“เอลด้า…แล้วของขวัญที่เธอพูดถึงคืออะไรเหรอ?”

ผมถามขณะที่เอลด้าพาผมไปที่ห้องของเธอ 

หลังจากการต่อสู้จบลง ผมต้องจัดการกับสิ่งต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มและคำแสดงความยินดีจากนอร่าและคนอื่นๆ ในขณะที่ทำเช่นนั้นอยู่ผมก็เห็นท่าทางลังเลของโอลิเวียและมันสนุกมากที่ได้เห็นเธอต่อสู้กับร่างกายของตัวเอง

เนื่องจากวันนี้ผมไม่ได้ไปเยี่ยมเธอ เลยทำให้อาการ ‘คัน’ ของเธอคงจะมากขึ้นเรื่อยๆ คาถาจะทำให้ความอยากของเธอยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่ออาการ ‘คัน’ ในตัวเธอเริ่มมากขึ้นและผมเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถ ‘ช่วย’ เธอได้ ช่างเป็นชะตากรรมที่โหดร้ายจริงๆ 

แม้ว่ามันจะสนุกสำหรับผม แต่การรำพึงรำพันในความคิดของผมก็จบลงเมื่อเอลด้าพาผมไปที่ห้องของเธอ

มันคงเกี่ยวกับการที่เธออยากจะให้ผมเจอใครบางคนหล่ะมั้ง แม้ว่าผมจะทำตัวซื่อบื้อ แต่อย่างน้อยผมก็พอจะเดาออกว่าเอลด้าต้องการให้ผมพบใคร 

ผมเลยปล่อยให้เธอจับมือผมแล้วพาไปที่ห้องของเธอ ไม่นานเราก็ถึงห้องของเอลด้าก่อนที่เธอจะปล่อยให้ผมเข้าไป 

เมื่อผมเข้าไปข้างในแล้ว เอลด้าก็ยิ้มในขณะที่หันมากอดผม ผมไม่ปฏิเสธและกอดเธอกลับไป

“ทำอะไรของเธอหน่ะ?”

“ฮึ่มมม หนูกอดพี่ไม่ได้เหรอคะ?”

เอลดาโต้กลับขณะที่กอดผมแน่นขึ้น 

ผมยิ้มให้กับคำแก้ตัวอย่างไร้้เหตุผลของเธอพร้อมกับกอดเธอตอบ ร่างกายที่เนียนนุ่มของเธอช่างน่ากอดเหลือเกิน แค่กลิ่นตามธรรมชาติของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมผ่อนคลาย เรากอดกันต่อไปชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้เราได้ไปไกลกว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวปกติแล้ว

แม้ว่าเอลด้าจะไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงระดับความรู้สึกของเธอที่สูงขึ้นและก็เป็นธรรมดาที่ผมจะหลงเสน่ห์ของเธอ ผมแทบอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ทำให้ผมสบายใจสุดๆ แล้ว แต่น่าเสียดายที่สิ่งดีๆ ต้องจบลง 

ผมพูดด้วยรอยยิ้ม

“แล้ว~~คนที่เธออยากให้พี่เจอคือใครเหรอ?”

“หนูอยากให้พี่เจอคนที่หนูคิดว่าเป็นครอบครัวของหนูค่ะ”

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นพี่ก็อยากจะพบกับครอบครัวคนนั้นของพี่เหมือนกัน”

ผมพูดให้กำลังใจเอลด้าว่าใครก็ตามที่เป็นครอบครัวของเธอก็คือครอบครัวของผมด้วยเช่นกัน และดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจความหมายภายในของผมขณะที่เธอยิ้มอย่างงดงามให้กับคำพูดของผม 

ไม่นานเอลด้าก็ผละออกจากอ้อมกอดอย่างไม่เต็มใจขณะที่เธอเดินห่างจากผมไปเล็กน้อยก่อนจะกุมมือไว้ที่บริเวณหน้าอกของเธอพร้อมกับที่มีแสงสีเงินเริ่มไหลออกมา ในไม่ช้าแสงสีเงินที่เหมือนปีกก็ปรากฏขึ้นที่หลังของเธอ ทำให้เธอดูเหมือนนางฟ้าจริงๆ

ผมตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่สายตาของผมจะจับจ้องไปที่ประตูมิติสีเงินเล็กๆ ที่กำลังเปิด ใช้เวลาไม่นานประตูมิติก็เสถียรและภายในไม่กี่วินาที ประตูมิติสีเงินก็ลอยเข้ามาใกล้เอลด้าก่อนที่ในไม่ช้าจะมีบางสิ่งเล็กๆ ลอยออกมาจากภายในประตูมิติ นั่นคือนางฟ้า เธอสูงประมาณ 35 ซม. และมีปีกสีเงินประดับอยู่ที่หลัง

เธอมีผมสีบลอนด์และดวงตาที่เหมือนอัญมณีสีฟ้าที่ส่องประกายด้วยความไร้เดียงสาและความอยากรู้อยากเห็น รูปร่างของเธอไม่สามารถมองเห็นได้ดีนักเนื่องจากขนาดที่เล็กของเธอ แต่เธอมีร่างกายที่เต่งตึง เธอสวมชุดวันพีซสีน้ำเงินที่เหมาะกับตัวเองและมีใบหน้าที่น่ารัก กลิ่นอายของความไร้เดียงสา, ความสงบและความสนุกสนานอย่างประหลาดสามารถสัมผัสได้จากเธอ

สายตาของผมจับจ้องไปที่เธอเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นนางฟ้า ปกติแล้วนางฟ้าจะปรากฏตัวในเทศกาลโลกวิญญาณของเอลฟ์เท่านั้น พอลองนึกถึงช่วงเทศกาลนั้นแล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหญิงเอลฟ์ 

ในไม่ช้าผมก็ถูกดึงออกจากความคิดเมื่อนางฟ้าหันศีรษะมาทางผม

ดวงตาของเธอดูประหลาดใจขณะที่เธอจ้องมาที่ผม ตาของเราประสานกันในขณะที่เรามองกันและกันอยู่ 2-3 วินาที ไม่นานนักนางฟ้าก็ยิ้มแบบเด็กๆ ขณะที่เธอเข้ามาใกล้ตรงหน้าผม เธอเอื้อมมือขึ้นมาแตะใบหน้าของผมก่อนจะพูดขึ้นมา

“หวัดดี เวโรนิก้าชื่อเวโรนิก้า!!”

เสียงที่ดังและสนุกสนานของเธอออกมาจากปาก ผมตัวแข็งไปชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มาจากชื่อของเธอ แต่มาจากสิ่งที่ผมเห็นจากเธอต่างหาก

+100 ความชอบ

+100 ความชอบ

+100 ความชอบ

+100 ความชอบ

แต้มความชอบที่ยังคงปรากฏขึ้นต่อหน้าผมอยู่เรื่อยๆ นั้นทำเอาผมอึ้งไปเลยและในไม่ช้าผมก็ตั้งคำถามกับระบบ

‘ระบบ ในที่สุดแกก็พังแล้วเหรอ?’

[ ไม่ใช่ สายเลือดของโฮสต่างหากที่พัง ]

‘สายเลือดของฉันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้กัน?’

[ ง่ายๆ ก็เป็นเพราะออร่าไร้เดียงสาของโฮสนั่นแหละ ]

‘อาาา…ช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยได้ไหม?’

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ในไม่ช้าระบบก็อธิบายให้ผมฟังด้วยคำตอบสั้นๆ 

ดูเหมือนว่านางฟ้า(แฟรี่)จะใส่ใจอย่างมากต่อออร่าและจิตวิญญาณของคนๆ หนึ่ง และตอนนี้ออร่าที่ไร้เดียงสาของผมก็ทำให้ผมดูน่าประทับใจเมื่ออยู่ต่อหน้าเวโรนิก้า เมื่อเห็นว่าเวโรนิก้ายังคงโอบแขนมาทางผม ผมก็ยิ้มและขยับนิ้วก้อยไปหาเธอที่จับมันด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะเริ่มเขย่ามัน

“ยินดีที่ได้รู้จักนะเวโรนิก้า ผมชื่อออสติน”

“งั้นนายก็คือออสติน! เวโรนิก้าได้ยินเกี่ยวกับนายมามากมายเลยจากเอลด้า!”

เวโรนิก้าพูดอย่างตื่นเต้นทันทีที่เธอเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของผมและปรากฏตัวต่อหน้าผมโดยการลอยอยู่ 

เมื่อเห็นแบบนั้นรอยยิ้มแหยๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าผมขณะที่ถามขึ้นมา

“เอ่ออ…เธอต้องการอะไรรึเปล่าเวโรนิก้า?”

เมื่อได้ยินคำถามของผม เวโรนิก้าก็ส่ายหัวอย่างแรงขณะที่ตอบกลับมา

“ไม่ เวโรนิก้าแค่คิดว่าออสตินกลิ่นหอมดี!”

“ผมหอมเหรอ?”

ผมงงกับคำพูดของเธอขณะที่ขยับจมูกเพื่อเช็คกลิ่นของตัวเอง แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย 

เมื่อเห็นความสับสนของผม เธอก็ยิ้มและมองมาที่ผมอีกสักพักก่อนจะผงกศีรษะ

“ใช่แล้ว”

“งั้นเหรอ?”

ผมมองเธออย่างสับสน 

เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงยกหน้าอกเล็กๆ ขึ้นสูงพร้อมกับพูดอย่างภาคภูมิใจ

“เวโรนิก้าชอบออสติน”

“ห้ะ…?”

ครั้งนี้ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆ แต่เมื่อมองดูเธออย่างรวดเร็วผมก็เข้าใจว่าเวโรนิก้าไม่ได้หมายถึงเรื่องโรแมนติกในตอนที่เธอบอกว่าชอบผม 

หลังจากจัดการกับผู้หญิงไม่ปกติพวกนั้นแล้ว ผมก็สังเกตได้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครสักคนมีความรู้สึกโรแมนติกกับตัวเอง และผมก็มักจะเดาถูกเสมอ แล้วที่เธอหมายความเมื่อกี้ก็คือเธอแค่ชอบผม

เหมือนกับการที่คุณชอบคนธรรมดาๆ ที่เธอชอบได้แบบเดียวกับความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นและก่อนที่ผมจะทันได้โต้ตอบอะไร เธอก็บินขึ้นไปเหนือหัวของผมก่อนจะนั่งลงบนนั้น ราวกับนกที่มาเกาะรังอยู่บนหัวของผมและก็มีข้อความปรากฏขึ้นมาหลังจากนั้น

[ ติ้ง! ]

[ ได้รับสัญญากับนางฟ้า! ]

‘ห้ะ…?’

การทำสัญญากับนางฟ้ามันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต