บทที่ 138 ผู้นำของตระกูลอู๋

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 138 ผู้นำของตระกูลอู๋

ผลิตภัณฑ์ของสปาเชียนเหยียนของพวกเขา เป็นไปตามคาด กระทั่งดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมย ผลลัพธ์กับดีอย่างไม่น่าเชื่อ

รอยแผลเป็นหายไปแล้ว?

ถึงจะเป็นโปรเจ็คของอันเหมยกรุ๊ป ก็ไม่สามารถมีประสิทธิภาพเช่นนี้ได้ หากไม่ได้เห็นกับตา เธอไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด บนโลกใบนี้จะมีครีมที่มีผลลัพธ์น่าอัศจรรย์เช่นนี้

“คุณคิดว่า สปาหรงเหมยของเรา จะจบเห่อีกไหมคะ?”ถังเสี่ยวเยว่ยิ้มตาหยีแล้วจ้องมองไปที่ทั้งสองคน

เธอกลั้นประโยคนี้ไว้จนถึงตอนนี้ เพียงเพื่อดูสีหน้าของทั้งสองคน ที่อยู่ต่อหน้าของเธอ

“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

เสิ่นหยิงเซี่ยส่ายหัวไปมาไม่กล้าเชื่อ ราวกับเสียสติไปแล้ว เธอพุ่งไปที่บนเวที แล้วหยิบกระต่ายสีขาวตัวนั้นขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มกล่าวว่า“นี่เป็นตัวปลอมใช่ไหม?กระต่ายตัวนี้ไม่ใช่กระต่ายตัวเมื่อกี้ด้วยซ้ำ!”

การกระทำของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานเกิดความไม่พอใจ คำพูดของเสิ่นหยิงเซี่ยอีกนัยหนึ่งก็คือ หรือเห็นคนทั้งงานตาบอดไปแล้วงั้นหรอ?และเป็นการตำหนิผู้จัดการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วยว่า กุเรื่องสร้างภาพหลอกลวง?

พิธีกรถึงกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาในทันที“คุณผู้หญิงครับ กรุณาอย่ารบกวนการดำเนินงานแถลงข่าวเปิดตัวของเรา”

“เป็นไปไม่ได้ พวกคุณต้องกุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงแน่ๆ”

เสิ่นหยิงเซี่ยส่ายหัวไปมา ไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่ยอมรับภาพที่เห็นตรงหน้า

“ไสหัวลงไปซะ เธอยังรู้สึกไม่ขายขี้หน้ามากพอหรอห้ะ!”อู๋เยว่เริ่มเอ่ยปากพูดในเวลานี้ เขาตะคอกอย่างเย็นชา

คำตำหนิที่เยือกเย็น ทำให้เสิ่นหยิงเซี่ยได้สติขึ้นมาในทันที

สปาเชียนเหยียนล้มเหลวยังพอยอมรับได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอู๋ เธอไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ

เธอรีบก้มหน้าก้มตาทันที แล้วเดินลงจากเวที

“คุณผู้ชายครับ ผมขอซื้อผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมยของคุณในราคาหนึ่งล้านครับ”มีเถ้าแก่ผู้ร่ำรวยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาในทันที ในเวลานี้

เขามาจากต่างจังหวัด เพื่อซื้อครีมลบรอยแผลเป็นให้ภรรยาโดยเฉพาะ

“คุณผู้ชายท่านนี้ครับ ผมขอซื้อในราคาหนึ่งล้านห้าแสนครับ!”เถ้าแก่ผู้ร่ำรวยอีกคนหนึ่งรีบตามกันมาในทันที

“ผมขอด้วยครับ คุณผู้ชาย ช่วงนี้ภรรยาของผมถูกไฟลวกจนได้รับบาดเจ็บ เหลือรอยแผลเป็นทิ้งไว้ วันๆเธอเอาแต่ร้องไห้น้ำตาไหลอาบหน้า ขอแค่คุณเสนอราคามา ผมจะควักเงินจ่ายทันทีเลยครับ !”

หลังจากที่มีผู้คนเริ่มรู้สึกตัว ทันใดนั้นก็มีคนล้อมรอบในทันที

ถ้าเป็นเวลาปกติ พวกเขาจะพากันล้อมรอบถังเสี่ยวเยว่เพื่อขอราคาสินค้า แต่มาวันนี้ พวกเขาล้วนยืนอยู่ข้างๆของมู่เซิ่ง เพราะพวกเขารู้ว่า มู่เซิ่งเป็นเจ้าของสปาหรงเหมยตัวจริง!

