ตอนที่ 171 ฉันจะไปเอาเรื่องถึงที่
ลู่หันซูอึ้ง ไม่ได้ตอบกลับทันที
มู่เถาเยาร้อนใจ
[ไม่อยากขายก็ไม่เป็นไร สุดสัปดาห์ถ่ายรูปให้ฉันดูก่อนได้ ดูว่าใช่เตาปรุงยาที่ฉันรู้จักหรือเปล่า]
[ลู่หันซู: เสี่ยวมู่ เธอรู้ว่ามีของแบบนี้ด้วยเหรอ]
[อืม ถ้ามันใช่ของที่ฉันรู้จักนะ มันก็คือของโบราณ]
[ลู่หันซู: งั้นเดี๋ยวสุดสัปดาห์ฉันกลับบ้านจะถ่ายให้เธอดูก่อน]
[ขอบใจนะ ขอฉันถามอีกหน่อย หมอลู่เคยเห็นเตาดอกท้อสัมฤทธิ์นี้หรือเปล่า]
[ลู่หันซู: ไม่เคยหรอก เตานี้หนักและใหญ่เกินไป วางอยู่ที่บ้านเก่าของฉันมาตลอด หมอลู่ไม่เคยไป เธอถามแบบนี้ แสดงว่าหมอลู่ก็รู้จักเตาดอกท้อนี่เหรอ]
[ถ้าเป็นเตาเดียวกับที่ฉันรู้จักนะ หมอลู่รู้จักแน่นอน]
เพราะเดิมทีก็เป็นของของอาจารย์เธอ ต่อมาก็ยกให้เธอ
[ลู่หันซู: งั้นก็บังเอิญจริงๆ]
[อืม แล้วบ้านเธอยังมีของโบราณอะไรอีกไหม]
[ลู่หันซู: ก็มีอีกนิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าใช่ของโบราณจริงหรือเปล่า]
[ลู่หันซู: ไว้เดี๋ยวฉันถ่ายให้ดูด้วย]
[โอเค]
[บ้านเธออยู่ที่หมู่บ้านตงจี๋แต่แรกเลยใช่ไหม]
[ลู่หันซู: ตอนเด็กๆ ฉันเคยได้ยินปู่ทวดเล่าว่า เขาเดินทางจากตะวันตกไปทางตะวันออก แต่ตอนที่ฉันได้ฟังเรื่องพวกนี้เพิ่งจะอายุสามสี่ขวบ ไม่เข้าใจอะไรหรอก จำได้แค่ว่าจากตะวันตกไปตะวันออก]
สมองของมู่เถาเยาประมวลผลอย่างรวดเร็ว
[งั้นผู้อาวุโสคนอื่นๆ ในครอบครัวเธอล่ะ]
[ลู่หันซู: บ้านฉันเหลือแค่ย่ากับแม่แล้ว แม่ฉันป่วยเรื้อรังมาหลายปี ไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้ ไว้กลับไปฉันจะลองถามย่าดู มีอะไรเหรอเสี่ยวมู่]
[ฉันกำลังคิดว่า หมอลู่จะเป็นญาติของครอบครัวเธอหรือเปล่า พวกเธอแซ่ลู่เหมือนกัน แถมบรรพบุรุษของเธอยังมาจากทางตะวันตกอีก]
[ลู่หันซู: เอ่อ…มีความเป็นไปได้ไม่เยอะหรอก]
[อืม ฉันก็แค่ลองคิดดู ว่าแต่แม่เธอป่วยเป็นโรคอะไรเหรอ หมอลู่รักษาไม่หายเหรอ]
[ลู่หันซู: แม่ฉันถูกพิษ หมอลู่บอกไม่มียา ไว้เจอยาเมื่อไรจะมาใหม่ เสี่ยวมู่ เธอรู้จักพิษฮ่วนเซี่ยงไหม]
มู่เถาเยาตกใจ
[แม่เธอถูกพิษฮ่วนเซี่ยงได้ยังไง พิษประหลาดแบบนี้ไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย แต่กลับทำลายระบบประสาทอย่างรุนแรง]
[ลู่หันซู: หมอลู่ก็พูดแบบนี้ เสี่ยวมู่เธอมีวิธีบ้างไหม]
[ขอคิดก่อนนะ]
เธอแค่รู้ว่ามีพิษที่ชื่อ ‘ฮ่วนเซี่ยง’ แต่ทั้งสองชาติไม่เคยเจอผู้ป่วยที่โดนพิษนี้ และก็ไม่เคยเห็นในตำราสูตรยาโบราณว่าหญ้า ‘ร้อยรส’ สามารถถอนพิษมันได้
หญ้าพิษชีวิตถอนพิษได้แน่ แต่น่าเสียดายที่ไม่มี
[ลู่หันซู: เสี่ยวมู่ แม่ฉันอาจรอได้อีกไม่นาน ดวงตาแม่เริ่มไม่มีแววตาแล้ว]
[คุณน้าไปโดนพิษจากที่ไหนมา ชาตินี้มีพิษฮ่วนเซี่ยงด้วยเหรอเนี่ย!]
[ลู่หันซู: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คนในบ้านไม่ยอมบอกฉัน แต่ฉันแอบหลอกถามพวกคนในหมู่บ้านมาได้ว่า แม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกับพ่อแล้ว แถมยังมีมือข้างเดียว ย่าก็เลยไม่ชอบแม่มาตลอด จนกระทั่งมีฉัน เห็นฉันร่างกายปกติดี ถึงพอจะทำใจยอมรับแม่ได้บ้าง]
[คุณน้าไม่ใช่คนที่นั่นใช่ไหม]
[ลู่หันซู: ไม่ใช่ พ่อพาแม่มาจากข้างนอก เมื่อก่อนพ่อเป็นหมอเท้าเปล่า[1] ต้องไปรักษากับเก็บสมุนไพรในพื้นที่อื่นอยู่บ่อยครั้ง]
[เข้าใจแล้ว ไว้ฉันเข้าไปโซนในของป่าเซียนโหยวอีก ฉันจะตั้งใจหาหญ้าร้อยรสเป็นพิเศษ]
[ลู่หันซู: ขอบใจนะเสี่ยวมู่]
แค่คำขอบคุณสั้นๆ มู่เถาเยาก็สัมผัสได้ถึงการขอบคุณจากใจของลู่หันซู
[ไม่เป็นไร เธอน่าจะยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม งั้นฉันไม่รบกวนเธอแล้ว]
[ลู่หันซู: ไม่เป็นไรเลย]
[เอาล่ะ งั้นไว้คุยกันนะ]
[ลู่หันซู: อืม บ๊ายบายจ้ะเสี่ยวมู่]
[บ๊ายบาย]
มู่เถาเยาวางโทรศัพท์ นั่งนิ่งอยู่สักพัก
หลังจากนั่งเหม่อไปครึ่งชั่วโมงเธอก็ทยอยหยิบหนังสือจากในลังกระดาษออกมาเปิดดูทีละเล่ม
ดวงตาสุกใสดุจลูกกวางเปล่งประกายจนน่าตกใจ
หนังสือหายาก นิตยสารเก่าแก่ ไม่มีค่าเท่าไรหรอก หนังสือพวกนี้ต่างหากที่เป็นตำราโบราณอันทรงคุณค่าอย่างแท้จริง!
ตำราสมุนไพร สูตรยาเฉพาะทาง ทฤษฎีจำแนก ต้นตอของโรค ว่าด้วยวิถีกินดื่ม…แต่ละเล่มล้วนทำให้วงการแพทย์สั่นสะเทือนได้!
