“พี่สุดยอดมากเลยค่ะ!”

เมื่อผมกลับมาที่ห้องก็ถูกกอดโดยน้องสาวของตัวเองที่กระโดดเข้าใส่ ผมยิ้มพร้อมกับรับร่างของเธอก่อนจะมองเธอด้วยสีหน้าขี้เล่นขณะที่พูดอย่างจริงจัง

“เอลด้า! เธอไม่ควรกระโดดใส่พี่แบบนี้่นะ! ถ้าพี่ไม่รับเธอไม่ได้จะทำยังไง?”

“ฮิฮิฮิ….ไม่มีทางหรอกค่ะ หนูมั่นใจว่าพี่จะรับหนูได้ค่ะ!”

เอลดาพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ขณะที่เธอมองมาที่ผม เห็นอย่างนั้นแล้วผมก็ได้แต่ส่ายหัว และในไม่ช้าผมก็เพ่งความสนใจไปที่ใบหน้าและริมฝีปากสีแดงสวยของเธอ 

ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้และอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอมีเสน่ห์มากขึ้นในตอนนี้ 

เอลด้าที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าผมกำลังมองเธออยู่ก็ยิ้มกว้างขึ้น แต่ขณะที่เรากำลังเข้าสู่โลกของ 2 เรา คำพูดของไนล่าก็ดังขึ้นมา

“เป็นการต่อสู้ที่ดีเลย”

เมื่อได้ยินเสียงของไนล่า ผมจึงหันไปหาเธอที่กำลังเดินมาหาตัวเองพร้อมกับยิ้มกว้างอวดเขี้ยวแวมไพร์ของเธอ

ผมหันไปให้ความสนใจกับเธอและวางเอลด้าลงกับพื้นก่อนจะพูดขึ้น

“มันไม่สนุกเท่ากับการทุบตีเธอหรอก”

เมื่อได้ยินคำตอบของผม ผมก็เห็นคิ้วของไนล่ากระตุกด้วยความหงุดหงิด แต่ในไม่ช้าเธอก็ยิ้มขณะที่พูด

“แน่นอน…ทำไมเราไม่มาสู้กันอีกหล่ะ? ฉันแน่ใจว่าจะทำให้นายเสียใจกับสิ่งที่ทำในการต่อสู้ครั้งก่อนได้แน่”

“โอ้…?”

เมื่อได้ยินคำตอบที่มั่นใจของเธอ ผมก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย แต่สุดท้ายผมก็ส่ายหน้า 

ผมเข้าใจไนล่าได้อย่างง่ายดาย เธอเป็นแค่พวกคลั่งการต่อสู้ เธอจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเอาชนะผมและแมx่งโคตรน่ารำคาญ 

ผมสามารถให้ความบันเทิงกับเธอได้แม้ว่าตัวเองจะแน่ใจว่าเธอจะไม่มีวันเหนือกว่าผมก็ตาม

“ถ้าอย่างนั้นผมจะรับคำท้าทายนั้นจากเธอแล้วกัน”

“ดี…แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังหล่ะ~~”

ไนล่าพูดด้วยรอยยิ้มแบบซาดิสม์ 

ตอนนั้นเองที่เธอถูกตบหัวจากลาโนร่า ผู้ซึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มขณะที่เธอเดินมาหาผมอย่างร่าเริงก่อนจะพูดขึ้น

“ออสติน! มันสุดยอดมากเลย! ฉันไม่เคยรู้เลยว่านายมีพลังขนาดนั้น! นายคืออัจฉริยะ!”

และเช่นเดียวกับที่ลาโนร่าเริ่มพูดอย่างตื่นเต้นในโลกของเธอเองและผมเองก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในนั้นเหมือนกัน แค่บรรยากาศรอบๆ ตัวเธอสงบลง ผมยิ้มพร้อมกับเริ่มพูดกับเธอ

“ไงลาโนร่า ดีใจที่ได้เจอนะ ผมหวังว่าทุกอย่างจะโอเคหลังจากที่เธอเข้าร่วมกลุ่มผมแล้วนะ ผมจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีการสั่งงานอะไรเธอมากนักนะเพราะผมรู้มาว่าเผ่าของเธอไม่ชอบการถูกควบคุม”

“นายรู้เกี่ยวกับเผ่าของฉันด้วยเหรอ?”

ลานอร่าถามอย่างประหลาดใจ 

เผ่าของเธอส่วนใหญ่เป็นคนสันโดษและโลกภายนอกไม่ค่อยมีใครรู้จักพวกเขา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับเธอที่ผมรู้เกี่ยวกับเผ่าของเธอ 

ผมยิ้มให้เธอขณะที่พูดอย่างลึกลับ

“ก็พอดีว่าผมมีเครือข่ายข้อมูลที่ดีหน่ะ”

เมื่อได้ยินคำตอบของผม เธอก็ทำหน้ามุ่ย เธอทำท่าทางตลกๆ ขณะที่แกล้งใช้เขาแพะแทงผม ซึ่งผมก็ทำเหมือนถูกเธอแทง ไม่นานเราก็มองหน้ากันก่อนที่จะเริ่มหัวเราะ

“แน่นอน เก็บความลับของนายไว้เถอะ แต่ก็ขอบคุณที่เข้าใจนะ”

“ไม่ต้องคิดมาก เธอเป็นเพื่อนรักของน้องสาวผม นี่ก็แค่เรื่องเล็กน้อยที่ผมจะทำให้ได้”

ผมพูดขณะที่ส่ายหัวให้เธอด้วยรอยยิ้ม มันสนุกจริงๆ ที่ได้คุยกับเธอ มันช่างช่วยให้ผมผ่อนคลายได้ดีจริงๆ 

ในขณะเดียวกันนั้น ไนล่าก็เข้ามาระหว่างเราทั้งคู่ก่อนที่เธอจะมองมาที่พวกเราทั้งคู่อย่างสงสัย

“พวกนายเคยเจอกันมาก่อนเหรอ?”

“หืมมม…ทำไมหล่ะ?”

“ก็แค่พวกนายทั้งคู่ดูคุ้นเคยกันดีและฉันก็ไม่เคยเห็นลาโนร่าเป็นเพื่อนกับใครง่ายๆ แบบนี้มาก่อนเลย”

เมื่อได้ยินคำตอบของเธอ ผมก็มองไปที่เอลด้าซึ่งกำลังมองของพวกเราอย่างสงสัยเช่นกัน 

เห็นแบบนั้นผมก็ตอบกลับพวกเธอไป

“เปล่า ผมพึ่งเจอเธอเป็นครั้งแรกหน่ะ”

“เปล่า ฉันพึ่งเจอเขาเป็นครั้งแรกหน่ะ”

น่าแปลกที่ทั้งผมและลาโนร่าต่างตอบออกไปพร้อมกัน 

เมื่อเห็นอย่างนั้นเรา 2 คนก็มองหน้ากันอย่างประหลาดใจก่อนจะยิ้มให้กัน

“Jinx(จิ๊งซ์)”

“Jinx(จิ๊งซ์)”

*ช่วงสาระเล็ว~~

ถ้าเรากับเพื่อนเกิดพูดอะไรขึ้นมาพร้อมกันเป๊ะๆ ฝรั่งเค้าจะรีบพูด jinx ขึ้นมา ใครพูดก่อนชนะ (ซึ่งจริงๆ แล้วเค้าเชื่อเป็นทำนองว่าคนพูด jinx ก่อนจะได้ผลักความโชคร้ายไปให้อีกคน ประมาณนี้)*

และก็เป็นอีกครั้งที่เราทั้งคู่พูดพร้อมกัน 

เมื่อเห็นแบบนั้นเราทั้งคู่ก็ยิ้มให้กันก่อนจะไฮไฟว์กัน เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องลึกลับจริงๆ ที่ผมสามารถทำความคุ้นเคยกับเธอได้อย่างง่ายดาย และเพียงแค่เราทั้ง 2 คนเท่านั้นที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น 

ผมได้ยินเสียงพึมพำจากไนล่าและเอลด้าที่เอาแต่พูดคำที่น่าสงสัย

ตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นว่ามีบางคนหายไปจากกลุ่มของพวกเธอ 

ผมมองไปที่เอลด้าก่อนจะถามขึ้นมา

“เอลด้า แล้วนาตาเลียไปไหนหล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำถามของผม เอลด้าก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะชี้มือไปที่ส่วนหนึ่งของกำแพง ซึ่งผมเห็นความงามสามตาที่มีผมสีเขียวและสีฟ้าแอบมองจากกำแพงมาที่ผม ผิวขาวอมชมพูของเธอเป็นสีแดงเข้ม ในขณะที่สายตามองมาที่ผมอย่างอายๆ จากผนัง 

ผมได้แต่ยิ้มให้กับปฏิกิริยาน่ารักๆ ของเธอก่อนจะตะโกนเรียกเธอ

“เธอไปทำอะไรตรงนั้นกันนาตาเลีย?”

เมื่อได้ยินผมเรียกเธอ ผมก็เห็นเธอสะดุ้งก่อนจะเดินหนีออกจากกำแพงอย่างอายๆ และเดินเข้ามาผม 

เธอยื่นมือมาตรงหน้าผมและโบกมือเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ขณะที่พูดขึ้นมา

“อ-ออสตินสุดยอดมากเลยค่ะ คุณแข็งแกร่งมากค่ะ!”

เมื่อเห็นเธอพูดจาน่ารักในขณะที่ตาทั้ง 3 ของเธอดูจะขยับซ้ายขวา ผมก็อดยิ้มให้กับความน่ารักนั้นไม่ได้

“จริงเหรอ? ถ้าเธอพูดอย่างนั้นผมคงสุดยอดมาก”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม นาตาเลียก็ผงกหัวเหมือนไก่จิกอาหาร ในไม่ช้าดวงตาทั้ง 3 ของเธอก็จับจ้องมาที่ผมขณะที่เธอหยิบบางอย่างออกมาและยื่นให้ผม 

มือของเธอยื่นมาที่ผมขณะที่เธอมองมาอย่างคาดหวัง 

ผมมองไปที่เธอก่อนจะเห็นกระดาษที่มีการออกแบบบางอย่างอยู่

“นี่คืออะไรเหรอ?”

ผมถามขณะรับกระดาษมาจากมือเธอ 

เมื่อเห็นผมรับกระดาษไปแล้ว เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่เธอมองมาที่ผมอย่างอายๆ

“มันเป็นเครื่องรางแห่งความโชคดีค่ะ”

“เครื่องรางงั้นเหรอ?”

“ค่ะ”

นาตาเลียพยักหน้าให้กับคำถามของผม 

ผมจับกระดาษในมือขณะมองดูมันก่อนจะเห็นรวดลายที่สวยงามบนกระดาษ ภาพวาดนั้นดูสวยงามและลึกลับ 

ผมมองดูมันเล็กน้อยก่อนจะขอบคุณนาตาเลีย

“ขอบคุณนะนาตาเลีย ผมจะรักษามันไว้อย่างดีเลย”

คำพูดของผมดูเหมือนจะทำให้เธอตัวลอยขึ้นขณะที่เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สวยงาม

“ค่ะ!”

ในขณะเดียวกันผมก็ขอให้ระบบวิเคราะห์มันและบอกหน้าที่ที่แท้จริงของมันและเมื่อผมทำแบบนั้น ตาของผมก็แทบจะถลนออกมาข้างนอก 

ทันใดนั้นนาตาเลียก็ดูไม่น่ารักและไร้เดียงสาอย่างที่เห็นอีกต่อไป

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต