ตอนที่ 51 ข้าจะเดิมพันกับเจ้าเอง!

หยางเย่ไม่เคยคาดคิดว่าแม้โจมตีถึงเพียงนี้ก็ยังไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บ ยิ่งกว่านั้นฝ่ามือก็ยังถูกแทงพร้อมกับปราณดาบที่ผู้รับใช้แห่งดาบโจมตีกลับตอนถอยหลัง สัญชาตญาณในการต่อสู้ของมันน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!

หยางเย่ไม่มีเวลาคิดสิ่งใดนอกจากตั้งแนวดาบทแยงตรงหน้าอก

เคล้ง!

ดาบในมือหยางเย่เกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรง มันแสดงให้เห็นว่าปราณดาบนี้ร้ายกาจเพียงใด ภายใต้การโจมตีของปราณดาบนี้ หยางเย่ถูกกระทบให้ถอยไปอย่างต่อเนื่อง

ในอีกด้านหน้าหนึ่ง ขณะที่ปราณดาบถูกปล่อยออกมาอย่างกระจัดกระจาย ผู้รับใช้แห่งดาบที่กำลังถอยหลังได้มาปรากฏตัวตรงหน้าหยางเย่ ไม่พอดาบในมือมันได้แทงไปตรงอกหยางเย่อย่างรุนแรง

‘มันแทบไม่ให้เราได้พักหายใจเลยสักครั้ง!’ ขณะมองไปยังดาบที่แทงมา หยางเย่รู้สึกโกรธเล็กน้อยแต่ก็ยังรู้สึกประทับใจไปด้วย เพราะผู้รับใช้แห่งดาบสามารถจับจุดอ่อนที่เขาแสดงได้อย่างแม่นยำ ยิ่งกว่านั้นสัญชาตญาณการต่อสู้ที่มีของมันยังน่าร้ายกาจอย่างแท้จริง!

ถึงแม้จะรู้สึกประทับใจ มันก็ไม่ได้ทำให้หยางเย่อยากยอมแพ้ เขารีบใช้ก้าววายุและพุ่งไปด้านข้าง ทันใดนั้นปราณดาบสีทองถูกปล่อยออกจากดาบของหยางเย่ และพุ่งตรงไปยังผู้รับใช้แห่งดาบ

ผู้รับใช้แห่งดาบไม่หลบ แต่กลับฟาดฟันดาบไปยังปราณดาบสีทองของหยางเย่แทน เห็นได้ชัดว่ามันทราบดีหากมีทั้งความเร็วและกำลังแล้ว แม้แต่ปราณดาบก็สามารถถูกฟันให้แตกกระจายได้ แต่ผู้รับใช้แห่งดาบประเมินปราณดาบทองคำของหยางเย่ต่ำเกินไป

เคล้ง!

เสียงดังกึกก้องชัดเจน ปราณดาบทองคำทะลุผ่านตัวดาบไป มันยังพุ่งต่อไปยังผู้รับใช้แห่งดาบที่ยืนอยู่ด้านหลัง

ผู้รับใช้แห่งดาบดูประหลาดใจอย่างมาก ร่างของมันกระตุกเกร็งเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ร่างของมันบิดหลบปราณดาบของหยางเย่ในรูปแบบประหลาด

หยางเย่รู้สึกปลื้มในปราณดาบของตนเอง ไม่นานเขาเหวี่ยงดาบในมือขวาและนิ้วมือซ้ายอีกหลายครั้ง ทำให้มีปราณดาบมากกว่าสิบเส้นยิงไปยังผู้รับใช้แห่งดาบราวกับพายุ

หยางเย่ไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้หากสู้ระยะประชิด ดังนั้นจึงใช้ปราณดาบในการโจมตีเพื่อหาจุดอ่อนก่อนจะโจมตีอย่างรุนแรง ความคิดและสิ่งที่กำลังทำของเขานับว่าไม่เลว แต่ความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่านั้น

ขณะที่หยางเย่ปล่อยปราณดาบออกไป ผู้รับใช้แห่งดาบก็ปล่อยปราณดาบนับสิบกลับมาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นทุกเส้นที่ยิงออกไปมันกระทบกับปราณดาบสีทองของหยางเย่

เมื่อเห็นเช่นนั้นรอยยิ้มบนหน้าหยางเย่หายไปหมดสิ้น มันแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดแทน เขาโจมตีก่อนเพื่อความได้เปรียบ และยังเป็นผู้ปล่อยปราณดาบเป็นคนแรก ภายใต้สถานการณ์นี้ ผู้รับใช้แห่งดาบยังสามารถใช้ปราณดาบปัดป้องของหยางเย่ได้ มันหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่าผู้รับใช้แห่งดาบใช้พลังปราณล้ำลึกและปราณดาบได้เหนือกว่าเขา!

ตู้ม!

ปราณดาบจากทั้งสองด้านปะทะกัน เสียงพวกมันดังก้องและแตกกระจายออกไปทันที

หยางเย่ไม่ปล่อยปราณดาบอีกต่อไป เขาถือดาบในมือพร้อมพุ่งไปยังผู้รับใช้แห่งดาบ ในแง่ของพลังปราณ เขาอยู่เพียงระดับแปดขั้นปราณมนุษย์ และมันไม่สามารถทัดเทียมได้กับขั้นปราณสวรรค์ เมื่อไม่สามารถสู้ได้ในแง่ของพลังปราณหรือการต่อสู้ระยะประชิด เขาทำได้เพียงเสี่ยงชีวิตและต่อสู้อย่างสิ้นหวัง

หยางเย่ไม่สนใจการป้องกันอีกต่อไป ความเร็วของเขาด้อยกว่าผู้รับใช้แห่งดาบ แต่ก็ไม่มากเกิน ผสานกับความจริงที่ว่าต้องต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต เขายังไม่ถูกต้อนจนมุมอย่างตอนแรก แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงพอสมควร ในเวลาเพียงไม่นานเสื้อของเขาขาดรุ่ยพร้อมบาดแผลที่ปรากฏเต็มตัว

หยางเย่ไม่สนใจบาดแผลเหล่านั้น เขามีความนึกคิดอย่างเดียวในหัวคือการต่อสู้ ต่อสู้แบบถวายชีวิต! ‘เจ้าแทงมา ข้าแทงเจ้ากลับเช่นกัน! มาดูกันว่าใครจะตายก่อน!’

เวลานี้ผู้รับใช้แห่งดาบเผยจุดอ่อนอีกครั้ง มันเป็นผู้รับใช้แห่งดาบที่มีสัญชาตญาณการต่อสู้เป็นเลิศและไม่มีอารมณ์นึกคิดใด สิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบ แต่ผู้รับใช้แห่งดาบกลับไม่ต่อสู้แบบถวายชีวิตเหมือนหยางเย่ ดังนั้นเมื่อทั้งสองปะทะกันมันจะป้องกันดาบหยางเย่ก่อนจะแทงกลับ

มันเป็นเช่นนี้เพราะหยางเย่ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโจมตีอย่างไม่คิดชีวิตตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นหยางเย่ที่มีพลังปราณห้าธาตุทองคำ มันเริ่มโคจรอย่างช้า ๆ ในร่างกายเพื่อรักษาบาดแผล การค้นพบครั้งนี้ทำให้หยางเย่ตื่นเต้นเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าพลังปราณทองคำจะซ่อมแซมร่างกายด้วยตัวมันเอง ด้วยเหตุนี้หยางเย่จึงสู้อย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป

เป็นเวลาสองวันแล้วตั้งแต่เริ่มการทดสอบสำนักนอก ในช่วงเวลานี้ไม่มีจำนวนของผู้คนด้านนอกหอคอยลดลงไปแม้แต่ผู้เดียว แต่จำนวนกลับเพิ่มขึ้นมาแทน แม้แต่ผู้อาวุโสชั้นนอกก็ยังมาดูด้วยเช่นกัน

เหลือเพียงสองคนที่อยู่ในหอคอยผู้รับใช้ดาบ คนหนึ่งคือหยางเย่ ส่วนอีกคนคือเจียงหยวน ถึงแม้หยางเย่จะอยู่ในหอคอยจนถึงตอนนี้ แต่กลับไม่มีผู้ใดสนใจเขาเลย เพราะทุกคนกำลังเพ่งเล็งไปที่สุดยอดอัจฉริยะเจียงหยวน!

เวลานี้ไม่ว่าหยางเย่หรือชิงเสวียที่บรรลุขั้นปราณสวรรค์ พวกเขาก็ถูกบดบังโดยรัศมีของเจียงหยวน

“พี่หัว เจียงหยวนสามารถเข้าสู่ชั้นสิบเจ็ดด้วยระดับเก้าขั้นปราณมนุษย์จริงหรือ?” เป็นผู้อาวุโสนอกคนหนึ่งที่เอ่ยถาม เขาอายุประมาณสี่สิบปี และมีนามว่าเฉินเฟิง เขาเป็นผู้อาวุโสที่จัดการงานมากมายในห้องเอกสาร แต่เดิมไม่ได้สนใจการทดสอบมากเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ยินว่ามีคนสามารถเข้าสู่ชั้นสิบเจ็ดได้เมื่ออยู่เพียงขั้นปราณมนุษย์ระดับเก้า เช่นนั้นจะให้ทนนั่งต่อไปได้อย่างไร

เฉาหัวลูบเคราก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถูกต้อง ขั้นปราณสวรรค์ด้วยอายุเพียงสิบหกปี หากสำนักดาบราชันสนับสนุนเขาอย่างดี ด้วยพรสวรรค์และความสามารถ เขาจะสามารถเข้าสู่เทียบอันดับสวรรค์ได้แน่!”

เฉินเฟิงพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้ม “ไม่เลว ไม่เลว ตอนแรกข้าคิดว่าคงไม่มีอัจฉริยะที่ร้ายกาจปรากฏขึ้นในการทดสอบนี้ แต่ตอนนี้กลับปรากฏขึ้นมาแล้ว สวรรค์ยังคงเข้าข้างสำนักดาบราชันของเราอยู่! แล้วอีกคนที่อยู่ในหอคอยเป็นใครกัน?”

เฉาหัวไม่กล่าวสิ่งใด ดังนั้นผู้อาวุโสเชียนที่ยืนด้านข้างจึงรีบตอบ “เป็นหยางเย่ หยางเย่ที่พวกเจ้าทุกคนนำไปเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในการสั่งสอนศิษย์ เวลานั้นข้าได้บอกว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ธรรมดา แต่พวกเจ้ากลับไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เขาอยู่ในหอคอยและอย่างน้อยก็อยู่ชั้นสิบห้าแล้ว บอกข้ามาสิว่าผู้ที่เข้าสู่ชั้นสิบห้านั้นไม่ใช่อัจฉริยะงั้นหรือ?”

ผู้อาวุโสเชียนรู้สึกพึงพอใจเล็กน้อยขณะกล่าว มันราวกับเขาเป็นคนที่ผิดและกลับมาประสบความสำเร็จ และมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เวลานั้นทั้งหยางเย่และเขาต่างก็ต้องทนทุกข์จากคำเหยียดหยามของผู้อาวุโสคนอื่น หากไม่ใช่เพราะสุดยอดอัจฉริยะอย่างเจียงหยวน ความสามารถหยางเย่ในตอนนี้คงสามารถตบหน้าบรรดาผู้อาวุโสได้!

“เป็นไปได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงกำลังสับสน “เวลานั้น เขาไม่สามารถกลายเป็นผู้ใช้พลังปราณล้ำลึกได้ ยิ่งกว่านั้นข้าจำได้ว่าเขาถูกลดขั้นเป็นศิษย์แรงงาน แต่เหตุไฉนถึงอยู่ในหอคอยได้นานนัก?”

ผู้อาวุโสเชียนหัวเราะอย่างเย็นเยือก เขายังไม่ได้บอกไปว่าหยางเย่มีพลังปราณห้าธาตุทองคำ!

เฉาหัวฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “พี่เชียนกล่าวถูกแล้ว เด็กคนนั้น หยางเย่ยังอยู่ภายในหอคอย และมันทำให้ข้าประหลาดใจเช่นกันที่สามารถอยู่ได้นานขนาดนี้ แต่พี่เชียนอย่าเพิ่งได้ใจนัก ถึงแม้เขาจะไม่ธรรมดาแต่ก็ยังด้อยกว่าเจียงหยวนและชิงเสวียอยู่ดี”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น!” ผู้อาวุโสเชียนคัดค้านพร้อมกล่าว “เจียงหยวนและชิงเสวียมีพรสวรรค์ที่เยี่ยมก็จริง แต่หยางเย่ไม่ด้อยกว่าแน่นอน อย่าเพิ่งด่วนสรุป ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าใครกันแน่ที่อยู่ชั้นสิบเก้า!”