“ไม่ต้องรีบหรอกครับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของเรา แค่ใช้เงินห้าแสนก็ซื้อได้แล้วครับ”มู่เซิ่งพูดอย่างยิ้มๆ ครีมลบรอยแผลเป็น เดิมทีจุดประสงค์ของครีมลบรอยแผลเป็นนี้คือเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเขาไม่สามารถทำพฤติกรรมโก่งราคาได้

“ห้าแสน?”

ผู้คนต่างพาสูดหายใจเข้า

นี่มันถูกเกินไปแล้ว

อย่าว่าแต่ตระกูลชั้นหนึ่งเลย ถึงจะเป็นตระกูลระดับสอง ตระกูลระดับสามก็มีปัญญาซื้อได้ ในสายตาของพวกเขาเงินห้าแสน มันก็เป็นแค่เศษเงินเท่านั้น

“ห้าแสน มันถูกมากๆเลยครับ ผมยอมซื้อในราคาห้าล้าน ที่เหลือถือเป็นเงินลงทุนต่อยอดสนับสนุนสปาหรงเหมยแล้วกันนะครับ”

“ใช่ๆๆ ผมยอมออกเงินสนับสนุนสปาหรงเหมยเจ็ดล้านครับ”

สามารถพูดได้เลยว่าประสิทธิภาพของครีมลบรอยแผลเป็นนี้ทำให้ผู้คนประหลาดใจมาก มู่เซิ่งกลายเป็นจุดสนใจในทันที ผู้คนพากันเข้ามารุมล้อม อยากขอซื้อครีมนี้ และยอมที่จะควักเงินสนับสนุนสปาหรงเหมย เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างสัมพันธ์

มู่เซิ่งเองก็ใจกว้างมาก ราคาไม่แพง แถมมีรับประกัน จะต้องมีผลิตภัณฑ์มากเพียงพอแน่ๆ

เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้คนถึงเริ่มสบายใจ

ตอนนี้ สีหน้าของอู๋เยว่หมองมาก เขาเดินลงจากเวที

“คุณชายอู๋ คุณชายอู๋”

เสิ่นหยิงเซี่ยพาจางฮุย ไล่ตามขึ้นมา

“เรียกฉันทำไมห้ะ?นี่เป็นสูตรลับที่คุณบอกว่าคุณขโมยมาจากสปาหรงเหมย เพื่อใช้บดขยี้สปาหรงเหมยหรอ?”อู๋เยว่พูดอย่างเย้ยหยัน วันนี้เขาเชิญคนมาไม่น้อย แต่มาตอนนี้ เขาต้องอับอาย ต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้!

“คุณชายอู๋ ตอนที่แฟนฉันไปขโมย ในตู้เซฤมีแค่สูตรลับอันนี้อยู่ในนั้น ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็น จะต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาบังเอิญคิดค้นออกมาแน่ค่ะ”เสิ่นหยิงเซี่ยกล่าว

จางฮุยรีบพยักหน้าตาม ในตอนนั้น เขาแทบจะย้ายของที่อยู่ในตู้เซฟออกมาทั้งหมดแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะหลงเหลือของสำคัญขนาดนั้นเอาไว้

อู๋เยว่ขมวดคิ้วไม่พูดอะไร

เอาจริงๆ เขาก็รู้สึกว่าสูตรลับที่จางฮุยขโมยมา เป็นสูตรที่ดีที่สุดแล้ว หากสปาหรงเหมยมีผลิตภัณฑ์ที่ดีขนาดนี้ ทำไมถึงพึ่งเอาออกมาเปิดตัวตอนนี้ล่ะ?

“คุณชายอู๋ครับ ฉันยังมีวิธี ขโมยส่วนผสมของสปาหรงเหมยออกมาอีกค่ะ!”เสิ่นหยิงเซี่ยกล่าว

อู๋เยว่ชะงักเล็กน้อย แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน“หรอ?เธอมีวิธีอะไร?”

“ง่ายมากค่ะ เจียงหว่านเป็นรูมเมทของฉันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฉันกับเธอสนิทกันมาก แค่คิดหาวิธีได้ส่วนผสมของครีม มาจากเจียงหว่านก็ได้แล้วค่ะ”เสิ่นหยิงเซี่ยกล่าว

“จริงด้วยครับ คุณชายอู๋ เจียงหว่านกับเสิ่นหยิงเซี่ยสนิทกันมาก เมื่อวานคุณก็เห็นแล้วหนิครับ”จางฮุยพูดเออออด้วย

พวกเขาไม่มีสปาหรงเหมยแล้ว มาวันนี้ จะมาเสียงต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลอู๋ต้นนี้อีกไม่ได้เด็ดขาด

“ได้ ถ้าเธอล้วงเอาสูตรลับมาได้ ฉันจะให้เงินเดือนเธอเพิ่มเป็นสามเท่าเลย บวกกับส่วนแบ่งอีกห้าล้าน!”อู๋เยว่พยักหน้าพูด

เสิ่นหยิงเซี่ยหน้าแดงก่ำขึ้นมาในทันที เธอพยักหน้ารับประกันราวกับลูกไก่ที่กำลังจิกกินอาหาร“คุณชายอู๋ ให้มันเป็นหน้าที่ฉันเองค่ะ!”

อู๋เยว่เดินออกจากร้านอาหาร ก็เห็นไป๋หงกวงคุกเข่าอยู่ข้างหน้าประตู และถูกแขกเหรื่อที่เดินผ่านไปผ่านมาชี้หน้าครหา ไป๋หงกวงไม่ตอบโต้แม้แต่น้อย เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ใครกันที่มีอิทธิพลมากขนาดนี้ ทำให้ตระกูลไป๋สามารถคุกเข่าอยู่ที่นี่ได้?

แต่ตกใจได้ไม่นานเขาก็พบว่า ด้านนอกห้องโถง อู๋หยู่เหวินพ่อของเขาก็กำลังโค้งคำนับทำความเคารพ สองมือถือกล่องใบหนึ่ง ด้วยท่าทางตึงเครียด

“คุณพ่อ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”

อู่เยว่ตกใจมาก

เสิ่นหยิงเซี่ยกับจางฮุยตกตะลึง พ่อของอู๋เยว่?นี่เป็นถึงผู้นำตระกูลชั้นหนึ่งเชียวนะ เขามาได้ยังไงกันเนี่ย

แต่พวกเขาทั้งสองคนก็แอบอยู่ข้างหลัง ไม่กล้าพูดอะไร

“ฉันมาส่งยาให้คุณผู้ชาย”อู่หยู่เหวินกล่าวอย่างเรียบเฉย โดยที่ร่างกายไม่ไหวติง

“คุณผู้ชาย เจ้านายของตระกูลอู๋หรอครับ?”อู๋เยว่ตกตะลึง ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นสีหน้าเหลือเชื่อ ตระกูลอู๋ในทุกวันนี้ มีแค่พี่ชายกับพ่อของเขาที่เคยเห็นคนผู้นั้น คิดไม่ถึงวันนี้ เขาจะปรากฏตัวในสถานที่เล็กๆแห่งนี้?

อู๋หยู่เหวินพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเห็นท่าทีนอบน้อมของพ่อ อู๋เยว่ไม่กล้าถามอะไรต่อไป เขายืนอย่างนอบน้อมที่หน้าประตู พร้อมกับพ่อของเขา

เขาก็อยากเห็น คนที่สามารถเป็นเจ้านายของตระกูลอู๋ได้ ตกลงเป็นคนยังไงกันแน่

จะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลไม่ธรรมดา เหมือนราชสีห์ที่ทั้งโลกเป็นของตัวเอง?

ในเวลานี้เอง ที่หน้าประตูมีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ร่างกายของอู๋หยู่เหวินสะดุ้งเล็กน้อย แล้วเดินไปยังทิศทางที่ร่างนั้นปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็พูดอย่างนอบน้อมว่า“คุณมู่ครับ สมุนไพรที่คุณให้ผมหา ผมหาเจอแล้วนะครับ”

“อืม ไม่เลว”มู่เซิ่งพยักหน้า

อู๋เยว่มองไปยังทิศทางนั้น จู่ๆเขาก็ตกตะลึง

“กะ แกเองงั้นหรอ?”

เขาไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง

กระทั่งสงสัยว่าเขามองผิดไป

เจ้านายของตระกูลอู๋

เป็นมู่เซิ่งอย่างงั้นหรอ?

เป็นไปได้ยังไง!

“ผมเอง”

มู่เซิ่งยิ้มแล้วพยักหน้า“ผมเคยเตือนคุณแล้ว ต้องโทรถามอู๋หยู่เหวินก่อนไหมว่า ชะตากรรมหลังจากที่ล่วงเกินผมจะเป็นยังไง”

เขาพูดอย่างเรียบเฉย รอยยิ้มของเขาดูสบายๆ

แต่อู่เยว่กลับรู้สึกร่างกายชาไปทั้งร่าง