ตอนที่ 156 ภารกิจใหม่
เมื่อกลับถึงบ้าน
หลินเยวียนเห็นเจี่ยนอี้ขลุกอยู่ในห้องครัวอีกครั้ง ในห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอันแปลกประหลาด
เจี่ยนอี้ตะโกนบอกเขา “นี่เป็นอาหารเย็นของพวกเรา”
หลินเยวียนอ้าปากพะงาบ ก่อนจะรีบปิดปากลง กลิ่นนี้รุนแรงเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเจี่ยนอี้กำลังทำอะไร
กำลังทำตดตุ๋นอยู่หรือยังไงกัน
เขากลับเข้าห้องไป ก่อนจะปิดประตูลงจนสนิท โดยไม่พูดจาทำร้ายจิตวิญญาณพ่อครัวที่ถือกำเนิดขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้ในตัวเจี่ยนอี้
“ติ๊งต่อง”
ทันใดนั้นระบบก็ปรากฏขึ้น “ยินดีด้วยที่โฮสต์ทำออเดอร์ชิ้นที่สองได้สำเร็จ มอบหมายภารกิจใหม่”
[ชื่อภารกิจ: หาปลามาให้ไม่สู้สอนจับปลา]
[เนื้อหาภารกิจ: ในอนาคตหลังจากที่โฮสต์ไปจากที่นี่ บริษัทย่อยก็จะกลับสู่สภาวะเฉกเช่นก่อนหน้านี้ได้ง่าย ขอให้โฮสต์เลือกสามคนจากสตาร์ไลท์มิวสิกได้ตามใจชอบ และพัฒนาความสามารถด้านการประพันธ์เพลงของพวกเขา ก่อนที่โฮสต์เรียนจบชั้นปีที่สาม]
[รางวัลภารกิจ: สามารถใช้การ์ดตัวละครของหยางจงหมิงได้สองชั่วโมงต่อวัน]
[หมายเหตุภารกิจ: คลังความรู้ด้านการประพันธ์เพลงและประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงของหยางจงหมิงนั้นลึกล้ำมาก เนื่องจากนี่ไม่ใช่คลังความรู้ของตัวโฮสต์เอง ถ้าหากโฮสต์มีไอเดียอยากสร้างสรรค์ผลงานต้นฉบับของตนเอง การ์ดตัวละครหยางจงหมิงก็จะใช้การไม่ได้ ทำได้เพียงใช้ความรู้และความสามารถของตัวโฮสต์เองมาเป็นพื้นฐานในการผลิตผลงาน]
หลินเยวียนอึ้งไป
หลังจากคิดวิเคราะห์ไปเล็กน้อย เขาก็พอจะเข้าใจเจตนาของระบบแล้ว
ระบบให้ตนใช้การ์ดตัวละครของหยางจงหมิง เพื่อบ่มเพาะลูกศิษย์ในบริษัทย่อยออกมา
ทว่าระบบก็กลัวว่าตนจะหยิบยืมคลังความรู้ของหยางจงหมิงเขียนเพลงออกมา
ถึงอย่างไรด้วยระดับของหยางจงหมิง เมื่อเขาตั้งใจเขียนเพลงออกมา คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไปว่าผลงานเหล่านั้นจากระบบเลย
ฉะนั้นแล้วระบบจึงสร้างข้อจำกัดไว้
“รับ”
หลังจากการแจ้งเตือนของระบบ ในคลังไอเท็มของหลินเยวียนก็มีการ์ดตัวละครเพิ่มขึ้นมาหนึ่งใบ
“ใช้การ์ดตัวละคร”
หลินเยวียนหัวใจกระตุกวูบ การ์ดตัวละครเปิดใช้งาน
หลินเยวียนคิดว่าตนอาจกลายเป็นหลิน-จงหมิง-เยวียน ทว่าในความเป็นจริงแล้วบุคลิกและนิสัยของหยางจงหมิงไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ ต่อหลินเยวียน
เขาเพียงแต่รู้สึกว่าจู่ๆ ในสมองของตนก็ปรากฏมวลความรู้ด้านการประพันธ์เพลงขึ้นมามหาศาล
ในนั้นมีความรู้จำนวนมากที่นับว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้จากการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยไปไกล
ในตอนนั้นหลินเยวียนถึงรับรู้ได้ว่าแท้จริงแล้วพ่อเพลงแข็งแกร่งมากแค่ไหน!
ในแง่หนึ่ง หยางจงหมิงเรียกได้ว่าเป็นตำราความรู้ด้านการประพันธ์เพลงในรูปแบบมนุษย์เลยก็ว่าได้!
ในห้วงสำนึกของเขามีแต่ความรู้ด้านการประพันธ์เพลงบรรจุไว้ ชวนให้รู้สึกขนหัวลุกสุดๆ!
เขาถึงขั้นรู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องใช้แรงบันดาลใจมากมาย ก็ทำเพลงที่นับว่าอยู่ในระดับใช้ได้ออกมาได้เลย
อย่างไรก็ดี ในชั่วขณะที่เขาเกิดไอเดียในการเขียนเพลง ความทรงจำซึ่งมาพร้อมกับการ์ดตัวละครของหยางจงหมิงก็จะอันตรธานหายไปในชั่วพริบตา
ปริมาณความรู้ด้านการประพันธ์เพลงของหลินเยวียน ก็จะหวนคืนสู่ระดับ ‘คอร์ดในการประพันธ์เพลงขั้นสูง’ ที่หลินเยวียนเพิ่งเรียนมาในระยะนี้
หลินเยวียนพยายามหาคำอธิบายที่ตรงตามความหมาย
‘ถ้าฉันอยากแปลงร่าง ระบบก็จะยกเลิกเอฟเฟ็กต์ของการ์ดตัวละคร ถ้าไม่มีเอฟเฟ็กต์เสริมของการ์ดตัวละคร ฉันก็ไม่มีวันแปลงร่างได้’
คำอธิบายนี้ไม่นับว่าตรงตามความหมาย
จนกระทั่งหลินเยวียนยกเลิกการแปลงร่าง
จนกระทั่งหลินเยวียนยกเลิกความคิดที่จะหยิบยืมความรู้เหล่านี้มาเขียนเพลง ความรู้เหล่านี้จึงจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ดังนั้นความรู้สึกและข้อสรุปของการใช้การ์ดตัวละครก็คือ
ระบบค่อนข้างช่ำชองเรื่อง 404 NOT FOUND[1]
หลินเยวียนฉุกคิดขึ้นมาทันใด “ถ้าใช้เขียนเพลงไม่ได้ งั้นฉันจะใช้เวลาที่เปิดใช้การ์ดตัวละคร มาเรียนความรู้พวกนี้ได้มั้ย”
“ได้สิ นี่เป็นวิธีพิเศษในการใช้การ์ดตัวละคร”
ระบบสอบถาม “ไม่ทราบว่าโฮสต์จะเรียนเลยไหม”
“เริ่มเลยแล้วกัน”
หลินเยวียนตอบด้วยความรู้สึกคาดหวัง
ชั่วขณะนั้น ความรู้สึกของเขา สภาพแวดล้อมโดยรอบล้วนบิดเบี้ยวและพร่าเลือนขึ้นมา
ยามที่เขาได้สติกลับมา ตนก็มาอยู่ในห้องเรียนขนาดเล็กแลดูสะอาดสะอ้านแล้ว
ในห้องเรียนนี้มีเพียงคนเดียว
บนโพเดียมมีชายวัยกลางคนสีหน้าไร้อารมณ์คนหนึ่งยืนอยู่ นั่นก็คือหยางจงหมิง
หลินเยวียนถาม “ที่นี่ที่ไหนอะ”
ระบบตอบ “ที่นี่คือโลกในสมองของโฮสต์ เวลา ณ ที่แห่งนี้หมุนไปช้ามาก ในสมองของโฮสต์เรียนไปสองชั่วโมง โลกภายนอกเพิ่งจะผ่านไปแค่สองนาที”
หลินเยวียนอดรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้ “นายจับหยางจงหมิงมาที่นี่เหรอ”
ถ้าเขาอยากไปเข้าห้องน้ำจะทำยังไง
ในสมองของเขามีห้องน้ำหรือเปล่านะ
ระบบตอบ “นี่เป็นภาพฉายของบุคคล ไม่ใช่หยางจงหมิงที่ถูกลากเข้ามาในมิตินี้ ในตอนนี้หยางจงหมิงจะสอนความรู้ให้ โดยระบบจะใช้เอฟเฟ็กต์ ‘อาจารย์’ กับภาพฉายของหยางจงหมิง”
หลินเยวียน “…”
เอฟเฟ็กต์อาจารย์ใช้ที่นี่ได้ด้วยเหรอ
ก็จริงแฮะ
ถึงอย่างไรการ์ดตัวละครก็เป็นของเขา
หลินเยวียนยังไม่ทันได้พูดต่อ จู่ๆ หยางจงหมิงซึ่งอยู่เบื้องหน้าก็เอ่ยขึ้นว่า “ในเวลาเรียนห้ามใจลอย ไม่เช่นนั้นต้องถูกลงโทษให้ออกไปยืน ตอนนี้คุณเพิ่งขึ้นปีสาม ผมจะเริ่มสอนคุณจากบทเรียนของปีสาม…”
“ครับ”
หลินเยวียนนั่งหลังตรงอย่างมุ่งมั่น
อาจารย์เข้มงวดอยู่บ้างก็เป็นเรื่องปกติ
เวลาเรียนนักเรียนต้องตั้งใจเรียน มิหนำซ้ำการ์ดตัวละครยังมีเวลาจำกัด ชั้นเรียนของเขามีเวลาแค่วันละสองชั่วโมง เวลาล้ำค่าเสียยิ่งกว่าทอง
“วันนี้พวกเรามาพูดเรื่องคอร์ดกัน”
หยางจงหมิงยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ และเริ่มบรรยายบทเรียนโดยไม่ต้องใช้ตำราประกอบใดๆ
สิ่งที่เขาพูด โดยมากล้วนเป็นความรู้ที่ก่อนหน้านี้หลินเยวียนมีอยู่ครึ่งๆ กลางๆ
ไม่รู้ว่าหยางจงหมิงบรรยายดี หรือว่าผลจากเอฟเฟ็กต์อาจารย์ สรุปแล้วก็คือหลินเยวียนเข้าใจบทเรียนของหยางจงหมิงได้อย่างรวดเร็ว
ประสิทธิภาพในการเรียนของหลินเยวียนในมหาวิทยาลัยไม่สูงถึงขนาดนี้!
ดังนั้นหลินเยวียนจึงให้ความสำคัญกับเวลาที่มีมาก
ผ่านไปสองชั่วโมง ความทรงจำของหยางจงหมิงหายวับไป หลินเยวียนตื่นขึ้นจากสภาวะอันน่าพิศวงนี้
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ตนเป็นขอนไม้ที่โง่งม ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง
นั่นทำให้หลินเยวียนเกิดความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่าน หากว่ากันตามระดับความสามารถที่แท้จริงแล้ว เขากับหยางจงหมิงนั้นยังห่างกันอีกหลายโยชน์
ทว่าประสิทธิภาพของการเรียนสองชั่วโมงนั้นน่ากลัวเหลือเกิน
หลินเยวียนรู้สึกว่าต่อให้ตนเรียนที่วิทยาลัยครึ่งเดือน ก็ตามบทเรียนสองชั่วโมงของหยางจงหมิงไม่ทัน!
เขาถึงกับอยากเรียนกับหยางจงหมิงต่อ
แต่น่าเสียดาย การ์ดตัวละครได้เข้าสู่สภาวะแช่แข็งแล้ว ต้องรอพรุ่งนี้กว่าจะใช้ได้อีกครั้ง
“ขออนุญาตเตือนไว้ก่อน”
ระบบบอก “ถ้าหากภารกิจการสอนของโฮสต์ไม่สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด การ์ดตัวละครของหยางจงหมิงจะหมดประสิทธิภาพ”
“เข้าใจแล้ว”
ภารกิจนี้ หลินเยวียนตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องทำให้สำเร็จ เพราะเขายังอยากเรียนกับหยางจงหมิงต่อ!
ด้วยประสบการณ์และความรู้ของหยางจงหมิง กอปรกับผลของเอฟเฟ็กต์อาจารย์ หลินเยวียนคิดว่าการสอนนักประพันธ์เพลงสามคนที่มีความสามารถไม่เลวอยู่เป็นทุนเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
หลินเยวียนถาม “เกณฑ์ในการทำภารกิจสำเร็จคืออะไร”
ระบบตอบ “ระบบมีเกณฑ์ตัดสินของตัวเอง โฮสต์เพียงแค่ตั้งใจทำภารกิจไปก็พอแล้ว เมื่อลูกศิษย์สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองแล้ว ระบบจะแจ้งเตือน”
“เข้าใจแล้ว”
หลินเยวียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ส่งข้อความหากู้ตง ‘รบกวนช่วยส่งข้อมูลของนักแต่งเพลงทั้งหมดในบริษัท รวมไปถึงผลงานเพลงที่พวกเขาเคยทำมาให้ผมชุดนึงนะครับ’
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ หลินเยวียนก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู ชั่วขณะนั้นกลิ่นเหม็นคลุ้งก็ทะลวงเข้าสู่โพรงจมูก
“พอดีเลย กินข้าวได้แล้ว” เจี่ยนอี้พูดอย่างยิ้มแย้ม
หลินเยวียนผงะถอยไปหนึ่งก้าว “นายทำอะไรน่ะ”
เจี่ยนอี้ตอบ “หลัวซือเฝิ่น[2]”
……………………………………………….
[1] 404 Not Found หรือ Error 404 คือหน้าที่แจ้งเตือนว่าไม่พบข้อมูลอยู่ใน Server ของเว็บไซต์นี้ หรือไม่พบ URL ของหน้าเว็บไซต์นี้
[2] หลัวซือเฝิ่น เป็นบะหมี่ชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดจากเมืองหลิ่วโจว ได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรงมาก