ตอนที่ 155 ท่านพ่อผู้รับงาน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 155 ท่านพ่อผู้รับงาน

ฟ่านเหอหลงรออยู่ด้านล่าง

ทันใดนั้นรถยนต์ก็จอดอยู่ด้านหน้าบริษัท

มีคนลงมาจากรถสองคน

ด้านซ้ายคือกู้ตงซึ่งฟ่านเหอหลงรู้จัก ด้านซ้ายเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาโดดเด่น แต่ท่าทางเย็นชาอยู่สักหน่อย

จะเรียกว่าเป็นเด็กชายก็จะเยาว์วัยเกินไปหน่อย

จะบอกว่าเป็นชายหนุ่มก็จะอาวุโสเกินไปหน่อย

แต่สิ่งที่มั่นใจก็คือ นี่เป็นเด็กหนุ่มที่มองครั้งแรกแล้วอดมองอีกครั้งไม่ได้

กู้ตงแปลกใจอยู่สักหน่อยที่ฟ่านเหอหลงมาต้อนรับด้วยตนเอง รีบเอ่ยแนะนำว่า “นี่คืออาจารย์เซี่ยนอวี๋ค่ะ”

“สวัสดีค่ะอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”

ฟ่านหลงเหอยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นมาข้างหน้า ด้านข้างก็มีเงาสายหนึ่งเดินผ่านข้างกายไป ออกตัวทักทายเซี่ยนอวี๋ทันที

หลัวฉี!

ฟ่านหลงเหอถลึงตาโต

หลัวฉีสีหน้ายิ้มแย้ม ยื่นมือออกมาด้วยท่าทีกระตือรือร้น “ฉันเป็นหัวหน้าแผนกดนตรีของธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ยินดีต้อนรับสู่บริษัทของเราค่ะ!”

หลินเยวียนจับมือกับอีกฝ่าย

ฟ่านหลงเหอได้สติกลับมา ในใจนึกเคียดแค้นหลัวฉี รีบปรี่เข้าไป “อาจารย์เซี่ยนอวี๋สวัสดีครับ ผมคือฟ่านหลงเหอหัวหน้าแผนกประพันธ์เพลงคนที่ขอเพลงจากคุณในครั้งนี้!”

“รองหัวหน้าฟ่าน…”

หลัวฉีเอ่ยขึ้นมาราวกับจงใจ

ฟ่านหลงเหอกัดฟันกรอด ไม่ได้สนใจเธอ ผู้หญิงคนนี้มาไม้นี้ ทำอย่างกับว่าเธอเป็นคนขอเพลงจากอาจารย์เซี่ยนอวี๋อย่างนั้นแหละ!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง

ฟ่านหลงเหอก็อดรู้สึกนับถืออยู่ในใจไม่ได้ เห็นชัดๆ ว่าตนใช้เซี่ยนอวี๋มาเอาชนะเธอ แต่ในตอนนี้เธอกลับปฏิบัติต่อเซี่ยนอวี๋เป็นอย่างดีโดยปราศจากท่าทีเคืองโกรธ ถึงขั้นที่เกินหน้าเกินตาตนด้วยซ้ำ

“สวัสดีครับ”

หลินเยวียนจับมือกับฟ่านเหอหลงอีกครั้ง “อัดเพลงได้มั้ยครับ”

“ได้ครับๆ!”

ฟ่านหลงเหอและหลัวฉีนำทางไป

ระหว่างที่เดินไป ทั้งสองคนก็สบตากัน สายตาเชือดเฉือนกันดุเดือด

“หัวหน้าหลัวฉีไปทำงานเถอะครับ ถึงยังไงอาจารย์เซี่ยนอวี๋ก็เป็นคนที่ผมเชิญมา”

“ไม่เป็นไร รองหัวหน้าฟ่านมีงานอะไรก็ไปทำได้เลย”

หลัวฉีเอ่ยอย่างสมเหตุสมผล “ถึงยังไงอาจารย์เซี่ยนอวี๋ก็มาด้วยตัวเอง ฉันในฐานะผู้รับผิดชอบอันดับหนึ่งของแผนกดนตรีจะไม่มาดูแลได้ยังไง ทำแบบนั้นจะไม่เสียมารยาทไปเหรอคะ”

ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใคร

สุดท้ายแล้วก็พาหลินเยวียนและกู้ตงมาถึงห้องอัดเสียงของบริษัท

ระหว่างทาง พนักงานไม่น้อยพบเห็นภาพเหตุการณ์นี้ สีหน้าก็ล้วนฉายแววตื่นตะลึง

กู้ตงเดินตามอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าสับสน

แน่นอนว่าเธอไม่รู้สถานการณ์ของธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ แต่เธอก็มองออกว่าฟ่านหลงเหอกับหลัวฉีกำลังแย่งกันต้อนรับขับสู้ตัวแทนหลิน

เป็นบริษัทใหญ่ไม่ใช่หรือไง

ทำไมถึงรู้สึกว่าท่าทีที่สองคนนี้มีต่อตัวแทนหลิน ไม่ได้ต่างอะไรกับบริษัทย่อยอย่างเราเลยล่ะ

นี่คือท่านพ่อผู้ว่าจ้างรายใหญ่ของฉีโจวเหรอ

สรุปแล้วใครเป็นท่านพ่อกันแน่เนี่ย

หลังจากถึงห้องอัดเสียงแล้ว

ฟ่านหลงเหอเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “อาจารย์เซี่ยนอวี๋มีนักร้องที่เลือกไว้หรือยังครับ”

หลัวฉีเสริมว่า “ถ้าไม่มีละก็ ฉันจะส่งข้อมูลของนักร้องทั้งหมดในบริษัทไปให้คุณลองดูนะคะ”

หลินเยวียนถาม “ถานข่ายเป็นนักร้องบริษัทพวกคุณใช่มั้ยครับ”

หลัวฉีกับฟ่านหลงเหอชะงักงันไปพร้อมกัน

กู้ตงเองก็มองหลินเยวียนด้วยความตกใจ

ถานข่ายเป็นพระเอกเรื่องระยะห่างระหว่างเรา ไม่มีใครคาดคิดว่านักร้องที่เซี่ยนอวี๋เลือกจะเป็นเขาคนนี้

ฟ่านหลงเหอเอ่ยราวกับกำลังขบคิด “ถานข่ายเป็นศิลปินในบริษัทเราก็จริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่นักร้องครับ เป็นนักแสดง แต่ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเดบิวต์ในฐานะนักร้องมาก่อน เพียงแต่เติบโตไม่ดีอย่างที่คาด เลยมาเป็นนักแสดง ปรากฏว่าความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการแสดงเหมาะสมกับเขา”

“ตัวเลือกนี้ เหมือนจะไม่เลวเลยนะคะ”

หลัวฉีก็กระซิบว่า “เนื้อเพลงชอบเธอมาจากมุมมองของพระเอก ถ้าให้พระเอกร้อง ก็จะยิ่งทำให้คนฟังเข้าถึงได้มากกว่าเดิม”

“งั้นก็เลือกเขาแล้วกันครับ”

ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินเยวียนค้นข้อมูล ก็ได้ฟังเพลงของถานข่าย แม้ว่าเพลงจะธรรมดา แต่หลินเยวียนคิดว่าเนื้อเสียงของถานข่ายเหมาะสมมาก

“แต่ไม่รู้ว่าถานข่ายมีเวลาหรือเปล่า…” หลัวฉีกล่าวด้วยความลังเล

ฟ่านหลงเหอพูด “เดี๋ยวผมลองติดต่อดูก่อน”

เขากดโทรศัพท์ สองนาทีให้หลัง ฟ่านหลงเหอพยักหน้าพูดว่า “ทางนั้นไม่มีปัญหา”

……

ผ่านไปสักพัก ถานข่ายก็มาถึง

กู้ตงคล้ายว่าจะเป็นแฟนคลับของถานข่าย สีหน้าจึงแลดูตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

ถานข่ายเดินเข้าไปหาหลินเยวียน “สวัสดีครับ ผมคือถานข่ายนะครับ”

“เซี่ยนอวี๋ครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า “ลองทำความคุ้นเคยกับเพลงก่อนครับ”

ถานข่ายเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ก่อนหน้านี้หัวหน้าฟ่านส่งเดโมมาให้ผมแล้ว ระหว่างทางผมฟังจนคุ้นเคยแล้วครับ”

เมื่อก่อนถานข่ายเป็นนักร้อง เพียงแต่ภายหลังมาเป็นนักแสดง ยังไม่ได้ทิ้งความสามารถในสายอาชีพไป

ระหว่างทางเขาเปิดเพลงเดโมซึ่งแทบจะสมบูรณ์แบบฟังวนไปหลายรอบ ในตอนนี้เขาสามารถร้องเพลงออกมาได้โดยไม่ดูเนื้อเพลง

“งั้นเรามาอัดเพลงกันครับ”

หลินเยวียนไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินตรงเข้าไปในสตูดิโอ

ถานข่ายหัวเราะ เดินเข้าไปในห้องอัดเสียงของตน

เดิมทีวันนี้เขามีอีเวนต์

แต่เมื่อได้ยินว่าจะอัดเพลงประกอบซีรีส์ใหม่ และตนเองจะได้เป็นคนร้องแล้ว เขาก็เปิดเพลงเดโมฟังทันที

หลังจากฟังเพลงจบ ถานข่ายก็ยกเลิกอีเวนต์ของวันนี้ในทันที

เพราะเมื่อเทียบกับการแสดงแล้ว ถานข่ายชื่นชอบการร้องเพลงมากกว่า!

โดยเฉพาะหลังจากฟังเพลงอย่างเพลงชอบเธอ เขาก็ยิ่งแน่วแน่ในการร้องเพลงขึ้นไปอีก!

เข้าไปในห้องอัดเสียง

หลังจากอัดเพลงไปราวครึ่งชั่วโมง

ผลการอัดเพลงของถานข่ายนั้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ฟ่านหลงเหอตกใจอยู่บ้าง เขานึกไม่ถึงว่าถานข่ายจะร้องเพลงได้ดีถึงขนาดนี้

หลัวฉีตื่นตะลึงเสียยิ่งกว่า หลังจากนั้นก็ยิ่งประหลาดใจกับสายตาอันเฉียบแหลมของหลินเยวียน

ในบริษัทมีนักร้องตั้งมากมาย เขาดันมาเลือกถานข่ายที่ไม่ได้เป็นนักร้องแล้ว!

และจากผลการอัดเสียง ถานข่ายได้พิสูจน์ว่าเขาเหมาะกับการร้องเพลง เนื้อเสียงนุ่มลึกอย่างผู้ใหญ่ ไม่ได้ใส่เทคนิคมากมาย แต่กลับไม่ได้เป็นการขับร้องที่ไร้ชั้นเชิง กอปรกับความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดง

ทำให้กระบวนการการอัดเพลงเรียกได้ว่าราบรื่นมาก

ผ่านไปหลายชั่วโมง ใกล้ถึงเวลาเลิกงาน การอัดเพลงชอบเธอก็สำเร็จอย่างเป็นทางการ ราบรื่นเกินความคาดหมายของทุกคน

“งั้นก็ตามนี้นะครับ”

หลังจากหลินเยวียนอัดเพลงเสร็จ และพึงพอใจกับผลงานเป็นที่เรียบร้อย ก็หันหลังเดินออกไป

หลัวฉีและฟ่านหลงเหอย่อมปรี่ไปแย่งกันส่งหลินเยวียน

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ ถานข่ายเองก็ไปส่งเซี่ยนอวี๋ด้วยเช่นกัน

“ขอให้ซีรีส์เรื่องใหม่ของคุณประสบความสำเร็จนะคะ แล้วฉันขอลายเซ็นคุณได้มั้ยคะ”

กู้ตงลงมาชั้นล่าง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่อาจเก็บซ่อนความเป็นแฟนคลับของตนได้อีกต่อไป!

ถานข่ายก็ช่างว่าง่าย จรดปากกาแจกลายเซ็นให้กู้ตงทันที

กู้ตงออกไปอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

หลินเยวียนพูด “กลับบ้านเลยนะครับ”

ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทแล้ว

“ได้ค่ะ ตัวแทนหลิน!”

กู้ตงรู้สึกเต็มตื้น ไม่เพียงเพราะวันนี้ได้เจอนักแสดงที่ชื่นชอบ แต่เป็นเพราะท่าทีที่ธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์มีต่อหลินเยวียนเช่นกัน!

หลินเยวียนในวันนี้ ได้พลิกทัศนคติที่กู้ตงมีต่อผู้ว่าจ้างไปอย่างสิ้นเชิง!

ในความทรงจำของกู้ตง แต่ไหนแต่ไรมาผู้ว่าจ้างในฉีโจวล้วนแต่เย่อหยิ่งจองหอง และมักจะชี้มือชี้ไม้สั่งผู้รับงานกันทั้งนั้น

แต่วันนี้

ตัวแทนหลินเป็นเหมือนกับผู้ว่าจ้างเสียมากกว่าผู้รับงาน!

เขาแทบจะเข้ามาออกคำสั่งในธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ มีข้อเรียกร้องต่างๆ นานา ระหว่างอัดเสียงก็มีสิทธิ์มีเสียงในการออกความเห็นมากที่สุด ส่วนธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์กลับกลายเป็นคนที่ถูกสั่งการไปโดยปริยาย

ที่แท้ผู้รับงานก็เป็นท่านพ่อได้เหมือนกัน?

…………………………………………..