ทันทีที่กล่าวจบผู้อาวุโสเชียนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อเห็นเฉาหัวใช้เจียงหยวนมาข่มหยางเย่ เขาจึงรู้สึกไม่พอใจออกมา ดังนั้นจึงได้กล่าวคำออกไปอย่างลืมตัว

เฉาหัวเริ่มหัวเราะดังลั่นเมื่อได้ยิน เขาหัวเราะอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “พี่เชียน ท่านกล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่? พวกเราจะเดิมพันกันว่าผู้ใดอยู่ชั้นสิบเก้า ข้าเดิมพันด้วยหีบดาบล้ำค่า ดาบล้อมโลกา ท่านคิดเห็นเช่นไร?”

บรรดาผู้อาวุโสสำนักนอกตกตะลึงทันทีที่ได้ยินเฉาหัว ค่ายกลดาบล้อมโลกาของเฉาหัวมีชื่อในสำนักดาบราชัน หีบดาบนี้มีอยู่สามสิบหกดาบขั้นสีเหลืองระดับสูง ยิ่งกว่านั้นอาจารย์ยันต์ยังจารึกค่ายกลดาบขั้นสีดำระดับกลางในนั้น เมื่อใช้ต่อสู้กับศัตรู ทั้งสามสิบหกดาบจะกลายเป็นค่ายกลดาบทันที พวกมันสามารถเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

ผู้อาวุโสเชียนค่อนข้างประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าเฉาหัวจะกล้าเดิมพันด้วยหีบดาบล้ำค่า เพราะเฉาหัวเห็นมันเป็นดั่งสมบัติของตนเอง ยิ่งกว่านั้นหีบดาบล้ำค่ายังสำคัญเสียยิ่งกว่าชีวิตของเฉาหัว ปกติแล้วเขาแทบจะไม่ให้ผู้อาวุโสคนอื่นเห็นด้วยซ้ำ!

ผู้อาวุโสเชียนเงยหน้าขึ้นมองยังหอคอยผู้รับใช้ดาบ จากนั้นเขามองไปที่เฉาหัวที่ยืนแสยะยิ้มอยู่ ผู้อาวุโสเชียนทราบดีหากไม่รับคำท้า บรรดาผู้อาวุโสอื่นจะต้องเหยียดหยามเขาอีกแน่ในอนาคต

“ท่านต้องการอะไรจากข้า?” ผู้อาวุโสเชียนกล่าวด้วยเสียงต่ำ

เฉาหัวยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยิน “พี่เชียนท่านคงทราบดีว่าหีบดาบล้ำค่านั้นมีค่าเพียงใด หากชนะ ข้าไม่ต้องการสิ่งใดมาก ข้าต้องการเพียงแค่ดาบลงอาคมขั้นสีดำระดับกลางของท่าน ท่านว่ายังไง?”

ผู้อาวุโสรอบข้างต่างก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อได้ยิน เฉาหัวผู้นี้ช่างกล้าที่จะฝัน!

ดาบลงอาคมของผู้อาวุโสเชียนเองก็มีชื่อในหมู่ผู้อาวุโสสำนักนอกเช่นกัน ไม่เพียงแค่เป็นดาบขั้นสีดำระดับกลาง มันยังถูกลงอาคมโดยอาจารย์ยันต์ กล่าวได้ว่าดาบที่ลงอาคมนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างน้อยสามในสิบเท่า

หน้าอกผู้อาวุโสเชียนผงาดขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธแค้น เหมือนกับเฉาหัว ดาบลงอาคมก็สำคัญยิ่งกว่าชีวิตเขาเช่นกัน ผลของการหล่อเลี้ยงมันในจุดตันเถียนกว่าสิบปี มันสามารถเชื่อมต่อกับเขาได้เล็กน้อยแล้ว ผสานเข้ากับอาคมของมัน ดาบนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของเขาแล้ว หากสูญเสียดาบนี้ไป ความแข็งแกร่งผู้อาวุโสเชียนต้องลดลงอย่างมาก

ดังนั้นเขาจะกล้ารับเดิมด้วยดาบนี้หรือไม่?

ทันใดนั้นเอง เสียงที่สดใสดังออกมาจากด้านหลังของทั้งสอง “ตาเฒ่า ข้าจะพนันกับเจ้าเอง! เจ้าบังอาจมาดูถูกศิษย์แรงงานตัวจ้อยของข้างั้นหรือ?”