แน่นอนว่ามองภายนอกหนังสือพวกนี้ก็ไม่ต่างจากพวกหนังสือเก่าที่ถูกกองรวมไว้รอชั่งกิโลขาย
มู่เถาเยาทิ้งเรื่องเยี่ยนหัง อาจารย์ และตระกูลลู่ไว้ก่อนชั่วคราว หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน อ่านทีก็ทั้งคืน
ถ้าไม่ติดว่าตอนเช้ายังต้องไปโรงพยาบาลผิงคังอีก เธอก็ยังอ่านต่อได้อีก
แม้จะไม่ได้นอนมาทั้งคืน แต่เธอก็ยังสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ออกกำลังกาย ล้างหน้าแปรงฟัน
พอได้เวลาแล้วก็มีเสียงออดประตู
“อาจารย์อาเล็ก”
“เสี่ยวเยาเยา อาจารย์ซื้อเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้มาให้ด้วย”
“โอเคค่ะ อาจารย์อาเล็กเข้ามานั่งก่อนนะคะ หนูกินอาหารเช้าเสร็จค่อยไปกัน”
มู่เถาเยารู้ว่าอาจารย์อาเล็กต้องซื้ออาหารเช้ามาให้เธอแน่ ก็เลยไม่ลงมือทำ
“เสี่ยวเยาเยา ค่อยๆ กิน ไม่รีบ”
“ค่ะ ตรงนี้มีตำราแพทย์ เมื่อวานหนูไปขุดซื้อมาจากเมืองโบราณ อาจารย์อาเล็กอ่านได้นะคะ”
“เมืองโบราณมีตำราแพทย์ด้วยเหรอ เสี่ยวเยาเยา หนูไม่ได้ถูกหลอกใช่ไหม จ่ายไปเท่าไร”
“จ่ายสิบล้านซื้อหม้อสัมฤทธิ์ ของอื่นๆ แถมมาหมดค่ะ”
“สิบล้าน! พ่อค้าหน้าเลือดคนไหนกล้าหลอกสาวน้อยให้ซื้อของแพงขนาดนี้! เดี๋ยวจบเรื่องของศิษย์พี่ใหญ่เธอเมื่อไรอาจารย์จะไปเอาเรื่อง!”
อาจารย์อาเล็กโมโหมาก หัวร้อนสุดๆ
มู่เถาเยา “…”
เห็นๆ อยู่ว่าเธอได้กำไรมหาศาล!
“เสี่ยวเยาเยา หนูจ่ายเงินไปเยอะขนาดนี้ยังมีเงินใช้ไหม เดี๋ยวอาจารย์โอนไปให้ใช้หน่อย”
“หนูมีเงินค่ะ อาจารย์อาเล็กไม่ต้องเป็นห่วง”
เธอเป็นเศรษฐีนีจริงๆ นะ!
“กินอาหารเช้าก่อน เดี๋ยวท้องหิวแย่”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาลากเก้าอี้เตี้ยมานั่งกินเสี่ยวหลงเปาอย่างเอร็ดอร่อย
“เสี่ยวเยาเยา!” อาจารย์อาเล็กร้องด้วยความตกใจ
เสียงดังจนมู่เถาเยาสะดุ้ง เสี่ยวหลงเปาที่คีบอยู่ตกกลับเข้าไปในถุง
“อาจารย์อาเล็ก?”
“นี่มัน…นี่มัน…ตำรับยาโบราณเหรอ”
“ใช่ค่ะ อาจารย์อาเล็กว่าสิบล้านนี้มันคุ้มไหมล่ะคะ”
อาจารย์อาเล็กยิ้ม “ต่อให้แสนล้านก็คุ้ม! นี่มันของล้ำค่าที่ประเมินราคาไม่ได้เชียวนะ! ตีราคาเป็นเงินได้ที่ไหนกัน!”
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน
“เสี่ยวเยาเยา ต้องเก็บหนังสือพวกนี้ให้ดีนะ อย่าให้ใครขโมยไปได้ เอาไปเก็บไว้ในตำหนักพระจันทร์ที่เซิ่งซื่อฉางอันดีกว่า ไม่สิๆ เก็บที่ห้องหนังสือของตระกูลตี้ดีกว่า ตระกูลตี้มีบอดี้การ์ดเยอะ ปลอดภัยกว่าหน่อย”
มู่เถาเยาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“อาจารย์อาเล็กคะ ไม่มีใครเข้าไปในตำหนักพระจันทร์ได้หรอกค่ะ”
ถ้าเป็นคนแปลกหน้า แม้แต่ประตูของเขตเซิ่งซื่อฉางอันก็เข้าไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขโมยของในตำหนักพระจันทร์เลย
“ใครบอกกัน! พวกอาชญากรข้ามชาติยังขโมยได้แม้กระทั่งของในพิพิธภัณฑ์เลยนะ!”
“อาชญากรข้ามชาติไม่รู้เสียหน่อยว่าพวกเรามีของพวกนี้”
“ก็จริง อย่าให้ความลับเล็ดลอดไปได้! เสี่ยวเยาเยา ต้องปิดปากเถ้าแก่คนนั้นไหม”
มู่เถาเยา “…อาจารย์อาเล็กคะ ของพวกนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับคนส่วนใหญ่ เถ้าแก่กองหนังสือทิ้งไว้สองปีขายไม่ออกสักเล่ม แสดงให้เห็นว่าต้องอาศัยคนดูเป็น แถมยังต้องพึ่งดวงด้วยนะคะ”
ดูอย่างเธอสิ ไปเดินเล่นที่เมืองโบราณครั้งแรกก็ได้ของล้ำค่ามาเป็นกอง!
นับตั้งแต่ออกมาจากหมู่บ้านเถาหยวนซาน เธอก็ดวงดีมาตลอด ไม่ว่าจะกับคนหรือเรื่องต่างๆ
อาจารย์อาเล็กมีสีหน้าตะลึง
ต้องโทษเขาที่ไม่เคยไปเดินเที่ยวในเมืองโบราณ!
ต่อไปต้องไปบ่อยๆ แล้ว! ดีไม่ดีอาจเก็บของดีได้!
“เสี่ยวเยาเยา ต่อไปอาจารย์เลิกงานจะมาอ่านหนังสือทุกวัน”
“อาจารย์อาเล็กเอากลับไปอ่านก็ได้นะคะ”
“ในบ้านไม่ปลอดภัย”
บ้านเขาใช้กลอนประตูแบบธรรมดาทั่วไป อีกทั้งยังมีอาจารย์คนอื่นๆ กับพวกนักศึกษามาบ่อย เขาไม่วางใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูไม่เคยเกิดเรื่องลักขโมย”
“มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่มีใครไปเป็นแขกบ้านอื่นแล้วเที่ยวค้นของหรอกนะคะ ขอแค่เก็บให้ดี ใครจะรู้ได้ล่ะคะว่าอาจารย์อาเล็กมีหนังสือเล่มนี้อยู่”
“มีเหตุผล! ตราบใดที่ไม่รู้ก็แสดงว่าไม่มี!”
“ใช่ค่ะ”
“อาจารย์เอาไปเก็บในตู้เซฟได้ ตอนอ่านก็จะล็อกห้องหนังสือ”
มู่เถาเยา “…” ไม่ต้องขนาดนั้น
“ไม่ถูกสิ ระหว่างทางเอากลับไปก็ไม่ปลอดภัย เสี่ยวเยาเยา เธอมีวรยุทธ์สูง ช่วยเอากลับไปให้อาจารย์หน่อยสิ”
มู่เถาเยา “…” มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ
“พออาจารย์อ่านจบเธอก็เอาเล่มใหม่มาเปลี่ยนกลับไป”
“…”
“ตกลงเอาแบบนี้แหละ เสี่ยวเยาเยา กินอาหารเช้าก่อนเถอะ”
“ค่ะ”
[1] หมอเท้าเปล่า เกษตรกรที่ได้รับการฝึกการแพทย์และผู้ช่วยแพทย์พื้นฐานขั้นต่ำและทำงานในหมู่บ้านชนบทในประเทศจีน