บทที่ 139 ตกลงทะเล

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ถึงแม้เธอจะคาดเดาไว้แล้ว แต่พอได้ยินจริงๆ ก็ยังรับไม่ได้

“ถูกต้อง วารุณีเป็นแฟนผม”พงศกรโอบไหล่ของวารุณี เอามาไว้ในอ้อมแขนตัวเอง

วารุณียักไหล่ ฝืนยิ้มให้คุณแอนนี่“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อวารุณี”

คุณแอนนี่ไม่ตอบ กัดริมฝีปากมองไปที่พงศกร สายตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เหมือนว่ากำลังตำหนิเขาว่าทำไมถึงมีแฟน

แต่พงศกรทำเหมือนมองไม่เห็น พาวารุณีออกไปจากห้องรับรองอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า

ทางเดินด้านนอก

วารุณีเขย่าไหล่ เตือนให้พงศกรปล่อยมือ

พงศกรจึงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ รีบเอามือออก“ขอโทษนะวารุณี ผมลืมไป”

วารุณีก็ไม่ได้สงสัยที่เขาพูด ส่ายหน้าให้“ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ฉันถือว่ารู้แล้ว ทำไมคุณถึงต้องให้ฉันปลอมตัวเป็นแฟนคุณมาร่วมงานแต่งตั้งแต่แรก”

“อ้อ ทำไมเหรอ?”พงศกรเงยตาขึ้น

วารุณีมองไปที่ห้องรับรองด้านหลัง“เพราะว่าคุณแอนนี่สินะ เธอชอบคุณ เลยเป็นจุดประสงค์ที่คุณให้ฉันมาเป็นแฟนคุณ เพราะหวังว่าเธอจะถอดใจจากคุณ ฉันพูดถูกไหม?”

พงศกรหัวเราะเบาๆ“ประมาณนั้น โอเค ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ผมจะไปเดินเล่นกับคุณ”

“อื้อ”วารุณีตอบกลับอย่างดีใจ

เวลาถัดมา ทั้งสองคนเดินเล่นไปหลายที่แล้ว สวนสนุกไปมาแล้ว ห้างสรรพสินค้าก็ไปมาแล้ว ห้องอาหารก็ไปมาแล้ว สุดท้ายจึงมาที่ดาดฟ้าชั้นหนึ่งของเรือสำราญเพื่อมาดูทะเล

วารุณียืนอยู่หน้ารั้ว สองมือจับรั้วไว้ มองดูทะเลสีฟ้าใสอย่างตื่นเต้น

เวลานี้ลมทะเลพัดเบาๆ เอากระโปรงยาวกับผมยาวของเธอปลิวสูงขึ้น เหมือนกับนางฟ้า

ฉากนี้ ทำให้คนจำนวนมากมองจนตะลึง แม้กระทั่งยังมีช่างภาพที่หยิบกล้องมา ถ่ายรูปของเธอไว้อย่างทนไม่ไหว

วารุณีตระหนักได้ ก็โพสต์หลายๆท่าอย่างให้ความร่วมมือ ให้ช่างภาพคนนั้นถ่าย

หลังจากช่างภาพถ่ายเสร็จ ก็มาตรงหน้าของวารุณีกับพงศกร ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของทั้งสองคน เอาฟิล์มแกะออกมาจากกล้องของตัวเองยื่นให้วารุณี บอกว่าให้เธอ แล้วยังชมว่าเธอสวย

วารุณีก็รู้สึกประหม่า รีบฟิล์มมาก็ไม่หยุดขอบคุณ

ช่างภาพโบกมือ สื่อว่าไม่ต้องขอบคุณ จากนั้นก็ออกไป

พงศกรเอาฟิล์มจากมือวารุณีมา มองดูใต้แสงอาทิตย์“ก่อนหน้านี้ที่ออกมา ผมเห็นร้านถ่ายรูปอยู่หนึ่งร้าน เดี๋ยวผมเอารูปไปออกมาก่อน คุณรอผมที่นี่นะ”

พูดไป เขาก็หมุนตัวออกไป โอกาสปฏิเสธก็ยังไม่ให้วารุณี

วารุณีหัวเราะอย่างทำอะไรไม่ได้ ได้แต่หยุดความคิดที่จะเรียกเขาไว้ รอเขากลับมาตรงนี้อย่างเชื่อฟัง

หลังจากรอสักพัก พงศกรก็ยังไม่มา กลับกันรอจนเห็นคุณแอนนี่ และเพื่อนของเธอสองคนจากห้องรับรอง

“คุณหมอพงศกรล่ะคะ?”คุณแอนนี่หยุดอยู่ตรงหน้าวารุณี มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นร่างของพงศกร ก็อดไม่ได้ที่จะสอบถาม

วารุณีไม่ได้ปิดบังเธอ พูดสถานที่ที่พงศกรไป

คุณแอนนี่พยักหน้า แสดงออกว่ารู้แล้ว จากนั้นสายตาก็สำรวจวารุณีจากหัวจรดเท้า“คุณเป็นแฟนของคุณหมอพงศกรจริงเหรอ?”

สายตาวารุณีเป็นประกายอย่างร้อนตัว อยากพูดมากว่าตัวเองไม่ใช่

แต่เธอไม่ลืมที่ตัวเองรับปากไว้ ดังนั้นจึงได้แต่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“แน่นอนค่ะ เป็นแฟนจริงๆค่ะ”

คุณแอนนี่กำฝ่ามือไว้แน่น“แต่ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยได้ยินเลย พวกคุณรู้จักกันนานแค่ไหน?”

ในใจวารุณีก็ภาวนาให้พงศกรรีบกลับมา แล้วก็ทำเป็นตอบไปอย่างนิ่งๆว่า“เกือบห้าปีแล้วค่ะ”

“ห้าปี!”คุณแอนนี่ตกใจทันที

รู้จักกับคุณหมอพงศกรก่อนเธอถึงสี่ปีแหนะ!

เวลานี้ คุณแอนนี่ก็อดไม่ได้ที่จะท้อแท้เล็กน้อย

แต่แป๊บเดียว เธอก็ฟื้นคืนจิตใจอีกครั้งภายใต้คำแนะนำของเพื่อนด้านหลัง เงยคางขึ้นเล็กน้อย ชำเลืองมองวารุณีอย่างเย่อหยิ่ง“ถึงคุณเป็นแฟนของคุณหมอพงศกร รู้จักคุณหมอพงศกรก่อนฉันแล้วจะทำไม ฉันชอบคุณหมอพงศกร”

“ฉันรู้ค่ะ”วารุณีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

คุณแอนนี่ไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะตอบสนองอย่างนี้ ไม่หึงแม้แต่น้อย ก็ขมวดคิ้วอย่างทนไม่ไหว เริ่มสงสัยว่าเธอรักคุณหมอพงศกรหรือไม่

“ในเมื่อคุณรู้ งั้นฉันก็จะไม่อ้อมค้อม ฉันจะพูดตรงนี้ ฉันจะจีบคุณหมอพงศกร”คุณแอนนี่พูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างมาก

วารุณีเลิกคิ้วขึ้น“แต่เขามีแฟนแล้ว คุณ……”

“คุณไม่คู่ควรกับเขา!”คุณแอนนี่ตัดบทของวารุณี

วารุณีเม้มริมฝีปาก

คุณแอนนี่เอามือกอดอก“ฉันสืบหาข้อมูลของคุณมาบ้างแล้ว คุณเป็นแค่ดีไซเนอร์เสื้อผ้าธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีพื้นเพครอบครัวที่โดดเด่น คนแบบคุณ ไม่อาจช่วยเหลืออะไรคุณหมอพงศกรได้”

“ช่วย?”วารุณีเอาผมทัดหู

คุณแอนนี่พยักหน้า“ใช่ คุณหมอพงศกรทักษะทางการแพทย์ที่ดีมาก เขาถูกกำหนดไว้แล้วว่าอนาคตจะต้องอยู่ในจุดที่สูง กลายเป็นคนที่ตระกูลใหญ่ๆทั้งหลายนับถือ”

“อันนี้ฉันทราบค่ะ เพราะว่ามีแค่ชีวิตเดียว หมอที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ดี ต้องถูกคนชื่นชมอยู่แล้ว”วารุณีตอบกลับ

คุณแอนนี่หรี่ตาลง“ในเมื่อคุณรู้ งั้นคุณก็น่าจะรู้ดีว่า ต่อไปคนที่คุณหมอพงศกรสัมผัสด้วยก็มีแต่คนดัง และภรรยาของเขาก็ควรจะเป็นคนในแวดวงนั้น มีแค่แบบนี้ ถึงจะสามารถช่วยเขาเจ้าสู่แวดวงนั้นได้ดีขึ้น แต่คุณเป็นแค่ดีไซเนอร์เสื้อผ้า ดังนั้นคุณคิดว่าคุณทำได้ไหม?”

ฟังคำพูดดูถูกพวกนี้ คิ้วของวารุณีขมวดเข้าหากัน

ถึงแม้เธอไม่ใช่แฟนที่แท้จริงของพงศกร แต่ในใจก็อึดอัดเล็กน้อย

ดังนั้นตอนนี้ใบหน้าเล็กๆของวารุณีหม่นลง เม้มริมฝีปากแดงๆพูดไปว่า“ตอนนี้ฉันทำไม่ได้ แต่ต่อไปหมายถึงใครเหรอคะ ฉันเรียนรู้ไม่ได้เลยเหรอไง?”

“คุณ……”คุณแอนนี่กระอักกระอ่วน จากนั้นจึงกำมือทั้งสองข้างไว้แน่น“เรียนรู้?คุณจะเอาอะไรไปเรียน?คุณคิดว่าคุณเรียนแล้ว คนในแวดวงชั้นสูงจะยอมรับคุณเหรอ?”

“อันนี้ไม่ต้องให้คุณแอนนี่มาห่วงหรอกค่ะ ไม่ว่าพวกเขาจะยอมรับฉันไหม ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ที่ฉันเป็นแฟนของพงศกร แค่พงศกรไม่ทิ้งฉันก็พอค่ะ”วารุณียิ้มอย่างนิ่งๆให้เธอ จากนั้นหันกลับจะเปลี่ยนที่ ไม่อยากคุยกับเธออีกต่อไป

คุณแอนนี่เห็นวารุณีไม่สนใจเธอ ก็กระทืบเท้าทนไม่ไหว“คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

วารุณีทำเป็นไม่ได้ยิน เดินหน้าต่อไป

คุณแอนนี่โกรธจนตัวสั่น เพื่อนสองคนด้านหลังของเธอเห็นแบบนี้ พอสบตากันเสร็จ ก็ช่วยเธอระบายความโมโห ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปทางวารุณี ยื่นมือผลักวารุณีแรงๆ

แรงที่ทั้งสองคนผลักไปด้วยกันทำให้เพิ่มขึ้นอีกเท่า เดิมทีวารุณีเดินอยู่ติดรั้วของดาดฟ้า ถูกผลักไปแบบนี้ ร่างทั้งตัวเธอก็ลอยขึ้นมา พลิกตัวไปจากรั้ว หลังจากกรีดร้องออกมา ก็ตกลงไปในทะเล มีน้ำกระเซ็นขึ้นมาอย่างสูง

ฉากนี้ ทำให้คนที่อยู่รอบๆต่างตะลึง

เพื่อนทั้งสองคนของคุณแอนนี่ก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดขาว ตัวสั่นไปทั้งตัว

คุณแอนนี่ก็ตระหนักได้ว่าพวกเธอกำลังมีปัญหา จึงหันหลังกลับหนีไปทันที อย่างรีบร้อน

พงศกรล้างรูปเสร็จกลับมาด้วยใบหน้าดีใจ พอเดินไปถึงดาดฟ้า ก็ชนเขากับคุณแอนนี่พอดี

ถ้าเป็นปกติ กลัวว่าคุณแอนนี่จะกอดเขาไม่ยอมปล่อยมือเสียแล้ว แต่ครั้งนี้ เธอกลับมองเขาอย่างตื่นตระหนก วิ่งเร็วขึ้น แม้แต่เพื่อนทั้งสองคนของเธอ ก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วจากด้านข้างเธอ

“เกิดอะไรขึ้น?”พงศกรดันแว่น สงสัยเล็กน้อย

แต่ไม่รอให้เขาคิดได้ จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย

“วารุณี?”ฟังออกว่าเสียงขอความช่วยเหลือเป็นเสียงของวารุณี สายตาพงศกรก็เพ่งไป รีบหาต้นเสียง สุดท้ายพอแน่ใจว่าเสียงดังมาจากเรือสำราญ สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบถลาไปตรงหน้ารั้วแล้วมองลงไป