

ซูเถากล่าวว่า “แต่เขาถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เหมือนมี๋อู้ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเก็บเขาไว้ก่อน ผมคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะจัดการกับเขายังไง”

วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือนเจ็ด เฉียนหรงหรงมาหาซูเถาพร้อมเอกสารเงินเดือนเพื่อรายงาน

“พี่เถาจื่อ มาดูค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานของเราในเดือนนี้กัน”

ซูเถาดูคร่าว ๆ และพบว่ามียอดรวมมากกว่า 230,000 เหลียนปัง แม้ว่าจะไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย แต่เธอก็โบกมืออนุมัติ และขอให้เฉียนหรงหรงจ่ายเงินเดือนก่อนเลิกงานในวันนี้ เพื่อที่ว่าทุกคนสามารถมีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี

จากนั้นเธอก็ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีกลาง หลังจากหักค่าใช้จ่ายของเธอในการสร้างอาคารสำนักงานและจ่ายค่าจ้างในสองวันที่ผ่านมา ยังคงมีเงินเหลืออยู่ 1.13 ล้านเหลียนปัง

เมื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้ย้อนหลังพบว่า ในเดือนเจ็ด ภูเขาผานหลิวเพียงแห่งเดียวสร้างรายได้ถึง 1.28 ล้านเหลียนปัง ซึ่งรวมถึงค่าห้องพักโรงแรม ค่าน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าที่จอดรถ และบริการอาหาร

ภูเขาผานหลิวเป็นถุงเงินขนาดใหญ่จริง ๆ

พื้นที่เพาะปลูกของเถาหยางก็ทำเงินได้ดีในเดือนนี้ โดยมีรายได้ 300,000 เหลียนปังในตอนเริ่มต้น

เมื่อเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซูเถาเต็มไปด้วยแรงจูงใจ ถ้ารายได้มีแนวโน้มแบบนี้ การอัปเกรดเป็นเลเวล 6 ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็มีแรงจูงใจที่จะสร้างชั้นสามของอาคารสำนักงานต่อไป

เมื่ออาคารเถาหลี่ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ จะสามารถรองรับคนได้ 80-100 และเธอจะไม่ต้องกังวลกับการขยายพื้นที่สำนักงานอีกพักใหญ่

กว่าซูเถาจะทำการปรับปรุงก่อสร้างวันนี้เสร็จก็เป็นเวลาสองทุ่ม เมื่อเธอกลับมาถึงห้อง ก็ได้รับข้อความจากสือจื่อจิ้นว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะกลับตงหยาง

ไม่เพียงแต่เขากลับมาเท่านั้น แต่เขายังจับนักวิจัยที่ขายข้อมูลการวิจัย และดึงผลการวิจัยที่ขายไปกลับมาได้ ทำให้ฐานเหอคังลดการสูญเสียผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไปได้เป็นอย่างมาก

เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ หัวหน้าฐานเหอคัง จะส่งสือจื่อจิ้นและพรรคพวกของเขากลับมาที่ตงหยางด้วยตนเอง และอยู่ที่ตงหยางช่วงเวลาสั้น ๆ สองหรือสามวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตร

ด้วยเหตุนี้เผยตงจึงโทรหาซูเถา เพื่อจะซื้อเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์จากเธอไปอัปเกรดบ้านรับรองของตงหยาง

“พวกเขาจะมาถึงพรุ่งนี้เช้า พี่ขับรถมารับฉันที่เถาหยางได้เลย ฉันจะไปตกแต่งที่นั่นด้วยตัวเองจะเร็วกว่า พี่จะได้ไม่ต้องขนเฟอร์นิเจอร์ด้วย” ซูเถาตอบตกลงทันที

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเถาก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถของเผยตง

“พี่เผย สถานการณ์ข้างนอกไม่ค่อยดีเหรอ? ดูเหมือนหน้าพี่จะซีดเซียวมากกว่าครั้งล่าสุดที่ฉันเจอพี่เสียอีก”

เผยตงจับพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง และใช้มือข้างหนึ่งลูบช่องว่างระหว่างคิ้ว

“ไม่ค่อยดี จำนวนของซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้น ตงหยางยังคงทำได้ดี เราสูญเสียพื้นที่ไปไม่เท่าไหร่ เมืองชั้นในที่สำคัญยังคงปลอดภัย ส่วนฐานอวิ๋นชางที่อยู่ถัดจากเรา ทางนั้นป้องกันได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แนวป้องกันพังทลายลง ผู้คนจำนวนมากหนีมาที่ตงหยาง ตอนนี้จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นสูงมาก เรารับไม่ไหว พวกเขาอยู่ได้แค่บริเวณนอกเมือง ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก”

“กำแพงเมืองที่เราเพิ่งสร้างได้ไม่นาน ก็เต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรัง และใต้กำแพงเต็มไปด้วยซากศพ”

ซูเถาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทุกครั้งที่เธอได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอก เธอรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในช่วงเวลาและมิติอื่นทุกครั้ง ไม่สอดคล้องกับวันสิ้นโลก

ถ้าเธอมีเงินเพียงพอและมีผลึกนิวเคลียสอยู่ในมือ เถาหยางจะแข็งแกร่งขึ้น…

ซูเถาเม้มปากแล้วถามว่า “พี่เผย มีวิธีใดที่จะได้ผลึกนิวเคลียสของซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการมาอย่างรวดเร็วไหม?”

เผยตงมองกลับมาที่เธอ

“มันไม่มีทางได้มาอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างต้องมีการต่อสู้ เว้นแต่เธอจะจ้างคนมาเก็บมันให้เธอ แต่ของอันตรายแบบนั้นก็ไม่อาจเก็บได้ง่าย ๆ แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนไปเก็บ แต่มันก็ไม่คุ้มเสี่ยง”

ซูเถาครุ่นคิดและถามอีกครั้ง “พี่ซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนได้ไหม”

เผยตงกล่าวว่า “บางทีวิธีนี้อาจใช้ได้ผลเมื่อครึ่งปีก่อน แต่เธอรู้หรือเปล่าว่าผลการวิจัยของฐานเหอคังคืออะไร พลังงานในผลึกนิวเคลียสสามารถทำให้ผู้ที่มีพลังวิเศษมีวิวัฒนาการได้ ตัวอย่างเช่นหลินฟางจือ ผลกระทบที่เขาได้รับเปลี่ยนแปลงเป็นเชิงคุณภาพ”

“ผลการวิจัยได้ถูกส่งไปยังฉางจิงแล้ว คนทั้งโลกจะรู้ข่าวอย่างช้าที่สุดภายในสิ้นเดือนหน้า เธอคิดว่าถึงตอนนั้นจะมีคนยอมขายหรือเปล่า”

ซูเถาเต็มไปด้วยความกังวล

ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังตั้งใจที่จะลองใช้ 2 วิธีนี้ คือ จ้างหรือทำการซื้อ-ขาย มิฉะนั้น เมื่อเธอสร้างที่ดินเปล่าเสร็จ การพัฒนาจะถูกขัดขวาง

เมื่อมาถึงบ้านรับรอง เผยตงก็ให้คนมาขนเฟอร์นิเจอร์เก่าออกทั้งหมด และปล่อยให้ซูเถาจัดการได้อย่างอิสระ

“เถาจื่อตามสบายเลยนะ ฉันไม่รบกวนเธอฟรี ๆ หรอก หลังจากที่อดีตผู้นำกองทัพรู้ว่ากวานจือหนิงไปอยู่แนวหน้า และไม่มีใครปกป้องเธอก็เลยให้ฉันเลือกคนจากโรงเรียนเตรียมทหารตงหยางที่จบการศึกษาในปีนี้ให้เธอ พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีพลังวิเศษ เมื่อถึงเวลา เธอก็สามารถดูข้อมูลและเลือกคนได้เอง ฉันกลัวว่าถ้าฉันจะเลือกให้ อาจจะไม่เหมาะกับรสนิยมของเธอ”

ซูเถาเบิกตากว้าง และไม่ได้คาดหวังสิ่งที่ดีแบบนี้มาก่อน จึงคลี่ยิ้มกว้าง

“ขอบคุณพี่เผย ขอบคุณอดีตผู้นำกองทัพด้วย วันหลังฉันจะไปเยี่ยมท่านนะ”

เผยตงยิ้มเล็กน้อย “เอาล่ะ เริ่มเลย ผู้สร้างรายใหญ่”

ซูเถาเปิดระบบอย่างมีความสุข ตามข้อกำหนดของห้องต่าง ๆ ในบ้านรับรอง มีเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ตู้หัวเตียง ตู้เสื้อผ้า โซฟา โต๊ะกาแฟ เคาน์เตอร์ ฯลฯ

พวกเขายังต้องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศฝังเพดานในแต่ละชั้น หลังจากติดตั้งทุกอย่างแล้ว เธอถามเผยตงว่า

“นี่ไม่ใช่อาณาเขตของฉัน เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่ต้องใช้ไฟฟ้าและน้ำ พี่ต้องหาคนอื่นมาต่อสายไฟและท่อเอง ไม่งั้นก็ใช้งานไม่ได้”

เผยตงเตรียมการมานานแล้ว เธอเรียกช่างไฟและช่างประปาเข้าไปพร้อมเครื่องมือ

และสุดท้าย ซูเถาก็เพิ่มอะไรบางอย่าง เพื่อความพึงพอใจเล็กน้อย

“ไม่ใช่พอใจเล็กน้อย แต่พอใจและดีกว่าเดิมมาก”

เผยตงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

“มันดีมากอยู่แล้ว แต่เทียบไม่ได้เลยกับเถาหยาง ฉันกล้าพูดว่าบ้านรับรองในฐานทัพสำคัญมาก ฐานทางตอนใต้ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าเรา เฟอร์นิเจอร์ทำใหม่ทั้งหมด มีน้ำใช้ และมีการเชื่อมต่อไฟฟ้า ถือว่าเป็นเถาหยางขนาดเล็ก”

“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ จริง ๆ แล้วฐานเหอคังนั้นพัฒนาได้ดีกว่าตงหยางของเรา ครั้งนี้พวกเขามา อดีตผู้นำของเราต้องการให้ความร่วมมือ ดังนั้นจึงขอให้ฉันมาหาเธอเพื่อช่วยปรับปรุงบ้านรับรอง”

เมื่อซูเถาได้ยินเช่นนี้ เธอก็ฟื้นคืนพลังและหยิบน้ำแร่ น้ำอัดลมต่าง ๆ และแม้แต่ไวน์ออกมาจากกระเป๋าใบเล็กของเธอ

แน่นอนว่ากระเป๋าใบเล็กไม่เพียงพอที่จะขนมาทั้งหมด แต่ของทั้งหมดนี้ถูกนำออกมาจากพื้นที่ของหลินฟางจือโดยตรง ในเวลานี้เธอตระหนักถึงความสะดวกสบายของวิวัฒนาการของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

ซูเถากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“พี่เผย พี่เพียงแค่วางตู้เย็นที่แผนกต้อนรับและเติมเครื่องดื่มเข้าไป เมื่อคนจากเหอคังมา ให้พวกเขาเปิดตู้เย็นเพื่อเลือกด้วยตัวเอง มันจะทำให้พวกเขาตกใจอย่างแน่นอน”