เหล่าผู้คนที่ปรารถนาที่จะเป็นฮันเตอร์จะต้องผ่านการ “เปิดตัว” มันเป็นกระบวนการที่จะทำให้กลายมาเป็นฮันเตอร์มืออาชีพเต็มตัว

มันก็มีสถานที่สำหรับโอกาสแบบนี้ในหลาย ๆ ทางเพราะว่าแม้ว่าคุณจะยังคงต้องจัดการแก้ไขความผิดปกติเหมือนกับแรงค์ F ทั่วไปโดยมีฮันเตอร์มืออาชีพคอยช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตมืออาชีพ มันก็ยังเป็นโอกาสที่จะได้รับการอัพเกรดแรงค์อย่างรวดเร็วหรือได้เข้าร่วมกับกิลด์ที่ดีถ้าคุณทำได้ดีในการเปิดตัวของคุณ

การเปิดตัวนั้นมักทำกันเป็นคู่เป็นปกติหรือมากเท่ากับเด็กฝึกสี่คนในเวลาเดียวกันแต่ส่วนใหญ่ของพวกเขาแล้วจะดำเนินการไปแบบเงียบ ๆ แต่ก็มีบางคนที่แตกต่างออกไป

มีบางคน คนที่ได้รับความสนใจแม้กระทั้งก่อนที่เขาเหล่านั้นจะกลายมาเป็นฮันเตอร์มืออาชีพ

เซเลสเต้ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของผู้ที่มีแนวโน้วว่าจะโดดเด่นในอนาคต

ในตอนที่เธออายุ 17 ปี เธอก็มีความแข็งแกร่งระดับแรงค์ D แล้วในขณะเดียวกันเธอก็ยังเป็นลูกสาวคนโตของฮันเตอร์แรงค์ SS ซัลวาเทอร์เร่ คอสแตนตินี และก็ยังเป็นความจริงที่เธอเป็นคนที่มีความงานเป็นเลิศที่แสดงออกมาในส่วนต่าง ๆ ของเธอ

ด้วยดวงตาสีฟ้าคู่นั้นที่ดูเหมือนว่ามันกำลังจ้องมองไปยังความว่างเปล่าของโลกใบนี้ตลอดเวลาและผมที่บลอนด์ทองที่งดงามที่ถูกถักไว้ด้านหลัง

ทุก ๆ คนในทุกช่วงอายุและเพศคนใดก็ตามที่ได้เห็นเธอแม้แค่ครั้งเดี่ยวจะรู้สึกหลงใหลในตัวเธอ

ในกรณีที่ฮันเตอร์มืออาชีพได้จัดการดูแลเหล่าเด็ก ๆ ที่โดดเด่นฮันเตอร์มืออาชีพเหล่านั้นก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดีเช่นกันดังนั้นฮันเตอร์มืออาชีพคนที่ต้องการจะแนบตัวเองไปกับการเปิดตัวของเซเลสเต้ได้เข้ามาที่กิมกังยิมอย่างต่อเนื่อง

มันเป็นเพราะว่าเซเลสเต้ คอสแตนตินี ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในบทสัมภาษณ์กับสมาคมฮันเตอร์ว่า “ฉันจะไม่กลับบ้านและฉันจะเปิดตัวที่เกาหลีค่ะ”

บางคนมาจากอิตาลีและบางคนก็เป็นฮันเตอร์ระดับแรงค์ A จากกิลด์ที่มีชื่อเสียงคนที่มาดูเธอ ดังนั้นแล้วผู้อำนวยการคิมเลยต้องจัดการกับคนเหล่านี้

ในท้ายที่สุดเซเลสเต้ปฎิเสธคำร้องขอของพวกเขาทั้งหมดไป

ด้วยเจตนาที่สุภาพเซเลสเต้ได้พูดออกไปว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะไปกับฮันเตอร์คนที่ฉันไม่มีอะไรที่จะเรียนรู้จากเขาค่ะ”

มันเป็นคำพูดที่ไม่แยแส

ฮันเตอร์ที่ต้องการจะแสดงว่าพวกเขาไม่ได้ขี้ขลาดตาขาวจะต้องก้าวผ่านกระบวนการ “เปิดตัว” ที่จะกลายเป็นฮันเตอร์มืออาชีพ

“เยี่ยม พ่อของเธอเป็นฮันเตอร์แรงค์ SS ดังนั้นมันก็สมควรแล้วที่เธอจะพูดแบบนั้น”

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเธอก็ควรจะไปกับพ่อของเธอสิ แล้วเธอมาทำอะไรที่เกาหลีหละ?”

“เห็นได้ชัดเลยว่าพ่อของเธอบอกในเธอหาฮันเตอร์ที่จะมาเป็นอาจารย์ของเธอเองและฉันก็ได้ยินมาว่ามันมีจุดประสงค์ให้เธอได้ขยายมุมมองของตัวเธอเอง”

มีเหล่าวอนนาบีฮันเตอร์มากมายที่กึมกังยิมและต้องขอบคุณเซเลสเต้ มันกลายมาเป็นโอกาสที่ดีกำลังการสร้างเครือข่ายกับฮันเตอร์มืออาชีพเหล่านั้น

มากไปกว่านั้นวอนนาบีฮันเตอร์บางคนแม้กระทั้งไปเข้าตาของฮันเตอร์มืออาชีพคนที่ยอมแพ้กับเซเลสเต้และกำลังจะถอนตัวกลับ

“หืม เซเลสเต้ เธอนี่โพล่มาแม้กระทั้งในทีวีเลยนะเนี่ย”

ผู้อำนวยการคิมชี้ไปที่ทีวีและพูดกับเซเลสเต้คนที่กำลังนั่งอยู่คนเดียวที่มุมของสำนักงานกับมือถือของเธอ

[เซเลสเต้เหมาะกับวัฒนธรรมการล่าของเกาหลีมากกว่าอิตาลี]

[คำพูดของลูกสาวคนโตของคอสแตนตินีถึงฮันเตอร์ อีจองซู “คุณไม่มีอะไรให้เรียนรู้”]

[ทำไมเธอถึงได้ตกหลุมรักกับเกาหลีหละ?]

…และอื่น ๆ อีกมากมาย

ส่วนมากเป็นข่าวที่ไร้สาระ

ในขณะที่ลูกสาวคนโตของหนึ่งใน 37 ฮันเตอร์แรงค์ SS ในโลก ภายในทีวีมันดูเหมือนว่าเธอจะตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเปิดตัวของเธอ

กับคำพูดของผู้อำนวยการคิมเธอมองไปที่ทีวีแต่แล้วก็หันหัวของเธอกลับไปที่โทรศัพท์มือถือต่อ

“นั้นคือทั้งหมดแล้วใช่ไหมคะ?”

“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเลยนะว่าสื่อเหล่านั้นจะพูดว่าอะไร?”

“ตั้งแต่ที่ฉันยังเด็กสื่อพวกนั้นก็พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับฉันตลอดเวลาเหมือนตอนนี้อยู่แล้วหละค่ะ”

ใช่แล้ว

เธอเป็นดาวตั้งแต่ยังเด็ก

เธอคงจะเคยชินกับมันไปแล้ว

ทันใดนั้นเองผู้อำนวยการคิมก็รู้อึดอัดอย่างมากเมื่อมองไปที่ลูกสาวของตัวตนที่ยิ่งใหญ่กำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของยิมที่เล็กกระจ้อยร่อยของเขา

‘ทั้งหมดนี้ต้องของคุณยูซอดัม’

ในตอนแรกผู้อำนวยการคิมได้สอนการควบคุมร่างกายในกับซัลวาเทอร์เร่ด้วยการช่วยเหลือของยูซอดัม

ในอดีตยูซอดัมได้เดินทางไปล่าในที่ต่าง ๆ มากมายทั่วโลกและได้ทำความรู้จักกับฮันเตอร์เป็นจำนวนมาก ซัลวาเทอร์เร่ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ในเวลานั้นที่ยูซอดัมได้เจอกับซัลวาเทอร์เร่ที่กำลังทุกข์ทรมานกับความก้าวหน้าที่หยุดนิ่งของเขา ซอดัมได้แนะนำเขากับผู้อำนวยการ ฮันเตอร์จากเกาหลีคนที่มีชื่อเสียงมากจากการควบคุมร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา

อย่างไรก็ตามเซเลสเต้ไม่ได้สนใจอะไรในกังกึมยิมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอเลยคิดแค่ว่ามันคงจะเป็นแค่วันหยุดพักและการผ่อนคลายแต่ตอนนี้แม้ว่าจะผ่านไปแล้วสามเดือนเธอก็ยังไม่มีความคิดที่จะกลับไป

ไม่สิ เธอแม้กระทั้งพูดออกไปว่าเธอจะทำการเปิดตัวของตัวเธอเองที่เกาหลีด้วยซ้ำ

‘และเจ้าเด็กน้อยนี้…เธอดูคลิปวีดีโอของยูซอดัมอีกแล้ว’

ไม่กี่วันก่อนคลิปวีดีโอได้ถูกอัปโหลดลงไปบนยูทีวีที่เป็นช่องโฮสติ้งคลิปวีดีโอระดับโลก

มันเป็นคลิปวีดีโอของฮันเตอร์แรงค์ F ที่กำลังฆ่ามอนสเตอร์แรงค์ B ที่กำลังอาละวาดอย่างเฉียบขาดแต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้พิเศษอะไรถ้าเทียบกับฮันเตอร์จำนวนมากที่อัปโหลดคลิปในแต่ละวัน

30 ปีหลังจากมหาสงครามต่อต้านทัพมอนสเตอร์

การล่าเป็นงานของเหล่าฮีโร่ที่มีแค่ยอดมนุษย์ที่มีพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ทำได้

ฮันเตอร์ธรรมดาทั่วไปได้รับการพิจารณาเหมือนว่าเป็นแค่คนธรรมดา

แต่ในตอนนี้ คนธรรมดาได้ปรากฏขึ้นอย่างทันทีทันใดและปราบมอนสเตอร์แรงค์ B โดยที่ไม่มีพลังพิเศษใด ๆ

คลิปวิดีโอนี้ส่งผลให้เกิดการตอบสนองจำนวนมากและได้รับมากกว่า 30 ล้านวิวในเวลาแค่ไม่กี่วัน

นอกจากนี้สิ่งที่สร้างความตกตะลึงในกับผู้ชมคือเป็นไปได้อย่างไรที่ ฮันเตอร์คนที่แค่มองก็เห็นได้แล้วว่าเขาส่วนใส่แค่ชุดบาง ๆ ซึ่งตัวละครหลักในวีดีโอได้ใส่แค่ฮูดดี้และกางเกงวอร์มอย่างลวก ๆ เอง

‘ไม่ใช่ว่าเขาใส่มันสบาย ๆ เหมือนกับว่าเขากำลังจะไปเดินเล่นใช่ไหม?’

[ซิ130 : เขาคงเป็นคนธรรมดาคนที่ล่าเป็นงานอดิเรก (Like : 11,237/Dislike : 973)]

[4พอน : ยอดมนุษย์คนที่เสียการควบคุม (Like : 6,712 / Dislike : 736)]

[ข้าวโพด : ว้าว เวลาที่ 5.32 ใช้การแรงกระแทกจากกระสุนปืนพกสามารถบล็อกหมัดอย่างนั้นได้ด้วยหรือครับ? (Like : 7,691 / Dislike : 379)]

คนธรรมดาที่ไม่ใช่ฮันเตอร์ก็ยังรู้

ความอ่อนแอของปืนพกเมื่อมันถูกใช้ด้วยฮันเตอร์เพื่อต่อต้านมอนสเตอร์ที่มีความแข็งแกร่งทางร่างกายเป็นพิเศษมันเป็นอย่างไร

มันมีเพียงแค่ในหนังเท่านั้นแหละ ความเป็นจริงมันยากเป็นอย่างมากที่จะนำมาใช้ในชีวิตจริงแต่มันยังถูกใช้ประโยชน์เหมือนกับเกราะป้องกันโดยฮันเตอร์ธรรมดาคนนั้นคนที่ไม่ใช่ยอดมนุษย์

นี้มันเป็นการต่อสู้ที่เหมือนกับศิลปะ

ด้วยความสัจจริงมันเป็นสไตล์การต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบและละเอียดละอ่อนที่ทำให้แม้กระทั้งเธอก็คิดไปว่ามันสวยงาม

บางคอมเม้นแม้กระทั้งบอกว่ามันเป็นการล่าที่ได้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้หมดแล้ว

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างที่ฮันเตอร์ธรรมดาจะสามารถล่อมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งได้ล่วงหน้าเพื่อล่า?

และแน่นอนว่าคอมเม้นเช่นนั้นได้ถูกฝังไป

แม้กระทั้งในตอนนี้จำนวนของยอดวิวก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องการเพิ่มขึ้นของวิวบางส่วนนี้ต้องขอบคุณเซเลสเต้คนที่กำลังดูมันอย่างต่อเนื่อง

เธอคิดไว้แค่ว่าเธอเคยได้เห็นเพลงดาบแบบนี้มาก่อนในชีวิตไหมนะ?

ถึงแม้ว่าเซเลสเต้จะได้รับคำแนะนำจากนักดาบมากมายจากตระกูลคอสแตนตินีและได้เรียนรู้เพลงดาบที่ทรงพลัง เพลงดาบของซอดัมก็ยังคงพิเศษและสวยงามกว่าทุก ๆ เพลงดาบใด ๆ ที่เธอได้เคยเห็นมา

ตอนนี้เธอสามารถแม้กระทั้งจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นบางในคลิปวีดีโอในทุก ๆ นาที และวินาทีของคลิป

ตุ้บ!

เซเลสเต้ยืนขึ้นหลังจากวางโทรศัพท์ของเธอลง

ตอนนี้เธอได้ดูคลิปวีดีโอมามากพอแล้วมันถึงเวลาที่จะนำมันมาปฏิบัติเสียที

เพื่อที่จะเลียนแบบดาบของซอดัม

เธอได้ประลองกับเขาเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาแต่จนถึงตอนนี้ซอดัมไม่เคยใช้เทคนิคดาบเช่นนั้นต่อสู้กับเธอเลยสักครั้ง

ในทางตรงกันข้ามเธอคิดว่าซอดัมกำลังสอนเธอแบบอ้อมมือให้ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามความจริงแล้วมันเป็นสกิลใหม่ที่ซอดัมยังไม่ชำนาญเลยด้วยซ้ำแต่เซเลสเต้ไม่รู้เกี่ยวกับเหตุผลพวกนั้นทำให้เข้าใจเขาผิดไป

เธอได้ขอที่จะประลองกับเขาเพื่อที่เธอจะได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ แต่เธอไม่เชื่อที่ว่าเธอไม่ดีพอสำหรับเขาที่จะแสดงทักษะแบบในคลิปกับเธอ

เธอเคยได้รับประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิตหรือไม่นะ?

คำตอบคือไม่

นี้เป็นครั้งแรงที่มีกำแพงอยู่ตรงหน้าของเซเลสเต้

ดังนั้นเธอจึงมีลางสังหรณ์ว่าถ้าเธอสามารถทำลายกำแพงนี้ได้ความสำเร็จของเธอในอนาคตเธอจะเก่งยิ่งกว่าเดิม

เซเลสเต้เหวี่ยงดาบไม้ของเธอในขณะที่เรียกคืนดาบนั้นของซอดัมในคลิปวีดีโอ

เธอสร้างภาพดาบของซอดัมเหมือนกับว่ามันเป็นการวาดภาพ

เหมือนดอกไม้ หรือไม่ก็การตกลงของน้ำตก ไม่งั้นก็การตกลงของฝน

……………………………………………………..

139

มันคือบัตรคิวที่ยูซอดัมได้รับ

[ดิ๊ง! ฮันเตอร์คิวที่ 129 ได้โปรดมาที่หน้าต่างที่ 4 ด้วยค่ะ]

ในโซลมีตึกสูงระฟ้าที่มีความสูงถึง 130 ชั้นถูกสร้างขึ้นโดยใช้อีเทอร์และมันคือสำนักงานสาขาของสมาคมฮันเตอร์

มีฮันเตอร์จำนวนมากมาที่นี้ด้วยหลาย ๆ เหตุผลแต่เหตุผลที่ว่าทำไมซอดัมมาที่นี้วันนี้นั้นก็เพื่อ ‘การลงทะเบียนกิลด์’

เหล่าฮันเตอร์ไม่สามารถเดินเนินการล่าได้ด้วยตนเอง

เขาต้องอยู่ในกิลด์แต่ไม่มีสักกิลด์ที่ต้องการจะรับเขาเข้าไปเลย เนื่องจากเขาเป็นคนที่เป็นเหมือนของที่ระลึกทั่ว ๆ ไป

นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมซอดัมถึงได้พยายามอย่างสิ้นหวังที่จะอยู่ในกิลด์ลอสเดย์ต่อไปในอดีต

แม้กระนั้นแล้วเข้าก็ไม่ยอมแพ้ที่จะได้รับเงินรางวัล ดังนั้นแล้วเขาได้ชิงเอาข้อได้เปรียบของกฎหมายฮันเตอร์ที่ไม่เป็นระเบียบมาใช้งาน

มันไม่มีกฎที่ว่าคุณไม่สามารถที่จะล่าได้ด้วยตัวคนเดียวผ่านการลงทะเบียนสร้างกิลด์ที่มีแค่คนเดียวยังไงหละ

มันคล้ายกับประเภทของการลงทะเบียนธุรกิจส่วนบุคคล

เขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสร้างกิลด์ที่มีเพียงคนเดียวสำหรับ “การล่าแบบโซโล่” เพราะว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับฮันเตอร์แรงค์ F

อย่างไรก็ตามเขาได้รับการติดต่อโดยกองบัญชาการหลักสำหรับการป้องกันประจำเมืองหลวงเมื่อเร็ว ๆ นี้ และรีบมาที่นี้เพราะว่าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายรางวัลเนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในกิลด์ไหนเลย

ถ้าแรงค์ B ถูกจัดการฉันจะได้รับ 5 ล้านวอนซึ่งเป็นเงินที่ปลอดภาษีแล้ว

แล้วฉันจะพลาดมันได้อย่างไร

“ดังนั้นคุณต้องการในฉันเป็นฮันเตอร์อาวุโสของคุณ?”

งืม งืม

[ดิ๊ง! ฮันเตอร์คิวที่ 131 โปรดมาที่หน้าต่างที่ 9 ด้วยค่ะ]

ซอดัมมองเข้าไปที่ดวงตาของเซเลสเต้คนที่นั่งอยู่ถัดจากเขาและกำลังจ้องตรงมาที่เขา

ดวงตาที่เย็นชาของเธอใส่แจวมากในวันนี้มากกว่าแม้กระทั้งเมื่อก่อนและฉันไม่สามารถพูดสิ่งที่อยู่ในใจเธอออกมาได้

“เธอบอกว่าเธอกำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?”

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาที่คนส่วนมากจะเปิดตัวฮันเตอร์หน้าใหม่

การจบการศึกษาของวิทยาลัยฮันเตอร์ก็อยู่ราวเวลานี้ของปีเช่นกันดังนั้นพวกเขาจะจัดการเปิดตัวทั้งหมดในครั้งเปิดไปเลย

แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแต่ถ้าคุณเป็นพวกวอนนาบีฮันเตอร์ที่เหมือนกับเซเลสเต้ จะมีคนจำนวนมากที่อยากจะขอร้องให้เธอเลือกพวกเขาเหล่านั้นเป็นฮันเตอร์อาวุโสของเธอในการเปิดตัวแต่ซอดัมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเลือกเขา

“ถ้าอย่างนั้นแล้ว….คุณกำลังรออะไรอยู่หรือค่ะ?”

“ฉันกำลังรออะไรอยู่นะหรอ? ฉันได้คิวที่ 139 ฉันต้องรอให้ถึงคิวของฉันก่อนนะสิ”

เธอดูเหมือนว่าจะไม่เข้าใจถึงแม้ว่าฉันจะบอกเธอไปแล้วก็ตาม

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยไปธนาคารเลยใช่ไหมเนี่ย

เมื่อซอดัมคิดแบบนั้นแล้วเซเลสเต้ให้คำตอบที่กระแทกสมองเขาจนแทบจะมึนงง

“ตอนที่ฉันไปกับพ่อพนักงานพาฉันไปที่ห้อง VIP เลยค่ะ”

“…”

เยี่ยมมมม

ตั้งแต่ตอนนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเขาที่จะตั้งกิลด์ขึ้นหลังจากผ่านมา 15 ปีของการล่า ซอดัมรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่จะต้องตั้งวันแมนกิลด์ขึ้นมา

“ฉันไม่มีใครมาด้วยเลย ดังนั้นฉันต้องรอให้ถึงคิวของฉันก่อนนะ”

เธอพยักหน้าเหมือนกับว่าเธอรับรู้แล้วและรอคอยอย่างเงียบ ๆ

ฉันสามารถรู้สึกได้ว่ามีสายตาจำนวนมากของคนที่ผ่านไปผ่านมาที่กำลังจ้องมองมาทางนี้

พวกเขากำลังมองไปที่เซเลสเต้คนที่ดูโดดเด่นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

[ดิ๊ง! ฮันเตอร์คิวที่ 135 โปรดมาที่หน้าต่าง 7 ด้วยค่ะ]

[ดิ๊ง! 136…]

[ดิ๊ง! 137…]

[ดิ๊ง! ฮันเตอร์คิวที่ 139 โปรดมาที่หน้าต่าง 3 ด้วยค่ะ]

หลังจากการรอคอยอันแสนยาวนานในที่สุดมันก็ถึงคิวฉันซะทีและในตอนที่ฉันยืนขึ้นพร้อมกับหมายเลยคิวของฉันก็มีใครบางคนที่มาขว้างข้างหน้าฉัน

ผู้คนรอบ ๆ ฉันเริ่มที่จะส่งเสียงพึมพำ

“ชายคนนั้นมาจากกิลด์ลอสเดย์ใช่ไหมนะ?”

“ใช่เลย คน ๆ นั้นคือแรงค์ S จางฮยอนซอก”

“แล้วเขามาทำอะไรที่นี้เนี่ย”

หน้าที่หล่อเหล่าและร่างกายที่สูงกว่าซอดัมเล็กน้อย

มีตราสัญลักษณ์ของกิลด์ลอสเดย์ที่อยู่บนไหล่ของเขา

ยอดมนุษย์แรงค์ S จางฮยอนซอกยืนขึ้นด้านหน้าของซอดัมยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“นานแล้วนะครับที่ไม่ได้เจอกัน ฮันเตอร์ยูซอดัม”

“เอ่อ เดี่ยวนี้ฉันเป็นคนประเภทที่ยุ่งตลอดเวลานะ”

“คุณมีเวลาว่างพอที่จะคุยกับฉันซักแปบได้ไหม”

จางฮยอนซอกยืนขวางอย่างหนักแน่นที่ด้านหน้ามองสลับกันไปมาระหว่างฉันกับเซเลสเต้แล้วก็พูดขึ้นว่า

“ฮันเตอร์ยูซอดัม คุณคงจะเป็นฮันเตอร์อาวุโสที่จะนำในการเปิดตัวของมิสเซเลสเต้ใช่ไหมครับ?”

เขาไม่หยุดพูดคำพูดลง

แม้ในจังหวะที่ซอดัมกำลังจะตอบกลับไป จางฮยอนซอกก็ยังพูดต่อไป

“อย่างไรก็ตามมิสเซเลสเต้ต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ พูดตามตรงคุณไม่รู้จริง ๆ หรอ? ว่าแทนที่จะมีฮันเตอร์แรงค์ F เป็นคนนำเธอมันจะไม่ดีกว่าหรือที่จะให้มันเป็นแรงค์ S เหมือนกันตัวฉันเอง”

“เฮ้”

เมื่อจางฮยอนซอกสบตากับยูซอดัมเขาผงะถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยที่ไม่รู้ตัว

มันเป็นเพราะสัญชาตญาณของเขา

จางฮยองซอกรู้สึกอึดอัดคล้ายกับว่าเขากลายมาเป็นพวกสัตว์กินพืชที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับสัตว์ป่าที่ดุร้าย

“นี้ฉันกำลังกลัวแรงค์ F หรือเนี่ย?”

ซอดัมมองไปที่จากฮยอนซอกที่แข็งค้างแล้วเดินผ่านเขาไป

“เราสามารถจัดการดูแลเรื่องของเราเองได้ เพราะงั้นไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกันฉัน”

แล้วเซเลสเต้ก็ยืนขึ้นและตามซอดัมไปด้วยแต่จางฮยอนซอกคนที่พึ่งจะได้สติกลับมาได้รีบที่ขว้างทางที่เธอจะเดิน

สำเนียงอิตาเลียนที่แข็ง ๆ ออกมาจากเครื่องแปลภาษาราคาแพงที่สามารถแปลต่างประเทศได้

“มันไม่ใช่ธุระของคุณอยู่แล้วฉันจะถามกันเธอด้วยตัวฉันเอง”

จางฮยอนซอกเปิดปากของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“มิสเซเลสเต้ คุณ…”

“ไม่ค่ะ”

เขาอึ้งไปอีกครั้ง

เหงื่อที่เย็นยะเยือกของเขาไหลออกมาพร้อมด้วยสีหน้าที่มีแววซับซนงุนงงแปลก ๆ

“….อะไรนะ? ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ครับ ค่อยคิดอีกสักครั้ง”

“ฉันไม่มีอะไรที่จะต้องเรียนรู้จากคุณค่ะ”

เซเลสเต้จีบปลายนิ้วชี้และปลายนิ้วโป้วจนเกือบที่จะชนกัน

“ไม่มากเท่านี้ด้วยซ้ำค่ะ”

ในขณะเดียวกันซอดัมได้มาถึงที่หน้าต่าง 3 แล้วและกำลังนั่งลง

แล้วเซเลสเต้ก็ได้ตามเขามาและนั่งถัดไปจากเขา

“หืม? เธอไม่คุยกับเขาแล้วหรือ?”

“อือ”

แล้วเซเลสเต้ก็ผงกหัวของเธอซอดัมแสดงสีหน้าออกมาประมาณว่า “โหจริงป่าวเนี่ย?”

จางฮยอนซอกที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมกำลังมองไปที่ด้านหลังของยูซอดัม

‘ฉันคิดว่าเขาคงจะหักคอฉันแน่ถ้าฉันใช้พลังของฉันในตอนนี้’

ใช่แล้วแรงค์ F คนนั้นคงทำมันแน่

ด้วยเหตุผลบางอย่างจางฮยอนซอกไม่คิดว่าเขาจะชนะเลย

เขาก็เป็นทหารผ่านศึกคนที่ได้สู้รบในสนามรบมาเป็นเวลาหลายต่อหลายปีเพราะงั้นแล้วเขามีสามารถรับรู้ถึงระดับของคู่ต่อสู้ของเขาได้โดยสัญชาตญาณและไอ้เจ้าสัญชาตญาณบ้านี้มันกำลังเตือนเขาในตอนนี้

อย่าเป็นศัตรูกับคน ๆ นี้

ในท้ายที่สุดจากฮยอนซอกก็หันหลังกลับและจากไปหลังจากที่มองไปที่ด้านหลังของทั้งคู่เป็นเวลานาน

“…เราจะได้เห็นดีกันในตอนที่ถึงเวลาเปิดตัวของเธอ”