จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 150

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง ตั้ง’ จากระบบ ฉินเทียนมักรู้สึกตื่นเต้น

แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้….

เจ้าเมืองอสูรทั้งน่ารักและมีเสน่ห์ รูปร่างไร้ตําหนิของนางก็ยิ่งเย้ายวนจนฉินเทียนแทบจะควมคุมสติไม่อยู่ กลิ่นกายอันหอมละมุนทําให้ฉินเทียนรู้สึกทั่วร่างอ่อนปวกเปียกราวกับไร้กระดูก เพียงสัมผัสเบาๆจากนางก็แทบทําให้เขาศิโรราบ

แต่เมื่อได้ยินประโยค “ข้ามีบางอย่างอยากให้เจ้าช่วย” ฉินเทียนก็สะดุ้ง เป็นเวลาเดียวกับที่ระบบส่งเสียงแจ้งเตือน

ต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิด เขาก็ทราบว่าคําขอของนางจะต้องอันตรายอย่างถึงที่สุดเป็นแน่

ระดับสูงสุดขั้นจักรวาลที่กายเนื้อแข็งแกร่งกว่าขั้นไร้มลทิน แม้แต่ผู้นําชนเผ่าหมิงไห่ก็ยังถูกเขาฆ่าตาย

แม้จะดั้นด้นมาไกลเพื่อตามหาเพลิงทะเลล์ลับ แต่เป้าหมายของเขาไม่ได้อยู่ที่มัน

น่านน้ําทมิฬแห่งนี้ชุกชุมไปด้วยสัตว์อสูรร้าย เหมาะสําหรับการเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์อย่างยิ่ง ฉินเทียนมีเป้าหมายอยู่ที่จุดนี้เอง สําหรับภารกิจตามหาเพลงอะไรนั่น ช่างหัวมันเถอะ!

ขอเพียงเขาบรรลุขั้นสวรรค์ได้ เขาก็สามารถกลับไปคิดบัญชีกับหวังเยู่และหยางฮั่นที่ไม่คยโผล่หน้ามาให้เห็น…

ยิ่งไปกว่านั้นงานประลองจัดอันดับร้อยศิษย์ก็กําลังจะมาถึง งานใหญ่เช่นนั้นก็แน่นอนว่าหลงเสี่ยวเทียนจะต้องมาชมด้วยตนเอง และนั่นก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะแสดงความสามารถเพื่อดึงดูดความสนใจของหลงเสี่ยวเทียน ขอเพียงสามารถติดอันดับหนึ่งในสิบได้ เจ้าสํานักจะต้องรับเขาไปฝึกฝนในเกาะลอยฟ้าเป็นแน่

และเมื่อเขาสามารถสร้างความประทับใจต่อหน้าหลงเสี่ยวเทียนได้ เขาก็จะสามารถดําเนินแผนการขั้นต่อไป

ก่อนที่ไหงื่อเยว่จะทันกล่าวจบ ฉินเทียนก็รีบลุกขึ้นกล่าวว่า “ท่านประมุขเจ้าเมือง เกรงว่าข้าจะไม่อาจกระทําตามความคาดหวังของท่านได้”

ไหงื่อเยวชะงักก่อนที่สีหน้าของนางจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย หางตาของนางเริ่มแฝงความเย็นชาพร้อมแผ่จิตสังหารออกมาจางๆ

เหล่าหญิงสาวที่อยู่โดยรอบต่างก็ตกตะลึง ชายผู้นี้กล้าปฏิเสธท่านประมุขเจ้าเมืองจริงๆ?

ไม่เคยมีผู้ใดสามารถต้านทานเสน่ห์อันเย้ายวนใจของประมุขเจ้าเมืองได้มาก่อน ไม่ว่าจะยากปฏิเสธสักเพียงใด สุดท้ายก็ยังตกปากรับคํา แล้วไฉนเขาถึงปฏิเสธ? หรือเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง?

สตรีทั้งสองแถวล้วนแต่สงสัย หลายนางเริ่มมองไปยังเป้ากางเกงของฉินเทียนอย่างไม่รู้ตัว สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย!

“เพ้ย พวกท่านคิดมากไปแล้ว!” ฉินเทียนรีบหุบขาและถลึงตาจ้องกลับไปยังเหล่าสตรีที่แทบจะเปลือยเปล่าเหล่านั้น ในใจเริ่มเกิดความหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง ฉินเทียนได้แต่รีบเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองต่อ

จากนั้นฉินเทียนก็รู้สึกถึงสายตาอันน่ากลัวของไหงื่อเยว่

แต่นี่เป็นภารกิจที่ไม่มีวันกระทําได้สําเร็จ เผชิญกับภารกิจแบบนี้ก็ไม่ต่างจากพาตัวเองไปตาย หากเขาไม่ปฏิเสธก็แปลกไปแล้ว

เขาชอบผู้หญิง ยิ่งเป็นผู้หญิงที่งามเลิศล้ําแบบนี้ก็ยิ่งชอบ แต่การรักษาชีวิตไว้ยังสําคัญยิ่งกว่า จะกระทําการใดได้ล้วนแต่ต้องมีชีวิตอยู่รอดเป็นพื้นฐาน

ที่ไหงื่อเยว่เปิดปากเล่าเรื่องราวมากมายก็ชัดเจนยิ่ง ภารกิจในครั้งนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับชนเผ่าหมิงไห้เป็นแน่

ที่เขามาที่นี้ก็เพื่อเก็บเลเวลเพิ่มระดับ หากระหว่างทางโชคดีพบเจอเพลิงทะเลลี้ลับก็จะหยิบติดไม้ติดมือมาเพื่อนํากลับไปส่ง แต่ต่อให้ภารกิจไม่สําเร็จ ตัวเขาก็ยังบรรลุขั้นสวรรค์ เพียงคําพูดหว่านล้อมจากสาวสวยไม่กี่คําก็จะกระโดดเข้ากองเพลิงแล้ว คนแบบนั้นใช่สมองมีปัญหาหรือไม่?

ทุกอย่างที่ฉินเทียนคิด แน่นอนว่าไหงื่อเยว่ย่อมทราบได้

ไหงื่อเยวตะลึง ฉินเทียนไม่เหมือนกับบุรุษคนอื่นๆ จิตใจของเขายังกระจ่างแจ่มใส นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบเจอผู้ที่ยังสามารถครองสติยามอยู่ต่อหน้านาง นางอดไม่ได้ที่จะต้องกวาดมองฉินเทียนอีกหลายครั้ง นางสลายจิตสังหารก่อนจะส่งเสียงหัวเราะ “ด้วยระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณของเจ้าแล้ว การร้องขอให้ไปสังหารคนทรยศผู้นั้นแล้วช่วงชิงเพลิงวิเศษกลับมาก็คงจะเกินเลยไป”

“เป็นดั่งที่ประมุขเจ้าเมืองกล่าว ข้าไม่อาจบรรลุความคาดหวังของท่าน โปรดมอบงานนี้ให้ผู้อื่นเถิด สําหรับภารกิจเช่นนี้ ดึงข้าเข้าไปก็รังแต่จะเป็นตัวถ่วง” ฉินเทียนตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ข้าก็คงไม่โฉดเขลาถึงขั้นส่งเจ้าไปจัดการคนทรยศนั้นหรอก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการช่วงชิงเพลิงวิเศษ”

ถ้อยคําของไหงื่อเยว่แฝงแววถากถาง แต่ฉินเทียนก็แสร้งเป็นไม่ทราบ นางเพียงต้องการกวนประสาท? ประมุขเจ้าเมืองที่สูงส่งคงไม่กระทําเช่นนั้น

“เจ้าอยากได้หอทมิฬิหรือไม่? นั่นเป็นสมบัติกึ่งเทวะเชียวนะ…”

ฉินเทียนตาเป็นประกายทันทีที่ได้ยิน ในใจเริ่มหวั่นไหวขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่ว่าสตรีนางใดในที่นี่ก็นับว่ายอดหญิงงามเมือง เจ้าสามารถเลือกเฟ้นตามใจชอบ…..”

ฉินเทียนกวาดตามองดูเรือนร่างอันเย้ายวนของพวกนางพลางกลืนน้ําลาย ร่างกายของเขาเริ่มตอบสนองขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะที่ส่วนเป้ากางเกง

“ที่ข้าอยากให้เจ้าช่วยก็ง่ายมาก เพียงช่วยเหลือน้องสาวของข้าออกมา”

เอ๊ะ ทําไมมันฟังดูง่ายดายนัก

“ตั้ง!”

“ช่วยไห่ซื้อเยว่ตามหาน้องสาวที่หายสาบสูญของนาง ภารกิจระดับ S รางวัลตอบแทน: ค่าประสบการณ์ 1,000,000 หน่วย ค่าพลังปราณ 180,000 จุด ค่าการอดชีวิต 20,000 หน่วย ต้องการรับภารกิจหรือไม่?”

“ภารกิจแค่ระดับ S?”

“ยอมรับ!”

ภารกิจระดับนี้ ฉินเทียนเคยทํามาแล้วครั้งหนึ่ง เทียบกับการสังหารปีศาจเก้าสวรรค์แล้ว เขามั่นใจว่าการจะช่วยน้องสาวของไหงื่อเยว่ย่อมงายดายกว่า ดังนั้นฉินเทียนจึงรับภารกิจโดยไม่คิดมาก

“ตกลง ข้ารับปากท่าน” ฉินเทียนเอ่ยตอบหลังจากรับภารกิจมาจากระบบ “วาจาของท่านเชื่อถือได้หรือไม่?”

“แน่นอน ชนเผ่าหมิงไห่ของข้าย่อมรักษาสัจจะ” ไห่ซื้อเยว่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ในใจนางรู้สึกว่าฉินเทียนผู้นี้จะสามารถบรรลุภารกิจอย่างอธิบายไม่ได้

ภารกิจจากระบบครั้งนี้ไม่ได้มีระยะเวลาระบุเอาไว้ หอทมิฬซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระดับการฝึกปรือเป็นสองเท่าสําคัญต่อเขามาก ค่าความชํานาญของทักษะเพิ่มช้าเกินไปหากไม่ใช้ออก เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่สําหรับฉินเทียน แต่การมีอยู่ของหอทมิฬกลับสามารถแก้ปัญหาข้อนี้ทําให้เขาประหยัดค่าพลังปราณได้ถึงครึ่งหนึ่ง

นี่เป็นภารกิจซึ่งคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

“ข้ามีข้อสงสัยอย่างหนึ่ง ในเมื่อระดับบ่มเพาะของท่านเข้าสู่ขอบเขตจักรวาลแล้ว ใยท่านจึงไม่ลงมือช่วยนางด้วยตนเอง? ข้าเพียงอยู่ระดับหดขั้นกลั่นวิญญาณเท่านั้น ไฉนจึงต้องเป็นข้า?”

นี่เป็นปัญหาที่ค้างคาใจฉินเทียน เขาไม่ทราบว่าทําไมอีกฝ่ายถึงต้องการให้เขารับภารกิจนี้ไปกระทํา ในเมืองแห่งนี้ก็มียอดฝีมือขั้นสวรรค์อยู่ไม่น้อย อีกทั้งตัวประมุขเจ้าเมืองเองยังสูงส่งถึงขั้นจักรวาล แล้วทําไมนางไม่ไปช่วยเอง?

เมื่อฉินเทียนถามคําถามนั้นออกไป ทั่วบริเวณก็พลันตกอยู่ในความเงียบ

ไหงื่อเยาถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับไปยังบัลลังก์ มือขาวผ่องของนางยื่นออกไปกวาดสัมผัสน้ําทะเลที่ถูกกันไว้ด้านนอก นัยน์ตาสีม่วงอ่อนของนางเผยแววหวนรําลึก ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความเปล่าเปลี่ยว

ฉินเทียนเข้าใจแล้วว่าตนได้ถามคําถามซึ่งไม่ควรถามออกไป

หลังจากนั้นพักหนึ่ง ไห่ซื้อเยว่ก็ตอบเสียงเบา “พวกเรากลับไปที่นั่นไม่ได้”

เป็นถ้อยคําที่แฝงไว้ด้วยความหดหู่ สตรีหลายนางเองก็เหม่อมองไปทางน่านน้ําทมิฬิด้วยแววตาหวนรําลึก

ฉินเทียนตกตะลึงและไม่กล้าเอ่ยถามอีก

“อืม เจ้าไปเถอะ”

ไหงื่อเยว่กลับมาสงบดังเดิม นางโบกมือคราหนึ่ง กระแสน้ําวนจากทะเลก็หมุนพัดเข้าหาฉินเทียนอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างของฉินเทียนถูกดูดเข้าไปแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย….

ที่พระราชวังใต้ทะเลหลังจากฉินเทียนหายไป

“ท่านประมุข เขาจะทําสําเร็จหรือคะ? พวกขั้นสวรรค์ก่อนหน้าเขาก็ล้วนแต่…”

“ใช่แล้วค่ะท่านประมุข ระดับฝีมือของเขาไม่ต่ําเกินไปหรือคะ?”

“ระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณ ข้าเกรงว่าเขาจะตายก่อนจะได้เข้าใกล้อาณาเขตหมิงไห่เสียด้วยซ้ํา”

เหล่าหญิงสาวเริ่มพูดคุยกัน จือเยว่เอนตัวลงบนพนักพิงพลางเอียงคอเท้าแขน นางหลับตาลงใช้ความคิด ตั้งแต่ที่นางสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความมืดจากฉินเทียน ในใจนางก็เริ่มมีความหวัง นางลงมือช่วยเหลือเขาโดยไม่สนใจว่าจะล่วงเกินสํานักเมฆาคล้อย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อชักนําให้เขาเดินทางไปช่วยเหลือน้องสาวที่ติดอยู่ในอาณาเขตหมิงไห่

น้องสาวของนาง หงเยว่ เทพธิดาแห่งชนเผ่าหมิงไห่ ศูนย์รวมจิตใจของชาวหมิงไห่

เมื่อมีนางอยู่ การจะรวบรวมพื้นที่ของหมิงไห่กลับมาก็ไม่ยากแล้ว

เปรียบกับเพลิงลี้ลับนั่นแล้ว หัวใจแห่งหมิงไห่ยังสําคัญกว่านัก!

“ฉินเทียน หวังว่าเจ้าคงไม่ทําให้ข้าต้องผิดหวัง…”

นี่เป็นภารกิจที่ไม่มีวันกระทําได้สําเร็จ!