บทที่ 235 ถูกจับ
บทที่ 235 ถูกจับ
ตอนนี้ฉู่เหินรู้สึกได้เลยว่าคนตรงหน้าเป็นตัวปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเขา หญิงชราคนนี้ไม่ธรรมดาเลย! ฉู่เหินรู้สึกว่าหญิงชราคนนี้ต้องเหนือกว่าขั้นผู้พิชิตดวงดาวขึ้นไปอย่างแน่นอน!
แม้จะอยู่ภายใต้การจ้องมองของผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าระดับผู้พิชิตดารา ฉู่เหินก็ไม่ถอย แต่ตอนนี้เขากำลังคิดหาทางเอาชนะอีกฝ่ายอยู่! ยากมากที่จะสังหารคนระดับนี้ แม้เขาจะทุ่มพลังทั้งหมดก็ยังยากเกินไป!
“หนุ่มน้อย เธอช่างนิ่งเสียจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถหลบหนีกับดักที่ฉันวางไว้ได้ หนีมาถึงนี้ได้ก็ถือว่าเก่งใช้ได้ ตอนนี้กลับไปกับฉันเถอะ ถ้าเธอว่าง่ายและให้ความร่วมมือกับฉัน ฉันจะไว้ชีวิตเธอ” ใบหน้าของหญิงชราเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากมองเขาจากหัวจรดเท้าดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา
สายตานั้นทำให้ฉู่เหินรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกอีกฝ่ายมองทะลุร่าง เหมือนกับว่ากำลังเหมือนเปลือยกายอยู่ยังไงอย่างนั้น แค่ชายตามองผ่านๆ อีกฝ่ายก็สามารถตรวจสอบทั้งร่างกายและจิตใจของเขาได้แล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือผู้หญิงอายุ 60-70 ปีคนนี้มองเขาด้วยดวงตา ละโมบนั่น ยิ่งทำให้ฉู่เหินรู้สึกอึดอัดจริงๆ
“ไม่กล้าๆ รบกวนผู้อาวุโสแล้ว พอดีว่าที่บ้านของผู้น้อยกำลังมีปัญหา ถ้าในอนาคตมีโอกาส ผู้น้อยจะกลับมาเยี่ยมอย่างแน่นอน! ผู้อาวุโสโปรดให้ผู้น้อยได้ผ่านไปเถิด”
ดวงตาของฉู่เหินหรี่ลง เขาพร้อมที่จะโจมตีทุกเมื่อ แต่เขาก็รู้ดีว่าการโจมตีของเขานั้นมันไร้ประโยชน์กับหญิงชราคนนี้ นอกเสียจากเขาจะใช้เม็ดยาระเบิดกลายพันธุ์ แต่ในระยะใกล้เช่นนี้หากเม็ดยาระเบิดกลายพันธุ์นั้นระเบิดขึ้นจริงๆ เกรงว่าคงยากที่จะรับประกันชีวิตน้อยๆ ของเขาไว้ได้
“หนุ่มน้อย ยิ่งเป็นเธออย่างนี้มันยิ่งทำให้ฉันชอบเธอมากยิ่งขึ้น เธอไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ทั้งยังหล่อมากๆ ด้วย ถ้าเธอสัญญาว่าจะมารับใช้ฉันที่รัง ฉันจะไล่คนก่อนหน้าออกทั้งหมดและจะอยู่กับเธอตลอดชีวิต” หลังจากหญิงชราครุ่นคิดสักพัก ก็พูดประโยคดังกล่าวออกมา ทำให้ฉู่เหินตกใจไม่น้อย
จะบอกว่าไม่กลัวก็ไม่ได้ ต้องบอกว่าสะอิดสะเอียนมากกว่า ล้อเล่นรึไง
ให้เอาผู้หญิงแก่แบบนี้เป็นภรรยา แค่คิดเหงื่อเย็นๆก็ไหลออกมาอย่างอดไม่ได้ เขารู้สึกว่าคนตรงหน้า ไร้ยางอายซะมัด วัวแก่กินหญ้าอ่อน แถมยังพูดเองเออเองอีกต่างหาก อยากกินก็ไปกินคนอื่นไม่ต้องมาหลอกฉันเลยนะ!
แค่คิดว่าต้องนอนข้างๆ หญิงชราบนเตียง ฉู่เหินก็รู้สึกสะอิดสะเอียนจนจะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ว่าไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ เกรงว่าเขาคงจะพุ่งเข้าไปต่อยหน้าเธอแล้ว!
“เฮอะ คุณมันคนแก่ไร้ยางอาย คิดไม่ถึงว่าจะอยากได้ร่างกายฉัน พูดได้คำเดียวไร้ยางอาย” แน่นอนว่าทั้งหมดเขาพูดออกมาในใจเท่านั้น ไม่กล้าพูดออกไป
“หนุ่มน้อย การที่ฉันได้พบเธอถือว่าเป็นโชคดีของเธอ นอกจากนี้การอยู่กับฉันมีอะไรไม่ดีตรงไหน ในตอนแรกฉันอยากจะกำจัดเธอด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่ได้เปลี่ยนรังมาหลายปีแล้ว พวกเด็กๆ ก็เริ่มเหนื่อยกันแล้วด้วยหากเธอสัญญาว่าจะอยู่กับฉัน ฉันยินดีที่จะใช้ของวิเศษที่มีทั้งหมดเพื่อทำให้เธอมาอยู่ระดับเดียวกับฉันโดยเร็วที่สุด”
“มีโอกาสเช่นนี้ไม่มาก หนุ่มน้อยทางที่ดีเธอควรจะคิดดีๆ ก่อนจะให้คำตอบ ซึ่งถ้าเธอไม่เห็นด้วยสิ่งเดียวที่รออยู่ก็คือความตาย แต่หากเธอเห็นด้วยโชคชะตาของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน”
หญิงชราตอนแรกจะจับฉู่เหินกลับไปเป็นอาหารเพื่อฟื้นฟู แต่เมื่อเธอได้เห็นฉู่เหินเธอก็เปลี่ยนใจ เธอคิดว่าฉู่เหินนั้นมีศักดิ์ศรีและมีความสามารถ มันคงจะดีถ้าเธอได้คนแบบนี้เป็นคู่ครอง
ส่วนเรื่องการฟื้นฟูวรยุทธก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวล แม้ว่าใช้เวลาช้ากว่าเดิมหลายปีในการฟื้นตัว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากไปกว่าหาคนรักสักคนที่เหมาะสม
หลังจากฉู่เหินได้ฟังคำพูดของหญิงชรา ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างสมบูรณ์
“ผู้อาวุโส ขอให้ฉันได้ถามได้มั้ยว่าฉันมีดีตรงไหน?” หลังจากได้ยินดังนั้น หญิงชราก็ยิ้มเบาๆ ขณะกำลังจะพูดถึงข้อดีของฉู่เหิน แต่ฉู่เหินก็ไม่ให้โอกาสเธอได้ตอบ เขาพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ผู้อาวุโส ถ้าคุณบอกว่าฉันดีตรงไหน ฉันขอเปลี่ยนตรงนั้นเลยได้ไหม?”
หลังจากได้ยินเช่นนี้หญิงชราก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เปลี่ยนบ้าบออะไรของเธอ หลายปีแล้วนะที่ฉันต้องตามหาสามีในฝัน คิดว่าง่ายนักรึไงถึงจะหาคนแบบเธอได้!”
เธอยังคงพูดต่อ “หนุ่มน้อย ฉันไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไง แต่ตอนนี้เธอมีแค่ 2 ทางเลือกคือ จะตายที่นี่หรือจะมาเป็นสามีของฉัน” เธอพูดขณะจ้องมองไปที่ฉู่เหิน
หลังจากได้ยินแบบนั้นฉู่เหินก็ถอนหายใจอีกครั้ง เขาอดพึมพำเบาๆไม่ได้ว่า “ฉันเคยคิดว่าสิ่งที่ฉันภูมิใจได้ในชีวิตคือรูปร่างหน้าตา แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่านี่มันต้นตอของหายนะชัดๆ! ไม่คิดเลยว่าความหล่อจะทำให้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ อยากเสียโฉมเสียจริง”
แม้ว่าหญิงชราจะไม่รู้วิธีอ่านใจและไม่รู้ว่าฉู่เหินคิดอะไรในตอนนี้ แต่หลังจากได้เห็นสีหน้าของฉู่เหินเธอก็รับรู้ได้ทันทีว่าเขาคิดอะไรอยู่
“หนุ่มน้อย อย่าอายไปเลยน่า พลังของฉันไม่คู่ควรกับเธอตรงไหน? ฉันถือว่าเป็นเครื่องหอมที่บรรพบุรุษของเธอเผามาแปดชั่วอายุแล้วเลยนะ”
(หมายถึงสิ่งที่ดีที่สุดที่ตระกูลเผาส่งต่อไปให้กับลูกหลานหรือบรรพบุรุษ)
“ผู้อาวุโส ไม่ใช่ว่าคุณไม่สมควรกับฉัน แต่เป็นฉันไม่คู่ควรกับคุณต่างหาก วิชาอมตะของคุณสูงส่งมาก ในสายตาของฉัน คุณเป็นคนที่อยู่บนฟ้า ความงามของคุณคือสิ่งที่ขัดขืนไม่ได้เหมือนนกยูงที่สวยงามและเสียงของคุณก็เหมือนเสียงนกน้อยแสนไพเราะ เห็นไหมไม่เหมาะๆ”
“คุณดีเกินไปทำให้เราเข้ากันไม่ได้! แต่ถ้าคุณต้องการ ฉันรู้จักคนๆ หนึ่งน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า ไม่ว่าจะฐานะหรือรูปลักษณ์ภายนอก”
หลังจากพูดเช่นนี้จบฉู่เหินพยายามอดทนสุดๆที่จะไม่อ้วกออกมา แม้จะรู้สึกคลื่นไส้ก็ตาม!
“อย่าพูดถึงคนอื่นเลย คนที่อยู่ตรงหน้าตราบใดที่เป็นเธอชีวิตนี้มันก็เพียงพอแล้ว!”
หลังจากได้ยินเช่นนั้นฉู่เหินก็อยากร้องไห้ออกมาโดยปราศจากน้ำตาเขามีคำนับพันที่อยากพูดออกมา มีคำกล่าวที่ได้ยินบ่อยๆว่าผู้หญิงสวยเป็นบ่อเกิดของหายนะ แต่ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าผู้ชายหน้าตาดีก็หายนะได้เช่นกัน
ฟังสิ่งที่ยัยแก่นี้พูดสิ ตัวเองมีนายบำเรอตั้งมากมายในรังตัวเอง ยังกล้าพูดว่าอยากให้เขาไปอยู่ข้างกายเนี่ยนะ
“หนุ่มน้อย ฉันจะทำดีต่อเธอให้มากๆ มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่เบื่อเธออย่างแน่นอน ต่อให้เธอไม่เก่งเรื่องบนเตียงก็ตาม”
หลังฉู่เหินได้ยิน เส้นสีดำทึบก็ปรากฏขึ้นเป็นบนใบหน้าของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาว่า “คุณยายไม่รู้หรือไงว่าคุณไม่สามารถพูดแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายได้ ผมบอกเลยนะว่าผมเก่งเรื่องบนเตียงมากๆ แต่ไม่ใช่กับคุณ!”
“ช่างมันเถอะ หนุ่มน้อยฉันจะไม่พูดไร้สาระกับเธอแล้ว ไปกลับไปกับฉัน!” หลังจากกล่าวจบหญิงชราโบกมือของเธอ ลำแสงพุ่งเข้ามาหุ้มตัวฉู่เหินเอาไว้ทันที ฉู่เหินดิ้นรนต่อต้านอย่างรุนแรง แต่เขาก็พบว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่เหนือกว่า การดิ้นรนที่ว่าของเขานั้นช่างไร้ค่าเสียเหลือเกิน
เขาไร้พลังที่จะต่อต้านหญิงชราโดยแท้ แม้กระทั่งการตอบโต้เต็มกำลังที่เขาเตรียมไว้ก็ยังไม่ทันจะได้ปล่อยออกมาด้วยซ้ำ เขาก็ถูกมัดโดยอีกฝ่าย อย่างง่ายดายทำให้ฉู่เหินรู้สึกอ่อนแออย่างยิ่งและในเวลาเดียวกันฉู่เหินก็สัญญากับตัวเองว่าถ้าเขาหนีไปได้จะไม่ยอมให้ตัวเองถูกจับแบบนี้อีกเด็ดขาด เพราะความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างมันน่าหงุดหงิดจริงๆ
ระหว่างขึ้นลงภูเขา ฉู่เหินพบว่าตัวเขาราวกับเมฆที่ลอยอยู่ในท้องฟ้า
แม้หญิงชราจะไม่ใช้ของวิเศษ แต่ทุกก้าวที่เธอก้าวทำให้เธอเคลื่อนตัวไปกว่า 100 ลี้ ความเร็วขนาดนี้แค่พริบตาเดียวฉู่เหินก็หายเข้าไปในเทือกเขาแล้ว!
เมื่อเขารู้สึกตัวเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในลานกว้าง ที่นี่คือบ้านพักโบราณ แม้มันจะดูไม่สวยงามเท่าภายนอก แต่มันก็ดูแปลกตา แค่มองดูฉู่เหินก็รู้ได้ทันทีว่านี้คือที่ที่เขาต้องอยู่อีกนาน